โรงพยาบาล
“สามองอะไรไม่เห็นเลย ตาสา...พ่อคะแม่คะ สามองอะไรไม่เห็นเลย ฮือออออ”
“สา สา พี่อยู่นี่ ใจเย็นๆนะ พี่อยู่นี่”
สนธยารีบวิ่งมาหาน้องสาว เขารีบวิ่งมารับน้องสาวไว้ก่อนจะตกเตียงเพราะเห็นเธอร้องไห้โวยวายไม่เสียงดัง
“พี่สน สามองอะไรไม่เห็นเลย ตาสาบอดใช่ไหม...? สาจะมองอะไรไม่เห็นอีกแล้วใช่ไหม..ฮือออ...แล้วพ่อกับแม่อยู่ที่ไหน”
ริสาร้องหาพ่อกับแม่ ทั้งที่อาการก็ยังไม่ดี ริสาได้รับบาดเจ็บที่หัวสมองกระแทกอย่างแรงทำให้ประสาทตาเสียจนไม่สามารถมองเห็นได้อีก มีแผลที่ใบหน้าและลำตัว จากเหตุการณ์รถชนวันที่ฝนตกหนักมากหลังจากเดินทางกลับจากทะเลในวันนั้น ทำให้พ่อกับแม่เธอเสียชีวิตคาที่ ซึ่งริสาที่ฟื้นจากอาการบาดเจ็บยังไม่ทราบเรื่องพ่อแม่ของเธอ
“หนูสาใจเย็นๆนะลูก นี่ป้าเองป้าแตงจ่ะ หนูนอนพักก่อนนะลูก เดี่ยวป้าไปตามพ่อกับแม่หนูมาให้นะ หนูนอนพักผ่อนก่อนนะลูกนะ”
ป้าแตงเป็นเพื่อนของแม่ริสาและเป็นแม่ของโต้งเพื่อนสนิทสนธยาด้วย ได้เข้ามาช่วยดูแลเรื่องจัดงานศพดูแลเรื่องเด็กๆทั้ง2ให้ เพราะพ่อแม่ของเด็กๆไม่มีญาติที่ไหน ป้าแตงจึงได้ช่วยจัดการทุกอย่างให้ รวมทั้งเงินประกันที่พ่อกับแม่ได้ทำไว้ให้ริสากับสนธยาก่อนที่ท่านจะเสีย พร้อมทั้งทรัพย์สิน ก็มีเยอะพอจะช่วยทำให้พี่น้องใช้กันได้สบายจนเรียนจบ
“ป้าแตงพาพ่อกับแม่มาหาสานะคะ สาอยากเจอพ่อกับแม่ ป้าแตงพามานะคะ...?”
“จ่ะๆ เดี่ยวป้าพาพ่อกับแม่มาหานะ หนูหลับก่อนนะลูก เดี่ยวถ้ามาแล้วป้าจะรีบปลุกหนูเลย”
“ค่ะ ป้าแตงอย่าลืมปลุกสานะคะ”
ริสาล้มตัวลงนอนเพราะยังเพลียที่บาดแผลอยู่ โดยมีสนธยามองดูอยู่ข้างๆ ป้าแตงหันไปทองที่สนธยาก็จับมือเขาจูงเดินออกไปข้างนอกพร้อมกัน
“สนฟังป้านะลูก...ริสาเพิ่งจะฟื้นขึ้นมาป้าอยากให้สนอย่าเพิ่งบอกเรื่องที่พ่อกับแม่ของสน...เอ่ออออ”
“ครับ ผมจะไม่พูดครับ”
สนธยามองหน้าป้าแตง เขารู้ว่าป้าแตงจะพูดเรื่องอะไร เพราะเขาก็ไม่อยากให้น้องรู้ความจริงตอนนี้เหมือนกัน แค่เรื่องตาที่มองไม่เห็นน้องก็เสียใจมากแล้ว
“ดีจ่ะ...เดี๋ยวป้ามานะป้าไปจัดการเรื่องค่ารักษาก่อน”
สนธยามองเข้าไปในห้องมองน้องสาวที่นอนหลับ โดยไม่รู้เรื่องว่าพ่อกับแม่ได้จากเขาทั้ง 2 คนไปแล้วตลอดกาล
....
วันเผาศพพ่อกับแม่
สนแต่งตัวเตรียมไปงานศพพร้อมน้องสาว ริสายังไม่รู้ว่าสนธยาจะพาไปไหน เพราะตาที่มองไม่เห็นซึ่งเธอยังต้องนั่งรถเข็นเพราะยังไม่ชินกับการเดินด้วยไม่เท้า ริสานั่งรถก็คิดมาตลอดทางว่าพี่ชายจะพาเธอไปไหนหรือไปหาพ่อกับแม่ เธอตั้งตารอพ่อกับแม่เธอมาตลอดทุกวัน จนในที่สุดพวกเขาก็เดินทางมาถึงที่วัด
“สา ลงมาจากรถสิ”
สนธยาเปิดประตูรถให้ริสาโต้งก็เข็นรถเข็นมารอรับริสาที่ประตูรถ
“ที่นี่ที่ไหนหรอ...? พ่อกับแม่อยู่ที่นี่หรอพี่สน...?”
ริสาพยายามเดินลงจากรถแล้วถามเขาด้วยเขาแปลกใจ สนธยามองหน้าน้องสาวแล้วเขาก็เริ่มน้ำตาคลอ
“สา ป้าจะพาหนูไปหาพ่อกับแม่นะลูก ไปกับป้านะ?”
ป้าแตงเดินมาจับมือริสาไว้พร้อมเข้าไปพยุงตัวเธอเอาไว้ให้ลงมานั่งรถเข็นอย่างระวัง
สนธยาเข็นริสาเข้าไปในวัดแล้วให้ริสานั่งรออยู่ที่รถเข็น สนธยากับโต้งหายเข้าไปในกุฏิวัดออกมาพร้อมห่มชุดจีวรเดินมายืนข้างๆริสา
“พี่สนหรอ หายไปไหนมาตั้งนาน...พ่อกับแม่มาหรือยังสารอนานแล้วนะ?”
“รอแปปนะสา ใกล้แล้วละ”
“อื้มมม “
ริสานั่งรอบนรถเข็นสักพัก ก็มีคนมาเข็นรถออกไปข้างนอก สักพักก็มีคนยื่นรูปถ่ายมาให้ริสาถือไว้ในมือ ริสาเริ่มสงสัยและเริ่มแปลกใจ
“พี่สน นี่อะไร”
“รูปพ่อกับแม่ของหนูไงลูก...”
“รูปพ่อกับแม่...?”
“ป้าขอโทษนะสา ป้าพาพ่อกับแม่มาหาหนูไม่ได้ ป้าขอโทษ ฮืออออ”
ป้าแตงร้องไห้รู้สึกผิดที่โกหกริสามาตลอดว่าจะพาพ่อแม่มาหา แต่วันนี้เป็นวันที่เธอต้องบอกความจริงให้หลานรู้แล้ว เพื่อให้ริสาได้มากราบศพพ่อแม่ตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย
“ทำไมพ่อกับแม่มาหาหนูไม่ได้เพราะอะไรคะ..?”
ทุกคนต่างหันหน้าหนีร้องไห้ ไม่มีใครกล้าพูดกับริสาสักคน
“พี่สน เพราะอะไรพ่อกับแม่ถึงมาเจอสาไม่ได้...พ่อกับแม่ไปไหน พี่สนพ่อกับแม่อยู่ที่ไหนอยู่ที่ไหน พี่สน พี่สนบอกสาที...? ฮืออออ “
สนธยาในชุดจีวรเพื่อเตรียมบวชให้พ่อกับแม่ เดินเข้ามาใกล้ๆน้องสาวตัวเอง พูดพร้อมน้ำตาที่ไหลลงมา
“สา...พ่อกับแม่จากเราไปแล้ว ท่านจากเราไปแล้วสา...”
“ไม่จริงใช่ไหม...? สาไม่เชื่อ พ่อกับแม่ต้องไม่ทิ้งสาไป...ฮือออออ”
“สา...”
“สาไม่เชื่อ ฮือออ พ่อกับแม่จะไม่ทิ้งเราไปใช่ไหม พี่สน...ฮือออ”
ทุกคนยืนมองริสาที่ร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด ป้าแตงต้องเขามาพยุงเธอพาไปไหว้ศพพ่อกับแม่ใกล้ๆ
“พ่อกับแม่ทิ้งสาไปแล้วจริงๆหรอ พ่อกับแม่ไม่อยู่กับสาแล้วหรอ...? อึกกก ฮือออ”
สนธยายืนมองน้องสาวร้องไห้อย่างสงสารจับใจ เขาพูดกับตัวเองว่าเขาจะไม่มีวันทอดทิ้งน้องไปไหน เขาจะดูแล และปกป้องน้องสาวของเขาไปตลอดชีวิตแทนพ่อกับแม่แน่นอน
“พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ หลังจากนี้ผมจะดูแลน้องเอง”
....