“เหตุใดท่านถึงไม่เชื่อข้าละข้าคือฮูหยินของท่าน แต่งให้ท่านมานาน 3 ปี แต่นางที่พึ่งแต่งเข้ามา ท่านก็เชื่อนางจนลืมสิ้นถึงข้อเท็จจริง ท่านบอกว่าจะตอบแทนนางที่บิดานางสละชีวิตเพื่อช่วยชีวิตท่านไว้ในสนามรบ การตอบแทนมีตั้งหลายวิธี ไยท่านถึงเลือกแต่งนางเข้ามาเป็นอนุ ท่านทำร้ายจิตใจข้าครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ว่านางจะกล่าวความใด ท่านก็เชื่อนางไปเสียหมด”
...................................
"ท่านลุกขึ้นมาสวมอาภรณ์ให้เรียบร้อยได้แล้ว หรือท่านจะต่อกับนางอีกสักยกหรือ" ไม่ใช่เสียงของใครที่ไหน เป็นเสียงของเหยาเอ๋อร์ของเขานั่นเอง
"เหยาเอ๋อร์! " เขาตกใจหน้าซีดเผือด เสียงของนางในยามนี้ช่างเย็นชายิ่งกว่าหิมะในฤดูเหมันต์เสียอีก
ไม่พูดเปล่านางยังเดินไปดับกลิ่นของกำยานที่จุดอยู่ภายในห้อง และคำพูดของนางต่อจากนั้น ก็แทบจะทำให้ผู้คนที่อยู่ในห้องตกตะลึงอ้าปากค้าง
.........................................
"ข้ารักท่านเหลือเกินเจ้าค่ะท่านพี่ รักมากจนข้าไม่สามารถที่จะแบ่งท่านให้กับผู้ใดได้ ข้าไม่สามารถทนมองท่านกอดกันกับสตรีอื่น ข้าไม่สามารถทนมองเห็นท่านยิ้มให้กับสตรีอื่น มือที่ข้ากุมไว้นี้ มันก็เคยใช้สัมผัสกับสตรีอื่นมาแล้ว ริมฝีปากนี้นอกจากข้าแล้ว มันก็สัมผัสกับสตรีอื่นมาแล้วเช่นกัน ข้าอยากให้ท่านลองคิดเช่นเดียวกันกับข้าดู ว่าถ้าริมฝีปากนี้ของข้า นอกจากท่านแล้ว ผู้อื่นก็สามารถสัมผัสได้ มือคู่นี้นอกจากท่านแล้วคนอื่นก็สามารถกอบกุมได้ สายตาของข้าคู่นี้.."
"พอได้แล้ว เจ้าหยุดพูดเถอะ พี่เข้าใจแล้ว" เขาตอบนางด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และพูดออกมาอย่างแผ่วเบาจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ
"เจ้าไม่ไปได้หรือไม่ เจ้าอภัยให้พี่อีกสักครั้งได้หรือไม่" พร้อมกับกระชับมือบางของนางไว้ให้แน่นขึ้น