เซียวจ้านเป่ยนอนหลับไปแล้ว เซียวลี่ผิงนั่งเล่นอยู่ในบ้านฝนตกเมื่อคืนนี้จนถึงยามเหมาจึงหยุด จูเหมยลี่สะพายตระกร้าไปเก็บผักป่าได้มามากมาย ชาวบ้านที่นางสอนให้หาว่าผักชนิดใดกินได้ก็พากันแห่ไปเก็บจนเต็มเขาด้านที่ติดกับหมู่บ้าน
บ้านของเซียวจ้านเป่ยอยู่ติดดับเขาอีกลูก เขาลูกนี้อันตรายชาวบ้านไม่กล้าขึ้นไป ต้นไม้หนาแน่นมากนัก เมื่อวานที่ตัดไม้ก็ตัดแค่บริเวณเชิงเขาเท่านั้น เพราะมีต้นไม้หนาแน่นไม่จำเป็นต้องขึ้นไปด้านบน
จูเหมยลี่ได้ผักป่ามาสองตระกร้าใหญ่ นางจะนำมาตากแห้งแล้วสอนวิธีปรุงผักแห้งกับผักดองเหล่านี้ให้เซียวจ้านเป่ย เวลาที่เขาไปกองทัพจะได้ไม่ต้องทนหิวมากนัก เข้ามาก็เห็นบุตรสาวนั่งเล่นลูกสนที่นางแกะสลักแล้ววาดหน้าตุ๊กตาให้อยู่ก่อนที่นางจเอ่ยเรียก
"ท่านแม่เจ้าขา ข้าไปหาท่านพ่อได้หรือยังเจ้าคะ"
"ท่านพ่อป่วยอยู่ หากลูกไปอยู่ใกล้ๆอาจจะติดไข้จากท่านพ่อได้นะ แม่จะไปดูว่าท่านพ่อของเจ้าไข้ลงหรือยัง แม่จะได้เช็ดตัวให้ท่านพ่อด้วย ผิงผิงเด็กดีอยู่ที่นี่ก่อน เดี๋ยวท่านพ่อหายแล้วจะได้พาเจ้าเข้าไปในเมืองซื้อขนมอร่อยๆดีหรือไม่"
"ดีเจ้าค่ะท่านแม่ ข้ารักท่านแม่กับท่านพ่อที่สุดเลยเจ้าค่ะ"
เซียวจ้านเป่ยที่นอนอยู่อีกห้องได้ยินสองแม่ลูกคุยกันเขาก็อิ่มเอมใจ ชักไม่อยากไปทหารเสียแล้ว อยากใช้ชีวิตแบบนี้ตลอดไปไม่วุ่นวายกับเรื่องของเมืองหลวงอีก
แต่จะทำอย่างไรได้ เสด็จย่าจะทรงกลับมาอีกสิบเดือน เมื่อถึงเวลานั้นฮ่องเต้ตามหาเขาแน่ๆ ถ้าเขาไม่อยู่ที่นี่ต่อให้คนของฉู่หรานซินมาถึงนี่ก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าเขามีตัวตนอยู่ที่จิ่วโจว
จูเหมยลี่เข้ามาในห้องก็เห็นเขาตื่นอยู่หน้าตาแดงเพราะพิษไข้ จึงเข้าพร้อมกะละมังไม้ นำสุรามาเช็ดตัวเพื่อลดไข้ เซียวจ้านเป่ยงอแงเอาแต่ใจไม่เลิก เดี๋ยวกอดเดี๋ยวจูบไม่ยอมให้นางห่างกาย ตอนเขาไม่ป่วยเป็นแบบนี้ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ตอนป่วยนี่สิงอแงกว่าตอนปกติมากนัก ไม่นานก็หลับไปอีกครั้ง จูเหมยลี่ห่มผ้าให้เขาอย่างเบามือ
ฝนตกหนักมากตั้งแต่เมื่อคืน นางไปหาผักป่ามาคงดองเอาไว้อย่างเดียวแล้วเนื่องจากไม่มีแดดให้ตากเลย ตอนนี้ฝนลงเม็ดอีกแล้ว เพิ่งจะยามอู่เอง จูเหมยลี่ทิ้งให้คนตัวโตนอนคนเดียว ส่วนตนเองไปกล่อมเด็กน้อยเซียวลี่ผิงให้นอนกลางวัน เซียวลี่ผิงหลับไปแล้วจูเหมยลี่ได้ยินเสียงเซียวจ้านเป่ยงึมงำจึงรีบไปหา
เห็นเขานอนละเมอจึรีบเข้าไปดูเกรงว่าจะไข้ขึ้นจนเพ้อ
"ท่านพี่ หนาวหรือเจ้าคะตัวร้อนอีกแล้วหรือ เดี๋ยวข้าเช็ดตัวให้ท่านอีกที่ อื้อ ท่านพี่นอนดีๆสิเจ้าคะ"
"เสด็จแม่ อย่าทิ้งจ้านเอ๋อร์ไปได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ ทรงกลับมารับลูกด้วย เสด็จพ่อพระทัยร้ายนัก เสด็จแม่ลูกคิดถึงท่าน"
เซียวจ้านเป่ยละเมอเพ้อเพราะพิษไข้ อีกทั้งเขาร้องไห้อีกด้วย จูเหมยลี่ได้ยินเขาละเมอหามารดาก็ได้แต่กอดลูบหลังปลอบใจ ท่านมีพ่อใจร้ายหรือท่านพี่ เหมือนข้าเลยข้าก็มีแม่ใจร้ายเข่นกันนางก็ทิ้งข้าไป
เซียวจ้านเป่ยสะลึมสะลือมองหน้าคนที่นอนกอดเขาอยู่ก็งอแงอยากให้นางกอดเขาแน่นกว่านี้ จูเหมยลี่อ่อนใจจริงๆ คนตัวโตนี่ป่วยไม่ได้แล้วนะควรรีบหายสักที นางเหนื่อยจะตายแล้ว
"ท่านพี่ กอดแน่นเกินไปไม่ได้ ท่านต้องนอนดีๆนะเจ้าคะคนดี อย่างอแงนะเจ้าคะ ข้านอนกอดท่านแล้วเกิดติดไข้ท่านเล่า ผิงผิงอาจติดไข้จากเราได้นะเจ้าคะ อื้อ "
เซียวจ้่นเป่ยเอาแต่ใจจริงๆ เขาจูบนางเว้าวอนรุกเร้ากว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ปลดเสื้อผ้านางจนหมด จากนั้นก็ปลดของคนเอง ดูดดื่มปลายถันของนางจนจูเหมยลี่สะท้าน ตัวเขาร้อนเพราะพิษไข้ จูเหมยลี่กลัวว่าตนเองจะติดไข้จากเขาอีกอย่างข้างนอกฝนตกอากาศเย็น คนบ้านี่ยังแก้ผ้าแบบนี้อีก
"ท่านพี่ๆพอนะเจ้าคะ คนดีของข้าไม่เอาอย่างอแงอย่าเอาแต่ใจแบบนี้ อื้อ ข้าโกรธแล้วนะ"
"ไม่สน วันนี้จะเข้าหอ จะรักเจ้าให้สมใจอยากโกรธก็โกรธ ไม่สนใจแล้วอยากรักเมีย"
"อื้อ ทำไมเป็นคนดื้อแบบนี้นะอย่า พอแล้วเจ้าค่ะ ท่านพี่ท่านป่วยอยู่นะอื้อ"
เซียวจ้านเป่ยเลื่อนกายลงต่ำดื่มน้ำหวานจากรอยแยกขอกลีบดอกแสนงามจนเขาพอใจจากนั้นก็เลื่อนขึ้นมาจูบปากจูเหมยลี่กระซิบเว้าวอน
"ขอนะลี่เอ๋อร์ ให้พี่นะยอมพี่เถอะ อยากรักเจ้าให้พี่ได้เข้าไปนะคนดี อ่าห์ทรมานนักเมียจ๋า "
"ท่านพี่ข้าอื้อ ท่านห้ามเอ่อห้าม ท่านพี่ท่านห้ามหลั่งในตัวข้านะเจ้าคะ"
นางยอมแล้วยอมเขาแล้ว เซียวจ้านเป่ยแยกเรียวขางามออกก่อนจะค่อยๆใช้มือเคล้าคลึงเกสรที่ลอยเด่นเบาๆ น้ำหวานของนางเริ่มซึมออกมาอีก เซียวจ้านเป่ยกดความใหญ่โตของเขาเข้าไปทีละน้อย จูเหมยลี่นิ่วหน้า
"ท่านพี่จะ เจ็บ ข้าจุก ของท่านมันใหญ่มากอื้อ ท่านพี่ เบาๆได้ไหม เอาออกไปก่อนขะ ข้า อ๊าย"
"อย่าเกร็งเด็กดี เจ้าทำตัวสบายๆเดี๋ยวก็ดีเอง" จูเหมยลี่ผ่อนคลายกอดแผ่นหลังเขาไว้ เซียวจ้านเป่ยก้มลงดูดดื่มเต้าอวบอิ่มแสนหวานปลุกเร้าอารมณ์ให้เมียรัก ไม่นานเขาก็สามารถเข้าไปได้จนหมด
"อืม แน่นเหลือเกิน ลี่เอ๋อร์จ๋าหายเจ็บแล้วบอกข้านะ เด็กดี อ่าห์"
"ท่านพี่ ไม่เจ็บแล้วท่านทำเถอะ เสียวอ่ะ อ๊ายท่านพี่ อืมแรงกว่านี้ก็ได้ ข้าจะถึงแล้ว"
"อ่าห์ ตอดดีจัง เมียจ๋าขอปล่อยในตัวเจ้าไม่ได้หรือ"
"ไม่ได้ ข้านับวันแล้ววันนี้ไม่ปลอดภัย อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ่าห์เสียวเหลือเกินท่านพี่ขย่มอีก ข้าไม่ไหวแล้วนะ อื้อเสียว"
"เมียจ๋าถึงพร้อมพี่นะคนดี อ่าห์ อยากปล่อยข้างในเหลือเกิน"
"ไม่ได้ ข้าไม่อยากท้องตอนท่านไม่อยู่ อื้อเสียวท่านพี่เร่งอีกข้าจะถึงแล้ว อร๊ายเซียวจ้านเป่ย อื้อเร่งอีกแรงกว่านี้หน่อยไม่ไหวแล้ว"
เซียวจ้านเป่ยเองก็กลั้นไม่ไหวแล้ว นางแน่นรัดเขาจนแทบจะปลดปล่อยทันทีที่เข้าไป สะโพกแกร่งขยับอีกไม่กี่ทีก็ชักออกมาปลดปล่อยหยาดรักลงบนดงดอกเหมยแสนหวานของนาง เซียจ้านเป่ยหอบหายใจ ฟุบลงกลางเต้าอวบอิ่ม เขาอยากมีลูกกับนางแต่นางพูดถูกหากนางท้องตอนที่เขาไม่อยู่ นางจะลำบาก แค่นางยอมให้เขารักนางเขาก็ดีใจมากแล้ว
"ลี่เอ๋อร์ข้ารักเจ้า โกรธข้าหรือไม่ที่เอาแต่ใจจนรังแกเจ้าหืม คนดีของข้า"
"ยามเซินแล้ว ข้าจะไปทำอาหารอีกทั้งต้องต้มยาให้ท่านอีก ข้าไม่ได้โกรธท่านแค่ยังไม่พร้อมตั้งครรภ์น่ะ ท่านพี่ต่อไปห้ามท่านปลดปล่อยในตัวข้านะ กลับมาจากกองทัพสัญญาว่าจะตามใจท่าน"
"แปลว่าก่อนไปทัพเจ้าจะให้พี่รักเจ้าทุกคืนหรือคนดี"
"ท่านพักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ เป็นไข้อยู่แล้วยังออกแรงอีก คนอะไรไม่รู้จักประมาณตน"
"ก็เมียสวยเพียงนี้อดใจไหวที่ไหนกัน ดูสินมสวยอย่างกับรูปสลักดูดทุกวันไม่เคยอิ่มเลยจริงๆ"
"เซียวจ้านเป่ย คนหน้าหนาท่านนี่นะ ข้าไม่คุยด้วยแล้ว ตาแก่ลามก"
จูเหมยลี่กไปปลุกเซียวลี่ผิงก่อนจะเข้าไปในครัว ต้มน้ำสำหรับเช็ดตัวให้เขาก่อนตะวันตกดิน เดี๋ยวค่ำอากาศจะเย็นลงอีก
จากนั้นก็เริ่มทำมื้อเย็น เป็นข้าวต้มกุ้งสับโรยหน้าด้วยต้นหอมซอย นางไปไล่จับกุ้งมาตอนที่ฝนเริ่มพรำเม็ดเล็กๆเมื่อเช้าได้มาเกือบเต็มตะกร้า แต่เพราะสามีป่วยไม่อยากให้เขากินรสจัด จึงจับมานึ่งแล้วกะเอาแต่เนื้อกุ้งมาสับ จากนั้นก็ปรุงรส ต้มข้าวต้มใส่ข้าวเหนียวครึ่งกำมือทำให้ข้าวต้มข้นและเนียนนุ่ม ปรุงรสชาติเรียบร้อยก็ตักกุ้งโรยด้านบนตามด้วยกระเทียมและต้นหอม หากเซียวจ้านเป่ยหายดีนางจะขึ้นเขาไปหาพริกไทย นางแค่พูดว่าอยากได้ เดี๋ยวก็ได้กลิ่นและหาเจอเอง
"ท่านแม่ข้าต้มอร่อยมากเจ้าค่ะ ท่านพ่อหายหรือยังเจ้าคะลูกเข้าไปเล่นกับท่านพ่อได้หรือยัง"
"ยังจ๊ะ ท่านพ่อยังมีไข้อยู่ ผิงผิงอยากกินยาขมๆเหมือนท่านพ่อหรือไม่เอ่ย"
"อืม ไม่ดีกว่าเจ้าค่ะ ท่านพ่อโตแล้วท่านพ่อกินได้ข้ายังเด็กอยู่กินไม่ได้เจ้าค่ะ"
จูเหมยลี่หัวเราะกับความเจ้าเล่ห์ของเจ้าตัวน้อย ได้นิสัยพ่อมาเต็มๆเลยจริงๆ ก่อนจะนำโจ๊กกับถ้วยยาเข้าไปให้เซียวจ้านเป่ยในห้อง เซียวจ้านเป่ยลุกขึ้นมานั่งกินโจ๊กที่นางนำมาให้ เขาคงคิดถึงนางแน่ๆหากไปกองทัพ ไม่ว่าจะคิดถึงนางคิดถึงอาหารที่นางทำ ความอ่อนโยนที่นางมีให้เขาตลอดครึ่งเดือนที่ผ่านมา เขารักนางจริงๆเขารักผู้หญิงคนนี้คนที่อยู่ตรงหน้าเขา