สูญเสียอีกครั้ง

1156 คำ
5 ปีผ่านไป ริสาอายุได้ 15 ปี เธอลาออกจากโรงเรียนเพราะต้องเข้าไปเรียนในโรงเรียนสอนคนตาบอด ทุกวันสนธยาพี่ชายจะไปส่งริสาไปเรียนทุกวันจันทร์ -ศุกร์ แล้วเขาก็ไปเรียนต่อพร้อมกับโต้ง ที่เรียนในสายอาชีพที่เดียวกัน สนธยาตั้งใจว่าจะเรียนสายอาชีพ จบแค่ ปวส. แล้วจะเปิดอู่ซ่อมรถเป็นของตัวเองจะได้มีเวลาอยู่กับน้อง เขาต้องเลิกเล่นบอลซึ่งเป็นสิ่งที่เขารักมากเพราะเขาต้องยอมทิ้งมันเพราะริสา เขาอยากมีเวลาให้ริสาและอยู่ดูแลริสาในเวลาเลิกเรียน ริสารู้ดีว่าพี่ชายของเธอต้องเสียสละทิ้งความฝันของตัวเองเพื่อเธอ เธอจึงรักพี่ชายของเธอมากริสาพยายามช่วยบางอย่างที่ช่วยได้ เช่น งานบ้าน ทำอาหาร ซึ่งพี่ชายของเธอก็ยอมให้เธอได้ทำเพื่อความสบายใจ “พี่สนอยากทานอะไรคะ วันนี้สาจัดให้พิเศษเลย..?” “ไข่เจียวกุ้งสับสิจ๊ะของโปรดพี่เลย” ไข่เจียวกุ้งสับเมนูโปรดของทั้ง 2 คน และเป็นเมนูที่แม่ชอบทำให้ทานบ่อยๆ สนธยาจะทานเมนูนี้ทุกครั้งที่ริสาถามว่าอยากทานอะไร เธอรู้ว่าที่สนธยาอยากทานไข่เจียวกุ้งสับเพราะเป็นเมนูที่เธอเองก็ชอบทานเหมือนกัน “ไข่เจียวกุ้งสับแม่ก็ชอบทำให้เรา 2 คนทานบ่อยๆ มันอร่อยจริงๆนะคะ สายังจำรสชาตินั่นได้เลย” ริสาเริ่มน้ำตาคลอ สนธยาจึงจับมือน้องสาวขึ้นมาไว้เพื่อปลอบ “ถึงพ่อกับแม่จะไม่อยู่แล้วแต่สาก็ยังมีพี่นะ พี่จะอยู่กับสาตรงนี้จะไม่ทิ้งสาไปไหน จะอยู่ดูแลสาไปตลอดจนกว่าสาจะแต่งงาน ถึงตอนนั้นสาเองแหละที่จะเป็นคนทิ้งพี่เอง” “ไม่มีทางค่ะ สาไม่มีวันทิ้งพี่สนไปไหนหรอก สาตาบอดแบบนี้ใครจะมารักสาละคะ สาจะอยู่กับพี่สนแบบนี้ตลอดไปเลย” สนธยายิ้ม แล้วก็ยื่นมือไปยีหัวน้องสาวเบาๆ ริสาจับมือของสนธยามากุมไว้ “พี่สนสัญญากับสานะคะ พี่สนจะไม่ทิ้งสาไปไหน พี่สนจะอยู่กับสาอยู่เคียงข้างสา อยู่ดูแลสาแบบนี้ตลอดไป สัญญานะคะ...?” “พี่สัญญา พี่จะไม่ทิ้งสาไปไหน” “สารักพี่สนนะคะ ถ้าพี่สนผิดสัญญาทิ้งสาไปอีกคนสาคงอยู่ไม่ได้ หัวใจสาคงสลายแน่ๆ” ริสาน้ำตาคลอ สนธยาดึงน้องสาวเข้ามากอดปลอบไว้ด้วยความรัก โรงเรียนสอนคนตาบอด วันนี้ที่โรงเรียนมีจัดงานต้อนรับผู้บริหารใจดีที่บริจาคเงินก้อนใหญ่ ให้กับทางโรงเรียนเพื่อให้ไว้ใช้จ่ายภายในโรงเรียน สนธยารีบมาส่งน้องที่โรงเรียน เพราะริสาเป็นตัวแทนนักเรียนในการพูดกล่าวขอบคุณผู้บริหารใจดี “ริสา สุขสังข์ เป็นตัวแทนของนักเรียนประจำโรงเรียนสอนคนตาบอดแห่งนี้ ขอขอบคุณคุณโตมร โรจนสกุล และท่านผู้บริหารที่ได้ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือโรงเรียนของเราค่ะ ถึงแม้พวกหนูจะมองไม่เห็น พวกหนูก็รับรู้ได้ด้วยใจค่ะว่าคุณโตมรต้องเป็นคนที่หล่อมากแน่ๆเลยค่ะ” ทุกคนต่างก็หัวเราะและก็ชอบใจในคำพูดของริสาที่ดูน่าเอ็นดู แล้วก็ยังดูน่ารักสดใสอีกด้วย “ขอบคุณมากๆนะคะ” โตมรมองริสาเดินลงจากเวทีพร้อมมีคนคอยพยุง เธอช่างดูเป็นที่รักของทุกคน เพราะความสดใสแล้วก็ความร่าเริงของเธอทำให้เขาละสายตาไม่ได้เลยจริงๆ ริสาถูกพามานั่งร่วมกับเด็กๆคนอื่น มีสายตาโตมรคอยมองตลอดเวลา เวลาพักเที่ยงเหล่าผู้บริหารก็ร่วมทานอาหารกลางวันกับเด็กๆ จนถึงเวลาเข้าเรียนช่วงบ่ายอาจารย์ของโรงเรียนก็พาเหล่าผู้บริหารและโตมรเดินดูตามห้องเรียนต่างๆ ในระหว่างที่นักเรียนกำลังเรียนกันเขาเดินไปถึงห้องกิจกรรม เพราะเห็นริสากำลังวาดรูปอยู่ทั้งเธอมองไม่เห็น แต่ทำไมเธอถึงวาดออกมาได้เหมือนคนตาปกติ เขายืนมองริสาอย่างตั้งใจแล้วเดินเข้าไปใกล้ “คุณครูคะ สาวาดรูปเสร็จแล้วคะ” โตมรยืนดูรูปที่ริสาวาดเสร็จแล้วยื่นมาให้เขา เขารับไว้พร้อมหันไปกระซิบของคุณครูที่ยืนข้างๆเขา “จะเป็นอะไรไหมครับ..ถ้าผมจะขอเก็บรูปนี้ไว้..?” “ได้ค่ะ..คุณโตมรเก็บไปได้เลยค่ะ” “ขอบคุณครับ..” เขามองดูรูปวาดในมือที่ริสาเป็นคนวาดก็รู้สึกทึ้งในความสามารถของเธอ เขาเดินออกมาจากห้องกิจกรรมพร้อมกับรูปวาดในมือ แล้วหันไปถามคุณครูที่เดินมาด้วยกัน “เธอตาบอดตั้งแต่เกิดเลยหรอครับ..?” “ไม่ใช่หรอค่ะ...ริสาตาบอดเพราะเกิดอุบัติเหตุนะคะ” “อุบัติเหตุหรอครับ..?” “ค่ะ..ริสาเธอเป็นเด็กน่าสงสารค่ะ เธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ และเหตุการณ์นั้นก็ยังทำให้พ่อกับแม่เสียของริสาชีวิตอีกด้วยนะคะ ริสาเลยต้องอยู่กับพี่ชายแค่ 2 คน ...เขา 2 คนเป็นเด็กดีมากๆเลยนะคะ อายุพี่ชายของริสาก็น่าจะ 18 แล้ว พี่ชายของริสาก็จะมารับทุกวันหลังเลิกเรียนแล้วยังมาส่งน้องแต่เช้าทุกวันด้วยนะคะ พวกเขาก็มีกันอยู่แค่ 2 คนนะคะ” โตมรหันไปมองที่ริสาอีกครั้งแล้วก็รู้สึกชื่นชมเธอ ทั้งที่เธอเจอเหตุการณ์มาหนักขนาดนี้แต่เธอก็ยังยิ้มสดใสร่าเริงได้ …. เวลา 15.30 น. ถึงเวลาต้องเดินทางกลับเพราะตรงกับเวลาเลิกเรียนพอดี โตมรขึ้นรถแต่เขาก็หันไปเห็นริสานั่งรอใครสักคนอยู่ที่เก้าอี้หน้าโรงเรียน เขามองริสานิ่งๆอยู่สักพักแล้วจู่ๆเสียงโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้น กริ๊งง กริ๊งง>>> “อะไรนะ แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน.?” โตมรวางสายแล้วรีบบอกคนรถให้รีบออกเดินทางทันที เพราะเขารู้สึกร้อนรนใจมาก โรงพยาบาลห้องฉุกเฉิน เวลา 20.00 น. ป้าแตงและเพื่อนๆของสนธยา ยืนรออยู่หน้าห้องฉุกเฉินสภาพของทุกคนมาด้วยเสื้อที่เปื้อนเลือด สีหน้าทุกคนดูกังวลมาก ป้าแตงก็เอาแต่ร้องไห้ตลอดเวลาได้แต่นั่งพนมมือขอพรสิ่งศักดิ์สิทธ์ ให้ช่วยคุ้มครองคนที่อยู่ในห้องฉุกเฉินให้รอดปลอดภัย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม