มัดใจนายตัวร้ายตอนที่สี่

1753 คำ
เธอไปแล้ว เวกัสยังนั่งนิ่งอยู่กับที่เมื่อควีนจากไป ความรู้สึกวูบวาบเมื่อกี้ยังติดตรึงใจเขาอยู่เลย นุ่มนิ่มและหวานที่น้ำตาลก็เทียบไม่ได้ หึ~ เวกัสเผลอยกยิ้มที่มุมปากอย่างไม่รู้ตัว “ติดใจละสิ” เอเดนทักท้วงเมื่อเห็นเพื่อนนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “ไม่คิดเลยว่าจะปิดปากสาวน้อยด้วยวิธีนี้” ไทก้านึกทึ่งไม่หาย เขานึกว่าสาวน้อยนั่นจะตะโกนร้องโวยวายกว่าเดิมซะอีก สงสัยต้องเรียนวิชามารจากเวกัสซะแล้ว “เลิกพูดเถอะ เหยื่อไปนู่นแล้ว” แม้ยังเคลิบเคลิ้มอยู่แต่เขาก็ไม่ลืมเรื่องที่จะจัดการในวันนี้ เขาต้องสั่งสอนให้มันรู้จักที่ต่ำที่สูงซะบ้าง จะได้ไม่มาวุ่นวายกับเขาได้อีก เช้าวันต่อมา “ทุกคนๆ มีเรื่องมาเมาส์!” เพื่อนร่วมห้องเรียนของควีนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาให้ห้องเรียนด้วยอาการตื่นเต้น ควีนหันไปมองแวบหนึ่งก่อนจะหัดมาสนใจวาดการ์ตูนในไอแพดของเธอต่อ สักพักเดี๋ยวก็จับกลุ่มเมาส์มอยกันตามเคย ไม่นินทาคนดังก็นินทากันเอง ควีนไม่ค่อยสนใจเรื่องของใครอยู่แล้วเพราะรู้เรื่องของผู้อื่นไปก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตของเธอดีขึ้น สู้เอาเวลาที่จับกลุ่มนินทาคนอื่นนั้นมาหาทำอะไรที่ดีและมีประโยชน์ต่อตัวเองดีกว่า “มีเรื่องอะไรมาเมาส์อีกล่ะยัยเคส” “เมื่อคืนนี้ทีเจโดนลอบทำร้าย” ชื่อของบุคคลที่สามทำให้ควีนชะงัก เธอหวังว่าทีเจที่สาว ๆ กลุ่มนั้นเอ่ยถึงจะไม่ใช่คนเดียวกันกำทีเจที่กำลังตามจีบเธออยู่นะ “ห้ะ! โดนทำร้ายเหรอ ไปขัดขาใครเข้าล่ะ” จู่ ๆ เสียงสนทนานั้นก็เงียบไปดื้อ ๆ ทำให้ควีนต้องหันไปมองที่กลุ่มขาเมาส์มอยด้วยความแปลกใจ “อะไร” ควีนเอ่ยถามทันทีที่สาว ๆ กลุ่มนั้นหันมาจ้องหน้าเธอ สักพักพวกเธอก็ย้ายที่นั่ง กลายเป็นว่าตอนนี้ควีนโดนเพื่อนร่วมห้องจำนวนหนึ่งยืนล้อมโต๊ะเธออยู่ “ควีน ในฐานะที่เราเป็นเพื่อนร่วมห้องที่ไม่สนิท เราขอถามเธอตรง ๆ ก็แล้วกัน” เคสใช้มือทั้งสองข้างค้ำยันบนโต๊ะของควีน เธอเลียนแบบพฤติกรรมจากตัวละครในซีรีส์ที่เกี่ยวกับการสืบสวน เธอเห็นตำรวจชอบทำแบบนี้เวลาต้องการเค้นถามผู้ต้องหา “ถามว่า” “เธอทำร้ายทีเจใช่ไหม” สาว ๆ ทั้งกลุ่มต่างยืนจ้องหน้าควีนอย่างจับผิด “จะบ้าเหรอ เราจะทำร้ายทีเจทำไม” “ก็เมื่อคืนทีเจวิ่งตามหาตัวเธอจนทั่วห้องอาหารเลยนิ” “แล้ว?” “เธอรำคาญเขาใช่ไหม เธอก็เลยจ้างคนมาดักทำร้ายทีเจ” “ไปกันใหญ่แล้ว เราไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นนะ” “ไม่ใช่เธอแน่นะ” “ก็ไม่ใช่นะสิ” “เราว่าไม่ใช่ควีนหรอกเคส” เพื่อนในกลุ่มเคสเอ่ยทักขึ้น ต่อให้ควีนรำคาญทีเจยังไงก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้ถึงขั้นต้องทำร้ายร่างกายกันแบบนี้ “งั้นเป็นใครกันล่ะ มหาลัยเรามีนักเลงงั้นหรอก” เคสยังไม่ละความพยายามที่จะหาตัวคนทำร้ายทีเจ “แต่เมื่อวานนี้ทีเจก็เหมือนจะมีเรื่องกับเวกัสอยู่นะ” เพื่อนคนหนึ่งให้กลุ่มเคสออกความคิดเห็น “ไม่ใช่ๆ ยังไงก็ไม่ใช่เวกัสล้านเปอร์เซ็นต์ เวกัสของเราออกจะแสนดี เขาไม่มีวันทำอะไรแบบนั้นอย่างแน่นอน” เคสหันไปเถียงเพื่อนของตัวเองด้วยความมั่นใจเต็มร้อย คำพูดของเพื่อนเคสทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับควีนเมื่อคืนนี้ผุดขึ้นมาอีกครั้ง “ก็ไม่แน่...” ควีนพึมพำเบา ๆ “ว่าอะไรนะ” “เปล่า ไม่มีอะไร” ควีนรีบส่ายหน้าปฏิเสธ หูดีจังเลยนะ? “ยังซะก็ไม่ใช่เวกัส ทีเจมีนิสัยอันธพาลอาจจะไปมีเรื่องกับคนอื่นก็ได้ ใครจะไปรู้” เคสแสดงความคิดเห็นบ้าง “ใครอันธพาล!” ทีเจตะโกนถามข้ามห้อง เขายืนอยู่หน้าประตูห้องเรียนโดยมีกลุ่มเพื่อนของตัวเองคอยประคับประคองตัวเขาไว้ แขนซ้ายใส่เฝือกและมีผ้าบางๆ คล้องคอเขา ทีเจแขนหัก กลุ่มขาเมาส์หน้าสอดสีไปตาม ๆ กันก่อนจะพากันหันไปมองที่หน้าประตูเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงที่ได้ยินเมื่อกี้เป็นเสียงของทีเจแน่ “ทะ ทีเจ” เคสเอ่ยชื่อเขาตะกุกตะกักไม่พูดเก่งเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว ควีนรีบลุกขึ้นไปหาทีเจทันทีที่เธอหันไปเห็นสภาพของทีเจในตอนนี้ ใครกัน? ทำไมถึงได้ใจร้ายถึงเพียงนี้นะ แม้ว่าทีเจอาจจะดูเป็นอันธพาลแต่เขาก็ไม่เคยทำร้ายใครจนถึงขั้นได้รับบาดเจ็บแบบนี้ “เป็นยังไงบ้าง” เธอมองสำรวจทีเจตั้งแต่หัวไหล่ลงมาถึงแขนที่ใส่เฝือก ทีเจไม่ควรต้องมาเจออะไรแบบนี้ ไม่สิ นักศึกษาของมหาลัยชั้นนำและมีชื่อเสียงควรต้องไม่มีเรื่องทำร้ายนักศึกษา ไม่ว่าจะเป็นทีเจหรือใครก็ตาม ทีเจรู้สึกดีใจที่ได้เห็นสีหน้าเป็นห่วงจากควีน เขารู้สึกว่าการที่โดนแบบนี้ก็ไม่ทำให้เจ็บตัวเปล่าซะทีเดียว “เราเจ็บมากเลยควีน” ทีเจได้โอกาสเขาปล่อยมือจากเพื่อนและแกล้งเจ็บหนักจนเกือบจะล้มแล้วรีบคว้าตัวควีนไว้ ควีนรู้ทันทีเจ จังหวะที่เขายกแขนข้างที่ไม่ได้บาดเจ็บขึ้นคล้องคอเธอนั้น ควีนรีบคว้าเอาไว้ได้ก่อนแล้วพยุงเขาด้วยแขนตัวเองแทน เธอพาทีเจไปยังที่นั่งของเขา แม้กระทั่งเจรู้สึกเคอะเขินนิดหน่อยที่โดนควีนรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของเขาซะได้ “ใครทำแบบนี้กับทีเจ” “เราก็ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อคืนนี้มันมืดมาก จำได้ว่ามันมากันสามคน แถมใส่เสื้อเหมือนกันด้วย” “แล้วทีเจเห็นหน้าพวกนั้นไหม” “ไม่เห็น” แบบนี้ก็แย่ละสิ จะไปถามตัวคนร้ายได้ยังไง ในเมื่อไม่เห็นหน้า “พวกนั้นใส่เสื้อฮูดสีดำที่มีหมวกคลุมหัว เราเลยไม่เห็นหน้าพวกนั้น” กึก! จะใช่พวกเดียวกันกับที่เธอเจออยู่ห้องอาหารเมื่อคืนหรือเปล่านะ “นายลองนึกดูดีๆ สิ นายไปมีเรื่องกับใครไว้บ้าง” เคสเดินมาร่วมสนทนาด้วยหลังจากที่ยืนหน้าเจื่อนอยู่นาน “ไม่รู้สิ” เขานึกไม่ออกจริง ๆ ว่าเผลอไปเหยียบหางใครเข้า เพราะก่อนหน้านี้เขาก็แกล้งเอาไว้หลายคนอยู่เหมือนกัน ทั้งไถเงินบ้าง แย่งอาหารจากถาดอาหารคนอื่นบ้าง หรือแม้กระทั่งข่มเหงรังแกรุ่นน้องที่เข้ามาพักในหอ เวลาเดินผ่านแล้วโดนมองหน้าเขาก็เดินไปตบกะโหลกบ้าง จะเป็นพวกไหนกันนะ? ดูเหมือนว่าถามอะไรไปก็เปล่าประโยชน์ เธอต้องทำอะไรสักอย่างแล้วเพื่อไม่ให้มหาวิทยาลัยของแด๊ดดี้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา หากเกิดเรื่องแบบนี้กับนักศึกษาคนอื่นอีก เธอเกรงว่าผู้ปกครองของเหล่านักศึกษาอาจไม่ไว้ใจให้ลูก ๆ หลาน ๆ ศึกษาอยู่ที่นี่ต่อแน่ “ควีนจะไป” จู่ ๆ ควีนก็เดินออกจากห้องเรียนไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ สร้างความมึนงงให้แก่เพื่อนร่วมห้องและทีเจเป็นอย่างมาก สักพักอาจารย์ก็เดินเข้ามาสอน เหล่านักศึกษาคนอื่น ๆ จึงหันมาสนใจการเรียนแทน ควีนเดินเร็วไปยังตึกทำงานของผู้อำนวยการมหาวิทยาลัย หากรอให้แด๊ดดี้กับมัมมี๊กลับมา เธอเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีกับนักศึกษาคนอื่นอีก เพราะฉะนั้นเธอต้องรีบจัดการปัญหานี้ให้เร็วที่สุด ติ่ง! เท้าที่กำลังจะก้าวเข้าไปในลิฟต์เป็นอันต้องชะงัก เมื่อหนุ่มหล่อสุดเพอร์เฟคของมหาวิทยาลัยสามคนอยู่ในลิฟต์ ควีนยืนนิ่งอยู่กับที่และคิดว่าจะโดยสารไปพร้อมพวกเขาดีไหม หรือควรรอลิฟต์รอบต่อไป “ไม่ไปเหรอครับ ควีน” เอเดนยิ้มหวานทักทายเธอก่อนเพื่อน และนั่นก็ทำให้ควีนจำใจต้องเดินเข้าไปในลิฟต์ร่วมกับพวกเขา เธอแอบมองหน้าเวกัสชั่วครู่โดยที่เขาไม่ทันสังเกตเห็น ทำไมถึงมีแต่เธอนะที่รู้สึกประหม่า เวกัสดูนิ่งมากยามเจอหน้าเธอ ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าคนเมื่อคืนนี้ไม่ใช่เขาอย่างแน่นอน “ชั้นไหนครับ” เอเดนเอ่ยถามอย่างสุภาพ เขายืนอยู่หน้าจอเพื่อรอกดชั้นให้แก่เธอ “ชั้นสิบเอ็ดค่ะ” “ไปหาผอ.เหรอ” “ใช่ เรามีเรื่องต้องเรียนผอ.น่ะ” “เรื่องอะไร” จู่ ๆ ไทก้าก็โผล่ถามออกไปอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยจนทำให้ควีนตกใจเล็กน้อย เธอชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบไทก้าไป “เมื่อคืนนี้มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยของพวกเราน่ะ” เวกัสยืนมองด้านหลังของสาวสวยผมบรอนซ์ทองอย่างใช้ความคิด หรือว่าเธอจะฟ้องผู้อำนวยการเรื่องที่ห้องอาหารกันน่ะ ใจกล้าขนาดนั้นเชียว เวกัสแอบยิ้มกริ่ม เขาคิดผิดสินะที่ปิดปากเธอด้วยจูบ นึกว่าเธอจะเข็ดและไม่กล้าเอาไปพูดกับใครแต่ที่ไหนได้ แอบเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ติ่ง! เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งควีนและสามหนุ่มต่างเดินออกมาพร้อมกัน และนั่นก็ทำให้ควีนถึงกลับขมวดคิ้วเป็นปมอย่างไม่เข้าใจ “ทางเดียวกันครับ” เอเดนเป็นผู้ตอบคำถามในใจเธอ “อ๋อ ค่ะ” แล้วเธอจะทำอะไรได้ล่ะ หรือควรกลับไปก่อนแล้วค่อยมาใหม่ดีนะ “ไปเถอะครับ” ยังไม่ทันได้ตัดสินใจ เอเดนก็เดินเข้ามาซ้อนหลังเธอแล้วดันให้ควีนเดินนำหน้าพวกเขาไป นี่บังคับกันชัด ๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงดีใจจนเนื้อเต้นที่ได้ใกล้ชิดกับเวกัสแบบนี้ แม้รู้ว่าคนเมื่อคืนไม่ใช่เขาก็ตาม ตราบใดที่เธอยังหาคนที่จูบเธอเมื่อคืนไม่ได้เธอก็ยังคงกลับไปชื่นชมเวกัสเหมือนเดิมไม่ได้เช่นกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม