คนรับใช้…
ใช่… หูผมไม่ฝาด
ฟังดูช่างหดหู่ ตำแหน่งนี้คือสถานภาพใหม่สดๆ ร้อนๆ ของผมที่ทำเอาผมอยากจะร้องไห้ออกมา แต่ผมก็บอกตัวเองว่าต้องทำให้ได้ เมื่อรับข้อตกลงของเจ้าหนี้มาแล้ว
“เอ็งนอนห้องนี้นะไอ้หนู… ”
ลุงแสงเปิดห้องเล็กๆ ให้ดู หันมามองผมด้วยสายตาเอ็นดู
เอาวะ… อย่างน้อยนอกจากคุณเจมส์ใจร้ายกับลูกสมุนหน้าเหี้ยมพวกนั้น ผมก็ยังได้เห็นแววตาใจดีของผู้ชายในบ้านหลังนี้…
“เห็นแล้วเป็นไง… เอ็งอยู่ได้นะ… ”
ลุงแสงถามยิ้มๆ ผมมองหน้าลุงแสง นึกชื่นชมว่าแก่แล้วแต่ยังหล่อมาก โดนเฉพาะหุ่นบึกบึนกำยำมากจนผมนึกสงสัยว่าคนที่จะเข้ามาทำงานในคฤหาสน์หลังนี้ได้ต้องมีคุณสมบัติสองข้อที่เด่นชัดคือ ‘หล่อ’ และ ‘ล่ำ’
“ได้ครับลุง… ”
ผมตอบ อันที่จริงผมน่าจะตอบว่าไม่ได้ก็ต้องได้ ผมเดินเข้ามาด้านใน แลไปรอบๆ ห้อง…
แม้จะเป็นเพียงห้องเล็กแต่ก็มีหน้าต่างที่หัวนอน มีตู้และเตียงจัดเอาไว้พร้อม สภาพโดยรวมดูค่อนข้างมิดชิดปลอดภัย สรุปง่ายๆ ว่ามันดูดีกว่าห้องนอนที่บ้านของผม
ผมได้คุยกับลุงแสง…
จึงรู้ว่าแกเป็นหัวหน้าคนรับใช้ในบ้านหลังนี้ ลุงแสงแจกแจงหน้าที่รับผิดชอบให้ฟังว่าคนใช้ในบ้านหลังนี้จะต้องทำงานอะไรบ้างในแต่ละวัน
จากนั้นลุงแสงก็พาผมเดินดูหลายๆ จุดในบ้าน
“ที่นี่มีนายหลายคน นายท่านพักอยู่เรือนไม้สักหลังใหญ่โน่น ส่วนคุณเจมส์อาศัยอยู่ในเรือนทางปีกขวา พื้นที่ด้านในถ้าไม่มีใครเรียกใช้… เอ็งก็ไม่ควรย่างกรายเข้าไปยุ่มย่ามอย่างเด็ดขาด… จำไว้… ”
ลุงแสงอธิบายคร่าวๆ…
ผมเห็นว่ามีบางอย่างซึ่งเป็นเรื่องแปลกของบ้านหลังนี้ จึงเอ่ยถามออกมาโดยลืมคิดว่าอาจจะเป็นการละลาบละล้วง
“แล้วที่นี่ไม่มีคนงานผู้หญิงเลยหรือครับลุง… ”
ที่ต้องถาม…
ก็เพราะผมสังเกตเห็นว่าคนรับใช้ที่เดินผ่านไปมาล้วนเป็นผู้ชายหล่อล่ำทั้งนั้น
ทุกคนสวมชุดฟอร์มคนใช้เหมือนกันหมด คือเสื้อผ้าฝ้ายคอกลมสีขาว แขนสั้น มีกระดุมยาวลงไปตลอดแนวสาบเสื้อ และช่วงล่างเป็นกางเกงขาก๊วยสีน้ำตาล
“ใช่… คฤหาสน์หลังนี้มีแต่ผู้ชาย… ”
ลุงแสงตอบเพียงสั้นๆ…
จากนั้นก็พากันเดินกลับมาที่เรือนคนใช้ ผมรู้สึกประหลาดใจกับประโยคที่ว่า ‘ในคฤหาสน์หลังนี้มีแต่ผู้ชาย… ’
สิ่งที่ได้ฟังจากปากของลุงแสง…
ไม่ได้ช่วยไขข้อสงสัยทั้งหมดของผม แต่ผมก็ไม่กล้าซักว่าเพราะเหตุอันใด ทำไมบ้านหลังใหญ่แห่งนี้จึงไม่มีผู้หญิง
เมื่อไม่กล้าถาม… ผมจำต้องเก็บงำความสงสัยไว้เพียงลำพัง
เพียงไม่นานที่ได้เข้ามาอยู่ภายในอาณาบริเวณของคฤหาสน์หลังนี้ ผมยิ่งรู้สึกได้ว่าเบื้องหลังกำแพงอิฐสีเทาสูงตระหง่านโอบล้อมคฤหาสน์แห่งนี้… จะต้องมีความลับบางอย่างซุกซ่อนเอาไว้… จู่ๆ ความหวาดกลัวก็จู่โจมหัวใจผม
แต่เอาเถอะ… เข้ามาแล้ว จะถอยง่ายๆ ได้ยังไง ผมนึกปลอบตัวเองอยู่ใน
ในเวลาต่อมา
ตอนเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น…
ขณะที่ลุงแสงกำลังยกถาดกาแฟและเครื่องดื่มสมุนไพรมาเสิร์ฟให้กับนาย ‘คีรี’ ชายสูงวัยอายุหกสิบกว่าปีที่ทุกคนในคฤหาสน์เรียกว่า ‘นายท่าน’
“ไอ้แสง… นั่นเด็กที่ไหนวะ… ”
นายท่านคีรีถามลุงแสงที่กำลังก้มลงวางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะ
“เด็กคนนี้ชื่อไอ้ชลล์ครับนาย… เป็นลูกชายของลูกหนี้ที่คุณเจมส์เอามาเป็นคนรับใช้เพื่อขัดดอกครับ”
ผมเห็นลุงแสงเหลือบมองมาที่ผม ตอนนั้นกำลังถือสายยางรดน้ำต้นไม้ในแปลงกุหลาบ ไม่ไกลจากจุดที่นายท่านคีรีกำลังนั่งดื่มกาแฟ
“รูปร่างดี… ไอ้เจมส์นี่มันตาถึงนะ… ”
นายท่านคีรีจ้องมองมาที่ผมอย่างให้ความสนใจจนผมรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ
“ไอ้แสง… ”
เสียงนายท่านคีรีเรียกลุงแสง แต่สายตายังไม่ละจากผม
“ครับนาย… ”
ลุงแสงรับคำ
“ไอ้เด็กคนนี้มันหน้าตาดีนะ… อีกเดี๋ยวมึงสั่งให้มันขึ้นมานวดให้กูหน่อย… มาที่ห้องกูเลยนะ… ”
นายท่านคีรียกด้วยกาแฟขึ้นซด ตาจ้องเขม็งมาที่ผม ตอนนั้นผมแกล้งทำไม่รู้ ทั้งที่แอบรู้สึกตกใจ ยืนรดน้ำต้นไม้ต่อไปเหมือนไม่ได้ยินที่ลุงแสงกับเจ้าของคฤหาสน์พูดคุยถึงตัวผม
ในเวลาต่อมา
เกือบยี่สิบนาทีผ่านมา ผมรู้สึกตกใจ เมื่อรู้จากลุงแสงว่าจะต้องขึ้นไปรับใช้นายใหญ่ของบ้าน
“นวด… เอ่อ… ผมไม่เคยนวดนะครับ… ”
ผมแสดงสีหน้ากังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด รู้สึกหนักใจ แต่ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง
“ก็นวดเท่าที่เอ็งจะนวดได้… ไม่ต้องกลัวอะไรนัก… ไม่มีอะไรยากเย็นหรอกน่ะ จำเอาไว้ว่าแค่ตามใจนายท่านแล้วทุกอย่างจะง่ายขึ้นมาก… ”
ลุงแสงพูดแปลกๆ…
จากนั้นก็พาผมไปส่งยังเรือนไม้สักทองหลังใหญ่ ซึ่งเป็นที่พักของนายท่านคีรี
ครู่ต่อมา
“นายครับ… ผมพาเด็กมาส่งครับ… ”
เมื่อบานประตูไม้หน้าห้องเปิดออกมา ลุงแสงกล่าวพลางค้อมศีรษะแสดงความนอบน้อมให้ผู้เป็นนายที่เดินมาเปิดประตู ตอนนั้นผมยืนอยู่ข้างหลังลุงแสง ตัวลุงแสงใหญ่มากจนบังร่างน้อยๆ ของผมได้มิด
“เข้ามาเลย… ”
นายท่านคีรีกล่าว…
ผมแอบเห็นว่าเขาจ้องมองใบหน้าของผมอย่างให้ความสนใจ ขณะที่ลุงแสงก้าวออกไปจากห้อง
“เอ่อ… ลุง… ”
ผมเหลียวหลังกลับมามองลุงแสงที่กำลังจะจากไป พยายามเหนี่ยวรั้งไว้ด้วยสายตา
แต่ไม่เป็นผล…
ลุงแสงทิ้งผมไว้เพียงลำพังสองต่อสองกับนายใหญ่ของคฤหาสน์
“อายุเท่าไรแล้วเรา… ”
นายท่านคีรีถามเมื่อผมเข้ามาในห้อง เอื้อมมือข้างหนึ่งมาเชยคางของผม เพ่งมองสำรวจใบหน้าของผมอย่างให้ความสนใจ
“ยี่สิบครับ… ”