คำเตือนแปลกประหลาด(2)

1505 คำ
ชินวุธเดินออกจากออฟฟิศเพื่อจะไปหามื้อกลางวันกิน ตอนนี้พนักงานฝ่ายผลิตกะเช้าทยอยเดินออกมากันแล้ว พวกคนงานจากประเทศเพื่อนบ้านก็หิ้วถุงใส่อาหารมาจับกลุ่มกันที่โต๊ะหินอ่อนใต้ต้นไม้แล้วกินข้าวด้วยกัน พนักงานที่เป็นคนในพื้นที่ก็ขี่รถออกจากโรงงาน ที่นี่เป็นโรงงานอบใบชาที่ยังไม่ได้แพ็กใส่ซองหรือห่อเล็กเพื่อจำหน่าย เมื่ออบใบชาจนแห้งได้ที่ตามมาตรฐานที่กำหนดแล้วก็แพ็กใส่ห่อใหญ่ส่งไปโรงงานฝ่ายผลิตที่ใส่ห่อแยกเพื่อจัดจำหน่ายต่อไป ที่นี่เป็นเพียงโรงงานขั้นต้นเท่านั้นจึงไม่กังวลว่าจะมีพนักงานฝ่ายผลิตแอบเอาสินค้าออกมา แต่กระนั้นก่อนออกมาจากโรงงานก็มีเจ้าหน้าที่คอยตรวจสอบพนักงานอยู่แล้ว ที่ประตูใหญ่ด้านหน้าก็มี ชินวุธขับรถออกจากโรงงานกลับไปยังหมู่บ้านที่เขาพักอาศัย แวะไปกินอาหารตามสั่งร้านแรกที่มากินเมื่อวาน ป้าแม่ครัวก็จำผู้ชายชาวกรุงคนนี้ได้จึงทักถามออกมาตามอัธยาศัยไมตรี "อ้าวคุณ ได้บ้านพักตรงไหนล่ะ" "ได้อพาร์ตเมนต์ทางนั้นครับ เลยจากชลประทานไปสักสามกิโลได้" ชินวุธบอกแล้วชี้ไปทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน "อพาร์ตเมนต์เหรอ มันมีด้วยเหรอวะ" ป้าแม่ครัวทำหน้าแปลกใจแล้วหันไปหาลูกค้าคนอื่นในร้านที่ทำหน้าแปลกใจพอกัน แล้วทุกคนในร้านก็คุยกันด้วยภาษาถิ่นที่ชินวุธฟังไม่ค่อยออก พอจับใจความได้ว่าทางที่เขาบอกไม่มีอพาร์ตเมนต์อะไรเลย แต่หมู่บ้านถัดไปอาจจะมีอพาร์ตเมนต์ก็ได้ เพราะได้ยินมาว่ากำลังจะก่อสร้างซูเปอร์มาเก็ตสาขาย่อย ซึ่งทางนั้นมันมีถนนตัดเข้าเมืองได้ แต่ต้องรอการขยายถนนใหม่ให้มันกว้างขึ้นก่อน ชินวุธฟังทุกคนคุยกันแล้วไม่ได้ใส่ใจนักเพราะเขาไม่ใช่คนในพื้นที่ จะให้อธิบายขยายความถึงตำแหน่งที่ตั้งของอพาร์ตเมนต์นั้นก็คงไม่ได้ แล้วเขาก็ไม่ชอบคุยเรื่องส่วนตัวกับคนไม่รู้จักด้วย ชาวบ้านบอกมายังไงเขาก็รับกลับยังงั้นให้จบเรื่องไป เมื่อกินข้าวอิ่มชินวุธก็ขับรถกลับโรงงาน ตรวจสรุปงานที่ผู้จัดการโรงงานทำมาส่ง ไปตรวจงานฝ่ายการผลิตบ้าง คุยกับวิศวกรและนายช่างบ้าง ตรวจโกดังเก็บของบ้าง จนเย็นก็ออกจากโรงงาน แต่โรงงานยังมีพนักงานฝ่ายผลิตกะบ่ายทำกันจนถึงสามทุ่มจึงจะปิดโรงงานและพักเครื่องจักร บรรยากาศยามเย็นของหมู่บ้านชนบทดูสงบสุข เขาจึงปิดเครื่องปรับอากาศแล้วเปิดกระจกรถรับบรรยากาศเย็นสดชื่น เขาไปแวะในหมู่บ้านแล้วหามื้อเย็นกินจนอิ่ม จากนั้นไปแวะร้านสะดวกซื้อ ซื้อน้ำดื่มและของกินกลับไปหลายอย่างเผื่อหิวตอนกลางคืน เขามองเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบกระป๋องในตู้แช่แล้วนึกถึงกฎของอพาร์ตเมนต์ที่ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แล้วถ้าเขาซื้อไปดื่มแค่กระป๋องเดียวล่ะ ไม่ได้ดื่มจนเมาเสียงดังสักหน่อย ใครจะรู้ว่าเขาดื่ม หรือในห้องมีกล้องแอบติดตั้งเอาไว้ แต่ถึงจะคิดแบบนั้นชินวุธก็ไม่ได้หยิบเครื่องดื่มกระป๋องออกมา เขาไม่ใช่สายดื่มจึงไม่สนใจมัน เมื่อซื้อของกินของใช้ที่จำเป็นแล้วชินวุธก็ขับรถออกจากหมู่บ้านตรงไปยังอพาร์ตเมนต์ แต่เมื่อผ่านท้ายหมู่บ้านก็มีสุนัขสีน้ำตาลขนเกรียนวิ่งออกมาจากพงหญ้าตัดหน้ารถแบบกระชั้นชิดจนเขาตกใจเหยียบเบรกทันที "เฮ้ย!" ชินวุธนั่งนิ่งในรถครู่หนึ่ง เมื่อมั่นใจว่าไม่ได้ชนสุนัขตัวนั้นเขาก็ขับรถต่อไปโดยไม่สนใจจะหันกลับไปมองว่าสุนัขมันวิ่งไปทางไหนแล้ว ขอแค่ไม่ได้ชนก็พอ ไม่งั้นกันชนรถเขาอาจจะบุบและเป็นรอยได้ พอถึงอพาร์ตเมนต์ในตอนค่ำ ชินวุธก็จอดรถแล้วหิ้วของเดินเข้าอาคาร แล้วเขาก็เห็นผู้อาศัยหลายคนนั่งจับกลุ่มคุยกันตรงล็อบบี้หน้าทีวีจอใหญ่ด้วยท่าทางเฮฮาสนุกสนาน เด็กชายสองคนกับเด็กหญิงอีกคนวิ่งเล่นกันส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว เด็กหนุ่มสองสามคนก็นั่งอยู่อีกมุมหนึ่งแล้วเล่นโทรศัพท์มือถือไปด้วย "เกือบขับรถชนหมาแล้วสิ บอกแล้วให้ระวังหมาวิ่งออกมา" เสียงทักห้วน ๆ จากด้านข้างทำให้ชินวุธหันไปมองอย่างเสียมิได้ "ผมไม่ได้ขับเร็ว แล้วผมก็เบรกทันด้วย" ชินวุธตอบกลับด้วยน้ำเสียงห้วนพอกันแม้จะนึกแปลกใจว่าอินทรารู้ได้ยังไงว่าเขาเกือบชนสุนัขตัวนั้น "ก็ดีแล้ว หมาตัวนั้นยังไม่ถึงที่ตาย คุณจะได้ไม่ต้องทำบาปด้วย" อินทราบอกแล้วหันหลังเดินไปทางอื่น ชินวุธเลิกคิ้วกับคำพูดแปลก ๆ ของผู้ชายหน้านิ่ง แต่ก็ไม่ได้สนใจนัก เพราะเมื่อวานคนดูแลอพาร์ตเมนต์ก็พูดอะไรแปลก ๆ เหมือนกัน "อุ๊ย! คนนี้เหรอที่เพิ่งมาเมื่อวาน หน้าตาหล่อจังเลย" เสียงหวานใสดังจากอีกทางทำให้ชินวุธหันไปมอง เธอเป็นหญิงสาวที่สวยมาก ผมสีดำขลับยาวสลวย สวมใส่เสื้อแจ็กเก็ตผ้ายืดสีเขียวตองอ่อนทับเสื้อยืดสีขาว กางเกงผ้าสีเขียวเข้าชุดกับเสื้อเดินมาหาเขา "ครับ" ชินวุธรับคำด้วยความแปลกใจว่าเธอพูดกับเขาใช่ไหม "สวัสดีค่ะ คุณชื่ออะไรคะ พักอยู่ห้องไหน มาที่นี่ได้ยังไง แล้ว..." "เงียบนะสาวิตตรี กลับบ้านเธอไปได้แล้ว" อินทราเอ็ดแทรกด้วยเสียงดุ ชินวุธเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ อินทราเดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อสักครู่เขาเห็นอินทราเดินไปทางระเบียงหน้าห้องทางฝั่งขวา แต่ตอนนี้อินทรายืนอยู่ห่างจากเขาไม่ถึงสามเมตร "อะไร! ฉันจะคุยกับคนมาใหม่นิดหน่อยไม่ได้หรือไงยะ!" สาวิตตรีชักสีหน้าใส่ด้วยความไม่พอใจ "จะยอมกลับไปดี ๆ หรืออยากมีเรื่อง" อินทรายกมือที่ถือไม้เรียวขึ้นมาตรงหน้า ทำให้หญิงสาวหน้าเจื่อนรีบถอยหลังทันที "เดี๋ยวสิ เธอแค่มาคุยกับผมเองนะ จะถึงกับตีกันเลยเหรอ รุนแรงไปหรือเปล่า" ชินวุธรีบห้ามเมื่อเห็นว่าอินทราไม่ได้ล้อเล่น "ใช่ ฉันแค่มาคุยเองนะ ไม่ได้คิดจะทำอะไรสักหน่อย" สาวิตตรีเถียงแล้วรีบหนีไปแอบอยู่ด้านหลังชินวุธ "สาวิตตรี ฉันขอเตือนอีกครั้งนะ กลับบ้านเธอไปได้แล้ว แล้วอย่ามายุ่งกับชายคนนี้อีก" อินทรามองหญิงสาวด้วยสายตาดุที่เหมือนจะมีเปลวไฟบาง ๆ อยู่ในดวงตา "ชิ! กลับก็ได้ ใจแคบจริง ๆ ฉันแค่อยากมาคุยกับเขาแค่นั้นเอง ไม่ได้คิดจะทำอะไรสักหน่อย" สาวิตตรีสะบัดหน้าใส่อินทราแล้วหันไปหาคนที่ยืนไม่ไกล "คุณพี่ไปก่อนนะคะคุณน้องสุดหล่อ แล้วเจอกันใหม่" สาวิตตรีทำตาเล็กตาน้อยแล้วส่งจูบให้กับชายหนุ่มผู้อาศัยคนใหม่ด้วยจริตมารยาของผู้หญิง เธอหันไปมองอินทราแล้วสะบัดหน้าใส่อีกทีก่อนจะเชิดหน้าเดินออกไปจากอพาร์ตเมนต์ ชินวุธเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจกับคำที่เธอใช้ หน้าตาท่าทางเธอดูอายุแค่ยี่สิบต้น ๆ เท่านั้น แต่กลับเรียกตัวเองว่าพี่ และเรียกเขาที่อายุสามสิบห้าว่าน้อง นี่หน้าตาเขาดูเด็กมากขนาดนั้นเลยหรือยังไง "ไม่ต้องสนใจแม่นั่นหรอก นางไม่เคยเป็นมิตรกับใครได้นาน แล้วยังเจ้าอารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายด้วย ตามประสาคนแก่ขึ้นคานนั่นล่ะ" อินทราโบกมือทำนองไม่ใส่ใจแล้วหันหลังเดินไป ชินวุธเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจอีกรอบ เพราะในมืออินทราว่างเปล่า ไม่มีไม้เรียวที่ยาวเกือบหนึ่งเมตรที่ถือเมื่อกี้เลย เอาโยนไปทางเคาน์เตอร์เหรอ แต่ก็ไม่มีเสียงไม้ตกกระทบอะไรเลย อินทราไม่ได้ขยับมือหรือเคลื่อนไหวไปมากกว่าการถือไม้เรียวชี้สาวิตตรีด้วยซ้ำ แล้วไม้เรียวนั่นหายไปไหน เมื่อหาคำตอบไม่ได้ชินวุธก็โคลงหัวด้วยความไม่เข้าใจแล้วเลิกใส่ใจกับอินทรา ทุกคนที่อยู่บริเวณโถงชั้นล่างและมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดเวลาก็หันกลับไปทำกิจกรรมของตัวเองต่อ ชินวุธเลิกใส่ใจรอบตัวแล้วเดินขึ้นบันไดกลับห้องพักของตัวเอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม