มัดนายตัวร้ายตอนที่สาม

1531 คำ
ห้องอาหาร ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกเสียงสนทนาของเหล่าหนุ่มสาวนักศึกษาดังไปทั่วชั้นใต้ดิน พรินเซสกับเพื่อนของเธอเดินไปสมทบกับเพื่อนอีกกลุ่มของเธอแล้ว ส่วนควีนก็เดินตรงไปที่บาร์อาหารที่มีหลากหลายเมนูและหลายสัญชาติ ควีนเดินไปตักผักสลัดและผลไม้ที่เธอชอบ มื้อเย็นแบบนี้ทานหนัก ๆ จะปวดท้องเอา เธอชอบทานสลัดเป็นมื้อเย็นที่สุด “น้ำส้มครับควีน” ทีเจวางน้ำส้มหนึ่งขวดบนถาดอาหารของควีน “ขอบใจ” จะให้ปฏิเสธยังไงในเมื่อนี่เป็นน้ำผลไม้ที่เธอชอบที่สุด ถือว่าทีเจทำการบ้านมาดีเลยแหละ ที่รู้ว่าเธอชอบอะไรและไม่ชอบอะไร “ควีนเอาสตรอว์เบอร์รีไหม” เพื่อนทีเจเอ่ยถามพร้อมกับทำท่าตักมาให้ควีนด้วย “เอาไว้ที่เดิมเลย ควีนไม่กินสตรอว์เบอร์รี” ทีเจดุเพื่อน “อ้าวเหรอ โทษทีนะ” “ไม่เป็นไรจ้ะ” สาเหตุที่เธอไม่ทานสตรอว์เบอร์รีนั่นก็เพราะว่าเธอแพ้น่ะสิ แน่นอนว่าทีเจไม่รู้เรื่องนี้หรอก เขารู้แค่ว่าเธอไม่ทาน “ไม่ไปช่วยสาวน้อยนั่นหน่อยเหรอ” เอเดนเอ่ยถามเวกัสแต่สายตาจับจ้องที่ควีน วันนี้พวกเขาทั้งสามสวมใส่เสื้อฮูดสีดำพร้อมหมวกคลุมหัวเหมือนกัน ต่างกันก็แค่สีกางเกงยีน เวกัสใส่สีดำ เอเดนใส่สีน้ำตาล ส่วนไทก้าใส่สีเทา “กูพรางตัวอยู่” เวกัสนั่งกอดอกอยู่ในมุมมืดของห้องอาหารซึ่งเป็นชุดโซฟาครึ่งวงกลม ที่นั่งตรงนี้ได้จัดทำไว้ที่หลังเสาต้นใหญ่โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่ามีที่นั่งแบบนี้อยู่ในห้องอาหาร “หึ ถอดคราบเทพบุตรได้แล้วสินะ” ไทก้ายิ้มเยาะชอบใจ เพราะเขาชอบเพื่อนในร่างนี้มากกว่า “จะเล่นใครละวันนี้พ่อเทพบุตร” เอเดนละสายตาจากควีนแล้วหันมาพูดกับเวกัสอย่างตื่นเต้น “แขนซ้ายสินะ ที่ผลักกู” น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาชั่งขัดกับหน้าตาอันหล่อเหล่าของเขาเหลือเกิน สามหนุ่มต่างยิ้มให้กันอย่างมีเลศนัย ในสายตาคนทั้งมหาวิทยาลัยพวกเขาคือเทพบุตรผู้เรียบร้อยและแสนดี แต่มีไม่กี่คนหรอกที่รู้ว่าแท้จริงแล้วพวกเขานั้นมันปีศาจชัด ๆ ควีนมองหาที่นั่งอย่างยากลำบากเพราะทีเจเอาแต่เดินตามเธอติด ๆ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนหรืออยู่ตรงไหนต้องมีทีเจตัวติดตลอด “เออ ทีเจ” “ว่าไงครับ” “เราอยากได้น้ำส้มอีกน่ะ ทีเจช่วยไปหยิบมาให้อีกได้ไหม” “ได้สิครับ ไม่มีปัญหา” ทีเจกับเพื่อนรีบเดินไปที่บาร์น้ำผลไม้ทันที เมื่อสบโอกาสที่จะหลบหนี ควีนจึงถือถาดอาหารวิ่งไปยังโซฟาชุดหนึ่งที่อยู่มุมมืดสุดของห้องอาหาร ไม่มีใครรู้จักมุมนี้นอกจากเธอ ควีนมักจะแอบมานั่งที่ประจำตรงนี้เวลาที่เธอต้องหลบหน้าผู้คน กึก! เมื่อเธอเดินลงบันไดมาถึงที่นั่งประจำกลับไม่ว่างซะแล้ว ผู้ชายสามคนใส่เสื้อฮูดสีดำพร้อมกับคลุมหัวกันทุกคน ไม่ใช่แค่ควีนที่ตกใจ สามหนุ่มเองก็ตกใจเช่นกันที่ควีนรู้ที่นั่งของพวกเขา “เออ...” “ควีน!” ตุบ! ร่างเล็กถูกมือปริศนากระชากตัว “ไปไหนแล้วนะ” ทีเจวิ่งตามหาควีนมาถึงบริเวณโซฟามุมมืดแต่เขากลับไม่เห็นใครเพราะเขาไม่รู้ว่าด้านหลังเสาต้นใหญ่นั้นมีที่นั่งพรางตาผู้คนอยู่ ชู่~ ควีนนั่งตัวแข็งทื่ออยู่บนตักของผู้ชายที่ใส่เสื้อฮูดสีดำกับกางเกงยีนสีเดียวกับเสื้อ แขนข้างหนึ่งกอดรัดเอวเล็กไว้แน่น ส่วนมืออีกข้างชูนิ้วชี้แตะที่ริมฝีปากของเธอเพื่อให้เธอเงียบเสียงตอนที่ทีเจเดินผ่านมา ถาดอาหารของเธอถูกผู้ชายที่ใส่เสื้อฮูดสีดำกางเกงสีน้ำตาลถือเอาไว้ ส่วนผู้ชายที่ใส่เสื้อฮูดสีดำกางเกงสีเทาถือขวดน้ำส้มของเธอ พวกเขาเป็นใครกัน? ขโมยเหรอ ในมหาวิทยาลัยของแด๊ดดี้มีขโมย! เมื่อคิดได้ดังนั้นควีนก็เริ่มดิ้นแล้วพุ่งตัวไปทางที่ทีเจเดินผ่านไปเมื่อกี้ “หยุด!” กึก! เสียงนี้มัน “เวกัส...” แม้ไม่เห็นหน้าแต่เธอก็มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเป็นเขาแน่นอน ไม่ผิดตัวแน่ “เอาไงต่อ” ผู้ชายที่ใส่กางเกงสีเทาเอ่ยถามผู้ชายที่เธอนั่งตักเขาอยู่ด้วยน้ำเสียงร้อนรนเหมือนคนทำความผิดแล้วโดนจับได้ “ฉันไม่ใช่ เวกัส...” “ใช่สิ ควีนจำเสียง เว...อุ๊บ” คำพูดของเธอถูกกลืนหายทันทีที่ริมฝีปากหนาประกบจูบ ตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกใจ มือเล็กเลื่อนมือขึ้นผลักอกแกร่งตามสัญชาตญาณ แต่โดนมือหนารวบไว้เพียงมือข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างจับล็อกท้ายทอยของเธอไว้เพื่อกันไม่หันเธอหลบการจู่โจมจากเขา ความหวานจากการสัมผัสที่อ่อนนุ่มทำให้เขาเคลิบเคลิ้มจนลืมตัวไปชั่วขณะ จากทีแรกที่คิดแค่ต้องการปิดปากเล็กให้เงียบแต่กลับเป็นเขาที่เผลอไผลแล้วสัมผัสเธอหนักหน่วงกว่าเดิม “อืออ” ควีนร้องประท้วงเสียงอู้อี้อยู่ในลำคอเพราะเริ่มหายใจไม่ออก โดนริมฝีปากร้ายบดจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถูกเขาสูบเอาลมหายใจไปจนแทบหมดแรง “อื้อ...” เขายอมถอดริมฝีปากออก แต่สายตากลับจ้องมองเธออย่างเร่าร้อน แสงไฟที่ลอดสอดส่องเข้ามาทำให้เธอเห็นดวงตาสีครามได้อย่างชัดเจน เป็นเขา... “ฉันไม่ใช่เวกัส” เขาพูดเสียงเข้ม “ทำไมจะไม่ใช่ล่ะ” เธอยังเถียงเขาอย่างไม่ยอมแพ้ “งั้นเหรอ แล้วถ้าฉันทำแบบนี้ ยังจะคิดว่าฉันเป็นเวกัสอยู่ไหม” จู่ ๆ เขาก็ซบหน้าเข้าที่ซอกคอโดยที่เธอไม่ทันระวังตัว เธอสัมผัสถึงความร้อนและความชื้นจากริมฝีปากหนา สักพักเธอก็รู้สึกเจ็บจี๊ดคลายมดกัดที่ต้นคอ ควีนนิ้วหนาด้วยความเจ็บจนน้ำตาแทบร่วง เขากัดต้นคอของเธอด้านซ้ายสองครั้ง ด้านขวาหนึ่งครั้ง และฝั่งหน้าอยู่อย่างนั้นจนเธอทนไม่ไหวต้องรวบแรงทั้งหมดที่มีผลักเขาออก “พอแล้ว!” เธอผลักเขาออกได้สำเร็จ “นี่ไม่ใช่เวกัส ไม่ใช่...” ควีนพึมพำอย่างตื่นตระหนก เธอพยายามจ้องตาของเขาเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นสีครามแน่ ไม่ใช่แค่ตาฝาด แต่ครั้งนี้เขากลับซ่อนมันได้มิดชิดทำให้เธอมองไม่เห็น “ไปซะ” ทันทีที่เขาปล่อยตัวเธอ ควีนรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปจากห้องอาหารอย่างรวดเร็ว เมื่อกลับเข้ามาในห้องของตัวเองควีนก็ทิ้งตัวลงบนเตียงกว้างอย่างหมดแรง สิ่งที่เจอเมื่อกี้มันทำเธอตื่นตระหนกไม่หาย แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือเขา เธอมั่นใจว่าเป็นเขา แม้ว่ากิริยาท่าทางจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงก็ตาม เวกัสผู้แสนดีไม่มีทางป่าเถื่อนแบบนั้นกับผู้หญิงอย่างแน่นอน แต่ว่า...คนที่เธอเจอนั่นก็เวกัสเหมือนกันนี่ สรุปอันไหนคือตัวจริงอันไหนคือตัวปลอมกันแน่ เธอต้องรู้ให้ได้ Rrrrrrrrrrrrrrr เสียงโทรศัพท์ของควีนดังขึ้น เธอละความคิดไว้แค่นั้นแล้วหันไปกดรับสายจากพ่อกับแม่ซึ่งท่านวิดีโอคอลมาหาลูกสาวคนสวย ‘Hi ไงจ๊ะ ลูกสาวคนสวยของมัมมี๊’ “คิดถึงจังเลยค่ะ เมื่อไหร่จะกลับมาค่ะ ควีนคิดถึง” ควีนพูดเสียงออดอ้อนพ่อกับแม่ของตัวเอง ‘อีกสามเดือนก็กลับแล้วลูก อยากได้อะไรหรือเปล่า เดี๋ยวแด๊ดซื้อไปฝาก’ “ไม่ค่ะ ควีนอยากให้แด๊ดกับมี๊กลับมาเร็ว ๆ มากกว่า กลับมาเร็ว ๆ นะค่ะ” ‘จ้า ๆ เดี๋ยวนะ นั่นคอลูกไปโดนอะไรมาค่ะ’ ควีนรีบวิ่งไปส่องกระจกทันทีที่โดนทัก สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าทำเธอแทบช็อกเมื่อต้นคอทั้งสองข้างมีรอยแดงเป็นจ้ำ ๆ อย่างน่ากลัว ‘นี่ลูกแอบกินสตรอว์เบอร์รีอีกแล้วใช่ไหม มี๊บอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามกินเด็ดขาด อันตรายมากเลยนะ’ “ใช่แล้วค่ะ เดี๋ยวหนูจะกินยาแก้แพ้เดี๋ยวนี้นะคะ บาย...” ควีนรีบกดวางสายพ่อกับแม่ทันที เธอเดินกลับไปส่องกระจกอีกครั้ง แล้วความรู้สึกสับสนก็ตีรวนกันไปมาจนสมองของเธอมึนงง ถ้าหากคนที่จูบเธอและคนที่สร้างรอยพวกนี้คือเวกัส เธอจะดีใจอย่างไม่มีข้อแม้ แต่ว่าท่าทางในวันนี้กลับไม่ใช่เวกัสที่เธอคุ้นเคย แม้เธอจะมั่นใจว่าเป็นเขาจริง ๆ ก็เถอะ เธอจะเอาอะไรมายืนยันกับตัวเองล่ะ ถ้าไปถามเขาโดยตรงเขาจะตอบเธออย่างตรงไปตรงมาหรือเปล่านะ โอ๊ย... นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม