หลังจากคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อย พรพระพายจึงหันไปส่งยิ้มแฉ่งให้สามีผีดิบซึ่งตอนนี้กำลังมองเธอตาขวาง
“รถติดเนอะ” เจ้าหล่อนพยายามชวนเขาคุย ชายหนุ่มหันมองเธอด้วยสายตาแบบว่า เอิ่ม.. “ดื่มชาเขียวหวานๆ มั้ยคะสามี”
รัชชานนท์แอบเบะปากเมื่อนึกถึงภาพเจ้าหล่อนกับผู้ชายคนนั้น ขนาดมองจากระยะไกลยังรู้เลยว่าไอ้หน้าหล่อนั่นมันกำลังคิดไม่ซื่อกับภรรยาคนอื่น “ไม่ ฉันไม่ชอบเครื่องดื่มรสหวาน”
“ขนมก็มีนะ”
ภรรยาวัยพึ่งเริ่มทำงานเปิดกระเป๋าแล้วหยิบบัตเตอร์เค้กเนยชิ้นพอดีกินสามคำหมดให้เขา “เธอนี่มันเด็กจริงๆ พกขนมติดกระเป๋าด้วย”
“จะเด็กจะโตเวลาหิวก็ต้องกินเหมือนกันหรือเปล่า” รัชชานนท์ชำเลืองมองเธอเล็กน้อย
“ฉันไม่ชอบกินขนมหวาน เก็บไว้แจกผู้ชายของเธอเถอะ” น้ำเสียงธรรมดาทว่าเจือแววไม่พอใจที่ปลายประโยค
พรพระพายหรี่ตามองสามีของตน “สามีขาไม่พอใจอะไรหนูเหรอ”
“เปล่า”
จมูกฟุดฟิด เอ๊ย! ท่าทางฟึดฟัด ไหนจะมองเธอตาขวางแล้วยังถ้อยคำประชดประชันอีกล่ะ อย่าบอกนะว่ารัชชานนท์กำลัง.. “พี่หึงหนูเหรอคะ”
คนฟังตกใจจนเผลอใช้เท้าแตะเบรก ยังดีว่าไม่มีรถขับจี้ตูด ไม่อย่างงั้นคงได้เรียกประกันหรือจ่ายค่าเสียหายให้คู่กรณีเป็นแน่
“อะไร! ใครหึงเธอ ไม่มีหรอก อยากไปไหนอยากทำอะไรกับใครก็เชิญ!”
สายตาล่อกแล่กมากจ้าพ่อคุณ เรียวปากอิ่มกระตุกยิ้มร้าย ทว่ารัชชานนท์กลับไม่มีโอกาสได้เห็นมัน
“ค่อยสบายใจหน่อย พี่แบงค์รู้มั้ยว่าคุณเฉินหมิงอะคุณสมบัติครบถ้วนเหมาะสมที่จะจีบมาเป็นพ่อให้ลูกที่สุดเลยนะ รูปหล่อ พ่อรวย สุภาพอ่อนโยน น้ำใจงามแถมพูดจาไพเราะ เวลามองหนูนะ ตาพราวระยับเหมือนอยากจะกลืนกินหนูเข้าไปทั้งตัวเชียวล่ะ แต่ติดที่ว่าหนูมีพี่แบงค์เป็นสามีตีทะเบียนแล้วนะสิ เฮ้อ.. พรุ่งนี้เราไปอำเภอกันมั้ย หนูไม่อยากอยู่กับผัวหมอแก่ขี้บ่นที่ชอบทำหน้าเหมือนปลาชะโดบวมน้ำแล้วอะ อยากไปเฉิดฉายเป็นคุณนายที่ต่างประเทศ”
ไม่รู้ว่าควรจะโกรธเรื่องไหนก่อนระหว่างโดนด่าว่าแก่กับเมียขอหย่าเพราะจะหนีไปเป็นคุณนายที่ต่างประเทศ “ชื่ออะไรนะ ไอ้สมิงเหรอ”
“เฉินหมิงค่ะไม่ใช่สมิง”
“เออนั่นแหละ ไปบอกมันเลยนะว่าให้นอนฝันไปก่อน ตอนนี้ผัวยังไม่มีอารมณ์เซ็นต์ใบหย่า”
พรพระพายลอบยิ้ม เฮอะ! เริ่มหวงเด็กแล้วล่ะสิอีตาลุง “ว้า เสียดายจุง นึกว่าจะได้ไปนั่งตีพุงเป็นเมียเศรษฐีที่ฮ่องกงซะและ”
รถจอดติดไฟแดง รัชชานนท์จึงหันไปมองภรรยาสาว เมื่อเห็นสายตาวาดฝันของเจ้าหล่อน เขารู้สึกโมโหจนหนวดกระตุก
“ไอ้สมิงหน้าจืดนั่นมันมีดีอะไร เธอถึงได้ทำท่าระริกระรี้ขนาดนี้”
“หนูแพ้ทางผู้ชายอ่อนโยนและเป็นสุภาพบุรุษ”
เบะปากพร้อมกลอกตามองบนเป็นร้อยรอบ ทั้งหมั่นไส้และนึกฉุนคำพูดของพรพระพาย แล้วเขาขาดคุณสมบัติข้อไหนที่เจ้าหล่อนต้องการมิทราบ นี่ใคร! นายแพทย์รัชชานนท์คนอ่อนโยนและสุดแสนจะเป็นสุภาพบุรุษครับ สงสัยยัยนี่จะไม่มีตา “นั่งฝันไปก่อนเฮอะ เพราะตอนนี้เธอต้องเป็นเมียยาจกของฉันที่ประเทศไทยไปก่อน”
คนฟังลอบยิ้มก่อนจะหันไปตีหน้าเศร้าเคล้าน้ำตาใส่สามี “หมดกันฝันจะไปเป็นคุณนายของหนู แต่ไม่เป็นไรค่ะ อยู่ไถเงินพี่แบงค์ใช้สักชาติคงไม่เสียหาย แต่ถ้าติดใจอยากจะต่อโปรไปยันชาติหน้า หนูก็ไม่ว่านะ”
หญิงสาวหัวเราะคิกคัก แต่เขาไม่ตลกด้วย “ไปบอกมันด้วยนะว่าตอนนี้เธอมีผัวแล้ว อย่าริอ่านจะสวมเขาให้ฉัน ไม่อย่างงั้นอย่าหาว่าไม่เตือน”
รัชชานนท์อาจจะไม่รู้ว่าพรพระพายก็เป็นพรพระพายวันยังค่ำ เจ้าหล่อนไม่คิดจะทำเช่นนั้นและหาได้เกรงกลัวคำขู่ของชายหนุ่มไม่ ยามนี้ในหัวของหญิงสาวกำลังนั่งจินตนาการใบหน้าของสามีตัวเองมีเขาสีดำปลายแหลมโค้งงองอกออกมาสองข้าง จมูกใหญ่สีดำอันเป็นเอกลักษณ์ที่มองยังไงก็น่ารักของน้องควาย
เออแฮะ! พอมโนเอาหน้าควายมาผสมกับหน้าผัวตัวเอง พี่หมอแบงค์ของเธอก็น่ารักไม่ใช่เล่น
“พี่ควายของน้องกวาง” ดวงตาคมตวัดขวับหันมองเธอ ราวกับว่าตอนนี้รัชชานนท์กำลังปล่อยแสงเลเซอร์ออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างแล้วยิงใส่ร่างกายเธอ
รัชชานนท์ยกมือคลำศีรษะของตนเอง “ไม่เห็นมีเขางอกสักนิด ฉันเป็นคนไม่ใช่ควาย” ภรรยาสาวฉีกยิ้มกว้างจนส่งไปถึงดวงตาหวานให้พราวระยิบระยับฉายแววขำขันและซุกซน
“เดี๋ยวนี้คุณสามีพัฒนานะคะ มีตบมุกที่เมียเล่นด้วย”
“แต่คารมก็คงไม่สู้ไอ้สมิงหน้าจืดของเธอหรอก”
เอาอีกและ! ผัวแก่เป็นอะไรนักหนา แค่ขู่ว่าจะหอบเสื้อผ้าหนีตามเศรษฐีแค่นี้เอง เป็นเอามากนะเนี่ย
นิ้วเรียวยาวจิ้มบนไหล่ของสามีก่อนที่เจ้าหล่อนจะเอนศีรษะซบอย่างออดอ้อน “ถึงคุณเฉินหมิงจะน่ารัก แต่ปากไม่จัดเหมือนพี่แบงค์ หนูแพ้ทางผู้ชายสุภาพ แต่หนูอยากขึ้นเตียงกับสามีรสจัดแบบพี่มากกว่านะ”
เรียวปากบางเฉียบสีชมพูตามโทนผิวขาวจัดอย่างคนที่มีเชื้อสายจีนเม้มเข้าหากันอย่างพยายามกลั้นยิ้ม รัชชานนท์อายุมากกว่าเธอเกินรอบได้ ทว่าเรื่องเจ้าเล่ห์และแพรวพราวเขายังห่างชั้นกับพรพระพายคนนี้อีกเยอะ
“พี่แบงค์อย่าโกรธหนูเลยนะคะ ที่พูดไปเมื่อกี้แค่หยอกให้หึงแค่นั้นเอง” มือน้อยลูบไล้หน้าขาสามีอย่างยั่วเย้า เธอเลื่อนสัมผัสขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงจุดที่รู้ว่าถ้าแตะปุ๊บจะโดนสามีฟาดปั๊บ และครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อปลายนิ้วหมุนวนตรงจุดนั้น ถึงแม้เนื้อผ้ากางเกงที่รัชชานนท์ใส่จะหนาเพียงใด ทว่าน้ำหล่อลื่นของเขาซึ่งตอนนี้คงมากพอดูจนสามารถซึมผ่านได้
สมาธิในการขับรถกระเจิดกระเจิงหมด พรพระพายยั่วเขาทั้งสัมผัสและสายตา เจ้าหล่อนช่างร้ายกาจนัก แบบนี้ต้องจัดการซะให้เข็ด “เราเปลี่ยนบรรยากาศกันหน่อยดีมั้ยกวาง เมื่อกี้ฉันเห็นป้ายม่านรูดแน่ะ”
พรพระพายมองชิ้นส่วนของตัวเองอย่างแสนเสียดาย เสื้อที่ถอยมาใหม่ราคาตัวละร้อยเก้าสิบเก้าบาทถูกผู้ชายหื่นกามฉีกจนขาดออกเป็นสองชิ้นอย่างไม่ปรานี บราเซียลูกไม้สีโอลด์โรสของแบรนด์ชุดชั้นในขึ้นห้างยี่ห้อดังที่คนงกเช่นเธอรอซื้อช่วงลดราคาก็ไม่รอด มันขาดวิ่นคามือเขาเป็นชิ้นที่สอง
“เป็นอะไร”
คนนิสัยไม่ดียืนช้อนหลัง รัชชานนท์กระตุกผ้าเช็ดตัวผืนน้อยที่เธอใช้ห่อร่างออก มือใหญ่หนายกขึ้นกอบกุมทรวงอกหยุ่นนุ่ม ส่วนอีกข้างลูบคลำส่วนล่างตรงกลางหว่างขาอย่างจาบจ้วง ริมฝีปากอุ่นร้อนขบกัดลาดไหล่ขาวนวล
“พี่แบงค์! คุณแม่รออยู่นะคะ” รัชชานนท์ไม่รู้สึกรู้สากับสิ่งที่เธอพูดเลยสักนิดเขาหัวเราะคิกคักราวกับมันเป็นเรื่องตลก
“ทำไมไม่แต่งตัวล่ะ ยืนแก้ผ้าอยู่ทำไม”
ดวงตาคมดำขลับฉายแววเจ้าเล่ห์กรุ้มกริ่ม หลายคนบอกว่ารัชชานนท์เป็นเหมือนเจ้าชาย เขาแสนดี สุภาพ อบอุ่นราวกับแสงแดดยามเช้า
แต่! พรพระพายคนนี้ขอเถียงขาดใจ เขาร้อนแรงยิ่งกว่าแดดยามบ่ายซึ่งสามารถเผาไหม้ผิวกายให้ดำเกรียม ผู้ชายคนนี้สำหรับเธอไม่ใช่คนสุภาพ เขาห่าม ดิบ และดุดันเสียจนบางครั้งเธอแทบนึกภาพนายแพทย์ผู้แสนดีที่คนอื่นพูดถึงไม่ออก
“ก็พี่แบงค์นั่นแหละที่จับหนูแก้ผ้า”
เจ้าคนเนื้อหวานทำเสียงกระเง้ากระงอด “เธออ่อยฉันก่อน”
ไม่ปฏิเสธว่านั่นคือเรื่องจริง ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าผู้ชายจะไวต่อสิ่งเร้าขนาดนี้ แตะนิดต้องหน่อยก็ลุกซู่ชูคอตั้งผงาดง้ำค้ำโลกเสียจนซิปกางเกงเกือบแตก
“หนูลืมไปว่าผัวตัวเองหื่นกาม”
หญิงสาวค้อนเขาตาคว่ำ รัชชานนท์กลั้วหัวเราะพลางใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มมองคนตัวเล็กอย่างมันเขี้ยวระคนเอ็นดู “ไม่มีผู้ชายคนไหนในโลกไม่ไวต่อสัมผัสของเพศตรงข้าม เธออย่ามาทำตัวไร้เดียงสา เธอช่ำชองกว่าฉันเป็นล้านเท่า”
“หนูเนี่ยนะ” เธอถามพลางชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
ดวงตากลมโตเบิกกว้างทุกครั้งที่เจ้าของมันกังขาในสิ่งที่เขาพูด พรพระพายเป็นผู้หญิงที่จริตจะก้านเยอะ ทว่าทุกท่วงท่าลีลาช่างดำเนินไปอย่างธรรมชาติ ชวนพิศจนไม่อาจละสายตา ผู้ชายคนไหนได้อยู่ใกล้ มีหวังโดนพรพระพายโปรยเสน่ห์ทำให้หลงใหลในตัวเจ้าหล่อนจนโง่หัวไม่ขึ้น หลับฝันถึง พอตื่นขึ้นก็เพ้อหาแต่ใบหน้าสวยหวานจิ้มลิ้ม
แต่ไม่ใช่ผู้ชายที่ชื่อรัชชานนท์!
“ยัยบ๊อง ไปใส่เสื้อผ้าก่อนที่ฉันจะจับเธอฟาดอีกรอบ” เมียหน้าประถมนมคัพซีทำเสียงฮึดฮัดในลำคอพลางมองมายังเขาด้วยสายตาตำหนิ “อะไร มองฉันทำไม”
“พี่แบงค์ดูนั่น!” รัชชานนท์มองไปยังจุดที่เธอชี้นิ้ว
บราเซียตัวจิ๋วสีโอลด์โรสขาดออกเป็นสองท่อน ใครทำ? “เธอฉีกเสื้อในตัวเองทำไม”
ยังไม่รู้ตัวอีก!
“พี่แบงค์ไม่รู้จริงๆ เหรอว่าใครทำ”
“ฉันเหรอ?” พรพระพายพยักหน้า “ทำไมฉันจำไม่ได้”
ผู้ชายเวลาหน้ามืดเป็นแบบอีตาลุงตรงหน้าเธอทุกคนไหมนะ แหม! พอโดนมอมเมาด้วยนมขาวๆ นิดเดียว ทำเป็นหูตาฝ้าฟาง สมองไม่ทำงาน จำในสิ่งที่ทำลงไปไม่ได้
“เธอมีเสื้อในติดกระเป๋ามาสักตัวมั้ย”
ใครเขาพกชุดชั้นในมาทำงานกันเล่า! “บ้าบอ ใครจะไปมี”
พรพระพายก้มลงหยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กขึ้นมาพันรอบตัวเองเอาไว้แล้วเดินไปนั่งบนเตียงสภาพยับเยิน เจ้าหล่อนห่อไหล่พลางทำแก้มป่องพองลม “เอาน่า เดี๋ยวฉันซื้อให้ใหม่ วิ่งเข้าห้างฯ แป๊บเดียวก็ได้แล้ว เธอแค่บอกฉันมาว่าใส่ไซซ์อะไร” พลันใบหน้าง้ำงอก็เปลี่ยนเป็นกรุ้มกริ่ม
“เดี๋ยวนี้ผัวขาใจดีถึงขนาดอาสาไปซื้อเสื้อในมาให้เมียใส่แล้วเหรอคะ” รัชชานนท์ปรายตามองเธอเล็กน้อย
“ฉันกลัวคนอื่นตาบอดได้เห็นหัวนมสีช็อกโกแลตของเธอ”
กรี๊ด! ปากคอเราะรายที่สุด อีตาบ้า! ก็ใครกันล่ะที่ดูดจนหัวนมเธอดำคล้ำ ดูดได้ดูดดี ดูดทุกวี่ทุกวัน
“แหม! พูดเหมือนหัวนมพี่สีชมพูงั้นแหละ ดำกว่าของหนูอีก”
เสียงหัวเราะคิกคักลอดผ่านไรฟันเรียงตัวสวยงามของหญิงสาวหน้าหวานออกมาเป็นระยะ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มทอประกายวิบวับเมื่อมันจับจ้องหัวนมเขา “อะไร! หัวเราะอะไรของเธอ” พรพระพายช้อนตาขึ้นมองเขา ดวงตาเจือแววขบขัน
“หัวนมพี่หดอะ มันคงอายที่โดนแซวว่าหัวนมดำ”
“ยัยเด็กแสบ!”
พรพระพายรีบกระเด้งตัวลุกขึ้นแล้ววิ่งไปยังห้องน้ำเมื่อเห็นว่าสามีวัยสามสิบกลางของตนทำท่าจะกระโดดตะครุบแล้ว “แบร่ๆ พี่แบงค์แก่แล้วจ้างให้ก็วิ่งตามหนูไม่ทัน” รัชชานนท์ชี้หน้าพลางทำสายตาอาฆาต
“ฝากไว้ก่อน คืนนี้มีทบต้นทบดอก” พรพระพายทำท่ากลัวเขา ทว่าสายตาเจ้าหล่อนไม่ได้เป็นเช่นนั้น
“กลัวจังเลยค่ะผัวขา แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพื่อผัวขาเมียทำได้ จัดมาเลยนะคะ โซ่ แส้ กุญแจมือ”
เมียเด็กกัดปากพร้อมส่งสายตายั่วยวนมาให้เขา “ชักจะเกินไปแล้วนะลูกกวาง” มันเขี้ยวนัก อยากจับมาฟาดตูดสักป๊าบสองป๊าบ “ปกติอยู่กับคนอื่นเธอเป็นแบบนี้มั้ย”
พรพระพายส่ายหัว ภายนอกเธอดูสดใสเข้ากับคนง่าย เป็นมิตรกับสัตว์ทุกชนิดและมนุษย์ทุกคน แต่ใครบ้างเล่าจะรู้ว่ากว่าที่เธอจะเปิดใจรับใครสักคนนั้นยากแค่ไหน ชีวิตของคนเราไม่มีใครสมบูรณ์พร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ เธอเองก็เช่นกัน ช่วงชีวิตหนึ่งในรั้วโรงเรียนมัธยม นางสาวพรพระพายเคยเป็นเด็กเงียบขรึม เก็บตัวอยู่ในห้องสมุดกับตำราวิชาการและหนังสือเตรียมสอบเพราะกลัวการออกไปเผชิญกับโลกกว้างภายนอก ซึ่งมัน.. โหดร้ายนักสำหรับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ เธอเป็นคนมีจุดเด่นหลายอย่างที่มันนำมาซึ่งการถูกบูลลี่ (Bully) ที่แฝงมาด้วยการถูกคุกคามทางเพศ ด้วยว่ารูปร่างที่โตเป็นสาวเต็มวัยเกินกว่าผู้หญิงรุ่นเดียวกัน หน้าอกหน้าใจมีมากมายจนล้นเหลือเกินขนาดร่างกายบอบบาง ทั้งยังสะโพกกลมกลึงเข้ารูปซึ่งสอดรับเอวคอดกิ่ว ผิวขาวนวลผ่อง เป็นที่สะดุดตาของมนุษย์เพศผู้วัยฮอร์โมนเดือดพล่าน พวกเขาเหล่านั้นอยู่ในวัยคึกคะนองที่จะพูดหรือกระทำอย่างไม่คิด
‘นมใหญ่ขนาดนี้ จัดกับพี่สักคืนมั้ยน้อง’
‘นั่นนมหรือหัวเด็ก’
‘ขอยืมรูปไปชักว่าวได้มั้ย’
นี่คือคำพูดที่ผู้หญิงคนหนึ่งได้ยินมาตลอดระยะเวลาเกือบหกปีในรั้วโรงเรียน มันคือบาดแผลในใจ พวกเขาเหล่านั้นพูดเล่นหรือคิดจริง พรพระพายไม่อาจรู้ แต่ที่เธอรู้คือคำพูดมันสามารถเปลี่ยนชีวิตคนคนหนึ่งได้ เธอรู้สึกหวาดกลัวเพศตรงข้าม ไม่ว่าเขาคนนั้นจะมาดีหรือมาร้าย จนกระทั่งได้มาเจอกับราเชน แต่สุดท้าย.. ผู้ชายที่เป็นรักแรกกลับยิ่งทำให้บาดแผลในใจมันฉีกใหญ่มากขึ้น
“ไม่หรอกค่ะ” เธอส่งยิ้มบางเบาให้ผู้ชายตรงหน้าที่ได้ชื่อว่าสามี รัชชานนท์แตกต่างจากผู้ชายคนอื่น สิ่งที่เธอกำลังทำมันเป็นหน้าที่ ครบหนึ่งปีเมื่อไหร่ทุกอย่างก็จะกลายเป็นเพียงฝันที่ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งมันคงเลือนหายไปไกลแสนไกลแล้ว
“เป็นอะไรหรือเปล่า” น้ำเสียงทุ้มทอดอ่อน เขาเดินไปนั่งข้างหญิงสาวแล้วหันมองเสี้ยวหน้าอย่างนึกเป็นห่วงระคนสงสัย ไม่ชินเอาเสียเลยที่เห็นพรพระพายเป็นเช่นนี้ “ฉันพูดอะไรผิดเหรอ”
“เปล่าหรอก หนูแค่นึกถึงเรื่องแย่ๆ ในอดีต ช่างมันเหอะ เราไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วรีบไปหาคุณแม่กันดีกว่า”
พลันใบหน้าจิ้มลิ้มก็กลับมามีรอยยิ้มสดใสประดับอีกครั้ง ทว่าดวงตากลมโตยังหม่นหมองจนคนมองจับสังเกตได้
“ทำงานแรก อาจจะเหนื่อยหน่อย แต่พอรู้ระบบงานและเริ่มปรับตัวได้ เธอจะรู้สึกโอเคและสนุกไปกับมัน” คนเข้าใจผิดว่าเมียตัวเองกำลังเครียดเรื่องงานรีบแนะนำตามประสบการณ์ที่เคยผ่านพบมาก่อน
“พี่แบงค์คิดว่าหนูเครียดเรื่องงานเหรอ” รัชชานนท์หันหน้ามาหาเธอ มือใหญ่วางแมะลงกลางศีรษะแล้วลูบช้าๆ ราวกับว่ากำลังปลอบประโลมให้เธอรู้สึกดีขึ้น แต่เพียงครู่ความโรแมนติกก็มลายหายไปเมื่อผัวแก่คนเก่าเจ้าเดิมเพิ่มเติมคือกวนตีนกลับมา เขาขยี้ผมที่พึ่งสระและจัดทรงมาอย่างดีจนยุ่งเหยิง “พี่แบงค์!”
“จะเรียกเสียงดังทำไมเนี่ย”
ใบหน้าจิ้มลิ้มง้ำงอทั้งยังดวงตาทั้งสองข้างฉายแววไม่พอใจไร้ความหม่นเศร้าเช่นเมื่อครู่ รัชชานนท์ลอบยิ้มอย่างคนสมใจ แม้ไม่ได้รักหรือนึกพิศวาสในตัวหญิงสาว แต่การที่เธอได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียเขา หัวใจและร่างกายเป็นสิ่งที่ผู้ชายซึ่งเป็นสามีต้องปกป้องดูแล
“พี่ทำเสื้อผ้าหน้าผมที่หนูอุตส่าห์แต่งมาอย่างดีพังหมดเลยเนี่ย”
“เอาน่า เดี๋ยวซื้อเสื้อคืนให้ เอาเป็นกระสอบเลยดีมั้ย โหลละไม่กี่บาทหรอก” พรพระพายค้อนเขาตาคว่ำ ใบหน้ายิ่งง้ำงอเข้าไปอีก
“ไม่เอา หนูจะเอาของชาแนล ปราด้า วาเลนติโน่ กุชชี่..” รัชชานนท์รีบยกมือห้ามก่อนที่เธอจะร่ายยาวถึงแบรนด์เสื้อผ้าราคาแพงระยับพวกนั้นต่อ หญิงสาวหัวเราะคิกคักที่สามารถเอาคืนคนแก่ได้
“พอเลย อย่าลืมสิว่าผัวเธอเป็นหมอยาจก ไม่ใช่เศรษฐีเหมือนไอ้หน้าหมีสมิงนั่น”
เดี๋ยวนะ! หมีสมิง ใครคือหมีสมิง คุณเฉินหมิงเหรอ?
“เขาชื่อคุณเฉินหมิงค่ะ ไม่ใช่หมีสมิง พี่แบงค์ตั้งชื่อคุณเฉินหมิงซะน่าเกลียดเลยอะ” รัชชานนท์ทำปากขมุบขมิบพลางมองค้อนแล้วกลอกตา
“แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยนะ”
พรพระพายอมยิ้มกรุ้มกริ่ม “หนูละเบื๊อเบื่อคนฟอร์มจัด ชีวิตเราสองคนจะง่ายขึ้นมากถ้าพี่แบงค์พูดตรงๆ ว่า ‘พี่หึงกวางนะ กวางเป็นเมียพี่ พี่ไม่ชอบให้ไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่น’ แค่นี้ก็จบ”
“เหอะ! ฉันน่ะเหรอหึงเธอ อยากทำอะไรเชิญตามสบาย ขอแค่อย่าให้วงศ์ตระกูลฉันเสื่อมเสียก็พอ”
คนฟังเบะปากพร้อมกลอกตามองบนร้อยรอบได้ “ชิชะ อย่ามาร้องไห้เพราะเค้าหนีไปมีผัวใหม่แล้วกัน”
“ฮึ! ตายแล้วเกิดใหม่สิบชาติเรื่องแบบนั้นก็ไม่มีทางเกิดขึ้น ไปอาบน้ำได้แล้ว มัวแต่นั่งขี้โม้อยู่ได้”