ครอบครัวสุขสังข์
ครบครัวสุขสังข์ มีพ่อ แม่ และลูกชายคนโตและลูกสาวคนเล็ก เป็นครอบครัวที่อบอุ่น พ่อมีอาชีพเป็นคุณครูและแม่เป็นแม่บ้านเปิดร้านซักรีดเล็กๆที่บ้าน เพื่อช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในครอบครัว
“แม่ขา...”
ลูกสาวคนเล็กของครอบครัวสุขสังข์ เรียนอยู่ชั้น ป.4 อายุได้ 10 ขวบเอ่ยทักทายผู้เป็นแม่ พร้อมเดินมากับคุณพ่อซึ่งรับกลับมาจากโรงเรียนพร้อมลูกชายคนโต
“แม่ค๊าบ...”
ลูกชายคนโต อายุ 13 ขวบ อยู่ชั้น ม.1 เป็นนักกีฬาของโรงเรียน
“มากันแล้วหรอ เสียงเจื้อยแจ้วเลยนะ พี่น้องคู่นี้..”
แม่ทักทายลูกพร้อมลุกขึ้นไปรับทั้ง 2 คนมาหอมและก็กอดคนละที 2 ที
“ทำอะไรกินหรือยังจ๊ะ...? ผมหิวมากขับรถกลับมานี่รถติดตลอดทางเลย”
“มีค่ะ ฉันทำแกงเขียวหวานกับปลาราดพริกของโปรดคุณ แล้วก็ไข่เจียวกุ้งสับของโปรดยัยสากับตาสนไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“เย้ๆ...”
สากับสนดีใจที่จะได้กินไข่เจียวฝีมือแม่เพราะมันอร่อยมาก พวกเขารีบวิ่งไปอาบน้ำแล้วทุกคนก็ลงมาข้าวพร้อมกัน
“วันนี้สอบวันสุดท้ายแล้วเป็นไงบ้างลูกทำได้ไหม...?”
ผู้เป็นแม่หันไปทางลูกชายและลูกสาว ถามถึงเรื่องสอบวันนี้เพราะวันนี้สอบวันสุดท้ายแล้ว
“สาสะอย่างสบายอยู่แล้วค่ะ..”
“ขี้โม้ จริงๆ ยัยเปี๊ยก”
สนแซวน้องสาวพร้อมยื่นมือไปยีผมน้องเล่น
“สาเปล่าโม้นะ สาทำได้จริงๆ เรามาดูกันไหมละ ถ้าสาสอบได้ที่ 1 นะ...พ่อกับแม่ต้องพาสาไปเที่ยวทะเลด้วย”
“ถ้าผมสอบได้เลขตัวเดียวนะ พ่อกับแม่ต้องซื้อรองเท้าเตะบอลให้ผมคู่ใหม่ด้วยนะครับ”
“ขี้โกงนิ...สาขอสอบได้ที่ 1 แต่พี่สนมาขอสอบได้เลขตัวเดียวได้ไง....ต้องได้ที่1เหมือนกันสิ”
ทั้ง 2 คนเถียงกันไปมาจนพ่อแม่ได้แต่นั่งยิ้ม พอเห็นว่าไม่จบสักทีจึงต้องห้ามทัพ
“อะๆเอางี้ แม่รู้ว่าลูกๆของแม่ตั้งใจมากกับการสอบ ไม่ว่าใครจะสอบได้ที่เท่าไหร่ แม่ก็จะให้ของขวัญตามที่ขอแน่นอนจ่ะ ขอแค่ไม่ตกซ้ำชั้นก็พอ โอเคไหม...?”
“จริงหรอคะ..?”
“จริงนะครับแม่..?”
“ถามคุณพ่อสิ..?”
แม่ของพวกเขาหันไปยิ้มให้คนเป็นพ่อเป็นฝ่ายตอบแทน ทั้ง 2 คนจึงหันไปหาพีอของพวกเขาแทน
“จริงๆหรอคะ คุณพ่อจะพาสาไปทะเลจริงๆนะคะ...?
“คุณพ่อจะซื้อรองเท้าเตะบอลคู่ใหม่ให้ผมจริงนะครับ...?”
ทั้ง2คนลุ้นรอคำตอบจากผู้เป็นพ่อ แล้วพ่อก็พยักหน้าแทนการตอบจนลูกๆของพวกเขาดีใจกันยกใหญ่
....
วันประกาศผลสอบ
ริสาสอบได้ที่ 3 ส่วน สนธยาสอบได้ที่ 8 ทั้ง 2 คนดีใจมาก ที่จะได้ของขวัญที่พ่อแม่ให้ตามที่สัญญาไว้ สนได้รองเท้าเตะบอลตามที่ขอไว้ สาได้ไปเที่ยวทะเลกับพ่อแม่
“ทำไมทำหน้าแบบนั่นละ ไม่ดีใจหรอที่พ่อแม่จะพาสาไปเที่ยวทะเลนะ...?”
สาหน้าบึ้งที่รู้ว่าตัวเองไม่ได้ที่ 1 แต่ได้แค่ที่3 ถึงแม้ว่าจะดีใจที่จะได้ไปเที่ยวก็ตาม
“สาดีใจสิที่พ่อกับแม่จะพาสาไปเที่ยวทะเล แต่สาหวังที่ 1 แต่สาได้แค่ที่ 3 เอง”
“ได้แค่นี้ก็เก่งแล้วนะ สาเก่งกว่าพี่อีกดูพี่สิสอบได้ตั้งที่ 8 แหนะ”
“พี่สนไม่ต้องมาทำเป็นปลอบเลย ตัวเองไม่ยอมไปทะเลกับเขาทิ้งเขาไปเตะบอลเฉยเลยนะ..”
สาเพิ่งรู้ก่อนวันจะเดินทางไปเที่ยวทะเล เพียง 1 วัน ว่าพี่ชายสุดที่รักต้องไปแข่งบอลที่ต่างจังหวัด 2 วัน ซึ่งต้องเดินทางในวันเดียวกับที่ทุกคนต้องไปทะเลด้วย
“อ้าว...!พาลนิ”
“ไม่รู้ละ...สางอนพี่สนแล้ว”
“พี่ก็เพิ่งรู้ว่าจะได้ไปแข่งบอลนี่น่า รู้ก่อนสาแค่ 1 วันเอง เพราะตัวจริงบาดเจ็บลงสนามไม่ได้ ตัวสำรองก็มีแค่พี่กับไอ้โต้ง เลยต้องไปทั้ง 2 คนเลย เอาไว้ทริปหน้านะพี่จะไม่เบี้ยวเลยพี่สัญญา...”
สนยื่นนิ้วก้อยให้น้องสาวเพื่อให้สัญญากับเธอ เธอหันมามองหน้าพี่ชายตัวเองนิ่งๆ
“สายอมก็ได้ แต่พี่สนต้องเอาเหรียญทองมาให้สานะ แล้วคราวหน้าไม่ให้เบี้ยวแบบนี้แล้วด้วย ไม่งั้นสาจะโกรธ”
“จ้า...”
สนหัวเราะ แล้วยื่นมือไปยีหัวน้องสาวเล่น
.....
วันเดินทางไปทะเล
ริสาเดินทางไปทะเลพร้อมกับพ่อและแม่ สนธยามีรถตู้มารับเพื่อเดินทางไปแข่งบอลที่จังหวัดสุพรรณบุรี ตลอดทางริสาคอยโทหาพี่ชายเพื่อรายงานตลอดเส้นทางว่าพบเจออะไรบ้าง ถ่ายรูปร้านอาหาร วิว สถานที่ต่างๆ ส่งไปให้พี่ชายดู ถึงแม้สนจะไม่ได้มา ริสาก็อยากให้พี่ชายได้มีส่วนร่วมกับทริปนี้ของเธอตลอดการเดินทาง
สนธยาแข่งบอลที่สุพรรณบุรี เพียง 2 วัน ได้รับรางวัลที่ 1 เขาตั้งใจเอาเหรียญทองไปฝากน้องสาวสุดที่รักของเขา สนธยาต้องเดินทางกลับกรุงเทพก่อนริสา 1 วัน ที่ยังไม่กลับจากทะเล ซึ่งแม่ได้ให้สนไปอยู่บ้านโต้งก่อน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของสนที่โรงเรียน และพ่อแม่ของโต้งกับสนก็เป็นเพื่อนกัน
วันเดินทางกลับจากทะเล ริสาแวะซื้อขนม ของฝากเพื่อเอาไปฝากพี่ชายของเธอมากมาย จนแม่ต้องร้องห้าม ระหว่างทางกลับบ้านฝนตกหนักตลอดข้างทางพ่อของริสาระมัดระวังในการขับรถมาก เพราะฝนตกกลัวถนนลื่นและก็เริ่มมืดแล้ว ในระหว่างนั้นสนรู้สึกเป็นห่วงพ่อกับแม่ และน้องสาวมาก เพราะเห็นฝนตกหนักจึงโทรเข้าเครื่องแม่
(แม่ครับ ฝนตกหนักมากเลยนะครับ)
“จ่ะ ที่นี่ก็ตกหนักมาก พ่อเขาก็ค่อยๆขับไปจ่ะ สนนอนก่อนนะลูก พ่อกับแม่น่าจะไปถึงดึกเดี๋ยวพ่อกับแม่ไปถึงไปรับที่บ้านโต้งนะ”
(ครับแม่...น้องละครับหลับรึยัง...?)
“ยังจ่ะ คุยกับน้องมั้ย อ่ะสา..พี่สนจะคุยด้วยลูก”
ผู้เป็นแม่ยื่นโทรศัพท์ให้ลูกสาวที่นั่งอยู่เบาะหลัง
(ฮัลโหล สาเป็นไงบ้างสนุกไหม...?)
“สนุกมากๆเลย สาเสียดายพี่สนไม่ได้มาด้วย สนุกมากๆ สาเล่นน้ำทะเลทุกวันเลยนะ นี่สาซื้อขนมมาฝากพี่สนเยอะแยะเลยนะ”
(ดีมากกก ไอ้น้องรัก)
ในระหว่างที่ริสาคุยโทรศัพท์ ก็ได้ยินเสียงแม่ ร้องกรี๊ดดดด
“คุณคะ...ระวังงงงงง”
โครม>>>