บทที่ 11 ไฟไหม้ 2

1156 คำ
“อ้าวลุง...” แต่พอละสายตาจากมวนบุหรี่ชายหนุ่มก็มองไม่เห็นชายสูงวัยเสียแล้ว สงสัยจะกลัวพ่อของกระถินมาเห็น ได้ยินว่าไม่ถูกกันไม่รู้ว่ามากน้อยแค่ไหน แต่ตอนนี้เขาสนใจแค่ยาเส้นในมือ... พาทิศยืนสูบบุหรี่จนหมดมวน เขาทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้นดินก่อนจะใช้ปลายเท้าขยี้แรง ๆ จนไฟมอดไป ขณะเดียวกันบริเวณเถียงนาไกลออกไปนั้น “พ่อให้ค่าแรงพี่โจ้ด้วยนะ” “อะไร มาอยู่ก็อยู่ฟรียังจะให้ค่าแรงอีกเรอะ...” สมพลมองลูกสาว อะไรจะรักจะหลงขนาดนั้น เขารู้สึกยินดีที่ลูกสาวไม่ร้องไห้ให้กับไอ้สารเลวนั่นแล้ว แต่ถ้าจะรักจะหลงมากขนาดนี้มันก็เกินงาม “ก็...” “ค่าสินสอดก็ไม่ได้ พ่อแค่อยากให้ไอ้หนุ่มมันดูแลลูกสาวของพ่อให้ได้ ให้มันรู้จักอดทน ถ้าพ่อตายไป...พ่อก็ไม่เสียดายชีวิต” “พ่ออย่าพูดอย่างนี้สิ” กระถินน้ำตาคลอเธอไม่ชอบเอาเสียเลย ไม่ชอบให้คนเป็นพ่อว่าอย่างนี้ ทว่า “กลิ่นไหม้...” สมพลหันขวับไปตามกลิ่นไหม้ที่ลอยมาแตะปลายจมูกของเขา เช่นเดียวกับกระถินที่หันไปตามกลิ่นไหม้นั้น “พ่อ!! ไฟไหม้!” “ฉิบหาย!!...” สมพลกระโดดลงจากเถียงนา แม้นจะป่วยแต่ความตระหนกกับเพลิงไหม้ตรงหน้านั้นทำให้เขาลงจากเถียงนาสูง ๆ นี้ได้อย่างสบาย ๆ “พี่โจ้!!” “กระถินอย่าไป!!” บิดาคว้าร่างบางของลูกสาวเมื่อเธอหุนหันพลันแล่นจะวิ่งเข้าสู่กองเพลิง เธอตกใจตาโตกับเพลิงไหม้ที่ลุกลามด้วยความรวดเร็วนั้น ซึ่งฟางข้าวถือเป็นเชื้อเพลิงชั้นดี “อึก พะ พี่โจ้ ฮืออ~” หญิงสาวทรุดตัวลงนั่งด้วยความตกใจละคนหวาดกลัว ปล่อยให้คนเป็นพ่อโทรหาเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเพื่อควบคุมไม่ให้เพลิงลุกไหม้ไปมากกว่านี้ แต่เท่าที่มองพื้นที่นาของเขานั้นน่าจะเสียหายทั้งหมด ทว่า “พี่โจ้! พี่โจ้...ฮึก” กระถินขยี้ตาแรง ๆ เมื่อเธอมองเห็นร่างหนาที่วิ่งออกมาจากกองเพลิง พาทิศตกใจไม่ใช่น้อยที่อยู่ ๆ ก็มีเพลิงไหม้ เขาเผลองีบไปแค่แป๊บเดียวเท่านั้น ...ร่างหนาคลุกไปด้วยฝุ่นและเขม่าควัน เขาวิ่งกระหืดกระหอบฝ่าฝูงควันโขมงนั้นด้วยความตกใจและกลัวตายสุดขีด ซึ่งพอวิ่งมาถึงร่างบางหญิงสาวก็โผเข้ากอดเขาทันที “อึก ฉันตกใจมากเลย ฮือออ~ นึกว่าพี่ตายแล้ว” พาทิศชะงักไป เขาตกใจที่เธอร้องไห้ฟูมฟายมากขนาดนี้ ร่างบางค่อย ๆ ผละอ้อมกอดออก “กะ เกิดอะไรขึ้น ทำไม...” “ไม่รู้...” ทว่าทันทีที่เขาเอ่ยพูด หญิงสาวกลับได้กลิ่นบุหรี่จากลมหายใจของเขา ฝ่าเท้าบางก้าวขาถอยหลังทันที ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนทำให้เพลิงไหม้ เพียะ! “ทำไมพี่ทำแบบนี้!! คิดอะไรอยู่!” สมพลตกใจไม่ต่างกัน เขาเดินเข้ามาหาคนทั้งคู่ที่ตอนนี้พาทิศงงเป็นไก่ตาแตกยิ่งกว่าเดิม “เกิดอะไรขึ้น รถดับเพลิงกำลังมา” “อึก เขาสูบบุหรี่” กระถินค่อย ๆ เอ่ยพูดขึ้นก่อนจะหันหน้าไปหาคนเป็นพ่อ “หนูขอโทษ ฮึก...ที่พาเขามาทำแบบนี้” “ไม่ใช่ ผมไม่รู้เรื่องนะ ผมไม่ได้ทำ” “ชัดเลย” กลิ่นยาเส้นมันแรงใช้ได้ สมพลพยายามระงับอารมณ์ตัวเอง เขายกมือขึ้นค้ำเอวมองดูเพลิงไหม้ที่ลุกไหม้ฟางข้าวจนวอดวายนี้ หากคิดเป็นเงินก็หมดไปหลายหมื่น ที่ดินกว่าสิบไร่นี้สามารถอัดฟางไปขายได้เป็นหมื่น ไหนจะวัวควายที่ต้องกินฟางข้าวนี้อีก ทว่า “เดี๋ยวนะ...” สมพลหันมามองลูกเขยที่ตอนนี้ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าตัวเองทำผิดอะไร “เอายาเส้นมาแต่ไหน” “นั่นสิ พี่ไปเอามาจากที่ไหน” “อึก ลุง...เอ่อ บุญมาเอาให้” “ห้ะ!!” “แต่ผมสูบเสร็จก็ขยี้ทิ้งจนไฟดับแล้วนะ มันดับแล้วจริง ๆ ผมเห็นกับตาว่ามันดับไปแล้ว” เขาว่าน้ำเสียงหนักแน่น ชายหนุ่มมั่นใจมากว่าตนนั้นดับไฟจากก้นบุหรี่ดีแล้ว ซึ่งคำพูดของเขานั้นทำให้กระถินกะพริบตามองปริบ ๆ “จบแล้ว...” “อึก หมายความว่าไง” พาทิศมองชายสูงวัยคนนี้ที่ยกมือขึ้นดึงผมหงอกของตัวเอง ขณะที่กระถินนั้นเพิ่งคิดได้ “ลุงบุญมาวางเพลิงแน่ ๆ เลย เขากล้าทำเพราะจะได้โยนความผิดให้พี่ว่าพี่สูบบุหรี่ แค่นี้ตำรวจก็เอาผิดเขาไม่ได้แล้ว” เธอว่าเสียงอ่อน เพราะเมื่อครู่ได้พลั้งมือตบใบหน้าของเขาไป “หึ บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้ทำ...” พาทิศนึกโกรธที่เธอไร้เหตุผลตบใบหน้าของเขา ร่างหนาเดินหนีเธอไปนั่งที่ท้ายรถอีแต๋นเป็นจังหวะพอดีที่รถดับเพลิงวิ่งเข้ามา ซึ่งเพลิงที่ลุกไหม้นี้เจ้าหน้าที่คงทำได้เพียงสกัดกั้นเพลิงไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้ ...กว่าเพลิงไหม้จะสงบดวงอาทิตย์ก็คล้อยต่ำลงแล้ว พาทิศนั่งหย่อนขาลงที่ท้ายรถอีแต๋นด้วยความเหนื่อยล้า เขารู้สึกเหนื่อยมากและเสียความรู้สึก “ใครบอกให้พี่ไปรับบุหรี่มาจากอริของพ่อ” เธอว่าน้ำเสียงอ่อน ๆ กระถินยังไม่ยอมรับว่าตนผิด แต่พอเห็นว่าเขาไม่ตอบเธอก็รู้สึกเสียใจ “ฉันขอโทษ ก็คนมันตกใจนี่” “_” “ฉันตกใจมากที่เห็นไฟไหม้ ใจมันหล่นตุบลงพื้นไม่คิดว่ามีไฟไหม้ ฉันนึกว่าพี่จะไม่รอดแล้ว” “หนวกหู...” ชายหนุ่มพึมพำออกมาเบา ๆ เขาอิงศีรษะที่ข้าง ๆ กระบะรถอีแต๋น โดยไม่สนใจว่าเธอจะรู้สึกผิดมากเพียงใด พาทิศนึกสงสารชีวิตของตัวเอง อยากจะหนีไปให้พ้นแต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปทางไหนเช่นกัน ...ขณะเดียวกันที่ความรู้สึกผิดได้เข้ามาเกาะกุมภายในจิตใจของหญิงสาว เธอลอบมองใบหน้าของเขาเป็นระยะ ๆ กระทั่งถึงบ้าน ร่างหนาดีดตัวลงจากรถอีแต๋นคันเก่าทันที เขาเดินขึ้นบ้านไปโดยไม่สนใจเธอเช่นเดิม “เฮ้อ...ลูกกะเฮ็ดเกินไป” สมพลเอ่ยพูดบอกว่าลูกสาวทำเกินไป เขาตกใจเช่นกันที่เธอตบหน้าผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าคนรัก “ทำไงดีพ่อ เขางอนหนูแน่เลย” กระถินหันไปขอความช่วยเหลือจากคนเป็นพ่อ ทว่า “หึ เฮ็ดหลานติ พ่ออยากอุ้มหลานก่อนตาย” คำตอบของท่านก็ทำให้กระถินตกใจเสียยิ่งกว่าเดิม หลานที่แปลว่าลูก ถ้าลูกก็ต้องทำ...เรื่องอย่างว่าน่ะสิ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม