โรงพัก
เวลา 18.00 น.
โตมร โรจนสกุล
เจ้าของโรงแรมระดับ 5 ดาวกว่า 10 แห่งทั่วประเทศ ต้องเดินเข้ามาในโรงพักด้วยสีหน้าที่วิตกกังวลเพราะได้รู้จากเลขาส่วนตัวว่าน้องชายแท้ๆของเขาก่อเรื่องใหญ่อีกแล้ว
อธิมร โรจนสกุล
น้องชายเพียงคนเดียวของเขา ได้ก่อเรื่องทะเลาะวิวาทจนทำให้มีคนโดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ที่โรงพยาบาล เขาเดินเข้ามาในโรงพักพร้อมเลขาส่วนตัว หันไปเห็นน้องชายนั่งอยู่กับกลุ่มเพื่อนด้วยความโกรธจัด ทุกคนเห็นโตมรแล้วรีบก้มหน้าหนีด้วยความกลัวโดยเฉพาะน้องชายของเขาเอง
“นี่ มันเกิดอะไรขึ้น แกไปก่อเรื่องอีกแล้วใช่ไหม ทำไมแกต้องสร้างปัญหาให้ฉันอยู่เรื่อยเลยหะไอ้เล็ก”
“ผมขอโทษพี่ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
“แกพูดกับฉันมากี่ครั้งแล้ว ว่าแกไม่ได้ตั้งใจ นี่แกกำลังทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องเขาต้องพลอยซวยในสิ่งที่แกไม่ได้ตั้งใจเนี้ยนะ”
โตมรรู้ดีว่าน้องเขาเป็นคนยังไง น้องชายเขาอารมณ์ร้อน เอาแต่ใจตัวเอง มีหลายครั้งที่เขาต้องออกรับหน้าแทนน้องชายเพื่อให้เรื่องมันจบลง และก็คงเป็นครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
“พี่ต้องช่วยผมนะ ผมสำนึกผิดแล้วพี่ ครั้งต่อไปผมจะไม่ทำอีก พี่อย่าให้ผมติดคุกนะ ผมไม่อยากติดคุก”
“ทีตอนทำแกไม่คิดนะ แต่ตอนนี้จะมากลัว ฉันบอกไว้เลยนะ ฉันจะช่วยแกครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ถ้าแกทำผิดอีกฉันจะส่งแกกลับไปอยู่กับพ่อแม่ที่เมืองนอก”
อธิมรไม่อยากไปอยู่กับพ่อแม่ เพราะเขาอยู่กับพี่ชายที่นี่ พี่ชายเขาให้อิสระเต็มที่ แต่ถ้าเขาไปอยู่กับพ่อแม่ต้องโดนบังคับทุกอย่างไม่มีชีวิตอิสระเหมือนแบบนี้แน่ๆ
“ครับๆ ผมให้สัญญา”
อธิมรรับปากกับโตมรจะปรับปรุงตัว ซึ่งเขาก็ไม่ได้คิดจริงตามที่พูดหรอกแต่เพื่อให้โตมรสบายใจและยอมช่วยเขาก่อนเขาจึงรับปาก
โตมรเคลียร์ปัญญาทีโรงพักเสร็จก็พาอธิมร น้องชายและเพื่อนๆของเขาไปที่โรงพยาบาล เพื่อไปดูอาการของคนที่โดนลูกหลงจนได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ห้องฉุกเฉิน
โรงพยาบาลหน้าห้องฉุกเฉิน เวลา 20.00น.
ป้าแตงและเพื่อนๆของสนธยา ยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉินอย่างวิตกกังวล แล้วเพื่อนคนหนึ่งก็หันไปถามป้าแตงว่า
“โต้งไปรับน้องไอ้สนหรอครับป้า?”
“อืม..ป้าให้มันไปรับสามาที่นี่”
ป้าแตงให้โต้งลูกชายไปรับริสาจากโรงเรียนเพื่อมาที่โรงพยาบาล
ทุกคนยืนรอหมอด้วยความตั้งใจ เพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งหันไปเห็นกลุ่มของโตมรเดินมาพร้อมกับพวกของอธิมร กลุ่มเพื่อนของสนธยามองด้วยความโกรธ เดินเข้าไปประจันหน้ากับกลุ่มของอธิมรอย่างเอาเรื่อง
“เพื่อนมึงเดินไม่ดูตาม้าตาเรือเองนี่หว่า กูไม่ผิดโว๊ย”
อธิมรพูดกวนใส่แก็งเพื่อนสนธยาหน้าห้องฉุกเฉิน ด้วยความโมโหและจะลงไม้ลงมือกันจนป้าแตงทนไม่ได้
“หยุด..คนเจ็บนอนอยู่ในห้องไม่รู้เป็นหรือตาย ยังจะมาทะเลาะกันอีก นี่มันโรงพยาบาลนะ ถ้าอยากมีเรื่องก็ไปมีกันที่อื่น”
โตมร รีบห้ามน้องชายตัวเองเพราะเกรงใจป้าแตงและคนในโรงพยาบาลรวมทั้งคนเจ็บด้วย หลังจากนั้นเขาจึงหันไปหาป้าแตง
“ผมต้องขอโทษแทนน้องชายผมด้วยครับ..เอ่อ..ผมมาดูอาการน้องที่โดนยิงนะครับว่าเขาเป็นยังไงบ้าง”
“ยังเลยคุณ ยังอยู่ในห้องฉุกเฉินอยู่เลย”
ป้าแตงหันไปพูดกับโตมรแล้วทุกคนก็เริ่มอ่อนลง
ทุกคนต่างยืนรอคนละมุมเพื่อรอหมอออกมาจากห้องฉุกเฉิน ป้าแตงหันไปเห็นริสากำลังเดินเข้ามาโดยมีโต้งคอยพยุงมาใกล้ๆเดินเข้ามาผ่านหน้าของโตมรไป โต้งไปรับริสามาจากโรงเรียนพร้อมเล่าเรื่องเหตุการณ์ให้ฟังบ้างแล้ว
โตมร มองริสาด้วยความแปลกใจว่าเธอมาทำอะไรที่นี่ เธอเป็นอะไรกับคนพวกนี้
ป้าแตงเดินไปรับริสามาจับมือไว้พร้อมหันไปพูดกับริสา
“ริสา ฟังป้านะลูก พี่ชายชองหนูจะต้องปลอดภัย เขาจะต้องปลอดภัย”
ป้าแตงกุมมือริสาไว้พร้อมปลอบเสียงสั่นเครือ
“สาเชื่อค่ะป้าแตง สาเชื่อว่าพี่สนจะต้องปลอดภัย พี่สนจะไม่มีวันทิ้งสาไปไหน พี่สนสัญญากับสาแล้วค่ะ”
ริสายิ้มมั่นใจพี่ชายของเธอจะไม่ทิ้งเธอไปไหน ทุกคนมองริสาด้วยความเห็นใจ เพราะรู้ดีว่าอาการของสนธยา 50/50 รวมทั้งสายตาของโตมรด้วยที่มองริสามาด้วยความเป็นห่วง
เวลาผ่านไปสักพักหมอออกมาจากห้องฉุกเฉินถามหาเธอ
“สาอยู่นี่ค่ะ”
“ผู้ป่วย อยากพบคุณครับ เชิญครับคุณริสา”
หมอให้พยาบาลมาจูงริสาเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ป้าแตงและทุกคนต่างมองเข้าไปด้วยความวิตกกังวล
“สา...สา”
สนธยาเรียกน้องสาวตัวเองด้วยเสียงที่แผ่วเบา เพราะสายออกซิเจนเสียบอยู่ที่ปาก ซึ่งเธอมองไม่เห็นหน้าพี่ชายเธอในตอนนี้
“พี่สน สาอยู่นี่ค่ะ”
ริสาเดินเข้ามาช้าๆพร้อมกับเอื้อมมือไปจับมือพี่ชายของเธอไว้
“สา พี่ขอโทษนะที่ไม่ได้ไปรับสาที่โรงเรียน สารอนานไหม”
“ไม่เป็นรัยค่ะพี่โต้งไปรับสามาแล้วนี่ไงคะ..”
“อืม..ดีจัง”
“พี่สนเจ็บตรงไหนไหมคะ..?”
“ไม่ค่อยเท่าไหร่..พี่ยังโอเค”
สนธยาบอกกับน้องสาวออกไปด้วยเสียงแผ่วเบา เธอรู้ดีว่ามันไม่ใช่แบบที่พี่ชายเธอบอก เธอจับมือพี่ชายขึ้นมากุมไว้แนบแก้มแล้วร้องไห้ออกมา
“พี่สน พี่สน...พี่สนอย่าทิ้งสาไปนะคะ”
ริสาพูดกับเขาทั้งน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้ม
“สา...พี่ไม่เป็นอะไร พี่แค่เจ็บนิดหน่อยเอง เดี๋ยวถ้าพี่หายเราไปเที่ยวทะเลด้วยกันนะ?”
ริสาร้องไห้หนักขึ้นน้ำตาร่วงพรู
“พี่สนบอกสาแบบนี้ตลอด พี่สนก็ยังไม่พาสาไปสักที สัญญากับสานะคะจะพาสาไปเที่ยวทะเล พี่สนจะพาไปเที่ยวที่สาอยากไป พี่สนต้องพาสาไปทุกที่เลยนะคะ?”
ริสาพูดออกมาด้วยเสียงสั่นเครือพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินออกมาเต็มใบหน้า
“อืม..”
สนธยาตอบได้แค่นั้นเพราะเขาเริ่มไม่มีแรงพูด
“พี่สน ออกไปจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ สาจะทำไข่เจียวกุ้งสับที่อร่อยที่สุดในโลกให้พี่สนทานคนเดียวเลยนะ”
“อืม..”
“สาจะไม่ดื้อ สาจะเชื่อฟังพี่สนทุกอย่าง สาจะเป็นเด็กดี...อึกๆๆๆ...สาจะดูแลตัวเอง”
ริสาร้องไห้ไปพูดไปด้วยความเจ็บปวดใจ
“สาจะหัดไปโรงเรียนเองไม่ต้องให้พี่สนไปส่งสาแล้วก็ได้..อึกๆๆๆ....สาจะหัดทำอาหารเก่งๆ สาจะ....”
“สา...พี่ง่วงจังเลย”
สนธยารู้ว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว จึงพูดออกไปกับน้องสาวแบบนั้น เมื่อเธอได้ยินถึงกลับเบะปากร้องไห้ตัวโยนที่รู้ว่าเวลานี้มาถึงแล้ว
“พี่สน...พี่สน...อึกๆๆๆ...”
“ขอพี่นอนหลับสักงีบนะ..?”
“ค่ะ...พี่สนนอนนะคะ สาไม่รบกวนแล้ว พี่สนจะได้พักผ่อน”
ริสาพูดด้วยเสียงสั่นเครือพร้อมน้ำตาที่ไหลลงมาเต็มสองแก้ม
“ดูแลตัวเองนะสา พี่รักสานะ”
ริสาค่อยๆเดินออกมาช้าๆด้วยความเจ็บปวด
สนธยามองน้องสาวตัวเองเดินออกไปช้าๆก็หลับตาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมา แล้วเสียงชีพจรของเขาก็ดังเตือนเป็นสัญญาณว่าพี่ชายได้จากเธอไปแล้วตลอดกาล
“ฮืออออ.....พี่สน พี่สน”
ริสาร้องไห้แทบขาดใจ พยาบาลจึงรีบวิ่งมาดูคนไข้ ริสาจึงถูกพยาบาลอีกคนพาออกไปนอกห้อง เธอเดินออกมาพร้อมน้ำตาเต็มหน้า ทำให้ทุกคนรู้ว่าสนธยาเสียชีวิตไปแล้ว
“พี่สน เขาไปแล้ว พี่สนจากสาไปแล้ว ไปแล้ว พี่สนทิ้งสาไปแล้ว...ฮือออออ”
“สา ทำใจดีๆลูก ทำใจดีๆไว้”
ป้าแตงรีบเข้าไปปลอบริสาที่ร้องไห้จนใจจะขาด
“สาจะอยู่ได้ยังไงถ้าไม่มีพี่สน ทำไม ทำไมสาจะต้องสูญเสียอีกแล้ว สารับไม่ไหวแล้ว สารับไม่ไหวแล้วป้าแตง ฮือ...”
ริสาร้องไห้ใจจะขาด ในระหว่างนั่น อธิมรที่เห็นริสาร้องไห้อย่างน่าสงสาร เขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาจริงๆ พร้อมทั้งโตมรที่มองดูหญิงสาวร้องไห้ก็มรู้สึกผิดในใจแทนน้องชายของเขาเอง
งานศพของสนธยา
ตลอดงานสวดศพ 7 วัน โตมรแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการช่วยเหลืองานทุกอย่างโดยไม่ได้แสดงตัวให้ริสารู้ อธิมรรู้สึกผิดมากจึงขอไปทำใจที่ต่างประเทศกับพ่อแม่ ซึ่งโตมรคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะญาติทางริสา ไม่อยากให้น้องชายเขาไปร่วมงานเช่นกัน ตลอดงานศพ 7 วัน ริสานั่งร้องไห้ทุกวันอยู่หน้าโรงศพ เธอเสียใจมากกับการจากไปของพี่ชายที่เหลือคนสุดท้ายในครอบครัวเธอ เขาคอยมองเธอตลอดอยากจะเข้าไปปลอบเธอ แต่ก็ทำได้แค่อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ เขาคิดในใจเสมอว่า เขาจะทดแทนในสิ่งที่น้องชายเขาทำให้เธอสูญเสียได้อย่างรัย
“นายไม่ต้องห่วงนะ สนธยา ฉันจะดูแลน้องนายต่อจากนายเอง ฉันให้สัญญา”
โตมรพูดให้สัญญาต่อหน้าโรงศพของสนธยาพี่ชายของริสาอย่างจริงจังและแน่วแน่