ชีวิตชะนีน้อยช่างอาภัพนัก เดินเข้าร้านอาหารบนดาดฟ้าโรงแรมหรูด้วยชุดบาสเกตบอลสกรีนโลโก้ Dr. Bank ไว้ด้านหลังเด่นหรา กางเกงกีฬาขาบานสีเดียวกันกับเสื้อนั้นก็หลวมจนกลัวว่ามันจะหลุดกลางร้านให้อุจาดตาขายหน้าประชาชี
“เธอรู้สึกมั้ยว่าคนมองเราสองคนแปลกๆ” ดวงตากลมโตตวัดมองมาตาเขียวปั๊ด เจ้าของคำถามยิ้มแก้มแทบปริ ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้า สามีวัยสามสิบหกได้โทรหาภรรยาของเพื่อนสนิทแล้วไหว้วานให้ไปซื้อชุดชั้นในพร้อมเกาะอกกันโป๊มาให้ที่ม่านรูด
“ทำไมพี่ไม่ฝากพี่บิ๋มเมียหมอก้านให้ซื้อเสื้อมาให้หนู พี่จับหนูใส่ชุดอะไรก็ไม่รู้”
มองจากดาวอังคารยังรู้เลยว่าชุดที่ใส่ไม่ใช่ของเธอ ทั้งไซซ์เสื้อเอย ชื่อที่สกรีนอยู่ด้านหลังเอย มันบ่งบอกชัดเจนว่าชุดบาสเกตบอลสีดำแถบแดงชุดนี้เป็นของผู้ชาย
“จะรบกวนเขาทำไม เสื้อผัวเธอก็ใส่ได้ไม่ใส่เหรอ” เขาตั้งใจไม่ได้ลืม ด้วยว่าหมั่นไส้ที่เห็นไลน์เฉินหมิงเด้งขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์ของภรรยาสาว ไม่ใช่ข้อความแชต ทว่ามันเป็นแจ้งเตือนการเพิ่มเพื่อนจากไอดีไลน์
“พี่ใส่ชุดนอนเป็ดสีเหลืองของหนูมาเดินโชว์ให้ชาวโลกดูแบบนี้บ้างมั้ยล่ะ” รัชชานนท์ชำเลืองมองเธอ นั่น! มีแอบยิ้มซะด้วย ร้ายนักนะ
“ฉันไม่ยักจะเห็นเธอใส่ชุดนอนสักคืน”
แหม! เล่นจับเธอฟาดตั้งแต่อาบน้ำเสร็จ อย่าว่าแต่ใส่ชุดนอนเลย เวลาจะทาครีมบำรุงผิวยังไม่มี ตอนนี้พรพระพายเหี่ยวตั้งแต่หน้ายันนมแล้วจ้า
หญิงสาวส่งสายตาจิกกัดพร้อมเบะปากให้ตาแก่ที่กำลังยิ้มแฉ่งอย่างคนสมใจ “นี่ตาหมอยาจก พรุ่งนี้พาเมียไปชอปปิงซื้อเสื้อผ้าชดใช้ความผิดด้วยนะ”
“ฉันทำผิดอะไร ฉันเป็นหมอนักบุญ”
จ้ะ! พ่อหมอนักบุญ
คิ้วหนาที่พาดผ่านดวงตาคมดำขลับวาววับขยับขึ้นลง บอกเลยว่าถ้าไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับรัชชานนท์ เธอคงมองเขาราวกับเทพบุตรสุดหล่อ สุขุมลุ่มลึก วันๆ สนใจแต่ตำราวิชาการ อ่านงานวิจัยเพื่อนำมาใช้รักษาคนไข้หรือพัฒนาฝีมือการทำงานด้านศัลยกรรมเสริมความงาม กิจกรรมยามว่างคือเล่นหุ้นอย่างคนรู้จักใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ แต่! ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวคือสิ่งที่เคยคิดมันตรงกันข้ามเกือบทั้งหมด อีตาหมอแก่ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ขี้เกียจหน่อยไม่เข้าคลินิก เปิดปิดตามอารมณ์ติสท์ๆ ของตัวเอง เวลาว่างไม่อ่านตำราอะไรทั้งนั้น ส่วนมากถ้าไม่ดูซีรีส์จีนกำลังภายในก็ทำกิจกรรมบนเตียงร่วมกับเธอ เบื่อหน่อยก็นู้นสนามบาส กลับจากเล่นกีฬามาก็นอนตีพุงเล่นเกมออนไลน์กับเพื่อนฝูง บางวันนายแพทย์หนุ่มนึกครึ้มหน่อยก็ลุกขึ้นแก้ผ้ายกดัมเบลโคตรหนักเพื่อกล้ามอันเป็นที่รักของสาวน้อยสาวใหญ่
ไหนละสิ่งที่เคยคิด! ไม่มี ไม่มีเลยเจ้าค่ะ
“ใจบุญกับทุกคนยกเว้นเมียตัวเอง” รัชชานนท์เหลือบมองเธอพลางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“ขี้บ่นจริง ใครบอกให้เธอชอบทำตัวเป็นเด็กดื้อ” พรพระพายยิ้มกรุ้มกริ่มตาเป็นประกาย เจ้าหล่อนคล้องแขนเขาแถมยังเอาหน้าอกคัพซีมาดันกล้ามจนช่วงล่างตื่นตัวอีกครั้ง ไม่รู้ว่าหญิงสาวตั้งใจหรือเผลอไผลไม่รู้ตัว แต่ที่ชัวร์คือผัวอยากกลับบ้านแล้วจัดการกับคนข้างๆ ให้เด็ดขาด
ตุ๊ยท้องแล้วลากขึ้นรับโทษบนเตียงอย่างสาสม!
ล้อเล่นครับ
“หูยยย.. หนูเป็นเด็กดื้อของพี่หมอเหรอคะ”
คนหน้าหวานทำตาปริบๆ รัชชานนท์เบือนหน้าหนีแล้วแอบอมยิ้มก่อนจะหันมาตีหน้าขรึมใส่ภรรยาสาว “ตอนเกิดแม่เธอเอาอะไรให้กิน โตมาถึงได้พูดมากน่ารำคาญ”
“ใครจะไปเหมือนพี่แบงค์ จะพูดแต่ละทีต้องเอาคีมปากเป็ดถ่างปาก” พูดจบก็รีบชิ่งหนีเดินนำหน้ารัชชานนท์ตรงไปยังโต๊ะที่มีขวัญเกล้านั่งรออยู่ก่อนแล้ว ขืนช้าอีกนิดมีหวังโดนเขากะซวกไส้เป็นแน่
“ยัยเด็กบ้า! ปากคนนะไม่ใช่ช่องคลอดถึงต้องใช้คีมปากเป็ดถ่างน่ะ”
ขวัญเกล้าไม่รู้ว่าควรทำหน้าเช่นไรดี นางได้แต่ส่งยิ้มแห้งให้ลูกสะใภ้ ชุดบาสเกตบอลที่อยู่บนตัวพรพระพายใช่ว่าจะแปลกตาเสียเมื่อไหร่ แต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไมหญิงสาวถึงใส่ชุดรัชชานนท์
“สวัสดีค่ะคุณแม่” สายตาที่มองมามันช่างไม่ปิดบังสิ่งที่แม่สามีกำลังคิดเอาเสียเลย คิดแล้วก็เจ็บใจ อีตาหมอนะอีตาหมอ กลับถึงบ้านเมื่อไหร่ต้องมีเคลียร์!
“นั่งก่อนหนูกวาง”
รัชชานนท์ที่เดินตามมาติดๆ หย่อนสะโพกลงนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามขวัญเกล้า ใบหน้าอิดโรยของชายหนุ่มหญิงสาวทำให้ผู้เป็นแม่นึกเป็นห่วง
“ช่วงนี้ทำงานหนักกันเหรอ”
คู่แต่งงานข้าวใหม่ปลามันหันมองหน้ากันอย่างเร็วรี่ เพียงแค่พี่สบตาน้องและน้องมองประสานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เราทั้งคู่ต่างรู้อยู่เต็มอกว่าสารรูปที่สภาพดูไม่ค่อยได้ในตอนนี้มีสาเหตุมาจากอะไร
แน่นอน! ไม่ใช่เพราะเรื่องงาน
“แม่มาถึงนานยัง” เขาเปลี่ยนเรื่องคุยเพราะไม่อยากโกหก
“ไม่นาน ประมาณครึ่งชั่วโมง แต่แม่พึ่งมาร้านอาหารเหมือนกัน เมื่อกี้แวะตรวจงานนิดหน่อย” รัชชานนท์พยักหน้าก่อนจะหันไปกวักมือเรียกพนักงานที่ยืนอยู่ไม่ไกล “ที่โรงแรมเรามีร้านสปานวดหน้าทำผม ขัดสีฉวีวรรณแล้วก็ทำอีกหลายอย่าง หนูกวางว่างๆ ก็แวะมาใช้บริการได้นะลูก”
‘โรงแรมเรา’ พรพระพายมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้หูฝาดอย่างแน่นอน ที่ปรึกษาด้านกฎหมายสาวมองไปรอบๆ อย่างพินิจพิจารณา เธอเป็นชะนีตกเศรษฐศาสตร์และไม่ค่อยติดตามข่าวสารดาราเซเลบสักเท่าไร แต่มีตาสามารถมองเห็นและตีราคาคร่าวๆ ได้ เดอะกลาเซียร์ไม่ใช่โรงแรมจิ้งหรีดหมูหมาไก่กาอาราเล่ โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมระดับห้าดาวซึ่งหรูหราตั้งแต่ประตูทางเข้ายันที่กดชักโครก
ไหนรัชชานนท์บอกว่าเป็นหมอยาจกไง หมกเม็ดนี่หว่า
“ขอบคุณค่ะคุณแม่”
“หนูกวางทำงานเป็นยังไงบ้าง ไม่สนใจสอบเป็นอัยการผู้พิพากษาเหรอลูก”
พรพระพายชำเลืองมองสามีของตนก่อนจะเอ่ยตอบขวัญเกล้า “หนูไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอกค่ะคุณแม่”
เด็กสาวช่างถ่อมตัวนัก อัยการวิชิตเล่าให้นางฟังว่าพรพระพายจบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้วยเกียรตินิยมเหรียญทอง อีกทั้งยังมีความสามารถด้านภาษา ถูกจองตัวจากบริษัทกฎหมายอันดับหนึ่งของประเทศที่นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ใฝ่ฝันอยากเข้าทำงานตั้งแต่ยังไม่จบปีสี่
“พูดไป ถ้าลูกสะใภ้แม่ไม่เก่งก็คงไม่มีใครในโลกที่เก่งแล้วล่ะจ้ะ”
รัชชานนท์รู้สึกว่าแม่ของเขาพูดจาได้เว่อร์วังมาก ถ้าอย่างยัยเด็กนมโตที่กำลังทำหน้าแป้นแล้นนี่เก่งนะ ลิงคงออกลูกเป็นหมา อย่าว่าแต่สอบอัยการผู้พิพากษาเลย แค่ผ่านการทดลองงานสี่เดือนให้มันได้ก่อนเถอะ
“กินปลาหน่อยมั้ย จะได้ฉลาดขึ้นบ้าง”
ขวัญเกล้าตาเหลือกจนลูกตาแทบทะลุออกนอกเบ้าเมื่อได้ยินวาจาร้ายกาจของลูกชายตน ปกติรัชชานนท์สุภาพบุรุษอย่างกับเจ้าชาย แล้วทำไมถึงพูดเช่นนั้นกับภรรยาหน้าตาจิ้มลิ้มล่ะ
“หมอแบงค์ทำไมพูดกับน้องอย่างนั้นลูก ไม่น่ารักเลยนะ” นางอดตำหนิลูกชายคนโตไม่ได้ ดูสิ! พรพระพายบอบบางน่าทะนุถนอมอย่างกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ
โธ่.. ลับหลังนางไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนจะโดนรัชชานนท์กดขี่ข่มเหงรังแกขนาดไหน น่าสงสารเหลือเกินลูก
มารยาพันเล่มเกวียนไม่มีหญิงใดในโลกเทียบเทียม! เห็นใบหน้าเศร้าเคล้าน้ำตาแล้วอยากจับมาฟาดก้นนัก คนอื่นอาจจะคิดว่าพรพระพายแสนดี แต่ผู้ชายคนนี้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีรู้ดีว่าเจ้าหล่อนร้ายกาจขนาดไหน
“อย่าไปว่าพี่แบงค์เขาเลยค่ะคุณแม่”
เรียบร้อยเหมือนผ้าใช้เท้าเตะเข้าตู้ รัชชานนท์แอบเบะปากเมื่อได้ยินพรพระพายออกโรงปกป้องตนเอง ทั้งที่หญิงสาวกำลังใช้เท้าสะกิดหน้าแข้งเขายิกๆ และทำปากขมุบขมิบเยาะเย้ย
“ยังไงน้องเขาก็เป็นเมีย เราน่ะเป็นสามีต้องให้เกียรติหนูกวางเขารู้มั้ย”
รัชชานนท์พยักหน้ารับคำอย่างไม่โต้เถียง มือหนาเอื้อมไปวางบนหน้าขาของภรรยาสาวแล้วแอบหยิกเบาๆ อย่างหาทางเอาคืน
โมโหแต่ทำอะไรไม่ได้! บางทีก็แอบคิดว่าชาติก่อนตัวเองไปทำบาปกรรมอะไรไว้นักหนา ชาตินี้ถึงได้มีภรรยาหน้ามัธยมนมมหาวิทยาลัยที่แสบสันอย่างหาอะไรเปรียบไม่ได้
ครอบครัวเล็กๆ นั่งรับประทานอาหารค่ำและร่วมพูดคุยไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบทั้งเรื่องชีวิตทั่วไปและเรื่องหน้าที่การงาน รัชชานนท์เป็นผู้ฟังที่ดี เขาไม่ค่อยร่วมวงสนทนากับพรพระพายและขวัญเกล้า หูทั้งสองข้างทำหน้าเก็บเกี่ยวเรื่องราวที่ทั้งคู่พูดคุยกันเสียมากกว่า
“ขวัญ”
สองสาวต่างวัยหันไปตามเสียงเรียกเมื่อครู่ ส่วนอีกคนหาได้สนใจไม่ รัชชานนท์ยัดอาหารเข้าปากราวกับคนตายอดตายอยากมานานแรมปี ก็แน่ล่ะสิ! เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าเขาสูญเสียพลังงานและได้ทำการฆ่าลูกของตัวเองไปหลายล้านคน
“คุณหญิงเพชรเพื่อนรัก มาได้ยังไงจ๊ะ แล้วนั่นควงหนุ่มหล่อที่ไหนมาด้วย” เพชรศรีซึ่งเป็นเพื่อนในแวดวงสังคมเซเลบหันไปมองชายหนุ่มรุ่นอายุไม่เกินสามสิบที่ยืนข้างกัน ใบหน้าตึงด้วยโบท็อกยิ้มแก้มแทบปริ “ลูกชายฉันเองจ๊ะ ชื่อทองเอก” คนเป็นแม่หน้าบานปานกระด้งเมื่อได้แนะนำลูกชายให้ชาวโลกรู้จัก “พึ่งเรียนจบบริหารจากเมืองนอก ต่อโทอังกฤษแล้วไปพิชิตปริญญาเอกที่สวิตเซอร์แลนด์ กะว่ากลับมาแล้วจะให้ฝึกงานที่โรงแรมไปพลางๆ ก่อน แต่ลูกชายคนนี้เขาสมใจพ่อแม่นะเธอเอ๊ย เก่งไปหมดซะทุกอย่าง เรื่องเรียนก็เลิศ การศึกษาดี พ่อรวย แล้วเรื่องหน้าตาไม่ต้องพูดถึง ลูกฉันน่ะไปไหนสาวก็มองตาม”
รู้สึกอาหารฝืดคอ กลืนลำบากจนต้องหยุดรับประทาน รัชชานนท์เช็ดมุมปากทั้งสองข้างแล้วเงยหน้ามองป้าซึ่งเป็นเจ้าของประโยคเมื่อครู่ ทว่าก่อนที่จะสำรวจผู้เป็นแม่กลับเห็นสายตาเจ้าชู้ที่กำลังมองพรพระพายเสียก่อน
“อะแฮ่ม!” นายทองเอกหันมองเขาแวบเดียวอย่างไม่ใคร่จะสนใจเลยแม้แต่นิด
“แล้วนี่ลูกสาวลูกชายเหรอจ๊ะ”
“นี่หมอแบงค์ลูกชายจ้ะ ส่วนคนนี้หนูกวางเป็นลูกสะใภ้ฉันเอง”
ขำกลิ้งยิ่งกว่ารายการลิงกับหมา รัชชานนท์อยากจะกระโดดลงจากเก้าอี้แล้วไปชักดิ้นชักงออยู่บนพื้นเสียเหลือเกิน นายทองเอกหน้าเจื่อนทันทีที่ได้ยินขวัญเกล้าแนะนำสถานะหญิงสาวหน้าหวานให้รู้
แหม! พ่อสาวมองตาม พ่อคนเพียบพร้อม สมน้ำหน้า! มั่นหน้ามั่นโหนกว่าตัวเองหล่อนักก็ไปหาเอาซิ จะมาทำตาหวานหว่านเสน่ห์ใส่เมียคนอื่นทำไม
“ลูกชายทำงานที่ไหนเหรอ ช่วยแม่ทำธุรกิจร้านทองหรือเปล่าจ๊ะ”
ดวงตาของหญิงวัยกลางคนมีแววเหยียดอยู่ในที แต่รัชชานนท์หาได้สนใจไม่ บนโลกใบนี้มีคนชอบทำตัวเป็นป้าข้างบ้านอยู่ตั้งมากมาย ขืนเอามาใส่ใจคงได้ประสาทรับประทานกันพอดี
“หมอแบงค์ช่วยแม่ดูแลโรงแรมทั้งสี่สิบเอ็ดสาขาทั่วโลกน่ะ ร้านทองเป็นธุรกิจเอาไว้ทำมาหาเงินซื้อขนมกินเล่น ขืนให้มาช่วยหมอคงไม่ไหว ไหนจะคลินิกของตัวเองตั้งหลายสาขาทั่วประเทศแล้วยังต้องช่วยบริหารโรงพยาบาลที่เป็นหุ้นส่วนอีก”
แม้อยากขำให้ร่างขดงอเป็นกุ้งโดนน้ำร้อนลวก แต่พรพระพายก็ต้องเก็บอาการเอาไว้แล้วส่งยิ้มหวานพิมพ์ใจให้สองแม่ลูกขี้อวดที่ตอนนี้หน้าหดเหลือสองนิ้ว แม่ของรัชชานนท์สุดยอดจริงๆ
“เป็นหมอเหรอ”
น้ำเสียงหวานขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
พรพระพายแอบชำเลืองมองแม่สามีที่ตอนนี้นั่งหน้าตั้งหลังตรงพร้อมส่งรอยยิ้มหวานทว่านัยน์ตาเชือดเฉือนให้คุณหญิงเพชรศรี สังคมไฮโซเขาต้องคุยข่มกันขนาดนี้เชียวหรือ โลโซแบบเธอขออนุญาตหลบไปไกลๆ ด้วยไม่ใช่นิสัยของชะนีน้อยผู้รักความสงบและสันโดษสักนิด
“ใช่จ้ะ เก่งมากเลยนะ จบหมอจากมหาวิทยาลัยแพทย์อันดับหนึ่งของประเทศ ต่อเฉพาะทางที่เมืองนอก แต่ไม่ได้จบหมอมาอย่างเดียวนะ เรียนบริหารเพิ่มอีกใบมาให้แม่ภูมิใจอีกด้วย”
ภาษาวัยรุ่นสมัยเขาเรียกว่า ‘ขิง’ พรพระพายแอบปาดเหงื่อเมื่อเห็นบรรดาชะนีรุ่นแม่เปิดศึกอวดลูกตัวเอง
“แล้วลูกสะใภ้ทำงานอะไรจ๊ะ” กัดลูกชายไม่ได้ขอเหน็บแนมลูกสะใภ้ก็ยังดี
รัชชานนท์เห็นสายตาเพชรศรีที่กำลังมองพรพระพายแล้วชายหนุ่มก็รู้ในทันทีว่ามนุษย์ป้ากำลังคิดอะไรอยู่ เขาหันไปมองภรรยาของตนก่อนจะเอ่ยปากขึ้น
“กินข้าวเสร็จเดี๋ยวพาเดินทัวร์โรงแรม เผื่อวันหลังว่างๆ อยากมาทำสปาหรือมาเปลี่ยนบรรยากาศเล่นฟิตเนสที่นี่” พรพระพายยิ้มร่าเริงตามประสานิสัยของเจ้าหล่อน “เธออยากกินของหวานมั้ย ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องโอนีแปะก๊วย ถ้าเธอชอบกินเผือก รับรองต้องติดใจแน่ๆ เธอชอบกิน ‘เผือก’ มั้ยกวาง”
เน้นจังนะคำว่า ‘เผือก’ น่ะ พรพระพายเริ่มรู้ว่าสามีต้องการอะไร ผัวเป็นช้างเท้าหน้า เป็นผู้นำของครอบครัว ในเมื่อผัวต้องการหรือบัญชาอะไรมา เมียก็ต้องจัดให้สิคะจะรออะไร
เรียวปากอิ่มกระตุกยิ้ม หญิงสาวชำเลืองมองสองแม่ลูกด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ “ชอบสิคะพี่หมอ หนูชอบกินเผือกม๊ากมาก แต่..” ดวงตาหวานเหลือบมองคุณหญิงเพชรศรีพลางส่งยิ้มหวานให้คนอายุมากกว่า “หนูไม่ชอบเผือกเรื่องชาวบ้านหรอกนะ เดี๋ยวจะโดนหาว่า ‘ไม่มีมารยาท’ ”
รัชชานนท์และพรพระพายพร้อมใจกันหันไปส่งยิ้มหวานให้เพชรศรีกับทองเอก คุณหญิงป้าข้างบ้านทรงผมตีโป่งเป็นกะบังโต้ลมหน้าแดงก่ำตาคว่ำปากเบะ ยิ่งมองยิ่งนึกขำทว่าทั้งคู่พยายามเก็บอาการไว้ให้แนบเนียนที่สุด
“เธอนี่มีมารยาทแถมยังรู้จักกาลเทศะ เรื่องของคนอื่นเราไม่ควรจะไปยุ่งอะเนอะ”
ปากร้ายมากพ่อคุณ พรพระพายคิดว่าตัวเองจิกกัดชาวบ้านเก่งแล้วนะ แต่ตอนนี้ศิษย์น้องของคารวะศิษย์พี่ที่ปากคมยิ่งกว่ากรรไกรในห้องผ่าตัดเลยเจ้าค่ะ
ไหนหมอแบงค์มาดนิ่งในวันวาน ตอนนี้พานพบเพียงหมอแบงค์ปากหมาล่าท้ามนุษย์ป้าตีโป่งทำทรงผมกะบังลม
“ฉันไปก่อนนะขวัญ” น้ำเสียงขุ่นเคืองขึงขังหาได้สร้างความลำบากใจให้แม่ของนายแพทย์รัชชานนท์ไม่ ตรงกันข้ามขวัญเกล้ากลับรู้สึกสาแก่ใจเสียมากกว่า
“จ้ะ ร้านอาหารของโรงแรมฉันอร่อยหลายอย่างเลยนะ แต่เมนูที่อยากแนะนำคือ ‘เผือก’ เอ๊ย! โอนีแปะก๊วย” ทันทีที่จบประโยค คุณนายท่านอัยการวิชิตก็ฉีกยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตรทว่าดวงตาคมกริบกลับแสดงตรงกันข้ามอย่างต้องการให้คนมองรับรู้ว่าข้างในกำลังคิดเช่นไรอยู่
เพชรศรีทำอะไรไม่ได้มากไปกว่ากัดฟันข่มความโกรธเอาไว้ นางหันไปหาลูกชายผู้เป็นความภูมิใจมาตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก บนจักรวาลอันกว้างใหญ่ไม่มีผู้ใดเก่งเสมอทองเอก ผู้เป็นแม่เชื่อเช่นนั้นและจะเชื่อต่อไป
“ขอบใจมากสำหรับคำแนะนำ ฉันกับทองเอกขอตัวก่อน นัดผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเอาไว้ไม่อยากไปสายมันจะดูไม่งาม” นางเหลือบตามองสะใภ้ของอัยการวิชิตและขวัญเกล้าเพียงหางตา “เผอิญว่านัดดูตัวลูกสะใภ้เอาไว้น่ะ ไม่อยากจะเม้าท์หรอกนะเธอเอ๊ย ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าสัวทรงกลด สวย รวย เพียบพร้อมเหมาะสมกับตาทองเอกของฉันเป็นที่สุด”
สองผัวเมียแอบมองแล้วเบะปากพร้อมกลอกตามองบนพร้อมกัน ทั้งรัชชานนท์และพรพระพายเข้าใจความหมายที่ป้าข้างบ้าน เอ๊ย! เพชรศรีต้องการจะสื่อดี
รัชชานนท์ไม่สนว่าเมียตัวเองจะเป็นใครมาจากไหน ขอเพียงแค่พรพระพายเป็นคนดี อยู่ด้วยแล้วเป็นอยู่อย่างทุกวันนี้เขาก็โอเค
ชะนีน้อยวัยยี่สิบเอ็ดหาได้น้อยเนื้อต่ำใจที่ตัวเองไม่ได้เกิดมาร่ำรวยบนกองเงินกองทอง เพราะทุกวันนี้ก็ไม่ได้ไปขอป้าเพชรศรีรับประทาน เธอทำงานหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเองได้สบาย
“เชิญเถอะครับ ไปสายเดี๋ยวคุณทองเอกอดได้เมียรวย” รัชชานนท์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ภายในใจรู้สึกรำคาญเพชรศรีเต็มทน
ผู้สูงวัยกว่ามองชายหนุ่มรุ่นราวคราวลูกด้วยหางตา นายแพทย์คนนี้ปากคอเราะรายไร้มารยาท ไม่มีสมบัติผู้ดีเอาเสียเลย
“จ้ะ ฉันเองก็กลัวว่าลูกชายจะเผลอไปคว้าเอาผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มาทำเมียเหมือนกัน อย่างตาทองเอกต้องมีคู่ชีวิตที่เหมาะสมสามารถส่งเสริมได้ทั้งฐานะ หน้าตาทางสังคม หน้าที่การงาน” นางพูดพลางปรายตามองหญิงสาวที่นั่งข้างลูกชายของขวัญเกล้าด้วยสายตาดูถูกอย่างตั้งใจให้อีกฝ่ายได้รับรู้
แขนหนั่นแน่นด้วยมัดกล้ามวางพาดบนพนักเก้าอี้ที่เมียนั่ง รัชชานนท์มองมนุษย์ป้ากลับด้วยสายตาไม่แตกต่างจากที่นางใช้มองพรพระพาย “แตกต่างจากผมนะครับ ไม่เน้นคุณสมบัติที่มองเห็นได้ด้วยตา แต่เลือกผู้หญิงจากความดีของเขา แล้วอีกอย่างถ้าชีวิตตั้งมั่นยึดถือแต่กับผลประโยชน์และหน้าตาทางสังคมมากเกินไป เราอาจจะเครียดตายก่อนอายุขัยจริงๆ ก็ได้นะครับ”
อื้อฮือ!
แม่ผัวลูกสะใภ้หันมองหน้ากันโดยมิได้นัดหมาย รัชชานนท์ปากคอเราะรายจนป้าข้างบ้านตาเหลือกถลึง เพชรศรีคงตกใจมากเมื่อได้ยินประโยคนี้จากปากของชายรุ่นลูก ทว่าขวัญเกล้าและพรพระพายไม่คิดเอ่ยปากห้ามชายหนุ่มเลยแม้แต่นิด ทั้งคู่แอบป้องปากสบตาแล้วหัวเราะคิกคัก
เพชรศรีครางฮึ่มๆ ในลำคอ ริมฝีปากบางเฉียบสั่นระริกด้วยว่าโกรธจนแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่ นางเชิดหน้าขึ้นอีกเล็กน้อยแล้วจูงแขนทองเอกเดินออกจากโต๊ะของทั้งสามคนอย่างไร้ซึ่งคำล่ำลา
สาวน้อยประจำโต๊ะอาหารแลบลิ้นปลิ้นตาตามหลังมนุษย์ป้าข้างบ้านอย่างรู้สึกสาแก่ใจเป็นที่สุด
“พี่แบงค์อะ ทำไมพูดอย่างนั้นละคะ”
ประโยคต่อว่าแต่แววตาดูสะใจแกมขบขัน นี่แหละนิสัยจริงๆ ของยัยนางมารประจำชีวิตเขา “ฉันนี่นิสัยไม่ดีเลยเนอะ เธอว่าฉันควรตามไปขอขมาคุณป้าเพชรศรีตีกะบังลมรึเปล่า” พรพระพายทำท่าครุ่นคิด
“หนูว่าถ้าพี่แบงค์จะไปขอขมาคุณป้าคนข้างบ้าน อุ๊ย! คุณหญิงป้าเพชรศรีล่ะก็ คงต้องเตรียมเครื่องเซ่นไหว้ เอ๊ย! ขันธ์ห้าอย่างดีเลยนะคะ เพราะคุณป้าเขาเป็นผู้ดี๊ผู้ดี”
การสนทนาหยุดลงเพียงครู่ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะของสองผัวเมีย
“เธอน่ะมันร้าย”
“แต่ไม่เท่าพี่แบงค์หรอก เหมาะสมแล้วแหละที่พี่เป็นหมอ ถ้าวันไหนมีดผ่าตัดคนไข้ไม่เพียงพอสำหรับการใช้งาน วานพี่แบงค์ช่วยส่วนรวมโดยการให้ยืมปากผ่าตัดแทนหน่อยนะ”
ศึกนอกสงบเรารบกันต่อ
รัชชานนท์ขึงตามองภรรยาสาว เจ้าหล่อนหาได้สลดกับคำพูด คำจาของตัวเองไม่