3 ปีผ่านไป
ริสาอายุได้ 18 ปี เธอเรียนจบจากโรงเรียนสอนคนตาบอดแล้ว ตอนนี้เธออาศัยอยู่กับป้าแตงแล้วก็โต้งเพื่อนสนิทของพี่ชายที่เสียไป ริสาอยู่บ้านป้าแตงเธอพยายามช่วยเหลืองานป้าแตงทุกอย่างในเรื่องที่สามารถช่วยได้ เราะช่วงนี้ป้าแตงสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ส่วนโต้งเรียนจบ ป.ว.ส. แล้วก็จะแต่งงานทันทีเพราะดันไปทำผู้หญิงท้อง ป้าแตงจึงรู้สึกเป็นห่วงริสามาก เพราะถ้าวันหนึ่งป้าแตงไม่อยู่สักคนโต้งก็คงจะช่วยอะไรริสาไม่ได้มาก แค่รำพังตัวเองยังไม่รอดเลย
“ป้าอายุก็เยอะแล้ว ไม่รู้จะอยู่กับสาไปอีกนานขนาดไหน”
ริสาเริ่มมีหน้าเศร้าลงแล้วหันมาหาป้าแตง
“ป้าแตงออกจะแข็งแรงนะคะ ต้องอยู่กับสาไปนานๆสิคะ”
ป้าแตงยื่นมือไปลูบศีรษะของริสาไว้อย่างเอ็นดู
“สา จำได้ไหมที่ป้าเคยบอกเรื่องที่มีคนใจดีอยากจะอุปการะสา?”
“จำได้ค่ะ..ตอนนั่นสาเพิ่งอายุ 15 เอง แต่ว่าตอนนี้สาโตแล้วนะคะ สาไม่ต้องให้ใครมาอุปการะแล้วละคะ สาดูแลตัวเองได้แล้ว”
ริสาจำได้เพราะตอนที่พี่ชายเธอเสียใหม่ๆ ป้าแตงบอกว่ามีผู้ใจดีอยากจะอุปการะริสาและอยากพาไปผ่าตัดตารักษาจาเพื่อให้กลับมามองเห็นอีกครั้ง แต่ริสาปฎิเสธเพราะอยากอยู่กับป้าแตงมากกกว่า
“เขายังเอ็นดูหนูอยู่นะลูก เขาอยากช่วยหนู...เขาอยากทำให้หนูกลับมามองเห็นอีกครั้ง หนูไม่อยากมองเห็นหรอ..?”
“อยากสิค่ะ...แต่สาไม่รู้จักเขาสักหน่อย ไม่รู้เขาจะอยากมาช่วยสาทำไม แล้วอีกอย่างสาก็อยากอยู่กับป้าแตงมากกว่าด้วย”
ป้าแตงยิ้มด้วยความเอ็นดูริสาแล้วดึงตัวริสาเข้ามากอดไว้ด้วยความรัก เธอรักริสาเหมือนลูกสาวคนหนึ่งเพราะสงสารที่เธอไม่เหลือใคร และริสาก็เป็นเด็กดีและยังน่ารักอีกด้วย ป้าแตงคิดกังวลขึ้นมาว่าถ้าไม่มีเธอแล้วก็คงไม่มีใครดูแลริสาได้ จึงต้องตัดสินใจอะไรบางอย่าง
…
โรงแรมโรจนะ เซ็นเตอร์
ระดับ 5 ดาว ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
โตมร โรจนสกุล ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง ที่เป็นเจ้าของโรงแรมกว่า 10 แห่ง ทั่วประเทศ เขาประสพความสำเร็จในเรื่องหน้าที่การงาน เรื่องเงิน แต่สิ่งที่เขายังไม่มีคือ คนรัก เพราะเขาไม่เคยเปิดใจให้ใคร ในหัวของเขามีแต่เรื่องงาน งาน งาน แล้วก็งานเท่านั้น
“โต สรุปวันๆโตจะนั่งทำแต่งานจริงๆใช่มะ?”
วีวี่ เพื่อนผู้หญิงเพียงคนเดียวของโตมร เดินเข้ามาทักทายเขา โตมรจึงเงยหน้าขึ้นจากงานพร้อมยิ้มและทักทายเพื่อน
“อ้าว วีวี่ ลมอะไรหอบมาถึงนี่เนี้ย”
“ก็ลมหิวงัย 555 นี่เที่ยงแล้วนะ โตจะไม่ไปกินข้าวหรอ..ปะ..ไปกินข้าวเป็นเพื่อนวีวี่หน่อย...หิวจะแย่อยู่แล้ว”
“มาถึงก็บ่นหิวเลยโอเคไปก็ไป..แปปนะ..โตเคลียร์งานกองนี้แปป”
โตมรเคลียร์เอกสารบนโต๊ะอย่างจนเสร็จเรียบร้อย โดยมีสายตาของวีวี่มองตลอดเวลาด้วยความชื่นชม เขาคงไม่รู้ว่าเพื่อนคนนี้คิดอะไรกับเขาไปมากเกินกว่าคำว่าเพื่อน
วีวี่แอบหลงรักโตมรมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัย ไม่กล้าบอกให้เขารู้เพราะกลัวจะเสียเพื่อน
“ไปกันเถอะ..เสร็จแล้ว...มื้อนี้โตเลี้ยงเองวีวี่อุตส่าห์หอบลมหิวมาถึงนี่”
“วีวี่ไม่เกรงใจนะ...จัดเต็มเลยนะ..?”
“ลุยเลย...”
พวกเขาเดินหัวเราะชอบใจออกไปทานข้าวด้วยกัน
....
ร้านอาหาร
“นั่นไงไอ้ชัยมาพอดี..”
โตมรหันไปเห็นเพื่อนอีกคนที่นัดไว้ และเขาก็เดินเข้ามาในร้านพอดี
“มาช้าจังวะ หิวจะตายละ?”
หมอชัยเพื่อนสนิทอีกคนของโตมรเขาเป็นคุณหมอหนุ่มจอมทะเล้น ขี้เล่นและเป็นกันเอง
“มาได้ไงเนี้ย ชัย..?”
วีวี่เห็นหมอชัยเดินเข้ามาก็ทำสีหน้าไม่ค่อยพอใจ เลยถามเขาขึ้นอย่างสงสัย
“ก็ ไอ้โตอะสิ ชวนชัยออกมา...ดีนะอยู่ใกล้โรงบาลชัยแค่นี้”
วีวี่ทำหน้าผิดหวังมากเพราะเธอตั้งใจมากินข้าวกับโตมร 2 คน แต่ดันมีหมอชัยมาเป็นก้างสะนี่
“อะ อะ ทานเถอะ มื้อนี้ฉันเลี้ยงเอง เต็มที่”
โตมรเรียกเด็กมารับออเดอร์แล้วก็สั่งอาหารเต็มโต๊ะ ทั้ง 3 คนทานอาหารไปด้วยคุยกันไปด้วยอย่างสนุกสนาน
กริ๊งง กริ๊งง >> โทรศัพท์ของโตมรดังขึ้น
“สวัสดีครับ... ครับ...ผมเข้าใจ เธอคงไม่ชินถ้าต้องอยู่กับคนแปลกหน้า และก็ยังไม่เคยรู้จักมาก่อน... แต่เรื่องเงินที่ผมส่งไปให้ทุกเดือนอย่าบอกเธอนะครับว่าเป็นผม...ครับ ขอบคุณครับ”
โตมรวางสายลงด้วยสีหน้ากังวล
“เรื่องเด็กผู้หญิงคนนั่นใช่ไหม...นี่เขายังไม่ยอมรับการช่วยเหลือจากแกอีกหรอ?”
“ยัง...เธอใจแข็งมาก...ฉันพยายามให้ป้าของเธอช่วยเกลี่ยกล่อมแล้วเธอก็ไม่ยอม”
“ทำไมโตไม่แสดงตัวไปเลยละ ว่าอยากรับผิดชอบช่วยเหลือในสิ่งที่ตาเล็กทำไว้เพื่อชดใช้ให้กับน้องเขา..?”
โตมรเริ่มมีสีหน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัดขึ้น จนเพื่อนทั้ง 2 คนมองด้วยความเป็นห่วง
“วันที่โตเห็น เธอเอาแต่ร้องไห้ในวันพี่ชายตายและในวันงานสวดศพ โตยังจำได้ดีว่าเธอรู้สึกโกรธเกลียดพวกเรามากแค่ไหน เธอคงไม่มีวันให้อภัยพวกเรา”
โตมรคิดถึงวันที่จัดงานศพวันสุดท้าย เขายืนอยู่ใกล้กับริสาโดยที่เธอไม่รู้ตัว ริสาได้แต่พร่ำพูดกับพี่ชายของเธอทั้งน้ำตาทุกวัน ว่าจะไม่มีวันให้อภัยคนที่ทำร้ายพี่ชายเธอ
“แล้วแกจะทำยังไงต่อไปวะ..?”
หมอชัยถามโตมรขึ้น
“ฉันก็ยังไม่รู้เลย ตอนนี้ยังคิดไม่ออกวะ”
โตมรนิ่งคิดว่าจะเอายังไงดี เพราะเขาอยากช่วยเธอจริงๆ อยากช่วยให้เธอกลับมามองเห็นอีกครั้ง และตัวเขาเองจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดกับเธอไปมากกว่านี้ แต่เธอกลับไม่รับสิ่งที่เขายื่นให้เลยแม้แต่น้อย
ทุกวันเสาร์ -อาทิตย์ ริสาจะกลับมาอยู่บ้าน เพราะโต้งได้พาเมียที่กำลังท้องอ่อนๆมานอนด้วย ริสารู้สึกเกรงใจเลยขอกลับมานอนบ้านคนเดียว ถึงแม้ป้าแตงจะไม่ยอมแต่เธอก็ดื้อจนป้าแตงยอมใจอ่อนให้มาแต่ก็ยอมแค่เสาร์และอาทิตย์เท่านั้น โตมรรู้จากป้าแตงว่าริสาจะกลับมาอยู่บ้านทุกวันเสาร์ อาทิตย์ เขาเลยเข้ามารอในบ้านของริสาทุกวันโดยที่ไม่ให้ริสารู้ตัว
“สาเหงาจังเลย...พ่อคะ แม่คะ พี่สน สาคิดถึงทุกคนนะคะ สาอยากให้เรากับมาอยู่ด้วยกัน สาเหงาเหลือเกิน...”
ริสานั่งร้องไห้คนเดียวในบ้าน โดยมีโตมรนั่งอยู่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามมองจ้องใบหน้าเธอด้วยความสงสารอยู่เงียบๆ ถึงแม้เขาอยากจะปลอบเธอหรือดึงเธอเข้ามากอดเขาก็ไม่กล้า ได้แต่นั่งมองเธอร้องไห้อยู่แบบนั้น