Episode 4 | พี่เคนของหนูแพร ❤

1254 คำ
“น่ารัก...แล้วจะรักไหม?” แต่แล้วกลับแปลกไปจากทุกครั้ง พี่เคนกลับตั้งคำถามจากคำพูดของฉันอย่างไม่มีเหตุผล “รักสิค่ะ แพรรักพี่เคนที่สุดในโลกเลย” แต่ฉันก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจกับมันมากนัก ในขณะที่บอกประโยคนี้ฉันก็กอดพี่เคนไปด้วยอย่างเคยชิน แต่แล้วพี่เคนก็ทำให้ฉันแปลกใจอีกครั้ง โดยการพูดกับฉันในประโยคต่อมาว่า... “ถ้ารัก...ห้ามทิ้งพี่ไปไหนนะครับ” อะไรของเขากันนะพี่ชายคนนี้นี่ เดี๋ยวนี้หัดเรียกร้องความสนใจเหรอ...ยอมก็ได้ เห็นว่าเป็นพี่เคนของหนูแพรหรอกนะ ไม่งั้นอย่าหวังเลยว่าจะยอมตอบให้ง่ายๆน่ะ “...แพรจะอยู่กับพี่เคนจนกว่าความตายจะแยกเราจากกันเลยค่ะ” บอกเพียงเท่านั้นฉันก็กอดร่างสูงแน่นขึ้นไปอีก “ครับ พี่เชื่อทุกคำที่หนูแพรบอกอยู่แล้ว” ถึงจะแปลกใจหลายครั้ง แต่ก็เป็นอีกครั้งที่ฉันเลือกที่จะปล่อยผ่านไป และคลายอ้อมกอดเพื่อให้พี่เคนได้เตรียมข้าวกล่องให้เสร็จ แล้วหลังจากนี้ฉันก็จะให้พี่เคนไปส่งฉันที่โรงเรียน หลังจากที่พี่เคนทำข้าวกล่องของฉันและของเขาเสร็จแล้ว พี่เคนก็เดินลงจากรถมาส่งฉัน ที่หน้าโรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ที่นี้ถึงจะไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนัก แต่ก็มีเด็กนักเรียนต่างชาติเป็นพันๆที่มาเรียนโรงเรียนนี้ โดยส่วนมาจะเป็น ‘เด็กทุนแลกเปลี่ยน’ มากกว่า ...ลืมบอกไปฉันกับพี่เคนเรียนกันละที่น่ะ “วันนี้พี่เคนเลิกเรียนเร็วหรือเปล่าค่ะ” ฉันถามคนตัวสูงที่เดินมาส่งฉันอย่างเงียบๆ เป็นแบบนี้ทุกครั้งเวลาที่พี่เคนออกมาอยู่นอกบ้านทีไร จะสวมบท ‘คนพูดน้อย’ ทุกทีเลยจนฉันต้องเป็นฝ่ายชวนคุยอยู่ตลอดเลย และครั้งนี้ก็เช่นกัน “ก็สี่โมงเหมือนเดิม หนูแพรมีไรหรือเปล่า” “...เอ่อ วันนี้แพรอยากไปกินไอติมกับเพื่อนน่ะค่ะ พี่เคนให้แพรไปนะ” ฉันบอกออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆ เพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ฉันตัดสินใจขอพี่เคนอยู่กับเพื่อน และคำขอนั้นก็ทำให้การก้าวเดินของเขาหยุดลงทันทีที่ฉันพูดจบ “แต่ แต่ถ้าพี่เคนไม่อนุญาตก็ไม่เป็นไรนะค่ะ” ฉันทำหน้าเศร้า “...บอกแด๊ดกับมัมหรือยังล่ะ?” แต่คำพูดที่หลุดออกมาจากริมฝีปากหยักลึกของพี่เคน ก็ทำให้ฉันยิ้มออกมาอย่างดีใจ ถึงแม้จะใช้เวลาในการพูดนานไปหน่อย แต่นั่นก็หมายความว่าพี่เคนอนุญาตแล้ว “บอกแล้วค่ะ” “จะให้พี่มารับมั้ย?” นอกจากจะให้ไปยังมีความเป็นห่วงน้องสาวอย่างฉันอีกวุ้ย พี่ชายใครหวาน่ารักจัง “ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวแพรให้เพื่อนที่โรงเรียนไปส่ง พี่เคนกลับไปเตรียมอาหารเย็นไว้รอก็พอค่ะ” ฉันบอกก่อนจะเอื้อมือไปฉวยเอากล่องข้าวและกระเป๋าที่พี่เคนถือให้ ก่อนจะบอกลาเขาด้วยการไหว้แบบไทยเหมือนทุกครั้ง “เดี๋ยวก่อนหนูแพร!” แต่เสียงเรียบๆของเขาก็ทำการกก้าวเดินเข้าโรงเรียนหยุดชะงัก ก่อนจะหันกลับไปมองเขาด้วยความสงสัย ก่อนจะถามพี่เคนไปคำหนึ่งว่า ‘คะ?’ “ลืมอะไรไปหรือเปล่าครับ?” พูดจบพี่เคนก็ใช้นิ้วชี้เรียวยาวของเขาตีไปที่ริมฝีปากของตัวเองสองสามที และนั้นทำให้ฉันยิ้มออกมาอย่างเก้อๆ แต่ก็ยอมเดินกลับไปหาเขาก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้นจุ๊บไปที่ริมฝีปากพี่เคน และนี้ก็คือกิจวัตรประจำวันที่เธอต้องทำทุกครั้งก่อนเข้าโรงเรียน ฉันเคยถามพี่เคนนะว่าทำไปทำไม ทำแล้วได้อะไรหรือทำไปแล้วที่เคนไม่อายคนอื่นที่มองบ้างหรือ พี่เคนกลับตอบกลับมาหน้าตาเฉยว่า... ‘การแสดงความรักให้กันไม่จำเป็นต้องอายครับ’ เป็นประโยคที่ไม่สั้นและก็ไม่ยาวจนเกินไป รวมๆแล้วความหมายดีดีนะ “แพรไปแล้วนะค่ะ อ่อ เย็นนี่แพรอยากกินข้าวผัดฝากพี่เคนทำให้แพรด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ” ฉันไม่รอให้พี่เคนแย้งอะไรทั้งนั้น ก่อนจะชิงบอกขอบคุณและวิ่งหนีเข้าโรงเรียนในที่สุด ถึงไม่ได้หันกลับไปมองคนตัวสูง แต่เชื่อว่าตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลาแบบลูกครึ่งกำลังฉายแววระอา ก่อนจะพึมพำส่งเธอว่า ‘เด็กคนนี้นี่’ เหมือนทุกครั้ง... อยู่ที่โรงเรียนนี้ฉันมีเพื่อนอยู่หลายกลุ่ม แต่แบบที่สนิทกันจนพูดเรื่องในชีวิตประจำวันได้ ก็คงจะมีแค่กลุ่มเดียว โดยสมาชิกในกลุ่มจะมีทั้งหมดห้าคน หญิงสี่ชายหนึ่งที่บอกมาคือรวมฉันเข้าไปในกลุ่มแล้วนะ งั้นฉันจะเล่าถึงสมาชิกเพื่อนในกลุ่มกันก่อนแล้วกันนะ อย่างที่บอกไปว่าโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนนานาชาติ มันก็ย่อมมีเพื่อนที่เป็นต่างชาติอยู่แล้ว จริงมั้ย มาเริ่มจากสมาชิกคนแรกกันก่อนเลยดีกว่า เพื่อนคนแรกที่ฉันอยากแนะนำเลยก็คือ ‘ไรอัน หวัง’ มีชื่อจีนจริงๆว่า ‘หวังเก่อจิ้ง’ เขาเป็นเพื่อนผู้ชายคนแรกที่เข้ามาทักฉันตอนที่ฉันเข้ามาเรียนใหม่ๆ เป็นผู้ชายที่เหมือนจะพูดมากไปนิด แต่รวมๆแล้วเป็นคนที่น่ารักคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ชอบหาเรื่องตลกๆมาให้เพื่อนในกลุ่มเราฟังอยู่เสมอ คนที่สองที่ฉันอยากแนะนำก็คือ ‘ทานากะ ยูโกะ’ เป็นเพื่อนผู้หญิงชาวญี่ปุ่นหน้าตาน่ารัก รวมไปถึงนิสัยดีมากๆ เวลามีของกินหรือว่าของเล่นอะไรก็แล้วแต่ เธอมักจะนำมาแบ่งเพื่อนในกลุ่มเสมอ เพื่อนคนที่สามเธอคนนี้มีน่าตาสวยมากถ้าเรียนจบเธอสามารถไปเป็น ‘ดาราฮอลลีวูล’ เธอเป็นคนอังกฤษที่อยากจะเรียนในญี่ปุ่น มีชื่อว่า ‘คริสติน่า บลาวน์’ มีชื่อเล่นว่า ‘คริส’ เพื่อนในกลุ่มบอกว่าชื่อนี้เหมือนผู้ชายไป เลยเปลี่ยนจากคริสสั้นๆเป็น ‘คิตตี้’ แทนถึงแม้เธอจะไม่ค่อยชอบชื่อนี้ แต่เธอก็ยอมให้เพื่อในกลุ่มได้ ทำไมเธอถึงไม่ชอบน่ะหรอ อาจเป็นเพราะเธอ ‘ชอบผู้หญิง’ ด้วยกัน และมีนิสัยห้าวหาญขัดกับภาพลักษณ์ที่สวยราวกับนางพญาก็เป็นได้ และเพื่อนคนสุดท้ายที่ฉันอยากจะแนะนำเลยก็คือ ‘ซันญ่า ข่าน’ เธอเป็นลูกครึ่งลาว-อินเดีย เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาถือว่าสวยใช้ได้คนหนึ่ง เธอมีดวงตาคมโตเหมือนคนอินเดีย นัยน์ตาลึกน่าหลงใหล แต่มีหน้าตา สีผิวที่ขาวละเอียดเหมือนคนลาว ที่ฉันเคยเจอตอนสมัยที่ยังอยู่เมืองไทย เพื่อนคนนี้มีนิสัยพูดน้อย แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่พูดเลย เอาเป็นเธอมีนิสัยนิ่งๆ แต่เวลาทำงานในตอนที่เซนเซย์สั่งนะ เธอคือ ‘เด็กเรียน’ ของจริง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม