ตอนที่ 2 หย่ากับข้าเถอะ

2505 คำ
เรือนบุปผาเริงลม “ฮูหยินรู้ตัวหรือไม่ว่าท่านกล่าวอันใดออกไป ท่านก็ทราบภรรยาที่ถูกสามีหย่าขาดจะมีชีวิตที่ดีได้เยี่ยงไร คุณหนูนมว่าท่านไปอธิบายกับท่านแม่ทัพดีหรือไม่ ท่านกับท่านแม่ทัพมีความรักที่ลึกซึ้งต่อกันมาก่อน นมเชื่อว่าถ้าฮูหยินอธิบายด้วยเหตุผลท่านแม่ทัพต้องเชื่อท่านแน่เจ้าค่ะ" เพียงได้ฟังประโยคนั้นจากแม่นมเถียน ฟ่านเหยาเหยาถึงกับหัวเราะออกมาไม่หยุด เหมือนจะประชดชีวิตตัวเองในขณะนี้ “ถ้าหากบุรุษไม่มากภรรยาปัญหาเหล่านี้จะเกิดขึ้นหรือ การแก่งแย่งความรักของสตรี ก็เพียงเพื่อให้ได้ความรักจากบุรุษเพียงคนเดียว ช่างน่าขันสิ้นดี ข้าได้คิดไตร่ตรองมาดีแล้ว แม่นมอย่าได้กังวลเลย ถึงอย่างไรไม่ช้าเร็ววันนี้ก็ต้องมาถึง ข้าทำใจไว้แล้ว” ตั้งแต่ที่นางทราบว่าเขารับอนุภรรยานางก็เตรียมใจเรื่องนี้ไว้แล้วจริงๆ ถึงอย่างไรนางฟ่านเหยาเหยา จะไม่ยอมใช้สามีร่วมกับสตรีอื่นเป็นอันขาด หย่าขาดแล้วอย่างไร ชีวิตหลังหย่าขาดแล้วอย่างไร ภรรยาที่โดนสามีหย่าแล้วอย่างไร นางหาได้สนใจไม่ นางถือคติเหมือนกับผู้หญิงในยุค 2020 ‘ผู้ชายก็แค่เอคเซสซารี่จะมีหรือไม่มีก็ได้จ๊ะ’ ขอแค่นางมีเงินเลี้ยงตัวเองได้นางจะกลัวอะไร ซื้อชายงามมาไว้ข้างกายสักสองสามคนจะเป็นไร นางไม่ได้แคร์ ในเมื่อผู้มันไม่รักดี ก็หาใหม่!!! หากเแม่นมเถียนได้ยินความคิดของนางตอนนี้มีหวังเป็นลมล้มพับไปแล้วเป็นแน่ ฟ่านเหยาเหยาถือเป็นเศรฐินีผู้หนึ่ง เนื่องจากนางมีกิจการมากมาย ทั้งค้าอาวุธที่นางคิดค้นขึ้นมาเองโดยใช้ความรู้จากโลกสมัยใหม่ โดยใช้ชื่อผู้อื่นบังหน้า เพื่อปกปิดไม่ให้ใครทราบ และนางยังมีกิจการเหลาอาหาร ร้านยาสมุนไพรหายาก เครื่องประดับ เสื้อผ้า และอื่นๆ อีกมากมายซึ่งทั้งหมดนั้นนางก็ได้ประยุคความรู้จากโลกสมัยใหม่มาใช้ทั้งสิ้น ในเมื่อนางรวยขนาดนั้น นางจะต้องกลัวอดตายด้วยหรือ มันเป็นเพียงค่านิยมที่ภรรยาต้องมีสามีคอยดูแลปกป้อง อย่างหนึ่งนั้นก็มาจากความโปรดปรานที่เขามอบให้ ว่าจะให้สมบัติมากน้อยต่างกัน ในเมื่อนางสามารถหาเงินได้เองเช่นนี้ก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องให้ความสนใจกับบุรุษเหล่านั้นเลย? นางมีความรู้ในเรื่องพิษเป็นอย่างดีมากผู้หนึ่ง ถือว่าเป็นปรมาจารย์ในเรื่องพิษได้เลยในโลกก่อนหน้า นางต้องทดสอบพิษทุกชนิด เพื่อใช้ในอาชีพสายลับ การต่อสู้ก็ถือว่าเป็นยอดฝีมือผู้หนึ่ง จะเรียกได้ว่านางเข้ามาอยู่ในร่างของฟ่านเหยาเหยา แบบพกพาความสามารถมาครบครัน แต่เพียงแค่กลัวว่าความสามารถเหล่านี้จะทำให้ผู้อื่นเกิดความสงสัยเอาได้ นางจึงไม่แสดงออกมาให้ใครเห็นก็เท่านั้น ฟ่านเหยาเหยาเป็นเพียงสตรีในห้องหอ จะมีความสามารถมากมายขนาดนั้นได้อย่างไร แม้ความสามารถในการต่อสู้ของนางนั้นถือว่ายอดเยี่ยม แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับการต่อสู้ในสมัยโบราณนี้ เพราะว่านางยังไม่มีการฝึกพลังลมปราณนางจึงไหว้วานให้พี่ชายทั้ง 2 คนของนางเป็นผู้ฝึกวิทยายุทธ์ให้ หลังจากพากเพียรฝึกอยู่นาน ในตอนนี้ถือว่านางเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์คนหนึ่ง เพราะได้รับการเคี่ยวเข็ญจากพี่ชาย ในตอนที่นางเจอโจรป่าทำร้าย แล้วท่านแม่ทัพมาช่วยนั้น นางคิดว่านางสามารถต่อกรกับโจรป่าได้ด้วยตัวเองแต่เผอิญว่าท่านแม่ทัพมาช่วยก่อน นางจึงต้องการให้เขาแสดงฝีมือ เป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยหญิงงาม ในตอนนั้นถือว่าท่านแม่ทัพเหยียนเชี่ยหลงเป็นคนดี เขาได้แสดงให้นางเห็นแล้วว่าความรักที่เขามีให้กับนางนั้นคือความจริงเขามีความจริงใจต่อนาง แต่ใครจะไปคาดคิดเล่าว่าเมื่อเวลาผ่านไป ความรู้สึกของคนเราก็จะเปลี่ยนไปด้วย ในเมื่อเขาคิดว่า การที่นางแต่งให้เขาแล้ว จะต้องผูกติดอยู่ที่เขาไม่สามารถเปลี่ยนใจไปได้ นั่นถือว่าเป็นการคิดที่ผิดแล้วเพราะว่านางจะไม่ยอมเป็นเช่นที่เขาคิดเด็ดขาด ผู้หญิงยุค 2020 ไม่ง้อผู้ เมื่อพูดแล้วนางจึงวางแผนการเพื่อที่จะทำการหย่าขาดจากเขา ในเมื่อนางมอบความรักให้กับเขาไป แต่เขาไม่ต้องการไม่รักษามันไว้ทำลายความเชื่อใจที่นางมีให้เพราะฉะนั้นหลังจากนี้เขาจะได้รู้จักกับคำว่าเสียดายมันสะกดเช่นไร หลังจากที่เหยียนเชี่ยหลง ออกมาจากห้องของหลี่ชิงชิงแล้ว เขาก็ตรงไปยังห้องของฮูหยินเอกทันที และตอนนี้ก็ถือว่าเป็นเวลาดึกมากแล้ว ฟ่านเหยาเหยาได้เข้านอนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประตูห้องของนางพลันถูกเปิดออกอย่างแรง ทำให้ฟ่านเหยาเหยาสะดุ้งตกใจตื่นขึ้นมา แต่เมื่อพบว่าเป็นผู้ใดที่บุกเข้ามาในห้องของนาง นางก็ต้องตกใจเล็กน้อย เขาจะมาทำอะไรที่ห้องของนางในเวลานี้ ไม่ใช่ว่าเขาต้องไปปลอบใจอนุภรรยาคนโปรดของเขาหรือ? “ออ นึกว่าใครที่แท้ก็ท่านแม่ทัพเหยียนเชี่ยหลงนี่เอง” แม้แต่สรรพนามที่นางเคยใช้เรียกเขาก็เปลี่ยนไป หลังจากที่เขากลับมาจากชายแดนความสัมพันธ์ของเขาและนางถือว่าย่ำแย่ลงไปมาก นางตั้งป้อมไม่ยอมฟังเขาอธิบาย และไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้ เมื่อเขากลับมาจากค่ายทหารก็มักจะมีบ่าวรับใช้มาแจ้งแก่เขาเสมอว่านางชอบลงไม้ลงมือทุบตีทำร้ายหลี่ชิงชิงประจำ แล้วอย่างนี้จะให้เขาทำเช่นไร นางเปลี่ยนไปมาก จากที่แต่ก่อนถึงจะไม่อ่อนหวานอย่างเช่นคุณหนูในห้องหอทั่วไป แต่นางก็ไม่ได้ใจคอโหดร้ายหรือทุบตีทำร้ายผู้ใดได้ ในตอนแรกเขาก็ไม่เชื่อ แต่พอเขาเจอหน้าหลี่ชิงชิงทีไรนางมักจะมีรอยช้ำตามร่างกายเสมอ พอถามนางก็มักจะบอกว่าป็นเพราะนางเดินไม่ระวังชนนั่นชนนี่ เขาจะเชื่อได้เช่นไร เขาจึงไปถามความจากพ่อบ้านหง ซึ่งเป็นพ่อบ้านประจำตระกูลก็บอกตามที่บ่าวรับใช้บอกกับเขาเช่นเดียวกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เขาไม่มีทางทราบเลยว่าฟ่านเหยาเหยาโดนใส่ร้าย นางไม่เคยแม้แต่จะเหยียบย่างเข้าไปในตำหนักของอนุหลี่ชิงชิงด้วยซ้ำ แต่ที่ทุกคนเข้าใจเช่นนั้นก็เพราะว่าหลี่ชิงชิงใช้แผนการหลอกล่อฟ่านเหยาเหยาให้ลงมือกับนางครั้งแล้วครั้งเล่าต่างหาก ทั้งทีความเป็นจริงนั้นฟ่านเหยาเหยาทราบอยู่แล้ว ว่าเป็นแผนการยั่วโมโหของหลี่ชิงชิงเพียงเท่านั้น แต่นางก็คร้านที่จะสนใจ ในเมื่ออยากให้นางทำร้ายนางก็จะทำ ดีสะอีก ได้ลงไม้ลงมือตบตีคนที่นางเกลียด ไยนางจะไม่ทำ นางไม่ได้สนใจว่าเหยียนเชี่ยหลงจะมองนางเช่นไร หากเขายังมีความเชื่อใจนาง เขาต้องมาถามความจากนาง เขาต้องเชื่อใจนางแต่ทุกครั้ง เขาเลือกที่จะเชื่อหลี่ชิงชิง และกล่าวโทษนางทุกครั้งไป นางก็คร้านจะไปใส่ใจว่าเขาจะคิดเช่นไรเหมือนกัน ในเมื่อความรักความใส่ใจที่เขามีให้นางมันแปรเปลี่ยนไป นางก็ไม่อยากทนอีกต่อไป พอคิดได้เช่นนั้นความรู้สึกที่นางมีให้เขาก็เริ่มเปลี่ยนไป... “เจ้าคิดว่าแต่งเข้ามาในตระกูลเหยียนแล้วจะออกไปได้ง่ายๆ เช่นนั้นหรือ ในวันนี้ข้ากับเจ้าต้องมาคุยกันให้กระจ่าง เหตุใดการที่บุรุษมีสามภรรยาสี่อนุ สำหรับเจ้ามันถึงเป็นเรื่องที่ผิด” ใบหน้าของเหยียนเชี่ยหลงมืดครึ้ม และเต็มไปด้วยความดุดันในขณะที่กล่าวออกมา เขาจ้องมองไปที่ใบหน้าฮูหยินเอกของตนเองอย่างคาดโทษ “ท่านแม่ทัพเหยียนเชี่ยหลงท่านคงลืมไปแล้ว ก่อนที่ข้าจะแต่งให้ท่านนั้น ข้าได้ขอท่านเพียงแค่หนึ่งอย่างนั้นก็คือ ข้าไม่สามารถใช้สามีร่วมกับสตรีอื่นได้ และท่านก็ได้สัญญากับข้า หากท่านผิดคำสัญญาท่านพร้อมที่จะปล่อยข้าเป็นอิสระ คำสัญญาข้อนี้ที่ท่านเคยให้ไว้กับข้าหรือว่าท่านลืมไปแล้ว” นางจ้องตาเขานิ่งงันไม่หลบสายตา นี่หรือคือคำกล่าวของชายที่ได้ขึ้นชื่อว่ารักนางสุดหัวใจ จะปกป้องนางจนกว่าชีวิตจะหาไม่? โกหกทั้งเพ เขาพูดมาได้เยี่ยงไร บุรุษมีสามภรรยาสี่อนุถือว่าเป็นเรื่องปกติ นางมองเขาอย่างเจ็บปวด ก่อนที่จะกล่าวต่อ “ในเมื่อข้านี้เป็นสตรีที่ใจคอคับแคบ ไม่ปฏิบัติตามหลักสามเชื่อฟังสี่จรรยาตามที่สตรีทั่วไปปฏิบัติ เช่นนั้นท่านก็เขียนหนังสือหย่าให้ข้าตามที่ได้ตกลงกันไว้เถิด” เหยียนเชี่ยหลงมองเห็นความแน่วแน่ในดวงตาของนาง พลันจิตใจก็เริ่มอยู่ไม่เป็นสุข นี่นางต้องการหย่ากับเขาจริงๆ หรือ เขาไม่คิดเลยว่านางจะทำจริง เขาเพียงคิดว่านางโกรธเขาก็เท่านั้น ไม่ว่านางจะทำอะไรเขาจึงทำเพียงหลับตาข้างหนึ่ง และยอมให้นางทำร้ายหลี่ชิงชิงเรื่อยมา แต่วันนี้นางถึงขนาดวางยาพิษอนุหลี่ได้ และนางก็ยังต้องการหย่าขาดจากเขาจริง พลันในใจของเขา เกิดความวูบโหวง ทั้งเสียใจและผิดหวัง ทั้งกรุ่นโกรธ สุดท้ายเขาจึงคว้านางมาจุมพิตอย่างดุเดือด เมื่อนางเริ่มขาดอากาศหายใจเขาจึงยอมผละออก “ในเมื่อเจ้าต้องการหย่าขาดจากข้า งั้นคืนนี้เจ้าก็ทำหน้าที่ของตนเองให้สมบูรณ์เสีย” ไม่เปิดโอกาศให้นางได้กล่าวสิ่งใด เขาก็จูบนางอย่างดุเดือดอีกครั้ง มือหนึ่งก็รั้งท้ายทอยนางไว้ไม่ยอมให้นางดิ้นหลุด จากจูบอันดุเดือด เขาผละจากริมฝีปาก มาที่ซอกคอขาวผ่องของนาง ขบเม้มจนต้นคอขาวผ่องเกิดร่องรอยสีกุหลาบ ในตอนนี้ฟ่านเหยาเหยา รู้แล้วว่าเขาต้องการอะไรจากนาง นางรีบคิดหาทางเอาตัวรอด ว่านางจะหลุดออกจากสถานการณ์นี้เช่นไร ไม่ใช่ว่านางไม่เคยจูบกับเขามาก่อน แต่ทุกครั้งเขาจะมอบจุบพิตที่หวานล้ำ ซึ่งแตกต่างกันกันกับครั้งนี้โดยสิ้นเชิง บ่งบอกอารมณ์ตอนนี้ของเขาได้เป็นอย่างดี เขากำลังโกรธ โกรธแล้วอย่างไรสมควรแล้วหรือที่เขาจะมาทำกับนางเช่นนี้ “ข้าจะทำให้เจ้าเป็นของข้าทั้งกายและใจ เป็นของข้าโดยสมบูรณ์ เจ้าจะได้ไม่คิด จากข้าไปไหนอีก” พูดได้ดังนั้นเขาก็อุ้มร่างนางไปที่เตียงนอน และใช้ร่างหนาของตนคร่อมร่างบางของนางเอาไว้จนนางไม่สามารถดิ้นหลุดไปได้ เหยียนเชี่ยหลงจัดแจงปลดสายคาดเอว และซุกไซร้ซอกคอขาวผ่อง ไล้ลงมาจนถึงเนิกอก เขาดึงเอื้อมบังทรงสีขาวที่ปิดทับหน้าอกของนางขาดออกจากกันอย่างแรง และบีบเคล้นเนินอกของนางอย่างดุเดือด มืออีกข้างก็เลื่อนลงไปข้างล่างกระชากกางเกงนอนของนางขาดติดมือ ในตอนนี้นางไม่มีแม้อาภรณ์ปิดบังร่างกายสักชิ้น ทรวงอกไซค์ 38 เอว 24 สะโพก 35 มันทำให้ท่านแม่ทัพเหยียนเชี่ยหลงตะลึงงันกับรูปร่างของนาง เมื่อเริ่มได้สติ เขาจึงเปลี่ยนจากความดุดันเป็นอ่อนโยน เขาใช้ขบเม้มไปที่ปทุมถันทั้งสองข้างอย่างอ่อนโยนสลับซ้ายขวา ริมฝีปากเปลี่ยนจากขบเม้นเป็นดูดเลียสลับกันไป มืออีกข้างหนึ่งก็เลื่อนลงไปที่เนินบุปผาด้านล่าง พร้อมกับใช้นิ้วแหวกกลีบกุหลาบสองข้างอย่างช้าๆ เนื่องจากกลัวนางจะเจ็บ นี่คือครั้งแรกของนางเขาต้องอ่อนโยน ฟ่านเหยาเหยาที่ถูกเขาใช้นิ้วลุกล้ำ บุปผางามถึงกับสะดุ้งโหยง “อ๊ะ” เมื่อได้ยินเสียงนางร้องขึ้นมา เขาจึงเลื่อนริมฝีปากหนาไปปิดปากนางอย่างดูดดื่ม ลิ้นดุดันควานหาน้ำหวานในโพรงปากอย่างช่ำชอง มือทั้งสองข้างก็ไม่น้อยหน้า ข้างหนึ่งบีบเคล้นทรวงอกจนเนินเนื้อล้นทะลักไปตามง่ามนิ้วอย่างเร่าร้อน อีกข้างก็ใช้นิ้วแหย่เข้าไปในโพรงบุปผาอย่างช่ำชอง จนมีน้ำหวานออกมา เมื่อไม่เห็นท่าทีต่อต้านของนางเขาก็ยิ้มอย่างพึงใจ เหยียนเชี่ยหลงผละจากริมฝีปากของนางมาที่กลีบบุปผางามและก้มลงใช้ลิ้นที่กลีบบุปผา สลับกับนิ้วมือไปมา จนนางครางไม่เป็นภาษา “พอได้แล้วข้าไม่ไหวแล้ว” เหยียนเชี่ยหลงจึงจัดการถอดอาภรณ์ของเขาออก แต่เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่า ‘มังกรของเขาไม่แข็ง’ ‘เกิดอะไรขึ้น’ เขาได้แต่คิดในใจทำไมมันถึงเป็นเช่นนี้ ฟ่านเหยาเหยายกยิ้มอย่างพอใจ เพราะนางแอบทายา ‘ล้มไม่รู้โด่’ไว้ที่ริมฝีปากของนางตอนที่เขาไม่ทันสังเกต นางซ่อนยาไว้ที่ใต้หมอน หญิงสาวค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วบอกกับเขาว่า "ท่านแม่ทัพ สงสัยว่าวันนี้ท่านคงจะไม่พร้อม ท่านกลับไปเถอะ" สายตาของนางยังจดจ้องไปที่ส่วนสงวนนั้นที่มันไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน "เอ่อ คือว่า…… "อยู่นานสองนานก็ไม่มีคำใดหลุดออกมาจากปากของเขา “ท่านมิต้องกังวลไปหรอก ข้าทายาที่ทำให้ท่านไม่สามารถใช้งานได้ที่ริมฝีปาก อีกไม่เกิน 4 ชั่วยามน้องชายของท่านก็จะกลับมาใช้งานได้ดังเดิม” “นี่เจ้า!!! ” “ข้าเพียงแต่ป้องกันตัว เชิญท่านแม่ทัพไปพักผ่อนเถอะ ข้าง่วงแล้ว” กล่าวเสร็จนางก็ลุกมาสวมใส่อาภรณ์ของตนเองและไม่ได้ให้ความสนใจเขาอีกต่อไป เหยียนเชี่ยหลงหมดคำจะพูดด้วยคาดไม่ถึงว่านางจะกล้าใช้ยาชนิดนี้กับเขา ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสามีของนาง!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม