ผมตอบพลางจ้องตากับนายท่านผู้เป็นเจ้าของบ้าน ยอมรับว่าตะลึงมองใบหน้าหล่อเหลาคมคร้ามและเรือนร่างสูงใหญ่สะดุดตา
แม้ว่านายท่านคีรีคนนี้จะอายุหกสิบกว่า แต่ยังดูสมาร์ทและหล่อเหลาอย่างเหลือเชื่อ จมูกโด่งเป็นสันสวย คิ้วสีดอกเลาเป็นแพหนา ริมฝีปากหยักสวย
แต่อาจเป็นเพราะเบ้าตาที่ลึก จึงดูน่ายำเกรง และแผงหนวดสีดอกเลาเป็นแพหนาคาดไว้เหนือริมฝีปากนั่นเอง… ที่ทำให้ชายผู้นี้ยิ่งดูน่าเกรงขาม
“น่ารักนะเรา… ”
นายท่านคีรีชมออกมาตรงๆ ค่อยๆ ถอดเสื้อของตัวเองจนเหลือแต่กางเกงแพร อวดเรือนร่างกำยำล่ำสันไปด้วยมัดกล้าม
“ผิวดีมาก… ”
นายท่านชม…
ก่อนจะทำให้ผมตกใจเพราะมือใหญ่ค่อยๆ เอื้อมมาไล้ลูบอกผม
ผมพยายามเบือนหน้าหนีมืออีกข้างที่ไล้ลูบแก้มข้างหนึ่งของผมเบาๆ
“ผิวขาวจั๊วะและตูดงอนๆ แบบนี้กูชอบนัก… ”
นายท่านคีรีกระตุกยิ้ม มองผมด้วยสายตาของสัตว์นักล่าที่กำลังมองเหยื่อ
“มานี่… ”
นายท่านสั่งเสียงเข้ม…
โอบเอวผมขึ้นมานั่งลงบนเก้าอี้ที่มีรูปทรงประหลาด มองดูเผินๆ มันเหมือนเก้าอี้สำหรับนั่งตัดผมแบบโบราณทั่วไป ก่อนจะมารู้ในภายหลังว่าเขาเรียกมันว่า ‘เก้าอี้นายพราน’
“นั่งลง… วางเท้าไว้ตรงนี้… วางมือไว้ตรงนี้”
เขาสั่งอีก… ผมตกใจ ทว่าใบหน้าเข้มดุและน้ำเสียงทรงอำนาจของนายท่าน ก็ทำให้ผมยอมทำตามอย่างว่าง่าย
และในทันทีที่วางเท้าลงบนที่เหยียบและวางมือทอดลงไปตามความยาวของพนักเก้าอี้ จู่ๆ ก็มีเสียงดังแกร่กของเหล็กที่ดีดตัวออกมาโค้งรัด ล็อกข้อมือและข้อเท้าของผมด้วยกลไกอันน่าทึ่ง
“ห๊ะ… นี่มันอะไรกันครับ… ”
ผมตกใจมาก นึกในใจว่านี่กูจะโดนอะไร
“ไม่ต้องกลัวหรอกน่ะ… มันก็แค่เกม… เกมของเราสองคน… ”
นายท่านคีรีกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบเครือ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกใจเต้นกลัว
จากนั้นนายท่านคีรีเดินเข้าไปยังอีกห้องที่อยู่ติดกัน ทิ้งให้ผมนอนใจเต้นระทึกอยู่บนเก้าอี้นายพราน มือและเท้าถูกพันธนาการจนไม่อาจขยับเขยื้อนได้
เวลาผ่านไปครู่สั้นๆ…
แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันยาวนานมากสำหรับคนที่ตอนนี้มีสภาพเหมือนนักโทษ นอนนอนอยู่บนเก้าอี้โดยไม่รู้ชะตากรรม
ผมข่มความกลัว… ด้วยการกวาดสายตาสำรวจไปรอบๆ ห้องนอนกว้างใหญ่ ผนังทุกด้านทาด้วยสีเทาเข้มเกือบดำ มลังเมลืองไปด้วยแสงไฟของดวงโคมระย้าลงมาจากเพดานสูง ข้างฝาผนังด้านหนึ่งมีหัวกวางเขายาวโง้งประดับไว้ ดวงตาคล้ายลูกแก้วสีใสวาววับ ราวกับกำลังจ้องมาที่ผมเหมือนสมน้ำหน้าที่พลาดเอาตัวเองเข้ามาอยู่ในสถานที่คล้ายโรงเชือดแห่งนี้
“บ้าเอ๊ย… ”
ผมสบถออกมาเบาๆ ขณะที่ภายในใจกำลังเต้นแรงระทึก รู้สึกหวาดกลัวและตื่นเต้นกับสิ่งที่ตัวเองกำลังจะได้เจอในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
“เดี๋ยวข้าจะทำให้เอ็งสนุก… ”
เมื่อเดินกลับเข้ามา นายท่านคีรีกล่าว สืบเท้าเข้ามาใกล้ เอื้อมมือเข้ามาเชยคาง พินิจใบหน้าผม
“น่ารักแบบนี้ป๋าชอบ… ”
นายท่านคีรีค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อของผมออกทีละเม็ดแล้วแหวกออกจากกัน
แคว่ก…
“อ๊ะ… ”
ผมตกใจ ไม่คิดว่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้
“ผิวขาวเนียนแบบนี้ป๋าชอบ… ”
นายท่านคีรีตาวาว จ้องมองเนินอกของผมที่อวดความเกลี้ยงเกลาขาวเนียน สะท้อนกับแสงไฟสีเหลืองนวลสาดลงมาจากเพดาน
นายท่านเอามือกดสวิตช์ที่ด้านข้างของเก้าอี้ ทำให้ขาผมแยกออกจากกัน จากนั้นแทรกลำตัวเข้ามายืนตรงกลาง คว้ากรรไกรคมวับที่วางอยู่บนโต๊ะข้างๆ กันนั้น เอามาตัดกางเกงของผมออกทีละชิ้นอย่างใจเย็นจนไม่เหลือชิ้นดี
“อ๊ะ… ”
ผมตกใจ จ้องมองกางเกงขาสั้นที่โดนตัดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนไม่เหลือสภาพ
ตอนนี้ทั้งตัวของผมเหลือแค่เพียงกางเกงในตัวเดียวปกปิดอวัยวะเพศเอาไว้
“ไม่นะครับนายท่าน… ”
ผมเรียกคุณคีรีตามที่ลุงแสงบอก กรรไกรแหลมคมกำลังขยับเข้ามาตรงกึ่งกลางกายของผม
“ถ้าไม่อยากเจ็บก็อยู่นิ่งๆ… ”
ปลายแหลมของกรรไกรค่อยๆ สอดเข้ามาที่ขอบกางเกงในด้านข้าง เกี่ยวขึ้นมาแล้วตัดฉับเดียวมันก็ขาดออกจากกัน
จากนั้นสลับมาตักที่ขอบอีกข้างแล้วเอามือดึง เปิดออกอย่างใจเย็น เผยให้เห็นหนอนน้อยของผมที่กำลังขดตัวจนดูเล็กมากเหมือนลูกหนูตัวแดงๆ ที่ขนยังไม่ขึ้น ขดตัวอยู่ในพงหญ้าสีดำ
“ว้าว… น่ารักเชียว… ”
นายท่านเอานิ้วยาวเขี่ยหนอนน้อยของผมพลิกไปมา นิ้วของนายท่านใหญ่กว่าน้องชายผมอีก
นายท่านเขี่ยหนอนน้อยของผมต่อมาอีกอึดใจ จากนั้นก็หันไปถอดกางเกงแพรของตัวเองแล้วงัดอนาคอนดาใหญ่ยักษ์ออกมาโชว์
“โห… ”
ผมอุทานด้วยความตกใจ จ้องมองลำเอ็นยาวใหญ่ที่คิดว่าจะมีแต่ในหนังโป๊ วันนี้ได้มาเห็นของจริงเต็มตา
“งืออออ… ไม่นะครับ… ”
ผมอุทานออกมาด้วยความกลัว…
นายท่านคีรีเอื้อมมือมากดสวิตช์ที่ข้างเก้าอี้อีกครั้ง คราวนี้มันดันเข่าสองข้างของผมจนง่ามขาแบะอ้าขึ้นมาเป็นรูปตัวเอ็มชิดลำตัว ง่ามขาแบะอ้าจนเห็นรูทวารขมิบเป็นจีบ
“โอ๊ว… อย่าบอกนะว่ายังซิง ว้าว… รูยังเป็นสีชมพูอยู่เลย… ยังไม่เคยโดนทะลวงตูดใช่ไหม… ”
หัวคิ้วของนายท่านชิดเข้าหากัน ตาจ้องมองรูน้อยๆ ของผมอย่างประหลาดใจ
“ไม่เคยครับ… อย่าทำแบบนี้นะครับ… ผมไม่ใช่เกย์ครับ… ท่านเข้าใจผิดแล้ว… ผมไม่ได้เป็นอย่างที่ท่านเข้าใจ… ”
ผมพยายามหาเหตุผลมาหยุดยั้งความอุบาทว์ที่เจ้าของคฤหาสน์กำลังจะยัดเยียดให้
“เป็นหรือไม่เป็นนั่นไม่ไม่เกี่ยว… เอาเป็นว่าถ้าเราเสียว… เรามีความสุข… มันก็คือความสุข… ไม่เห็นจะต้องแบ่งแยกว่าเป็นแบบนั้นเป็นแบบนี้… ”
นายท่านคีรีสรุปราวกับว่าสิ่งที่กำลังจะทำกับผมนั้นเป็นเรื่องธรรมดา
“แต่ผมไม่มีความสุขแน่ๆ… ผมไม่ใช่… และผมก็ไม่ชอบ… ผมมีแฟนครับ… ”