เธอไปแล้ว เวกัสยังนั่งนิ่งอยู่กับที่เมื่อควีนจากไป ความรู้สึกวูบวาบเมื่อกี้ยังติดตรึงใจเขาอยู่เลย นุ่มนิ่มและหวานที่น้ำตาลก็เทียบไม่ได้
หึ~
เวกัสเผลอยกยิ้มที่มุมปากอย่างไม่รู้ตัว
“ติดใจละสิ” เอเดนทักท้วงเมื่อเห็นเพื่อนนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“ไม่คิดเลยว่าจะปิดปากสาวน้อยด้วยวิธีนี้” ไทก้านึกทึ่งไม่หาย เขานึกว่าสาวน้อยนั่นจะตะโกนร้องโวยวายกว่าเดิมซะอีก สงสัยต้องเรียนวิชามารจากเวกัสซะแล้ว
“เลิกพูดเถอะ เหยื่อไปนู่นแล้ว”
แม้ยังเคลิบเคลิ้มอยู่แต่เขาก็ไม่ลืมเรื่องที่จะจัดการในวันนี้ เขาต้องสั่งสอนให้มันรู้จักที่ต่ำที่สูงซะบ้าง จะได้ไม่มาวุ่นวายกับเขาได้อีก
เช้าวันต่อมา
“ทุกคนๆ มีเรื่องมาเมาส์!” เพื่อนร่วมห้องเรียนของควีนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาให้ห้องเรียนด้วยอาการตื่นเต้น
ควีนหันไปมองแวบหนึ่งก่อนจะหัดมาสนใจวาดการ์ตูนในไอแพดของเธอต่อ สักพักเดี๋ยวก็จับกลุ่มเมาส์มอยกันตามเคย ไม่นินทาคนดังก็นินทากันเอง ควีนไม่ค่อยสนใจเรื่องของใครอยู่แล้วเพราะรู้เรื่องของผู้อื่นไปก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตของเธอดีขึ้น สู้เอาเวลาที่จับกลุ่มนินทาคนอื่นนั้นมาหาทำอะไรที่ดีและมีประโยชน์ต่อตัวเองดีกว่า
“มีเรื่องอะไรมาเมาส์อีกล่ะยัยเคส”
“เมื่อคืนนี้ทีเจโดนลอบทำร้าย”
ชื่อของบุคคลที่สามทำให้ควีนชะงัก เธอหวังว่าทีเจที่สาว ๆ กลุ่มนั้นเอ่ยถึงจะไม่ใช่คนเดียวกันกำทีเจที่กำลังตามจีบเธออยู่นะ
“ห้ะ! โดนทำร้ายเหรอ ไปขัดขาใครเข้าล่ะ”
จู่ ๆ เสียงสนทนานั้นก็เงียบไปดื้อ ๆ ทำให้ควีนต้องหันไปมองที่กลุ่มขาเมาส์มอยด้วยความแปลกใจ
“อะไร” ควีนเอ่ยถามทันทีที่สาว ๆ กลุ่มนั้นหันมาจ้องหน้าเธอ
สักพักพวกเธอก็ย้ายที่นั่ง กลายเป็นว่าตอนนี้ควีนโดนเพื่อนร่วมห้องจำนวนหนึ่งยืนล้อมโต๊ะเธออยู่
“ควีน ในฐานะที่เราเป็นเพื่อนร่วมห้องที่ไม่สนิท เราขอถามเธอตรง ๆ ก็แล้วกัน” เคสใช้มือทั้งสองข้างค้ำยันบนโต๊ะของควีน เธอเลียนแบบพฤติกรรมจากตัวละครในซีรีส์ที่เกี่ยวกับการสืบสวน เธอเห็นตำรวจชอบทำแบบนี้เวลาต้องการเค้นถามผู้ต้องหา
“ถามว่า”
“เธอทำร้ายทีเจใช่ไหม” สาว ๆ ทั้งกลุ่มต่างยืนจ้องหน้าควีนอย่างจับผิด
“จะบ้าเหรอ เราจะทำร้ายทีเจทำไม”
“ก็เมื่อคืนทีเจวิ่งตามหาตัวเธอจนทั่วห้องอาหารเลยนิ”
“แล้ว?”
“เธอรำคาญเขาใช่ไหม เธอก็เลยจ้างคนมาดักทำร้ายทีเจ”
“ไปกันใหญ่แล้ว เราไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นนะ”
“ไม่ใช่เธอแน่นะ”
“ก็ไม่ใช่นะสิ”
“เราว่าไม่ใช่ควีนหรอกเคส” เพื่อนในกลุ่มเคสเอ่ยทักขึ้น ต่อให้ควีนรำคาญทีเจยังไงก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้ถึงขั้นต้องทำร้ายร่างกายกันแบบนี้
“งั้นเป็นใครกันล่ะ มหาลัยเรามีนักเลงงั้นหรอก” เคสยังไม่ละความพยายามที่จะหาตัวคนทำร้ายทีเจ
“แต่เมื่อวานนี้ทีเจก็เหมือนจะมีเรื่องกับเวกัสอยู่นะ” เพื่อนคนหนึ่งให้กลุ่มเคสออกความคิดเห็น
“ไม่ใช่ๆ ยังไงก็ไม่ใช่เวกัสล้านเปอร์เซ็นต์ เวกัสของเราออกจะแสนดี เขาไม่มีวันทำอะไรแบบนั้นอย่างแน่นอน” เคสหันไปเถียงเพื่อนของตัวเองด้วยความมั่นใจเต็มร้อย
คำพูดของเพื่อนเคสทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับควีนเมื่อคืนนี้ผุดขึ้นมาอีกครั้ง
“ก็ไม่แน่...” ควีนพึมพำเบา ๆ
“ว่าอะไรนะ”
“เปล่า ไม่มีอะไร” ควีนรีบส่ายหน้าปฏิเสธ
หูดีจังเลยนะ?
“ยังซะก็ไม่ใช่เวกัส ทีเจมีนิสัยอันธพาลอาจจะไปมีเรื่องกับคนอื่นก็ได้ ใครจะไปรู้” เคสแสดงความคิดเห็นบ้าง
“ใครอันธพาล!” ทีเจตะโกนถามข้ามห้อง เขายืนอยู่หน้าประตูห้องเรียนโดยมีกลุ่มเพื่อนของตัวเองคอยประคับประคองตัวเขาไว้ แขนซ้ายใส่เฝือกและมีผ้าบางๆ คล้องคอเขา ทีเจแขนหัก
กลุ่มขาเมาส์หน้าสอดสีไปตาม ๆ กันก่อนจะพากันหันไปมองที่หน้าประตูเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงที่ได้ยินเมื่อกี้เป็นเสียงของทีเจแน่
“ทะ ทีเจ” เคสเอ่ยชื่อเขาตะกุกตะกักไม่พูดเก่งเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
ควีนรีบลุกขึ้นไปหาทีเจทันทีที่เธอหันไปเห็นสภาพของทีเจในตอนนี้
ใครกัน? ทำไมถึงได้ใจร้ายถึงเพียงนี้นะ แม้ว่าทีเจอาจจะดูเป็นอันธพาลแต่เขาก็ไม่เคยทำร้ายใครจนถึงขั้นได้รับบาดเจ็บแบบนี้
“เป็นยังไงบ้าง” เธอมองสำรวจทีเจตั้งแต่หัวไหล่ลงมาถึงแขนที่ใส่เฝือก ทีเจไม่ควรต้องมาเจออะไรแบบนี้ ไม่สิ นักศึกษาของมหาลัยชั้นนำและมีชื่อเสียงควรต้องไม่มีเรื่องทำร้ายนักศึกษา ไม่ว่าจะเป็นทีเจหรือใครก็ตาม
ทีเจรู้สึกดีใจที่ได้เห็นสีหน้าเป็นห่วงจากควีน เขารู้สึกว่าการที่โดนแบบนี้ก็ไม่ทำให้เจ็บตัวเปล่าซะทีเดียว
“เราเจ็บมากเลยควีน” ทีเจได้โอกาสเขาปล่อยมือจากเพื่อนและแกล้งเจ็บหนักจนเกือบจะล้มแล้วรีบคว้าตัวควีนไว้
ควีนรู้ทันทีเจ จังหวะที่เขายกแขนข้างที่ไม่ได้บาดเจ็บขึ้นคล้องคอเธอนั้น ควีนรีบคว้าเอาไว้ได้ก่อนแล้วพยุงเขาด้วยแขนตัวเองแทน เธอพาทีเจไปยังที่นั่งของเขา แม้กระทั่งเจรู้สึกเคอะเขินนิดหน่อยที่โดนควีนรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของเขาซะได้
“ใครทำแบบนี้กับทีเจ”
“เราก็ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อคืนนี้มันมืดมาก จำได้ว่ามันมากันสามคน แถมใส่เสื้อเหมือนกันด้วย”
“แล้วทีเจเห็นหน้าพวกนั้นไหม”
“ไม่เห็น”
แบบนี้ก็แย่ละสิ จะไปถามตัวคนร้ายได้ยังไง ในเมื่อไม่เห็นหน้า
“พวกนั้นใส่เสื้อฮูดสีดำที่มีหมวกคลุมหัว เราเลยไม่เห็นหน้าพวกนั้น”
กึก! จะใช่พวกเดียวกันกับที่เธอเจออยู่ห้องอาหารเมื่อคืนหรือเปล่านะ
“นายลองนึกดูดีๆ สิ นายไปมีเรื่องกับใครไว้บ้าง” เคสเดินมาร่วมสนทนาด้วยหลังจากที่ยืนหน้าเจื่อนอยู่นาน
“ไม่รู้สิ” เขานึกไม่ออกจริง ๆ ว่าเผลอไปเหยียบหางใครเข้า เพราะก่อนหน้านี้เขาก็แกล้งเอาไว้หลายคนอยู่เหมือนกัน ทั้งไถเงินบ้าง แย่งอาหารจากถาดอาหารคนอื่นบ้าง หรือแม้กระทั่งข่มเหงรังแกรุ่นน้องที่เข้ามาพักในหอ เวลาเดินผ่านแล้วโดนมองหน้าเขาก็เดินไปตบกะโหลกบ้าง จะเป็นพวกไหนกันนะ?
ดูเหมือนว่าถามอะไรไปก็เปล่าประโยชน์ เธอต้องทำอะไรสักอย่างแล้วเพื่อไม่ให้มหาวิทยาลัยของแด๊ดดี้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา หากเกิดเรื่องแบบนี้กับนักศึกษาคนอื่นอีก เธอเกรงว่าผู้ปกครองของเหล่านักศึกษาอาจไม่ไว้ใจให้ลูก ๆ หลาน ๆ ศึกษาอยู่ที่นี่ต่อแน่
“ควีนจะไป”
จู่ ๆ ควีนก็เดินออกจากห้องเรียนไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ สร้างความมึนงงให้แก่เพื่อนร่วมห้องและทีเจเป็นอย่างมาก สักพักอาจารย์ก็เดินเข้ามาสอน เหล่านักศึกษาคนอื่น ๆ จึงหันมาสนใจการเรียนแทน
ควีนเดินเร็วไปยังตึกทำงานของผู้อำนวยการมหาวิทยาลัย หากรอให้แด๊ดดี้กับมัมมี๊กลับมา เธอเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีกับนักศึกษาคนอื่นอีก เพราะฉะนั้นเธอต้องรีบจัดการปัญหานี้ให้เร็วที่สุด
ติ่ง!
เท้าที่กำลังจะก้าวเข้าไปในลิฟต์เป็นอันต้องชะงัก เมื่อหนุ่มหล่อสุดเพอร์เฟคของมหาวิทยาลัยสามคนอยู่ในลิฟต์ ควีนยืนนิ่งอยู่กับที่และคิดว่าจะโดยสารไปพร้อมพวกเขาดีไหม หรือควรรอลิฟต์รอบต่อไป
“ไม่ไปเหรอครับ ควีน” เอเดนยิ้มหวานทักทายเธอก่อนเพื่อน และนั่นก็ทำให้ควีนจำใจต้องเดินเข้าไปในลิฟต์ร่วมกับพวกเขา เธอแอบมองหน้าเวกัสชั่วครู่โดยที่เขาไม่ทันสังเกตเห็น
ทำไมถึงมีแต่เธอนะที่รู้สึกประหม่า เวกัสดูนิ่งมากยามเจอหน้าเธอ ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าคนเมื่อคืนนี้ไม่ใช่เขาอย่างแน่นอน
“ชั้นไหนครับ” เอเดนเอ่ยถามอย่างสุภาพ เขายืนอยู่หน้าจอเพื่อรอกดชั้นให้แก่เธอ
“ชั้นสิบเอ็ดค่ะ”
“ไปหาผอ.เหรอ”
“ใช่ เรามีเรื่องต้องเรียนผอ.น่ะ”
“เรื่องอะไร” จู่ ๆ ไทก้าก็โผล่ถามออกไปอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยจนทำให้ควีนตกใจเล็กน้อย เธอชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบไทก้าไป
“เมื่อคืนนี้มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยของพวกเราน่ะ”
เวกัสยืนมองด้านหลังของสาวสวยผมบรอนซ์ทองอย่างใช้ความคิด หรือว่าเธอจะฟ้องผู้อำนวยการเรื่องที่ห้องอาหารกันน่ะ
ใจกล้าขนาดนั้นเชียว
เวกัสแอบยิ้มกริ่ม เขาคิดผิดสินะที่ปิดปากเธอด้วยจูบ นึกว่าเธอจะเข็ดและไม่กล้าเอาไปพูดกับใครแต่ที่ไหนได้ แอบเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
ติ่ง!
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งควีนและสามหนุ่มต่างเดินออกมาพร้อมกัน และนั่นก็ทำให้ควีนถึงกลับขมวดคิ้วเป็นปมอย่างไม่เข้าใจ
“ทางเดียวกันครับ” เอเดนเป็นผู้ตอบคำถามในใจเธอ
“อ๋อ ค่ะ”
แล้วเธอจะทำอะไรได้ล่ะ หรือควรกลับไปก่อนแล้วค่อยมาใหม่ดีนะ
“ไปเถอะครับ”
ยังไม่ทันได้ตัดสินใจ เอเดนก็เดินเข้ามาซ้อนหลังเธอแล้วดันให้ควีนเดินนำหน้าพวกเขาไป
นี่บังคับกันชัด ๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงดีใจจนเนื้อเต้นที่ได้ใกล้ชิดกับเวกัสแบบนี้ แม้รู้ว่าคนเมื่อคืนไม่ใช่เขาก็ตาม ตราบใดที่เธอยังหาคนที่จูบเธอเมื่อคืนไม่ได้เธอก็ยังคงกลับไปชื่นชมเวกัสเหมือนเดิมไม่ได้เช่นกัน