ต้าหวังนั่งกอดอกหลับตานิ่ง เบื้องหน้ามีเครื่องเสวย ทั้งคาวหวาน
“ต้าหวัง นานแล้ว นางคงไม่มาแล้ว”เสี่ยวจงพูดขึ้นด้วยความนอบน้อม
“เก็บ เครื่องเสวยข้าก็กำลังจะไปนอนเหมือนกัน”
ตำหนักบูรพา
“เจ้าไม่ถูกใจอาเล็กแน่ๆ เขาถึงได้เชื้อเชิญให้ชายาเอกมาร่วมเสวยเหมือนจะเปรียบเทียบพวกเจ้าสองคนว่าใคร จะ...ดูดีกว่ากัน”หลินฮวาไม่สนใจ คว้าผลองุ่นมาเคี้ยว
“”ใครกันจะแยแส ..ข้ากับ...อาเล็กของไท่จือก็ไม่ได้รักใคร่กันมาก่อน เขาจะรักชอบใครข้าก็ไม่แยแส”ลี่กังยิ้ม
“เช่นนั้น เจ้ามาที่ตำหนักบูรพาบ่อยๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาใช่ไหม”
“ข้าหลินฮวา ไปมาไร้ร่องรอยอยู่แล้ว”
“คุณหนูหลินฮวาต้าหวังให้ตามท่านกลับไปที่จวนอ๋อง”หานห้าวตง ประสานมือตรงหน้า”ไท่จือส่ายหน้าไปม
“บอกอาเล้กด้วยห้าวตงว่านางอยู่ที่นี่ไม่ได้เป็นอันตรายอะไรสักพักข้าส่งนางกลับเรือนรับรอง”
“แต่...ต้าหวังบอกว่าหากยังไม่กลับต้าหวังจมาตามที่ตำหนักบูรพา”ลี่กังเลิกคิ้วสูงรู้สึกแปลกใจไม่น้อย เจิ้งจินเทา ไม่ใช่คนที่จะทำเรื่องเช่นนี้เป็นแน่
“ข้าว่าเจ้ากลับไปก่อนดีกว่า ข้าให้ขันทียกเครื่องเสวยอีกชุดตามไปที่เรือนรับรอง”
“ข้าอิ่มแล้ว แต่ยังไม่อยากกลับ”หลินฮวาพูดขึ้นดังๆ เมื่อเห็นว่าร่างสูงยืนอยู่ข้างนอกประตูนั้นเป็นของเจิ้งจินเทา พูดยังไม่ทันขาดคำร่างสูงก้าวยาวๆ เข้ามาในตำหนักบูรพา
“อาเล็ก ช้าก่อนอย่าเพิ่งโมโหไป”เจิ้งลี่กัง เข้าขว้างเจิ้งจินเทาที่ก้าวเท้าเข้าหาหลินฮวา
“ไท่จือนางกำลังจะแต่งเข้าจวนข้า ถือว่าเป็นคนของข้าครึ่งหนึ่งแล้ว ฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องภายใน”คว้าแขนหลินฮวาลากออกจากตำหนักบูรพาไป
หลินฮวาขืนตัวไว้สุดแรงแต่รูปร่างเมื่อเทียบกันแล้ว อย่างไรจะสู้กำลังเขาได้
“ปล่อยเลยนะ ข้ากำลังจะแต่งแล้วก็ยังไม่ได้รับปากว่าจะแต่งเช่นนั้นข้ายังไม่ได้เป็นคนของท่าน หากเรื่องที่ท่านข่มเหงกัน รู้ไปถึง ฝ่าบาทข้าก็อาจหาข้ออาจปฏิเสธที่จะแต่งได้”ปล่อยมือแต่กลับซ้อนร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน
“เจ้ากล้าหรือ”หลินฮวาตกใจไม่น้อย ขันทีนางในต่างจ้องมอง ลี่กังวิ่งตามออกมา
“อาเล็ก ได้โปรดอย่าทำอะไรนางหลานผิดเอง หลานเป็นคนชวนนาง ลี่กังรู้ดีว่าหากใครทำให้ เจิ้งจินเทาที่ดังเสือหลับถูกปลุกขึ้นมา
“ไท่จือท่านก็ควรกลับไปนอนเสียดึกมากแล้วเรื่องนี้ข้าบอกแล้วเป็นเรื่องระหว่างข้ากับนาง”สาวเท้าเดินตัวปลิวกลับไปยังจวนอ๋อง ทั้งๆ ที่อุ้ม หลินฮวาอยู่
เจิ้งลี่กังได้แต่ถอนหายใจ
“ปล่อยนะ”ยกมือขึ้นทุบตรงกลางออกแต่ไม่มีอาการว่าสะดุ้งสะเทือน
“จะมาข่มเหงกันง่ายๆ ไม่ได้นะ ข้ายังไม่ได้เป็นอะไรกับท่านเสียหน่อย”
“เช่นนั้นข้าคงเร่งทำให้มันเป็นเสียเจ้าจะได้รู้ว่าคนอย่างข้าหยามไม่ได้”
“อย่านะ”
“ช้าไปแล้ว ทุ่มร่างบางลงบนพื้น หญ้าสีเขียว แม้จะนุ่มเหมือนพรมแต่ทว่าด้วยการที่ถูกทุ่มลงขนาดนั้นหลินฮวากลับรู้สึกจุก ไม่มีใครตามาสักคนแล้วก้มไม่มีใครอยู่ ที่นั่นสักคนหานห้างตงก็ล่วงหน้าไปก่อนแล้วหลินฮวาจุกจนพูดไม่ออก ร่างใหญ่กับ โดมเข้าใส่ทั้งตัว
“อย่านะ” เงื้อมือรอ ฟาดเข้าใส่แก้มสากเต็มแรง เจิ้งจินเทารวบมือไว้ทั้งสองข้าง กดริมฝีปากที่ปากบาง แต่หลินฮวากลับเม้มปากแน่น
“ปล่อยนะ” ผลักร่างใหญ่ออกห่างแต่ไม่สะทกสะท้าน
“ปล่อยเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นถ้าหลุดไปได้จะหนีไปเสียไม่อยู่แต่งกับท่านแล้ว”เจิ้งจินเทาชะงักงัน ลุกขึ้นยืน ก่อนจะก้าวขาจากไป
หลินฮวางงงันกลับอาการของเจิ้งจินเทา ลุกขึ้นจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะเดินกลับไปที่เรือนรับรอง
“เสี่ยวหลิน”บิดา ส่งเสียงเข้มดุ ซึ่งนานๆ หลินฮวาจะได้ยินเสียงนี้เสียที
“ท่านพ่อ”
“ลูกทำเรื่อง น่าละอาย ในเมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าจะแต่งเป็นชายารองของต้าหวังเหตุใดต้อง ไปที่ตำหนักบูรพา เรื่องเช่นนี้ทำให้ต้าหวังขายหน้าไม่น้อย”ลูกแค่ไปหาอะไรกินแล้วอีกอย่าง ต้าหวัง ผู้นั้น สั่งไม่ให้มีของกินติดไว้ในห้องเครื่อง เหมือนจงใจกลั่นแกล้งลูก”
“แค่เรื่องง่ายๆ อย่างนี้ หลิวฮวายังไม่สามารถอดกลั้นได้ แล้วต่อจากนี้เมื่อต้องเผชิญกับเรื่องทุกข์เข็ญกว่านี้จะจัดการเช่นไร”
“ท่านพ่อลูกผิดไปแล้ว”
“พรุ่งนี้ ไปคุกเข่าขออภัย ต้าหวังเสีย เจ้าทำให้เขาอับอายตำแหน่งต้าหวังหากจัดการกับคนในปกครองก็จะถูกครหา หลินฮวาบางเรื่องแข็งไปก็ไม่ได้ ความอ่อนโยนแม้ข้าไม่ได้สอนเจ้าทว่าเรื่องผิดถูกจะสอนให้เจ้ารู้จักผ่อนหนักผ่อนเบาด้วยตัวเอง”หลินฮวาก้มหน้านิ่งรู้สึกผิดอย่างแท้จริง เจิ้งจินเทาคงเสียหน้าไม่น้อยที่ปล่อยให้หลินฮวาไปที่ตำหนักบูรพายามค่ำคืนทั้งๆ ที่กำลังจะแต่งเป็นชายารอง เรื่องแบบนี้ เป็นใครก็ไม่อาจยอม นับว่าเจิ้งจินเทาใจเย็นเหลือนเกินแล้ว หลินฮวา คิดน้อยไปจริงๆ ถึงว่าเมื่อครู่เขาถึงมีอาการ โมโห
เช้าสดใส เสี่ยวจเดินหาวมาแต่เช้าภาพที่เห็นคือหลินฮวา นั่งคุกเข่าหน้าจวนอ๋อง
รีบลนลาน เข้าไปยังห้องนอนของ เจิ้งจินเทา
ที่ยืนมองหลินฮวาอยู่ก่อนแล้วที่ริมหน้าต่าง
“ต้าหวังนาง”
“ปล่อยนาง”
“แต่อากาศเย็นมากเกรงว่านางจะล้มป่วย”สาวเท้ายาวๆ ออกจากห้องไป
“หลินฮวายิ้ม ดีใจเมื่อเห็นเจิ้งจินเทาออกมาข้างนอก
“เข้ามาข้างใน”ลุกขึ้นบิดขี้เกียจขยับแขนขยับขา นับว่าไม่เสียแรงเปล่าเขาหายโกรธแล้ว เดินตามเจิ้งจินเทาเข้าไปในห้องอยู่ๆ เขาก็หยุดชะงักหลินฮวาชนเข้ากับร่างใหญ่เต็มแรง เจิ้งจินเทาหันมามองด้วย แววตาดุดุก่อนจะหันไปปิดประตูลงกลอน แน่นหนาเสี่ยงจงก็ไม่อาจตามเข้าไปได้
“คุกเข่า”
“หา”
“คุกเข่า ห้าชั่วยาม”
“อ้าว ท่านยัง..ไม่หายโกรธอีกหรือ”
“ตอนนี้ยังแต่หากว่าคุกเข่าจนกว่าข้าจะพอใจก็ไม่แน่”
“แต่ หลินฮวา ..แต่ข้าคุกเข่าตั้งสองชั่วยามแล้วนะอีกทั้งข้างนอกนั่นอากาศหนาว”
“นั่นอย่าไงรเล่าหนาวจนอาจป่วย แล้วก็อาจตาย ทำให้ข้าถูกครหาอีกจนได้”พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ถอดเสื้อคุม เผยให้เห็นหน้าอกเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม หลินฮวาเบือนหน้าหนีจากภาพตรงหน้าใจสั่นไหว เจิ้งจินเทาเดินถือเสื้อคลุมมาห่มให้หลินฮวาที่คุกเข่าใช้มือสองข้างถูกันไปมาแก้หนาว แต่เสมองไปเสียทางอื่น
“เสี่ยวจงยกเครื่องเสวย”หลินฮวาท้องร้องจอกเมื่อคิดได้ว่าตัวเองก็หิวเหมือนกัน