บทนำ
“มันเหลืออีกแค่หนึ่งอาทิตย์เองนะองศา ทำไมถึงไม่ทำอะไรสักอย่าง เรางงแล้วนะ” น้ำเสียงเป็นกังวลของกระถินทำให้คุณหมอหนุ่มตรงหน้าหนักใจ เขาลังเลที่จะบอกบางอย่างกับเธอ
“_”
“ถึงเราจะไม่ได้ทำงานด้วยกันแล้ว แต่เราไม่ได้บังคับว่าองศาจะมาต้องย้ายมาอยู่กับเรานะ” หญิงสาวว่าน้ำเสียงสั่นเครือ ทางบ้านก็รบเร้าเธอเสียเหลือเกิน ไหนจะมารดาที่ชอบไปเล่าทั่วบ้านทั่วเมืองว่าลูกสาวจะขายออกแล้ว
“คือ...เรามีบางอย่างอยากจะบอกกระถิน คือว่า เอ่อ...” เสียงของเขานั้นเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ ทำเอาหญิงสาวตรงหน้าขมวดคิ้วมุ่น เธอส่ายหน้าเป็นพัลวัน
“เราคบกันมาห้าปีแล้วนะองศา เราว่ามันไม่มีอะไรต้องปิดบังกันแล้วนะ หรือองศารังเกียจเรา หรือ...ที่บ้านองศาไม่ชอบที่เราจน หรือไม่ชอบที่เราเป็นคนบ้านนอก” องศารีบส่ายหน้า ที่บ้านของเขาไม่ได้มีปัญหาอะไร แถมยังชอบพอเธออีกด้วย แต่ปัญหามันอยู่ที่เขาเอง
“สัญญากับเราก่อนสิ สัญญาว่าถ้ารู้แล้ว...จะให้อภัยเรา”
“หืม...แน่นอนสิ” กระถินฉีกยิ้มกว้าง ไม่มีเหตุผลที่เธอจะไม่ตกลงสัญญากับเขา ชายตรงหน้าเป็นคนที่เธอรัก และเขาไม่เคยทำให้เธอผิดหวัง
“คือ...เราทำ เอ่อ...ทำ ผู้หญิงท้อง”
“ห้ะ อะไรนะ”
“อึก เราขอโทษแต่กระถินช่วยเลื่อนงานแต่งออกไปก่อนได้ไหม ให้เราเคลียร์กับทางนั้นก่อนได้ไหม”
“เดี๋ยว...บ้าเหรอ ไม่มีอะไรจะบอกแล้วหรือไงถึงโกหกออกมาแบบนี้ คือเราไม่เข้าใจ...อะไรขององศา หือ?” กระถินลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ เธอส่ายหน้าเบา ๆ ด้วยความไม่เข้าใจสิ่งที่ชายคนรักเอ่ยพูด ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นตามพร้อมกับคว้าข้อมือของเธอไว้
“เดี๋ยวสิ ขอร้องล่ะ...เราขอโทษจริง ๆ กระถิน เราอยากแต่งงานกับกระถินมาก เราไม่จำเป็นต้องบอกกระถินเลยแต่ว่าเรากลัวว่ากระถินมารู้ทีหลังแล้วจะเสียใจ”
“หึ หึ...” เธอแค่นหัวเราะ ในขณะที่ความสับสนค่อย ๆ เข้ามาครอบงำ หญิงสาวไม่ได้ตั้งรับสิ่งที่ได้ยินแม้แต่น้อย มันอยู่เหนือความคาดหมายไร้การคาดเดา ไร้สัญญาณเตือน ไม่คิดว่าคนที่เธอรักสุดหัวใจจะทรยศหักหลังเธอมากขนาดนี้ ฝ่ามือบางค่อย ๆ แกะมือของเขาออก กระนั้นความอ่อนแรงก็ทำให้เธอทำไม่สำเร็จ
“องศากลัวเราเสียใจจริง ๆ เหรอ กลัวแล้วทำไมทำแบบนี้ อึก ทำไมทำแบบนี้ ฮืออ~”
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
“ฮึก ทำไมทำแบบนี้ ฮึก ฮือออ...เสียใจงั้นเหรอ เสียใจทำไมทำล่ะ อึก” กำปั้นเล็กระดมทุบลงกลางแผ่นอกแกร่ง พลางน้ำตาหลั่งรินด้วยความเสียใจ ไม่อาจอดกลั้นความรู้สึกเสียใจที่เกิดขึ้นได้
“เราขอโทษ เราไม่ได้ตั้งใจ มันเกิดขึ้นตอนเราเมา อึก เรา...เสียใจ” น้ำเสียงของชายคนรักสั่นเครือไม่ต่าง ฝ่ามือหนารวบข้อมือเล็กที่กำลังประทุษร้ายเขาไว้ องศาเอ่ยปากขอโทษเธอไม่สนว่าตอนนี้จะมีคนในร้านกาแฟมองมากแค่ไหน ใบหน้าของคุณหมอหนุ่มเต็มไปด้วยความเสียใจ
“ทำไม ทำไมทำแบบนี้ ทำไมทำกับความรักของเราแบบนี้ ปะ ปล่อย ขอร้องล่ะ”
“ไหนสัญญาว่าจะไม่โกรธ กระถิน...เราเคลียร์กับทางนั้น เราจะรับผิดชอบแค่เด็ก เราขอร้อง อึก เรารักกระถินนะ”
เพียะ!
“รัก! รักของนายมันเป็นแบบนี้เหรอ...” กระถินออกแรงดึงมือออกจากการเกาะกุมของเขาได้สำเร็จ ก่อนจะฟาดฝ่ามือตบใบหน้าหล่อเหลานี้อย่างแรงจนใบหน้าอีกฝ่ายสะบัด
“กระถิน...”
“เฮงซวยจริง ๆ ฮึก แม่งเอ๊ย! ทำไมเจ็บอย่างนี้” หญิงสาวสบถออกมาเสียงดังก่อนจะผลักอกแกร่งของอีกฝ่ายอย่างแรงจนล้มลง โดยที่เขายังไม่ทันตั้งตัว
“กระถิน!!” ร่างหนารีบลุกขึ้นแต่ก็ไม่ทันคนตัวเล็กที่รีบวิ่งออกจากร้านกาแฟไปขึ้นรถยนต์ของตน เธอขับรถเก๋งอีโค่คาร์ออกไปด้วยความรวดเร็วพร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างหนัก น้ำตามากมายหลั่งไหลออกมาไม่ขาดสาย เสียใจจนเกินกว่าจะทำใจยอมรับได้
เอี๊ยด...
คิดว่าไกลพอที่คนทรยศจะตามไม่ทัน เครื่องยนต์สัญชาติญี่ปุ่นจอดลงไหล่ทางก่อนที่เธอจะซบใบหน้าลงใส่พวงมาลัยรถ หลั่งน้ำตาออกมาให้กับความเสียใจสุดจะเอื้อนเอ่ยนี้
“ฮึก ฮือออ~” ร่างบางสั่นระริกบนรถยนต์คันเล็ก เสียใจที่คนรักหักหลัง เสียใจที่คิดไว้ใจเขา เสียใจให้กับอนาคตที่วาดฝันไว้พังลงไม่เป็นท่า ไหนจะงานแต่งที่คุยกันไว้ ไหนจะพ่อแม่ของเธอที่ถามหา ไหนจะเพื่อนพ้อง...จะให้เธอตอบพวกเขาว่ากระไร
เวลาต่อมา...
[แล้วแกถึงไหนแล้วเนี่ย ขับรถไปร้องไห้ไปจะรอดไหมวะ เอางี้...จอดลงข้างทางเดี๋ยวฉันไปรับ]
“อึก มะ ไม่ต้อง แกอยู่เวรนี่ แกจะมาได้ไง” แม้นรู้ว่าจะไม่ไหวแต่ก็ไม่มีทางเลือกมากนัก ร่างบางยังคงขับรถกลับบ้านเกิดตัวเองหลังถ่อมาไกลเพื่อจะได้คุยกับเขาคนนั้น แต่มันกลับแย่จนทนไม่ไหว ขณะเดียวกันน้ำเสียงของมีนาเพื่อนสาวเพียงคนเดียวของเธอก็เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
[โอเค ฉันรอที่ห้องฉุกเฉินนะ ถือสายไว้ล่ะ อย่าวาง...มีอะไรก็ระบายออกมาฉันรอฟังอยู่ ตอนนี้ไม่มีคนไข้เลย]
“ขอบใจแกนะ ใกล้ถึงแล้วล่ะ ขอนอนด้วยนะคืนหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะตอบพ่อกับแม่ว่ายังไง” กระถินพยายามควบคุมไม่ให้เสียงของตัวเองสั่น แต่มันก็ช่วยไม่ได้มากนัก
[โอเค องศาก็ทำเกินไป แต่ฉันว่ามันอาจจะเป็นความไม่ตั้งใจก็ได้นะ เราก็รู้จักกันมานาน...] ปลายสายพยายามปลอบใจ อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังมีเพื่อนสาวคอยเป็นที่พักพิง ซึ่งมีนาเพิ่งย้ายมาทำงานที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดบ้านเกิดของคนเป็นเพื่อน โดยทั้งสองรวมถึงองศาเรียนแพทย์ด้วยกันมาตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย พอถึงเวลาเติบโตก็ต่างแยกย้าย ต่างจากกระถินที่ต้องลาออกด้วยเหตุผลบางอย่าง
“อึก นั่นแหละที่ฉันเสียใจ...” เสียใจก็ตรงที่คบกันมานาน ตั้งแต่เป็นเพื่อนเรียนด้วยกันจนเลื่อนขั้นเป็นแฟน แต่อีกฝ่ายกลับหักหลังเธออย่างสาหัสสากรรจ์
...ทว่าขณะนั้นเองสายตาของเธอกลับมองเห็นอะไรบางอย่างที่ไหล่ทาง
“เดี๋ยวนะ...ใครมาทำกันชนหล่นแถวนี้”
[อะไรเหรอ...]
“อึก เหมือนจะเป็นอุบัติเหตุเลย” กระถินยกหลังมือขึ้นเช็ดเบา ๆ ที่ใบหน้า ปาดน้ำตาแห่งความเสียใจออกไปให้พ้น
[อะไรนะ ที่ไหน...]
“เดี๋ยวก่อน ไม่แน่ใจอ่ะ เห็นแค่เศษชิ้นส่วนรถ แต่ไม่เห็นรถ แปลก ๆ”
[เฮ้ย...มีไรหรือเปล่า แกอย่างลงไปนะ] แม้นว่าปลายสายจะว่าอย่างนั้น แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อคนเป็นเพื่อนลงจากรถ
“เดี๋ยวฉันมานะ...” กระถินว่าแค่นั้นก่อนที่เธอจะปิดประตูรถโดยไม่ได้ดับเครื่องยนต์ ทำให้แสงไฟจากรถยนต์ของเธอส่องสว่างให้เห็นหลังคารถยนต์คันหนึ่งที่กำลังค่อย ๆ จมลงใต้ผืนน้ำในคลองข้างถนน
“นั่นมัน...คนนี่” ร่างบางไม่รอช้าเมื่อสายตาของเธอมองเห็นร่างของมนุษย์ที่อยู่บนเบาะคนขับ สัญชาตญาณความเป็นแพทย์ในตัวทำให้เธอกระโดดลงน้ำคลองอย่างไม่คิดชีวิต ไม่รู้ว่าจะสามารถช่วยผู้ประสบเคราะห์ร้ายได้หรือไม่ เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นที่ทำให้เธอตัดสินใจกระโดดลงน้ำไปช่วยเขาคนนี้...