คืนเข้าหอ

1692 คำ
‘มีหลานให้แม่อุ้มไวๆ นะลูก’ นี่คือคำอวยพรจากขวัญเกล้าเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว แต่สิ่งที่ผู้ใหญ่ต้องการ มันตรงกันข้ามกับความเป็นจริง อย่าว่าแต่ปั๊มลูกเลย ขนาดหน้าเจ้าสาว เจ้าบ่าวยังไม่เหลือบมอง รัชชานนท์เฉยชาราวกับว่าเธอเป็นเพียงอากาศ หญิงสาวไม่รู้จะทำตัวยังไงหรือพาตัวเองไปอยู่ตรงไหน ที่นี่ไม่ใช่บ้านที่คุ้นเคย หากแต่เป็นห้องหอภายในคอนโดฯ ของชายหนุ่ม แรกเริ่มเดิมทีขวัญเกล้าจะซื้อบ้านเพื่อยกให้เป็นเรือนหอ ทว่าเจ้าบ่าวของเธอยืนยันจะอยู่คอนโดฯ ห้องเดิมที่เคยอยู่ “ช่วยรูดซิปให้หน่อย” รัชชานนท์เหลือบมองเธอเพียงนิด ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ด้านหลัง ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไร น้ำลายอึกใหญ่ถูกกลืนลงคอเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ รัชชานนท์รู้เพียงแค่ว่าตอนนี้ลมหายใจเริ่มติดขัด ความขาวเนียนและผิวนุ่มลื่นที่แม้สัมผัสเพียงปลายเล็บก็สามารถทำให้สูญเสียความเป็นตัวเองจนกลัวว่าจะไม่สามารถทำอย่างที่เคยลั่นวาจาเอาไว้เมื่อหลายชั่วโมงก่อน แต่คนอย่างเขา พูดคำไหนก็สามารถกลืนน้ำลายได้ ถ้าความขาวมันล่อตาล่อใจจนไม่อาจอดใจให้เขมือบไหว “รูดไม่ได้เหรอคะ” หญิงสาวหันมาถามเมื่อเห็นเขารูดช้า อยากจะบอกเจ้าหล่อนเหลือเกินว่าความขาวที่สะท้อนตานี่แหละ โคตรอุปสรรค! “รูดยากนิดหน่อย แต่ก็พอได้” “พี่จะอาบน้ำก่อนหรือให้หนูอาบก่อน” สรรพนามที่พรพระพายใช้เรียกเขาเปลี่ยนจาก ‘คุณหมอ’ เป็น ‘พี่’ “เธออาบก่อนก็ได้นะ” ปากขยับตอบ แต่ตากลับจับจ้องเนินอกอวบที่โผล่พ้นขอบบนของชุดออกมาหลอกล่อสายตาและความหื่นของผู้ชายซึ่งห่างหายจากเรื่องแบบนี้มานาน เขาไม่ได้นอนกับผู้หญิงคนอื่นอีกเลยตั้งแต่คบหากับนีรนารา แม้แต่กับอดีตแฟนสาว เขาก็ไม่เคยมีอะไรเกินเลยมากกว่าจูบ กระนั้นก็ยังจำรสชาติของเซ็กซ์ได้ดี จนกระทั่งพลั้งเผลออีกทีตอนที่ได้เสียกับพรพระพายจนทำให้ต้องแต่งงานรับผิดชอบเจ้าหล่อนนั่นแหละ แน่นอนว่าเมื่ออยู่ใกล้เพศตรงข้าม บางอย่างที่หลับใหลย่อมตื่นตัว “พรุ่งนี้ไปทำงานกี่โมงคะ” “ถามทำไม” ถึงไม่ได้ตั้งใจจะเป็นเมียเขา แต่เมื่อแต่งงานจดทะเบียนสมรสกันแล้ว เธอเองก็ต้องทำหน้าที่ภรรยา “หนูจะได้เตรียมเสื้อผ้าไว้ให้ แล้วตอนเช้าอยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ยคะ” พรพระพายกำลังรับบทเมียสินะ “ไม่ต้อง เธอไม่ใช่เมียฉันจริงๆ อยู่ใครอยู่มัน สงบปากสงบคำให้มากที่สุด ฉันจะขอบคุณมากถ้าเธอทำตามที่ฉันขอได้” เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ดังตามมาหลังจากที่ได้ฟังประโยคเมื่อครู่ของรัชชานนท์ “คอนโดฯ พี่กว้างกี่ตารางเมตร” ชายหนุ่มหันมองหน้าเธอ “หกสิบตารางเมตร เธอถามทำไม” “มีกี่ห้องนอน” หญิงสาวถามอีก “หนึ่งห้อง” เจ้าสาวป้ายแดงยืนกอดอกมองเขา เจ้าหล่อนทำหน้าเอือมระอาพลางส่ายหัวเบาๆ “ถามจริงเหอะ พี่ทำได้จริงๆ เหรอที่ว่าจะไม่สนใจหนู แล้วคิดว่าหนูเป็นอากาศที่ลอยไปลอยมาในห้องนี้ อยู่แบบไม่มีตัวตนอะ” รัชชานนท์ขยับแว่นให้เข้าที่ เขาจ้องหน้าเธอกลับ “ทำไมจะทำไม่ได้ ปกติเธอก็ไม่ได้อยู่ในสายตาฉันอยู่แล้ว เธอ.. เตี้ย” อ้าวเฮ้ย! กล้าดียังไงมาว่าเธอเตี้ย แต่ถึงเธอจะเตี้ยจริงๆ อย่างที่เขาว่า แล้วมันหนักหัวใครมิทราบ “หนูพึ่งรู้ว่าส่วนสูงหนูไปเพิ่มน้ำหนักบนหัวพี่” นั่นไง! ตาเขียวเชียวนะพ่อคุณ ถ้าเขาจับเธอฉีกเป็นชิ้นๆ ได้ คงทำไปนานแล้ว นี่สินะ คืนแรกของการเข้าหอ ช่างโรแมนติกหวานซึ้งน่าจดจำจริงจริ๊ง “ไม่มีมารยาท ไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่” เฮ้อ.. เธอมีผัวแก่ก็ต้องทำใจหน่อยนะพรพระพาย “เอาล่ะ หนูจะอธิบายให้พี่ฟังนะ เริ่มเลยเนอะ ห้องกว้างหกสิบตารางเมตร มีหนึ่งห้องนอน แน่นอนว่าเราหลบหน้ากันไม่ได้หรอก เราต้องเจอกันทุกวัน นอนเตียงเดียวกันทุกคืน ใช้อากาศหายใจร่วมกัน และเป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่เราสองผัวเมียจะไม่อ้าปากคุยกันเลย เช่น ถ้าพี่ปวดขี้แล้วหนูใช้ห้องน้ำอยู่ ถามจริงเหอะ พี่จะทนอั้นจนกว่าหนูจะเสร็จเหรอ แล้วถ้าหนูเกิดอารมณ์ศิลปินเปิดคอนเสิร์ตร้องเพลงในห้องน้ำเป็นชั่วโมง พี่จะทนให้ขี้ขึ้นสมองโดยที่ไม่พูดสักคำเลยเหรอ” “เธอ!” ตั้งแต่เกิดมา เขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนพูดจาเช่นพรพระพายมาก่อน เจ้าหล่อนเป็นผู้หญิงจะต้องมีความเรียบร้อยและสุภาพเฉกเช่นกุลสตรี ยิ่งได้อยู่ใกล้ยิ่งทำให้รู้ว่าเธอไม่มีคุณสมบัติอะไรสักอย่างที่คู่ควรจะมายืนเคียงข้างเขาในฐานะภรรยา “หรือหนูพูดผิด” พรพระพายถามเขาพร้อมกอดอกอย่างรอฟัง “โอเค เธอพูดถูก งั้นฉันขอให้เราสองคนพูดและปฏิสัมพันธ์กันน้อยที่สุด” รู้ว่าเถียงไปก็ไม่มีวันจบ พรพระพายรั้นจะตาย เธอสวยและสะอาด แต่ในเมื่อเขาไม่อยากอยู่ใกล้ แล้วทำไมต้องไปเร้าหรือ “ตกลงค่ะ แต่หนูจะทำหน้าที่ของหนูตามที่เห็นสมควร โอเคมั้ย” “เธอหมายถึงหน้าที่เมียงั้นเหรอ แล้วเป็นเมียต้องทำอะไรบ้าง” เขายืนไขว้ขาพิงผนังรอฟังคำตอบ หญิงสาวทำท่าครุ่นคิดเพียงครู่ก่อนจะขยับปากพูด “ดูแลบ้าน ทำอาหาร ดูแลสามี ประมาณนี้มั้งคะ” “เธอทำแค่สองอย่างแรก ส่วนฉันโตแล้ว ดูแลตัวเองได้” “ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา ดีซะอีก หนูจะได้สบาย” วันแรกของการเปลี่ยนสถานะจาก ‘โสด’ เป็น ‘สมรส’ ช่างเป็นอะไรที่น่าจดจำ ดูสิ! เจ้าบ่าวยืนกอดอกมองมาตาเขียวเชียว คนที่พึ่งอาบน้ำเสร็จ ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนุ่มอย่างไม่ใคร่จะสนใจรัชชานนท์นัก พรพระพายหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข่าวสารบนหน้าฟีดข่าวแอปพลิเคชันเฟซบุ๊กเพื่อฆ่าเวลา “ใครอนุญาตให้เธอพาสมุนเข้ามาสุมหัวในห้องนอนฉัน” เจ้าของตุ๊กตาเน่าช้อนตาขึ้นมองเล็กน้อย “อะไร?” เธอไม่เข้าใจว่ารัชชานนท์หมายถึงอะไร “เก็บพวกตุ๊กตาเน่าๆ ของเธอออกไปจากเตียงฉัน!” เสียงเข้มสั่งเฉียบขาด ถ้าเป็นคนอื่นคงร้องไห้หอบตุ๊กตาแสนมุ้งมิ้งวิ่งออกจากห้องหอไปแล้ว แต่เธอ.. “ไม่! นี่ก็เตียงหนูเหมือนกัน ถ้าไม่พอใจ เชิญไสหัวไปนอนที่อื่น” อื้อฮือ! คืนแรกของการเข้าหอ ทำไมมันบัดซบอย่างนี้วะ สเปคสาวในฝันของเขาต้องเป็นผู้ใหญ่ นิ่ง เงียบ เฉียบ และเก่ง ไม่ใช่เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม มีสมบัติเป็นตุ๊กตาเน่าที่มองยังไงก็ไม่เห็นถึงความน่ารักของมันสักนิด ทั้งขาดทั้งเก่า แหล่งสะสมเชื้อโรคชัดๆ! เขาจ้องหน้าเจ้าสาวที่อายุน้อยกว่าเกินหนึ่งรอบ “อย่าท้าทายอำนาจฉัน!” ปากอิ่มเบะอย่างไม่เกรงกลัว “อำนาจ อำนาจอะไร? ทำไม.. พี่จะปล้ำหนูเหรอ” ดวงตากลมโตฉายแวววิบวับ แมวยั่วสวาทเข้าประทับร่างเจ้าสาวป้ายแดง “เอาสิคะ หนูชอบ อยากได้อยากโดนอะ” ดวงตาคมแข็งกร้าว เขาจ้องเธอราวกับอยากจะฆ่าให้ตายเสียเดียวนั้น “ฉันไม่เคยคิดจะเอาเด็กแบบเธอมาทำเมีย จำไว้!” เจ้าสาวป้ายแดงมองสามีที่กำลังชี้นิ้วด่าเธอ เอ้อ! แล้วใครอยากจะได้หมอแก่ๆ หนังก็ยาน แถม ‘ไอ้นั่น’ ก็ไม่รู้ว่าเหี่ยวจนหมดประสิทธิภาพแล้วหรือเปล่า จำยอมแต่งงานเหมือนกันละวะ ชิ! “อะไร! จะพูดอะไรก็พูดมา อย่ามาด่าฉันทางสายตาแบบนั้น” ไม่ไหวแล้วโว้ย! แต่งงานคืนแรกแทนที่เจ้าบ่าวจะจูบรับขวัญเจ้าสาวอย่างทะนุถนอม นี่อะไรกัน! เจ้าบ่าวชี้หน้าด่าเจ้าสาวอย่างกับเกลียดกันมาเป็นชาติ เดี๋ยวแม่ก็กัดนิ้วขาดซะหรอก “เอ้อ! นี่ก็อยากจะแต่งตายแหละ มีผัวทั้งทีได้มาซะแก่ขนาดนี้ อีกไม่กี่ปีก็ตาย ทั้งเหี่ยวทั้งยาน” นิ้วเรียวยาวชี้หน้าเธอ รัชชานนท์โกรธจนหน้าสั่น ถามว่ากลัวไหม ตอบเลยว่าไม่! อื้อฮือ.. ยัยเด็กนี่! “เธอ!” “ทำไมคะ หรือหนูพูดผิดตรงไหน” ขิงก็ราข่าก็แรง ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมลงให้ใคร “ฉันอายุสามสิบหก ยังไม่แก่และที่สำคัญฉันยังไม่ยานโว้ย!” ยัยเด็กบ้านั่นทำปากขมุบขมิบ แม้จะจับใจความคำพูดไม่ได้ แต่แววตาของพรพระพายฟ้องว่าเธอกำลังล้อเลียนเขา เรียวปากอิ่มเม้มเป็นเส้นตรงอย่างคนกลั้นขำ “เธอเป็นบ้าอะไร” “คนบ้าที่ไหนจะน่ารักเหมือนเมียล่ะคะสามีขา” เฮ้ย! พรพระพายกำลังจะทำอะไร เจ้าหล่อนลุกขึ้นแล้วเดินตรงมาหาเขาทำไม “หยุดเดี๋ยวนี้นะ เธอทำบ้าอะไร!” หญิงสาวทำตาปรือจือปาก แล้วเดินต้อนเขาเรื่อยๆ จนกระทั่ง.. ปัง! เสียงปิดประตูห้องนอนดังสนั่นจนกลัวว่าข้างห้องที่กำลังนอนหลับอย่างสบายอุราอาจจะลุกขึ้นมาตะโกนด่าก็เป็นได้ “เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะกวาง!” เจ้าสาวป้ายแดงยิ้มอย่างผู้ชนะ ถึงรัชชานนท์จะเป็นเจ้าของห้อง แต่ยังไงซะเธอก็ได้ชื่อว่าเป็นเมีย เขาต้องรู้จักให้เกียรติมากกว่านี้ไม่ใช่อยากพูดอะไรก็พูด หรือนึกจะด่าจะว่ายังไงก็ได้ นี่แค่ยกแรกนะสามี พี่กับหนูยังต้องอยู่ฟัดกันอีกนานนน...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม