ปฐมบท
“ท่านอ่อง ศึกในครั้งนี้แคว้ยฉีพ่ายแพ้ย่อยยับ แม่ทัพต้วนแห่งแค้นฉียินดีให้ท่านปลิดชีพเขาเพื่อแลกกับชีวิตของราษฎร และทหาร ที่เหลือเพียงหยิบมือ”ร่างสูงชะลูดก้าวขายาว ๆ ยังค่ายทหารที่มีแต่ฝุ่นควันคละคลุ้งไปทั่วบริเวณของกองทัพแคว้นฉี
“นำเขากลับ แคว้นเว่ยในฐานะเชลย”
“เจ้าคนใจร้าย จะเอาพ่อข้าไปไหน”สาวน้อยต้วนหลินฮวากอดแข้งกอดขาบิดาไว้มั่น ปฏิญาณไว้ว่าแม้ตายก็ไม่ยอมปล่อยบิดาไป เพราะตอนนี้ตลอดมาเหลือเพียงบิดาผู้เดียว แม้กระทั่งยามรบยังติดตาม ดั่งรองแม่ทัพของแค้วนฉีก็ไม่ปาน คนผู้นั้นใบหน้าหมดจดงดงามไฉนใจคอถึงได้โหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรมเช่นนี้ ชนะศึกแต่กลับจะฆ่าแกงล้างผลาญ
“หลินฮวา เจ้าไปเสีย”ส่ายหน้าไปมาน้ำตาไหลอาบแก้มเนียนใสด้วยวัยเพียง 15ปี
“ท่านพ่อ หลินฮวาจะไปกับท่านเป็นตายไม่ยอมหนีไปไหน”บุรุษหนุ่มรูปงาม ท่านอ๋องเจิ้งจินเทาส่ายหน้าไปมาคล้ายเบื่อระอาเสียเต็มประดา
“ดี เช่นนั้นนำนางตามติดไปด้วย เชลยหนึ่งได้ถึงสองนับว่ากำไรโดยแท้”ต้วนหลินฮวา มองบุรุษรูปงามผู้นั้นด้วยสายตาเกลียดชัง
หลินฮวากอดแขนบิดาไว้แน่นเหมือนกลัวว่าจะพลัดพรากจากกัน
“บัดนี้ดินแดนทางเหนือของแคว้นฉีเป็นของเราโดยสิ้นแล้ว เคลื่อนทัพกลับแคว้นเว่ย นำข่าวน่ายินดีกลับวังหลวงโดยเร็ว”
เสียงโห่ร้องยินดี ดังกึกก้อง หลินฮวาซบหน้าลงกับท่อนแขนของบิดาที่หันมายิ้มบางๆ ก่อนจะลูบหัวด้วยความรัก
“นับว่าดีแค่ไหนแล้วที่ทัพของแคว้นเว่ยยอมถอนกำลังจากไปโดยดี ฝ่าบาทต่อจากนี้คงได้ไตร่ตรองเรื่องต่างๆ มากขึ้นกว่าเดิม เรื่องการศึกบางครั้งวู่วามเกินไปมักไม่ส่งผลดี”หลินฮวาหาเข้าใจไม่ว่าเหตุใด บิดาถึงพูดแบบนั้นคล้ายจะชื่นชมศัตรูทั้งๆ ที่ถูกจับตัวมาเป็นเชลย
วังหลวงแค้วนเว่ย
เจิ้งลี่เฉิงก้าวขาลงมาจากบัลลังก์เมื่อ เจิ้งจินเทา ประสานมือคุกเข่าตรงหน้า พยุงให้จินเทาอ๋อง ลุกขึ้นยืนเคียงข้าง
“ทำได้ดี ทำได้ดี การศึกครั้งนี้สูญเสียเพียงส่วนน้อย สมกับค่ำร่ำลืออ๋องแปดของเราช่างเกรียงไกร นำทัพแต่ละครั้งล้วนได้รับชัยชนะอยู่ร่ำไป”
“ฝ่าบาท กล่าวเกินไปแล้ว ครั้งนี้เป็นเพราะพระบารมีและแคว้นฉี ไม่มีการเตรียมความพร้อมที่ดี ฮ่องเต้ล้วนเอาใจใส่แต่เรื่องในวังหลังจนลืมเลือนกองทัพทำให้ทุกอย่างง่ายดาย”
“ข้าได้ข่าวว่าเจ้าจับตัวแม่ทัพของแคว้นฉีมาเป็นเชลยศึกครั้งนี้ด้วย”
“ทูลฝ่าบาทคนผู้นี้เก่งกาจ ห้าวหาญเสียดายหากจะถูกประหารเพราะนำทัพมาพ่ายแพ้แก่ทัพเว่ยของเรา อีกทั้งเขา ยอมเลกชีวิตตัวเองกับราษฎรและเหล่าทหารที่ เหลือรอด ข้าจึงคิดว่าคนผู้นี้น่ายกย่องยิ่งแล้ว”เจิ้งลี่เฉิงพยักหน้ายิ้มๆ
“ จะเปลี่ยนใจเขาให้ภักดีต่อแคว้นเว่ยคงยากไม่น้อย ขุนนางที่ภักดี ล้วนยอมตายเพื่อราชสำนัก แม่ทัพที่ดีย่อมยอมตาย เพื่อบ้านเมือง”
“กระหม่อม จะลองพูดกับเขาดู”
"คงเสียดายแย่หากเขาต้องตายอย่างที่เจ้าบอก จัดงานเลี้ยงฉลอง ชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ อ๋องแปด เจิ้งจินเทาให้รั้งตำแหน่งต้าหวังต่อจากนี้เป็นการปูนบำเหน็จที่เหน็ดเหนื่อยจากการกรำศึกมานาน” เจิ้งจินเทาคุกเข่าลงกับพื้นประสานมือทำความเคารพ
จวนอ๋อง
“ท่านอ๋อง เชลยศึกจองจำอยู่ในคุกหลวงเรียบร้อยแล้ว องครักษ์คู่กายประสานมือตรงหน้า
“จัดที่พัก และเรือนรับรองดังเช่นแขกเมือง”หานห้าวตง ขมวดคิ้วงุนงง
“ท่านอ๋องไม่เกรงว่าจะถูกครหาหรือไร”เจิ้งจินเทา ยิ้มบางๆ คล้ายจะบอกว่าไม่แยแสเรื่องครหาจากคนรอบข้าง
“จัดองครักษ์ดูแลแค่ไม่ให้เขาคิดหนีจากวังหลวงก็พอ แต่ปฏิบัติดังเช่นแขกเมือง”
ตำหนักฮ่องเต้
“จินเทา ปีนี้ก็ยี่สิบแล้วเป็นน้องเล็กที่ข้าห่วงใยเสด็จกำชับว่าให้ดูแลเขาอย่างดี ข้าเองกังวลว่าเขาจะไร้ชายาเหมือนกับอ๋องคนอื่น”ฮองเฮายิ้มบีบนวดแข้งขาให้เจิ่งลี่เฉิงฮ่องเต้
“บุตรีใต้เท้าปิง งดงามโดดเด่นฝ่าบาท ประทานสมรสให้ในโอกาส ที่นำทัพได้รับชัยชนะเกรงว่าท่านอ๋องจะไม่ปฏิเสธ อีกทั้งอ๋องน้อยอ๋องใหญ่ ในวังหลวงก็คงไม่มีใครกล้าขัด”เจิ้งลี่เฉิงพยักหน้า
“แม่ทัพของ แคว้นฉี ผู้นั้น ทำเช่นไรถึงจะรั้งให้อยู่ที่แคว้นเว่ย ทำประโยชน์ให้กับแคว้นเว่ยอย่างที่ตั้งใจ คนดีดีเช่นนี้ข้าไม่อยากเห็น ต้องตายด้วยน้ำมือของฮ่องเต้ผู้มัวเมาของแคว้นฉี"
“อิงอิง ได้ข่าวว่าเขาพาบุตรสาว มาด้วยคนหนึ่ง ฝ่าบาท ทรงแต่งชายารองให้จินเทาอ๋องด้วยจะยิ่งเป็นการดี เมื่อบุตรีเป็นคนของท่านอ๋องแล้วเกรงว่าเขาจะต้องซาบซึ้งในสิ่งที่ฝ่าบาทต้องการแสดงความจริงใจและยอมภักดีต่อฝ่าบาท ไม่เสื่อมคลาย”
“ฮองเฮาเจ้านี่ช่าง มีความคิดดีดีที่ข้าคาดไม่ถึงเสมอ เช่นนั้นเอาตามนี้ ข้าจะประทานสมรสในวันเดียวกันทั้งชายาเอกและชายารอง”
“อิงอิงขอดูหน้านาง แล้วก็คงต้องบ่มนิสัยกันเสียหน่อย นางกำนัลตำหนักชิงหนิงกงเล่าว่านางอายุเพิ่งจะ ผ่านวัยเด็กหน้าตาผุดผาดอ่อนหวาน แต่จินเทาอ๋องกลับไม่แม้แต่จะชายตามองนาง ปฏิบัติต่อนางเยี่ยงเชลยคนหนึ่ง ทั้งๆ ที่เดินทางรอนแรมยากลำบากแต่ก็ไม่เคยจะให้สิทธิพิเศษกับนางแม้แต่น้อย"
“เฮ้อ...อ๋องแปดใครๆ ก็รู้ว่าเขาไม่นิยมหญิงงามอีกทั้ง ยังไม่เคยเกี้ยวพาราสีใครมาก่อน ตั้งแต่เติบโตมาข้าก็เห็นแต่เขาคว้ากระบี่ซ้อมรบ กับควบม้ายิงธนู”
ฮองเฮายิ้ม
“อิงอิงอาสา ขัดเกลานางจนเป็นชายารองที่ปรนนิบัติ ท่านอ๋องอย่างดีทีเดียว”