จางลู่เหลียนปีนลงจากตักคังหยุน นางยังขาสั่นอยู่ยืนไม่ไหวเกาะไหล่หนาเอาไว้ คังหยุนไม่ไหวจึงบอกให้นางรีบออกไปก่อน จางลู่เหลียนแต่งตัวเรียบร้อยก็รีบออกไป นางหน้าแดงเป็นผลท้อจนจูเหมยลี่เดาได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นข้างใน
"พี่ลู่เหลียน คุณชายคังเขารูปงามนัก วาสนาท่านเสียจริงๆหืม"
ลู่เหลียนหน้าแดงนึกถึงตอนที่นางรั้งจูเหมยลี่มาจะจูบแต่ตัดภาพไปตอนที่ตัวเองโดนคังหยุนจูบก็ยิ่งหน้าแดงจนเซียวจ้านเป่ยกับเซี่ยตงหยางต้องมองหน้ากันแล้วแอบหัวเราะ
"พี่ตงหยาง ดูท่าหลานชายเสนาบดีคังจะร้ายไม่เบา ตอนที่ท่านอยู่เมืองหลวงได้ยินข่าวอะไรบ้างเกี่ยวกับเขา จางลู่เหลียนถึงอย่างไรก็เป็นน้องสาวรั่วสุ่ยข้าไม่อยากเห็นเด็กคนนึงต้องถูกทำลาย"
"อืมนับว่าเขานิสัยดีมากนัก อายุยี่สิบสี่แล้วไม่ยอมแต่งงาน สาวๆฝันใฝ่ทั่วเมืองหลวงแต่เขายื่นคำขาดว่าจะหาแม่ของลูกเอง หากใครอยากแต่งเข้ามาเขาจะปล่อยให้แห้งตายคาเรือนหอ"
ทั้งคู่หัวเราะให้กัน เซี่ยตงหยางเป็นใต้เท้ากรมอาญาเมื่อเจ็ดปีก่อนเพราะคดีที่มารดาเขาตายหลักฐานชี้ชัดว่าไม่ได้ป่วยแต่เพราะบิดาของเขาไปหาเซี่ยตงหยางแล้วบอกว่าให้จบเรื่องไม่ต้องสืบต่อ
เซี่ยตงหยางเห็นใจซื่อจื่อน้อยจึงไม่อยากทำงานอีกแล้ว มันเน่าเฟะเกินไปจึงลาออก หาที่ลงหลักปักฐานไม่ติดต่อตระกูลและคนทางฝั่งเมืองหลวงอีกเลย จนห้าปีก่อนเซียวจ้านเป่ยได้มาซื้อที่ปลูกบ้านที่นี่ทั้งคู่จึงได้เจอกันอีกครั้ง
คังหยุนถอนหายใจเขาต้องสงบนานมากกว่าจะเดินออกมาได้ เห็นหน้าคนตัวเล็กที่เพิ่งถูกเขาเอาเปรียบมาก็ยิ้มหวานจนจางลู่เหลียนต้องหลบสายตาเขา
"พรุ่งนี้ข้าจะหาคนมาจัดการเรื่องตัดไม้ซ่อมแซมบ้านของท่าน ส่วนเรื่องพื้นบ้านอาซ้อท่านอยากปูอิฐงั้นใช้อิฐอย่างดีเถอะ คนของข้าสามารถหาได้ในราคายุติธรรม"
"คุณชายคัง ท่านช่วยข้าเยอะแยะข้าไม่มีอะไรตอบแทนหรอกนะเจ้าคะ นอกจากอาหารที่ท่านบอกว่าอร่อยอย่างอื่นไม่มีแล้ว ส่วนเรื่องสามีข้าจะไปล่าสัตว์กับท่าน รอคราวหน้าได้หรือไม่ ช่วงนี้ฝนชุกนักทางขึ้นลงเขาล้วนอันตราย"
"ได้..ช่วยพวกท่านซ่อมแซมรั้ว สร้างโรงเสบียงเหล่านั้นปลูกผักอะไรไปก่อน ฝนไม่มีแล้วค่อยขึ้นเขาข้ารอได้ ไม่รู้เพราะเหตุใดข้าเห็นพี่เซียวแล้วนึกถึงคนๆนึงนัก"
"พวกท่านคุยกันไปก่อนเถอะ พี่เยี่ยอวี่ท่านกลับไปก่อนเดี๋ยวมื้อเย็นเสร็จแล้วข้าจะให้พี่ลู่เหลียนเอากลับไป"
เยี่ออวี้พาบุตรชายกับบุตรสาวกลับบ้าน เซียวลี่ผิงเป็นเด็กฉลาด นางกลับเข้าบ้านไปนั่งเล่นของเล่นที่ท่านแม่ประดิษฐ์ให้เมื่อวานทันที
จูเหมยลี่เข้าครัว น้ำแกงหน่อไม้ต้มกระดูกหมูเสร็จแล้ว ลู่เปียวนำวัตถุดิบมามากมาย
"พี่ลู่เหลียน มีเนื้อหมูเอามาสับทำไข่ตุ๋นเพิ่มสักหน่อยแล้วก็ผัดหน่อไม้เส้นกับไก่รวน ข้าจะตุ๋นเยอะหน่อยเผื่อพี่เซี่ยด้วย หืม พี่ลู่เหลียนท่านเหม่ออะไรเจ้าคะ"
"หะ ห๊ะ ปะ เปล่าเหมยลี่เรียกข้าหรือ "
"พี่เขาทำอะไรท่านหรือ คุณชายคังน่ะ"
"เขาๆ เหมยลี่ข้าใจเต้นแรงมากเลยตอนที่ถูกเขากอดแล้วก็ๆ"
"เขาจูบท่านหรือ อั๊ยย่ะเลือดร้อนเสียจริงๆพ่อหน้าอ่อนนี่ แล้วไงต่ออีก ท่านรู้สึกอย่างไร"
"ไม่รู้ แต่ข้าไม่ได้รังเกียจเขาเหมือนเฉิงอี้ ข้าแค่ๆ ตกใจ แต่ที่น่าอายคือข้าเต็มใจน่ะ เพิ่งเจอเขาวันเดียวข้าก็ใจง่ายแล้ว ถ้าพี่ใหญ่รู้เขาตีข้าตายแน่ อย่าเห็นว่าเขาตามใจข้า หากข้าทำผิดร้ายแรงเขาไม่เอาข้าไว้หรอก"
"หืม พี่รั่วสุยรักท่านจะตายอย่าคิดมากน่า"
"เหมยลี่ รอยช้ำตามตัวอาซ้อกับเด็กๆข้าไม่เคยตีเลยนะ นางล้มบ่อยจริงๆ คนอะไรไม่มีแรง"
"นางตั้งครรภ์ลูกคนโตอายุสิบสี่ ลูกคนที่สองอายุสิบหก อีกทั้งยังไม่เคยได้บำรุงเลย ข้าถามจริงๆ สามีข้าให้ท่านเดือนละหนึ่งตำลึงไม่คิดซื้อของดีๆกินบ้างหรือ"
จางลู่เหลียนน้ำตาร่วง จนจูเหมยลี่สงสัย มันต้องมีอะไรมากกว่าที่นางเห็น แต่ไม่อยากถามมากจนจางลู่เหลียนเอ่ยมาเอง
"ปีก่อนจางหูป่วยหนัก ข้าติดค่ายาร้านหมอยี่สิบตำลึง จึงทำได้แค่ผ่อนจ่ายเดือนละสามร้อยอีแปะพวกเขาไม่รู้เรื่องนี้ ที่จริงข้าไม่ได้ชอบพี่เซียวหรอก แต่ถ้าเขาแต่งข้าๆก็มีเงินใช้หนี้"
"พี่ ข้ายังไม่ได้เข้าหอกับท่านพี่หรอก หากตั้งครรภ์ตอนนี้ก็คงเหมือนพี่สะใภ้ท่านสตรีตั้งครรภ์คลอดบุตร ชีวิตเหมือนอยู่ในสนามรมเช่นกัน ข้าอยากมีบุตรสักอายุสิบแปด ท่านพี่เองก็ไม่ว่าอะไรเขาตามใจข้า"
สองสาวคุยกันไปทำอาหารไป ไม่รู้เลยว่าคนด้านนอกได้ยินหมดแล้ว รวมถึงพี่ชายนางจางรั่วสู่ยด้วย
"ไม่เคยรู้เลย ตอนนั้นนางเอาห่อยามาโยนใส่หน้าข้าแล้วทำท่าหัวเสียที่ต้องเสียปิ่นเงินเพื่อมารักษาเจ้าใหญ่"
จางรั่วสุ่ยน้ำตาคลอปิ่นเงินนั้นมารดาซื้อให้น้องสาว เป็นชิ้นเดียวที่นางหวงแหน แต่ยอมขายเพื่อเอาเงินให้เขาซื้อยา เขาจึงรักและตามใจนาง เพราะรู้สึกผิด
"แต่เดี๋ยวนะ เมื่อกี้นางบอกว่าคุณชายคังกับนางหมายความว่าอย่างไร เรื่องนี้ท่านตอบข้าหน่อย"
เซี่ยตงหยางกับเซียวจ้านเป่ยขอตัวไปคุยกับผู้นำหมู่บ้านทันทีเรื่องจ้างคนงานวันพรุ่งนี้
คังหยุนจึงต้องรับหน้าพี่ชายของจางลู่เหลียนลำพัง
"เอ่อ ข้าคือพี่รั่วสุ่ย ข้าๆล่วงเกินนางไปแล้ว เหมือนข้าจะชอบนางด้วย"
"คุณชายคัง ท่านเพิ่งเจอวันนี้เอาอะไรมาบอกว่าชอบน้องสาวข้า ท่านเป็นใครนางเป็นใคร อย่ามาทำให้นางมีความหวังแล้วสลัดทิ้ง แม้จะแต่งกับชาวนาแต่ข้าเชื่อว่าลู่เหลียนจะมีความสุขมากกว่าแต่งให้ท่าน"
จางรั่วสุยไม่ต้องการให้น้องสาวแต่กับขุนนางอีก มารดาเป็นตัวอย่างท่านพ่อรักท่านแม่ แต่ท่านย่าเกลียดท่านแม่ที่เป็นเพียงบุตรสาวบัณฑิตยากจน ทำทุกวิถีทางขับไล่ท่านแม่จนสุดท้ายจับนางแยกกับท่านพ่อ ท่านแม่ตรอมใจจากไป จนท่านพ่อก็ตรอมใจตามนางไปอีกคน เขาไม่อยากเห็นน้องสาวทนทุกข์เหมือนมารดาอีกแล้ว
เขาเป็นใครเป็นถึงบุตรชายใต้เท้ากรมคลัง แต่สุดท้ายตระกูลหานยังรังเกียจมารดาเขาอยู่ดี ต้องการเพียงตัวเขาที่เป็นบุตรชาย รังเกียจน้องสาวของเขาที่เป็นสตรี พอกันทีกับพวกขุนนาง คังหยุนพูดไม่ออก ฐานะนางกับเขาแตกต่างกันเกินไป แม้เขาไม่สนใจหากเขาจะแต่งกับนาง แต่พี่ชายนางคงสน เขาหนักใจยิ่งนัก
"พี่จาง ข้าๆคือข้า"
จูเหมยลี่ยกอาหารออกมาก็เห็นแค่สองคนยืนจ้องหน้ากันอยู่ เซียวจ้านเป๋ยกับเซี่ยตงหยางไม่อยู่ด้วย จึงส่งตะกร้าอาหารให้จางรั่วสุ่ยนำกลับบ้าน จางรั่วสุ่ยรับตะกร้ามาแล้วลากแขนน้องสาวกลับบ้านทันทีไม่ทักทายจูเหมยลี่สักคำ
"เขาเป็นอะไรไปคุณชายคัง พวกท่านทะเลาะกันหรือ"
คังหยุนส่ายหน้าก่อนจะนั่งลง ไม่นานเซียวจ้านเป่ยก็กลับมา เซี่ยตงหยางนำตะกร้าอาหารกลับไปให้ภรรยา ก่อนจะกลับมาบ้านเซียวจ้านเป่ยอีกครั้ง