นางไม่ใช่เมียเป็นแค่สินค้าที่ใครจะซื้อนางก็ขาย1

1407 คำ
เซียวจ้านเป่ยตรงไปโรงเตี้ยมสุขสราญย์ทันที หมูป่าเพิ่งตายไม่นานก็จริง แต่หากไม่ใช่เพราะว่าเขาจะเข้าเมืองมาซื้อเสื้อผ้ากับของให้เมียล่ะก็ หมูนี่คงชำแหละขายในหมู่บ้านแล้ว อยากกลับบ้านจะแย่แล้วต้องรีบขาย "อ้าวนายพรานเซียวหรือ วันนี้ได้อะไรมากันเล่า ท่านไม่ขึ้นเขานานแล้วนี่ตั้งเกือบปีแล้ว" หยวนเหอเป็นหลงจู๊ของโรงเตี้ยมแห่งนี้ หลงจู๊คนนี้นิสัยดี ไม่กดราคา จึงทักทายเขากลับ "อ้อ พี่หยวนเหอพอดีข้าวางกับดักไว้ ได้หมูป่ามาสองตัวเลยนำมาให้ท่าน ไม่ทราบว่าท่านรับซื้อหรือไม่ขอรับ" หยวนเหอเหมือนสวรรค์มาโปรด "เฮ้อ ที่จริงนะอาเซียวหมูป่าตายแล้วชั่งละห้าสิบอีแปะเท่านั้น แต่ช่วงนี้ฝนตกนายพรานขึ้นเขาไม่ได้ อีกทั้งมีคนมาจากเมืองหลวง เป็นคุณชายตระกูลใหญ่มาเที่ยวเมืองกว่างโจวของเรา คนของขาอยากกินเนื้อแต่ข้าไม่มี เถ้าแก่กำลังกลุ้มใจเลยว่าจะทำเช่นไร เฮ้อข้าหยวนเหอคงมีบุญวาสนา สวรรค์ถึงส่งเจ้ามาเอาเช่นนี้ข้าให้ราคาเท่ากับหมูเป็นชั่งละแปดสิบอีแปะแล้วกัน อาจูมาเอาหมูไปขึ้นตาชั่ง" หยวนเหอสั่งคนงานไม่ช้าก็นำหมูป่าสองตัวไป เซียวจ้านเป่ยเลียบๆเคียงๆถามหยวนเหอถึงคนที่มา หากเกี่ยวข้องกับหรานซินชายารองเสด็จพ่อเขาต้องวางแผนให้ลูกกับเมียใหม่ "เอ่อ คนที่มาเป็นผู้ใดหรือขอรับพี่หยวนเหอ ถึงทำให้เถ้าแก่ของท่านถึงกับลำบาก ปกติกว่างโจวนี่เถ้าแก่ฉินก็ถือว่าเทียบเคียงฮ่องเต้แล้วไม่ใช่หรือขอรับ" เซียวจ้านเป่ยเอ่ยเสียงเบา เหอหยวนส่ายหน้า "จุ๊ๆๆๆอย่าดังไป ข้าได้ยินว่าคนเหล่านั้นมาตามหาทายาทอ๋องคนหนึ่ง หลายปีก่อนสูญหายแถวชายแดนอี้โจว พอดีที่นี่มีโรงเตี้ยมจึงแวะพักก่อนจะเดินทางต่อ คนที่มาเห็นว่าชื่อคังหยุนน่ะ" อาจูเดินกลับมาจากข้างในก่อนจะแจ้งแก่เหอหยวน "นายท่านหมูป่าสองตัวทั้งหมด732ชั่งขอรับ" "อ้อ อาเซียว732ชั่งๆละ80อีแปะเป็นเงิน50ตำลึงกับ560อีแปะ ข้าปัดเศษให้เจ้าเป็น60ตำลึงแล้วกัน พวกเขายังอยู่ที่นี่อีกหลายวัน หากเจ้าล่าอะไรได้ก็ส่งมาเถอะ เดือนหน้าเจ้าก็ไปทหารแล้วเอ่อ เดี๋ยวขากลับแวะมาเอาขนมไปให้บุตรสาวเจ้าด้วย" เซียวจ้านเป่ยรับปาก เขาจะไปโรงฝากเงินเปิดเป็นชื่อของจูเหมยลี่ เขาต้องล่าสัตว์อีกสักสองสามครั้ง ในขณะที่หลานชายของเสนาบดีคังหยวนเป้ายังอยู่ ตอนอยู่เมืองหลวงพวกเขาไม่เคยเจอกันจึงไม่รู้จัก หลานชายเสนาบดีมาตามหาเขาเพื่ออะไร ตามหาแบบโจ่งแจ้งเสียด้วย เซียวจ้านเป่ยอยากไปเบิกเงินท่านแม่ฝากไว้ให้ก็ไม่ไว้ใจสถานการณ์ มีเงินกว่าสิบล้านตำลึงแต่ได้แต่กอดป้ายฝากเงิน เขาช่างน่าเวทนาเสียจริงๆ หากไม่ติดว่าต้องเป็นทหารอาจจะเบิกแล้วก็ไปใช้ชีวิตที่อื่นต่อ คังหยุนกำลังชมทัศนียภาพของตำบลจิ่วโจวก็เหลือบไปเห็นบุรุษคนนึง ท่าเดินช่างดูองอาจนักคงเป็นนายพราน หนวดเครารุงรังกำลังเดินมาทางเขา จึงเอ่ยทักทายอย่างไม่ถือตัว "เอ่อพี่ชาย ไม่ทราบว่าท่านเป็นนายพรานหรือเปล่า" เซียวจ้านเป่ยที่ไม่อยากคุยกับเขาก็ส่ายหน้า แต่คังหยุนไม่ยอมแพ้ เขาอยากล่าสัตว์จึงตามตื๊อเซียวจ้านเป่ยไม่เลิก "นี่พี่ชาย ข้าอยากล่าสัตว์ ถ้าท่านเป็นนายพรานก็ช่วยนำทางได้ไหม ข้าให้ท่านห้าสิบตำลึง ไม่พอหรือ งั้นหนึ่งร้อยตำลึง พี่ชายอย่าเดินหนีสิ ห้าร้อยตำลึงพาข้าขึ้นเขาไปล่าสัตว์ ตกลงไหม หากล่าได้หนึ่งตัวจ่ายเพิ่มตัวละยี่สิบตำลึง" เซียวจ้านเป่ยหันกลับมา เขารำคาญไอ้เด็กปัญญาอ่อนนี่ ดูจากการเดินแล้ววรยุทธแมวสามขาแต่อยากผจญภัย "หนึ่งพันสองร้อยตำลึง ไม่รับรองว่าเจ้าจะล่าได้หรือไม่ ข้าแค่ดูแลความปลอดภัยเจ้า อยู่บนเขาสามคืน หากล่าไม่ได้ข้าไม่คืนเงิน เขาที่จะล่าอยู่ตำบลข้างเคียง ว่าไงไม่เอาก็หลีกทาง" คังหยุนตกลงทันที ก่อนจะควักตั๋วเงินมัดจำเขาทันทีสี่ร้อยตำลึง เซียวจ้านเป่ยให้หยวนเหอทำสัญญาให้ จากนั้นก็นัดว่าอีกสามวันให้หลังเจอกันหน้าโรงเตี้ยมสุขสราญย์ เซียวจ้านเป่ยไปโรงฝากเงินเปิดเป็นชื่อจูเหมยลี่สี่ร้อยตำลึง เขาไว้ใจจูเหมยลี่ไม่รู้เพราะอะไร หลังจากที่นางอยู่กับเขามาสี่วันเขารู้สึกว่านางไม่น่าเป็นเหมือนหงซิ่ว สตรีแพศยาคนนั้น เฮ้อคนเราก็แปลกยิ่งเกลียดกลับยิ่งเจอ วันนี้หัวหน้ามือปราบเหลียงพาอนุคนงามอย่างหงซิ่วมาตำบลจิ่วโจวเพื่อต้องการพบกับคุณชายคังท่านนั้น ว่ากันว่าเป็นหลานชายเสนาบดีฝ่ายขวา คนสำคัญของราชสำนัก เขาอยากประจบสอพลอคนในเมืองหลวงเพื่อหน้าที่การงานของตน อนุของเขาคนนี้ช่างดีนักหน้าตางดงามเอาไว้ขี่เองก็ได้ ยามต้องเอาใจขุนนางทั้งหลายนางก็รับรองคนเหล่านั้นเสียถึงอกถึงใจ บางคนถึงกับให้รถม้ามารับถึงบ้านเขา คุณชายไก่อ่อนอย่างหลานชายเสนาบดีคนนั้นหากเจอลีลายั่วยวนบนเตียงของหงซิ่วรับรองติดใจทุกคน ขุนนางบางคนจ่ายเขาถึงสองหรือสามร้อยตำลึงแลกกับการให้นางไปปรนเปรอความสุขให้ถึงจวน หงซิ่วไม่เคยงอแงสักครั้งที่เขาให้นางไปเหมือนนางเองก็ชอบ เหลียงเถี่ยต้านมีอนุมากมาย แต่มีแค่หงซิ่วที่เป็นทั้งอนุและยังหาเงินให้เขาได้อีก ตำแหน่งในจวนนางเสียงดังกว่าฮูหยินเอกเสียอีก แน่นอนหากคนเหล่านั้นตอบแทนหลังจากเสร็จกิจกับนางเขาก็ไม่ยุ่ง ถือเป็นค่าเหนื่อยของนางเขารับเพียงที่เขาได้รับ หงซิ่วเห็นเซียวจ้านเป่ยก็อยากเยาะเย้ยที่เขายังยากจนแต่นางกลับมั่งมีจึงเดินไปหาแล้วกล่าววาจาเยาะเย้ย เหลียงเถี่ยต้านที่กำลังรอคุณชายจากเมืองหลวง เห็นอดีตสามีของอนุผู้เร่าร้อนก็รอดูเรื่องสนุก "นึกว่าใคร ที่แท้ก็นายพรานเซียว ไม่เจอเกือบปีเจ้าสบายดีหรือ นังเด็กนั่นล่ะอยู่ดีหรือว่าตายแล้ว" เซียวจ้านเป่ยหันมาตามเสียง ก่อนจะเดินหนีหงซิ่วยังคงเดินตาม คังหยุนยืนมองดู ส่วนเหลียงเถี่ยต้านเองก็ไม่รู้ว่าเขาคือใคร "นี่เซียวจ้านเป่ย ข้าว่านะอีกกี่ปีเจ้าก็ยากจนอยู่อย่างนี้แหละได้ข่าวว่าเมียโดดน้ำตายหรือเหอะ น่าสงสาร เอาเช่นนี้ดีหรือไม่สามีข้ากำลังหาทาสไปทำเหมืองที่ทางใต้ เจ้าสนใจขายตัวหรือไม่เล่า" เซียวจ้านเป่ยหันกลับมาก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ "ได้ข่าวว่าชู้รักของเจ้าก็เอาเจ้าไปเร่ขายให้ขุนนางผลัดกันขี่มิใช่หรือ อีกหน่อยเจ้าราคาตกก็คงขายต่อให้คนงานที่เหมืองรุมกันขี่แทน เหตุใดข้าดีใจนักที่สตรีแพศยาอย่างเจ้าหลุดพ้นเสียได้ นี่หงซิ่วภรรยาข้าน่ะนะนางเป็นสตรีที่งามยิ่งนัก เจ้าอย่าเอ่ยถึงนางเลยเจ้าไร้ค่าไม่คู่ควรหรอก ทำเมียข้ามัวหมองเปล่าๆ" เซียวจ้านเป่ยจากไปแล้วหงซิ่วกรี๊ดเสียงดัง จนเหลียงเถี่ยต้านต้องมาลากนางไปเขาเป็นมือปราบแต่อยู่อีกอำเภอ ไม่สามารถใช้อำนาจที่นี่ได้ ทุกอย่างอยู่ในสายตาคังหยุน เขาให้คนไปสืบประวัติมือปราบกับอนุคนนี้แล้วกลับมารายงาน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม