ก๊อก ๆ
“ขออนุญาตค่ะ” ควีนเคาะประตูห้องทำงานของผู้อำนวยการสองครั้งเพื่อขออนุญาตเข้าไป
“เชิญครับ” เสียงตอบรับกลับมาจากด้านหลังประตู
“อ้าวมาพร้อมกันเลยเหรอ” ชายวัยห้าสิบกว่ายิ้มทักทายนักศึกษาของเขาทั้งสามคน
“ผู้อำนวยการเรียกพวกเรามาพบมีเรื่องอะไรหรือครับ” เวกัสเอ่ยถามผู้อำนวยการอย่างนอบน้อมจนควีนรู้สึกผิดที่เคยคิดว่าเวกัสคือคนเถื่อนที่ปล้นจูบเธอ ดูเหมือนว่าเวกัสยังเป็นเวกัสคนเดิมที่เธอเคยชื่นชม เขาไม่มีท่าทีป่าเถื่อนแบบนั้นเลยสักนิด
“เชิญนั่งก่อน” ผู้อำนวยการผายมือไปที่โซฟาตัวยาวซึ่งมีไว้รับแขกยามมีผู้มาเยือนท่าน
เอเดนกับไทก้าเดินไปนั่งโซฟาฝั่งซ้ายที่นั่งได้สองคน ส่วนผู้อำนวยการนั่งโซฟาเดียวฝั่งขวา และเหลือโซฟาตัวยาวตรงกลางตัวเดียวที่ยังว่างอยู่
ควีนรู้สึกเหมือนโดนแกล้ง เอเดนกับไทก้าจงใจให้เธอนั่งกับเวกัสหรือเปล่านะ
“นั่งสิควีน” เสียงจากผู้อำนวยการทำให้เธอรู้ว่าเหลือแค่เธอคนเดียวที่ยังไม่ได้นั่ง เวกัสนั่งลงแล้วเขาเหลือที่นั่งด้านหน้าตัวเองไว้ให้เธอ
ทำไมให้เธอนั่งหน้าเขาล่ะ
ควีนเดินผ่านหน้าเวกัสไปช้า ๆ อย่างระมัดระวัง เธอไม่อยากให้แข้งขาของตัวเองไปโดนตัวเวกัสเพราะมันจะดูไม่เหมาะสม เดี๋ยวเขาจะคิดว่าเธออ่อย
จังหวะที่เดินแล้วก้มหัวลงเล็กน้อยอย่างคนมีมารยาทนั่น ก่อนจะพ้นหน้าเวกัส ควีนรู้สึกเหมือนเท้าติดอะไรสักอย่าง เท้าของเวกัสยาวจนชนกับขาโต๊ะตรงหน้าโซฟา เขาไม่ถอยกลับให้เธอ ทางเดียวที่เธอจะเดินผ่านไปได้คือต้องข้ามเท้าเวกัสไป แต่มันจะดูเป็นการไม่ให้เกียรติเอาน่ะสิ
“เวกัส ช่วยหลบหน่อยสิ” เธอตัดสินใจหันไปบอกเขาเพราะเธอไม่กล้าก้าวข้ามเท้าใคร
“อ๋อ”
เวกัสทำท่าขยับถอยแต่แล้วก็ยื่นออกตามเดิมทำให้รองเท้าของควีนสะดุดปลายรองเท้าเวกัสเข้าอย่างจัง
ตุบ! ร่างบางคะมำไปด้านข้างแล้วถลาเข้าหาเวกัส แขนหนากางออกอย่างรู้งาน เขารับร่างบางได้ทันท่วงที เอเดน ไทก้าและผู้อำนวยการตกอยู่ในอาการตะลึง ก่อนทุกคนจะหันไปมองทางอื่นเพราะกลัวสาวน้อยเพียงคนเดียวในห้องจะอาย
ตึก ตึก เสียงหัวใจดวงนน้อยเต้นถี่แรงจนแทบทะลุ เธอถลาเข้ากอดเวกัสอย่างหน้าไม่อายแถมมือหนายังรวบเอวบางเธออีก ควีนรู้สึกเหมือนว่าตัวเองนั้นเล็กนิดเดียวมือก้มมองดูมือของเวกัสที่มีขนาดใหญ่กว่าเอวของเธอ สองมือที่รวบเอวเธอไว้แทบประกบติดกันก็ว่าได้
“โทษที” ควีนรีบยันตัวเองให้ลุกขึ้นแต่ไม่เป็นอย่างใจนึก เธอไม่สามารถลุกขึ้นเองได้
เวกัสเห็นแบบนั้นจึงช่วยเธอด้วยการอุ้มเธอด้วยมือทั้งสองข้างของเขานำร่างบางไปนั่งตรงหน้าฝั่งผู้อำนวยการ
“ขะ ขอบใจ” ควีนพยายามเรียบเรียงเสียงให้ปกติแต่พอเอ่ยออกไปกลับสั่นไหวจนกลายเป็นตะกุกตะกัก
“ระวังหน่อยสิ ควีนเอ๊ย... ซุ้มซ่ามตั้งแต่เด็กจนโตจริง ๆ”
“คุณอาคะ!” ควีนทำหน้าง้อเง้าใส่อาของเธอ เธอไม่ได้ซุ้มซ่ามสักหน่อยแต่เป็นอุบัติเหตุต่างหาก แต่จะให้เธออธิบายไปก็ป่วยการที่จะพูด
“คุณอา เหรอครับ?” เวกัสหันไปมองหน้าผู้อำนวยการสลับกับควีนด้วยสีหน้ามึนงงสุด ๆ นี่เขาพลาดอะไรไป
“นั่นสิครับ ทำไมควีนถึงเรียกผอ.ว่าคุณอา” เอเดนเองก็สงสัยไม่ต่างจากเวกัส
พวกเขาสามคนถือว่าสนิทกับเหล่าอาจารย์แทบจะทุกคนในมหาวิทยาลัยไม่เว้นแม้กระทั่งผู้อำนวยการ แต่ทำไมเรื่องที่ควีนเป็นหลานสาวของท่านถึงพลาดไปได้นะ
“ก็ตามนั่นแหละ ควีนเป็นหลานของผมเอง” ผู้อำนวยการบอกความจริงให้หายกระจ่าง
“งั้นแสดงว่าควีนก็เป็น...”
“คุณมีเรื่องจะพูดไม่ใช่เหรอคะ” ควีนรีบพูดตัดหน้าเอเดนเพราะเธอไม่อยากเปิดเผยสถานะของตัวเองให้ใครรู้มากกว่านี้
“เออ ใช่ๆ” ผู้อำนวยการนึกขึ้นได้ทันทีที่หลานสาวทัก
“คือว่านะ เมื่อคืนนี้มีนักศึกษาของเราโดนลอบทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บถึงขั้นแขนหัก ผมก็เลยอยากบอกพวกคุณไว้ให้ระวังตัวกันหน่อยช่วงนี้ ส่วนคนที่ทำผมจะหาตัวมาให้ได้ คาดว่าน่าจะเป็นนักศึกษาในมหาลัยของเรานี่แหละ ถ้าพวกคุณได้เบาะแสอะไรมาก็แจ้งผมด้วยนะ” ท้ายประโยคผู้อำนวยการหันไปพูดกับเวกัส เอเดนและไทก้า
“ครับ”
“ส่วนเรา ช่วงนี้ก็อย่าออกไปในเวลากลางคืนล่ะ ระวังตัวด้วย หากเราเป็นอะไรขึ้นมาแด๊ดดี้กับมัมมี๊เอาอาตายแน่”
“ควีนไม่ออกไปไหนหรอกค่ะ เลิกเรียนควีนก็กลับหอพักตรงเวลาแปะ” ควีนทำท่ายกมือขึ้นแล้วชี้นิ้วไปที่นาฬิกาข้อมือให้ผู้เป็นอาดู ท่าทางน่ารักและไร้เดียงสาของเธอทำเอาผู้ชายทั้งสี่คนต่างหลุดยิ้ม อามองหลานด้วยความเอ็นดู ส่วนสามหนุ่มนั้น...
เอเดนมองเห็นความน่ารักของเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ส่วนไทก้าเขาพึ่งรู้สึกว่าท่าทางแบบนี้ของผู้หญิงเรียกว่าน่ารักสินะ
เวกัสแอบมองผมด้านหลังที่สะบัดไปมายามเธอขยับช่างน่าหลงใหลอะไรขนาดนี้ เป็นผู้หญิงที่มีแรงดึงดูดจังเลยนะ เขาไม่เคยโฟกัสใครได้นานเกินห้านาที แต่กับควีน เขาแอบมองเธอตั้งแรกที่เจออยู่หน้าลิฟต์แล้ว
“แล้วเรามาหาอามีเรื่องอะไรละ”
คำถามของผู้อำนวยการสร้างความสนใจให้กับทั้งสามหนุ่มเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเวกัส เขาตั้งอกตั้งใจฟังกว่าเพื่อนอีกสองคนซะอีก ถ้าหากเธอพูดเรื่องเมื่อคืน...
“ควีนก็จะมาพูดเรื่องนี้ละคะ”
“เจอทีเจแล้วละสิ”
“ใช่ค่ะ แขนซ้ายหักเลย”
“อาก็ถามเขาแล้วนะ ว่าไปมีเรื่องกับใครมาหรือเปล่า”
“แล้วเขาจะไปมีเรื่องกับใครได้ค่ะ ถึงแม้เขาจะเกเรไปบ้างก็เถอะ แต่เขาก็เคยทำร้ายใครถึงขั้นบาดเจ็บนี่คะ”
“ก็เพราะเกเรบ้างนี่แหละ ทั้งไถเงินเพื่อน รังแกข่มเหงรุ่นน้อง และวีรกรรมอื่นๆ อีก” ผู้อำนวยการพูดไปส่ายหน้าไปด้วยอย่างเอือมระอา
“แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำร้ายถึงขั้นแขนหักหรือเปล่าคะ คนที่ทำไม่มีมนุษยธรรมเลยนี่คะ โหดร้ายเกินไปแล้ว”
“ใช่ครับ คนที่ทำนี่มันโหดร้ายจริงๆ นะ” เอเดนเสริมคำพูดอีกคน
“ใช่ไหมคะ” ควีนหันหลังกลับมาเพื่อสนทนากับเอเดนแต่แล้วเธอก็ต้องชะงักเมื่อหันมาเจอหน้าเวกัสก่อน ตอนนี้เขานิ่งมาก ไม่ได้ยิ้มอย่างที่เคยเห็น และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกกลัวเขาขึ้นมานิดหน่อย
“เรานี่นะ มองโลกในแง่ดีเกินไป กับทีเจก็อยู่ห่างๆ หน่อย เจ้าหมอนั่นไม่เหมาะกับหลานสาวคนสวยของอาหรอกนะ”
“ควีนก็ไม่ได้ชอบเขานี่คะ” ควีนหันกลับมาเถียงอาตามเดิม ถือโอกาสหลบตาเวกัสไปด้วย
“ใช่ครับ ผมว่าเวกัสยังเหมาะกับควีนมากกว่าทีเจอีก จริงไหมเวกัส” แล้วเอเดนก็โยนระเบิดใส่เวกัส
เวกัสเหลือบสายตาไปมองเพื่อนแวบหนึ่งอย่างดุดัน แม้ว่าควีนจะสวยและตรงสเปกเขาที่สุดในบรรดาสาวสวยที่เข้าหาเขาก็เถอะ แต่เขาไม่ได้คิดที่จะมีแฟนหรือจริงจังกับใครในตอนนี้หรอกนะ
“นั่นสิ ควีน ถ้าหลานจะมีแฟนก็หาให้ได้อย่างเวกัสนะ เรียนดีมีมารยาทแถมนิสัยดีอีกด้วย ผู้ชายอันธพาลอยู่ให้ห่างเลยนะ” ผู้อำนวยการที่พ่วงตำแหน่งคุณอาสุดที่รักของควีนเอ่ยเตือนหลานสาว
ควีนไม่รู้จะตอบกลับยังไงจึงทำได้แค่ยิ้มให้แก่ผู้เป็นอา เอาเป็นว่าเธอเข้าใจว่าอาเป็นห่วงเธอมากก็แล้วกัน
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วควีนขอตัวนะคะ”
“เออ ยังมีอีกเรื่อง”
“อะไรคะ”
“เรื่องที่เราอยากให้มีการเรียนแบบผสมกันระหว่างสายวิชาการและสายศิลป์นั้น ทางคณะกรรมการของมหาลัยได้ประชุมกันแล้วนะ ทุกคนเห็นด้วย”
“จริงเหรอคะ” ควีนยิ้มกว้างดีใจ สิ่งที่เธอตั้งใจทำสำเร็จสักที
ควีนไม่อยากให้มหาลัยแบ่งแยกการเรียนเป็นระดับ อย่างเช่น คนที่เรียนเก่งต้องอยู่ห้องคิงค์เท่านั้น ซึ่งการเก่งวิชาการด้านเดียวก็ไม่ควรมาเหมาร่วมว่าเก่งกว่าด้านอื่น ทุกสายเรียนล้วนมีดีที่แตกต่างกันไป
สาเหตุที่เธอขอให้ผู้อำนวยการนำเรื่องนี้ขึ้นไปเสนอกับคณะกรรมการก็เพราะว่าเธอประสบกับเหตุการณ์ที่นักศึกษาจากห้องคิงค์ข่มเหงคนอื่นแล้ววัดระดับเพื่อนนักศึกษาด้วยกัน ทั้งที่ทุกคนก็เป็นนักศึกษาเหมือนกัน ไม่ควรเกิดการแบ่งแยกอะไรทั้งนั้น
“แต่จะให้ยุบห้องคิงค์เลยก็ไม่ได้เพราะถือว่ายังเป็นหน้าเป็นตาของมหาลัยเราอยู่ เราจึงจัดการเรียนแบบผสมได้ในวันพฤหัสบดีกับวันศุกร์ เพื่อให้นักศึกษาได้ร่วมแลกเปลี่ยนกันได้มากขึ้น ดีไหม”
“ดีมากครับ” ไทก้าตอบกลับอย่างเห็นด้วย เขาไม่ได้อยู่ห้องคิงค์เพราะมันน่าเบื่อสำหรับเขาที่สุด การเรียนมันควรเป็นไปอย่างสนุกและน่าสนใจ เวลาเข้าห้องเรียนทีไรเขาก็เจอแต่พวกหนอนหนังสือที่ไร้ชีวิตชีวา
“แล้วจะเริ่มเมื่อไหร่ค่ะ”
“อาทิตย์หน้า เดี๋ยวฝ่ายธุรการจะส่งตารางเรียนใหม่ให้แก่ทุกคน”
“ควีนไม่รบกวนท่านผู้อำนวยการแล้วค่ะ ไปนะคะ” ควีนยกมือไหว้ผู้อำนวยการแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่รอสามหนุ่ม