“เหตุใดท่านถึงไม่เชื่อข้าละข้าคือฮูหยินของท่าน แต่งให้ท่านมานาน 3 ปี แต่นางที่พึ่งแต่งเข้ามา ท่านก็เชื่อนางจนลืมสิ้นถึงข้อเท็จจริง ท่านบอกว่าจะตอบแทนนางที่บิดานางสละชีวิตเพื่อช่วยชีวิตท่านไว้ในสนามรบ การตอบแทนมีตั้งหลายวิธี ไยท่านถึงเลือกแต่งนางเข้ามาเป็นอนุ ท่านทำร้ายจิตใจข้าครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ว่านางจะกล่าวความใด ท่านก็เชื่อนางไปเสียหมด” ตอนนี้ในอกของฟ่านเหยาเหยาเจ็บปวดแสนสาหัส
เหยียนเชี่ยหลงแม่ทัพใหญ่ของแคว้นถัง นางแต่งให้เขามาได้ 3 ปี แต่หลังจากที่เขากลับมาจากสนามรบ ก็ได้นำดรุณีน้อยนางหนึ่งกลับมาด้วย ดรุณีน้อยนางนี้หน้าตาถือว่าหมดจดงดงาม มีความอ่อนหวาน ดูบอบบางน่าทนุถนอมเฉกเช่นสตรีในยุคสมัยนี้ควรมี ซึ่งแตกต่างจากนาง ที่เป็นสตรีมาจากยุค 2020
ใช่แล้ว….
นางหลงเข้ามาอยู่ในร่างของคุณหนูฟ่านเหยาเหยา บุตรีเพียงคนเดียวของท่านเสนาบดีฟ่าน ตั้งแต่นางหลงเข้ามานี่ก็ได้ล่วงผ่านมา 5 ปีแล้ว เหยียนเชี่ยหลงแม่ทัพใหญ่ของแคว้นผู้ซึ่งเคยช่วยชีวิตของนางจากโจรป่า นับแต่นั้นมาหญิงสาวก็ฝากหัวใจไว้ที่เขา เขาและนางถักทอต้นรักด้วยกันมาได้ 2 ปี จึงได้ตกลงปลงใจแต่งให้เขา ในครานั้นบุรุษผู้มีใจรักมั่นที่ว่ารักนางหนักหนา ก็ได้สัญญาว่าจะมีนางเป็นฮูหยินเอกเพียงผู้เดียว
แต่อนิจจาในคืนเข้าหอแคว้นศัตรูบุกยึดชายแดนทางทิศเหนือแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้เขาผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่ทัพใหญ่จะต้องเดินทัพออกไปทำศึก และวางแผนการรบ ทั้งๆ ที่ยังมิทันได้เข้าหอกับเจ้าสาวด้วยซ้ำ "ท่านพี่รักษาตัวด้วยนะเจ้าคะ ท่านต้องสัญญากับข้าว่าจะกลับมาอย่างปลอดภัย" ผู้เป็นฮูหยินหมาดๆ ถึงกับหลั่งน้ำตาอาบแก้ม กล่าวอำลาผู้เป็นสามีที่กำลังจะออกไปทำศึก
เหตุใดนางจะไม่รู้เล่าว่า เวลาเช่นนี้ไม่ควรหลั่งน้ำตา เพราะจะทำให้ผู้เป็นสามีรู้สึกไม่สบายใจ และถือเป็นลางร้ายในการทำศึก แต่จะให้นางทำเช่นใดได้ แต่งกันยังไม่ทันได้ยลแสงพระอาทิตย์สาดส่องในยามเช้า แทนที่ค่ำคืนนี้นางจะต้องมีช่วงเวลาวสันต์ที่ต้องจดจำไปชั่วชีวิต แล้วเหตุใดนางจะต้องพลัดพรากจากสามีผู้เป็นที่รักจะมีสตรีใดสามารถทำใจได้กัน
แต่เพราะภาระหน้าที่จึงทำให้เขาต้องเสียสละ แต่ในช่วงที่เขาไปทำศึก เขาก็ส่งจดหมายมาหานางมิได้ขาด เขียนบรรยายสารทุกข์ สุขดิบ หลังจากสงบศึก นางก็รอเขากลับมาด้วยความหวัง
แต่แล้วก็เหมือนสายฟ้าฟาด เมื่อนางได้ทราบว่าเขาไม่ได้กลับมาแค่เพียงลำพังแต่ยังนำอนุภรรยากลับมาด้วย เขารับสตรีนางนั้นเป็นอนุได้ 1 ปีในช่วงที่ไปทำศึก จากความอ่อนหวาน และอ่อนแอของนาง ทำให้แม่ทัพใหญ่อย่างเหยียนเชี่ยหลงเกิดความสงสารและเริ่มเห็นใจนางหลังจากนั้น ความสงสารจึงแปรเปลี่ยนเป็นอยากปกป้อง ถึงแม้ว่ามันจะมิใช่ความรัก แต่เขาก็ได้สัญญากับบิดาของนางไปแล้วว่าจะดูแลนาง มิใช่ว่าเขาไม่รู้สึกผิดต่อฮูหยินเอกที่ว่าจะมีนางเพียงผู้เดียว แต่เขาเพียงหวังว่านางจะเข้าใจ สามีมีสามภรรยาสี่อนุจะเป็นอันใด ยังไงเขาก็ให้นางเป็นที่หนึ่ง แต่มีหรือที่ฮูหยินฟ่านเหยาเหยาจะทำใจยอมรับได้
หลังจากนั้นนางจึงไม่ยอมเข้าหอกับสามี หาข้ออ้างสารพัดด้วยว่านางรับไม่ได้กับเรื่องบุรุษมากภรรยาอย่างสมัยนี้ นางเป็นถึงสายลับของประเทศมหาอำนาจ มีความสามารถพิเศษรอบด้าน ฆ่าคนมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่พอนางหลุดเข้ามาในยุคโบราณ ก็ทิ้งความสามารถทุกอย่างที่มีติดตัว นางต้องการจะเป็นคุณหนูในห้องหอธรรมดาผู้หนึ่งเพียงเท่านั้น ด้วยว่าชีวิตที่ผ่านมานั้นเข่นฆ่าผู้คนมามากมายเหลือเกิน นางเพียงอยากใช้ชีวิตที่สงบสุข เป็นเพียงคุณหนูฟ่านเหยาเหยา บุตรีเพียงคนเดียวของท่านเสนาบดีฟ่านเพียงเท่านั้น
แต่ความสงบสุขทุกอย่างของนางต้องพังลง เพียงเพราะความมักมากของผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามี ตอนนี้ความอดทนของนางขาดสะบั้นลงแล้ว เพียงเพราะเขากล่าวหาว่านางแอบวางยาพิษ อนุภรรยาสุดที่รักของเขา นางไม่ยอมรับเขาถึงกับกล่าวหาว่านางไร้เหตุผล เลือดเย็น ลงมือทำร้ายสตรีของเขาได้ลงคอ
ได้ในเมื่อความรักที่เคยมีมาให้กันในวันนี้มันหมดลง นางก็ไม่จำเป็นต้องอดทนอีกต่อไป วันนี้นางได้ตัดสินใจแล้ว...
“ท่านแม่ทัพเหยียนเชี่ยหลง หากท่านลองใช้สมองตรองดูสักนิด นางโดนวางยาพิษ แล้วคนที่วางยาจะต้องเป็นข้าเพียงคนเดียวหรือ ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ข้าก็ไม่ได้เดินย่างกรายไปที่จวนของนางเลยด้วยซ้ำ แค่เพียงปิ่นปักผมอันเดียวที่หล่นอยู่ที่ห้องของนางเพียงเท่านี้ ก็เป็นหลักฐานมัดตัวได้แล้วท่านไม่คิดบ้างหรือว่าข้าถูกใส่ร้าย หากข้าจะวางยาพิษนางจริง คงไม่ทิ้งหลักฐานให้สามารถเชื่อมโยงมาถึงตนเองได้เช่นนี้กระมัง” ฟ่านเหยาเหยาหอบหายใจแรงในขณะที่กล่าวออกมา ใบหน้าที่แสดงออกถึงความผิดหวังอย่างชัดเจน นางหลับตาลงและลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยความแน่วแน่ จนคนตัวสูงเองก็ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอันใดขึ้น
“แต่ก็ชั่งเถิด ในเมื่อท่านพูดมาขนาดนี้แล้ว ข้าก็ขอบอกท่านเลยว่าข้าไม่ได้ทำ แต่วันนี้มันก็ได้แสดงให้ข้าเห็นแล้ว ว่าความเชื่อใจที่ท่านมีให้ข้าในตอนนี้ หากเทียบกับนางแล้วเป็นเช่นไร” ฟ่านเหยาเหยายิ้มเย้ยหยันไปให้กับเขา แล้วนางก็ทิ้งคำพูดไว้ให้เขาอีกหนึ่งประโยค
“ในเมื่อความรักที่ท่านมีให้ข้าในวันนี้ได้หมดลงแล้ว มิสู้ท่านมอบหนังสือหย่าให้กับข้า แล้วปล่อยข้าไปมิดีกว่าหรือ อนุภรรยาสุดที่รักของท่านจะได้ปลอดภัย เพราะถ้าข้าคิดจะวางยานางครั้งหน้าข้าคงใช้พิษพสุทาลืมเลือนดีกว่า” หลังจากทิ้งประโยคนั้นไว้ ฟ่านเหยาเหยาก็เดินจากไป ทิ้งไว้เพียงเหยียนเชี่ยหลงที่ตะลึงกับคำพูดของนางจนใบหน้าซีดเผือด ในสมองของเขาตอนนี้ไม่ได้มีรายละเอียดเกี่ยวกับการวางยาพิษของอนุคนโปรดแต่อย่างใด
“หย่า” นี่นางต้องการหย่าขาดจากเขาเช่นนั้นหรือ ฝันไปเถอะ เมื่อเจ้าแต่งงานเข้ามาอยู่ในตระกูลเหยียนแล้ว ก็อย่าคิดจะได้ออกไป ไวเท่าความคิดหลังจากที่หายตกตะลึงกับคำพูดของนาง เขาก็สาวเท้าตามนางไปอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนที่จะได้ก้าวเท้าผ่านธรณีประตู ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นเสียก่อน
“ท่านพี่ข้าเจ็บยิ่งนัก ในอกร้อนดั่งกับมีไฟแผดเผาอยู่ตลอดเวลา” ไม่พูดเปล่า พลันน้ำตาก็ร่วงลงมาเป็นสาย ทำให้ภาพที่เห็นนั้นยิ่งดูน่าสงสารเข้าไปอีก จากที่เขากำลังจะก้าวเท้าตามฟ่านเหยาเหยาออกไป ก็ถึงกับต้องชะงัก เขาจึงรีบเดินกลับมาประคองนางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอย่างเป็นห่วง
“ท่านหมอบอกว่ามันเป็นเพียงผลข้างเคียงจากการโดนพิษเท่านั้น ดีที่ตามหมอมารักษาทัน ถ้าช้ากว่านี้ข้าก็ไม่อยากคาดคิดถึงผลลัพธ์แล้ว ชิงชิงวางใจเถิดอาการตอนนี้ของเจ้านั้นปลอดภัยแล้วเจ้าก็นอนพักเถิด “
“ท่านจะอยู่เป็นเพื่อนข้าได้หรือไม่เจ้าค่ะท่านพี่ ข้ากลัวเหลือเกิน กลัวว่าจะไม่ได้พบท่านพี่อีกแล้ว ท่านอย่าได้โทษฮูหยินเลยนะเจ้าคะ ข้าเชื่อว่านางไม่มีทางคิดร้ายกับข้าแน่ อาจจะมีคนอยากให้ท่านพี่กับฮูหยินผิดใจกันโดยใช้ข้าเป็นต้นเหตุก็เป็นได้”
“ถึงขนาดนี้แล้วเจ้ายังจะพูดช่วยนางอีกอย่างนั้นหรือ เจ้าไม่เห็นท่าทีของนางเมื่อสักครู่หรืออย่างไร”
“ท่านพี่อย่าโกรธเลยเจ้าค่ะ” นางซบลงไปบนอกของเขาอย่างรักใคร่ แต่มุมปากของหญิงสาวกลับยกขึ้นอย่างพอใจ ในที่สุดนางก็สร้างรอยร้าวให้กับพวกเขาได้สำเร็จ นางทุ่มเทแรงกายแรงใจทุกอย่าง ก็เพื่อวันนี้
“พอได้แล้ว เจ้าก็พักผ่อนเถิด พี่จะอยู่ป็นเพื่อนเจ้าเอง” ว่าแล้วก็ช่วยนางประคองนอนลงที่เตียงอย่างแผ่วเบา โดยที่ไม่ได้รับรู้เลยว่าการตัดสินใจของตนเองในครั้งนี้จะทำให้เขาเสียใจไปจนตลอดชีวิต