บทที่ 5 เสียใจ 2

1144 คำ
บริเวณที่เกิดเหตุ...หลายวันที่ผ่านมาบริเวณถนนขาเข้ากรุงเทพฯทางหลวงแผ่นดินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีชายฉกรรจ์หลายคนรวมถึงนักประดาน้ำที่ร่วมกันค้นหาร่างของพาทิศ ...เพราะเขาเป็นถึงประธานกรรมการบริหารเดอะเกรทฟีเจอร์กรุปจำกัด (มหาชน) การถูกลอบทำร้ายนี้มีผลต่อความมั่นคงของบริษัท หากมีข่าวว่าเขาหายตัวไปหรือถูกฆ่าตาย มีหวังหุ้นดิ่งพสุธาอย่างแน่นอน แม้นจะห่วงลูกมากแค่ไหน แต่ผลประโยชน์ส่วนรวมก็ทำให้อิทธิกรเลือกที่จะปิดข่าว “เราทำได้แค่ขอความร่วมมือครับ ผมมีอำนาจก็จริงแต่ว่าบังคับให้คนบอกข้อมูลไม่ได้หรอกครับ บางครั้งตำรวจท้องถิ่นก็ไม่ได้สนใจประชาชน” ท่านผบตร. เดินทางมาพบมหาเศรษฐีด้วยตนเอง ตั้งแต่ทราบเรื่องว่าบุตรชายของอิทธิกรหายตัวไป “ไม่มีใครแจ้งเหตุอะไรมาเลยเหรอครับ” เขาถามเสียงสั่น รู้สึกเสียใจเกินกว่าจะทำใจยอมรับได้ อิทธิกรทราบเรื่องจากพี่ชายว่าคนเป็นลูกมาหาผู้ชายคนหนึ่งที่เขาใหญ่ ก่อนจะให้คนตามมาทีหลัง แต่กลับพบเพียงแค่ซากรถยนต์ของลูกชายในคูน้ำข้างถนน “เท่าที่ทราบยังไม่มีเลยครับ แล้วที่โรงพยาบาลก็ไม่มีเหมือนกันครับ” “โอเค ขอบคุณครับ ผมคงรบกวนเพียงเท่านี้ไม่อยากให้เป็นข่าวครับ เดี๋ยวผมให้เอกชนดูแลอีกที” ไม่ใช่ว่าไม่ไว้วางใจ ทุกอาชีพมีคนดีและคนไม่ดี อิทธิกรไม่มั่นใจว่าเขาจะสามารถเชื่อตำรวจได้มากแค่ไหน “โอเคครับ ถ้ามีอะไรคืบหน้าผมจะติดต่อมานะครับ” “ครับ...” เขาตอบรับก่อนจะเดินไปหาคนเป็นภรรยาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ใต้ร่มไม้ในทุ่งนาข้างถนน ไหล่บางของเธอสั่นเทาอย่างเห็นได้ชัด เขาวางมือลงเบา ๆ ที่ไหล่ของเธอ ซึ่งสัมผัสนี้ทำให้เธอเงยหน้าขึ้นมองคนเป็นสามีทันที “อิทธ์...ลูก พาทิศ...ฮึก ฮืออ~” พัดชาร้องไห้ออกมาสุดเสียง ลูกชายคนโตเพิ่งกลับมาอยู่ประเทศไทยได้ไม่กี่ปี ไม่คิดว่ากาลเวลาของคนเป็นลูกจะถูกพรากไปเร็วขนาดนี้ “ไม่เป็นไรนะ เราจะหาลูกจนกว่าจะพบ” เขาคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ ยื่นมือไปเกลี่ยหยดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุดนี้ พัดชาในวัยหกสิบเศษ ๆ ยังสวยไม่สร่าง อาจจะเป็นเพราะอำนาจเงินในการดูแลตัวเอง แต่คราวนี้เธอกลับผอมโทรมหลังจากที่ทราบเรื่องของลูกชายเมื่อหลายวันที่ผ่านมา “อึก ทำไม...ทำไมต้องเป็นลูกเรา” เขาไม่สามารถตอบคำถามของเธอได้ ร่างหนาหยัดกายขึ้นโอบกอดเธอ “กินอะไรหน่อยไหม ถ้าเธอเป็นอะไรไปอีกคน ฉันจะอยู่ยังไง หืม...ลูกเราอีกสองคน หึ คงไม่มีใครอยากสูญเสียแม่ไปอีกคนหรอกนะ” เขาลูบแผ่นหลังของเธอเบา ๆ จิตใจของพ่อแม่แหลกสลายไม่คิดว่าลูกชายจะหายตัวไปแบบนี้ หนำซ้ำอุบัติเหตุก็ร้ายแรงมากจนจินตนาการไม่ออกว่าบุตรชายจะรอดชีวิตได้อย่างไร... การค้นหาร่างพาทิศยังคงดำเนินการไปเรื่อย ๆ จากคนจำนวนนับร้อยคน จากวันพระอาทิตย์ขึ้นจรดจนวันพระอาทิตย์ตก หมุนวนไปไม่จบไม่สิ้นตลอดหลายวันที่ผ่านมา “เราขอเอกสารราชการได้แค่สามกิโลเมตรครับ ถ้ากั้นคลองน้ำนี้ไปอีกสามกิโลเมตรแล้วสูบน้ำออกก็น่าจะทำได้ครับ” ราชัญรายงานข้อมูลที่ตนได้มา คลองน้ำนี้จะไปจรดลงที่แม่น้ำมูล ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะสูบน้ำออกจากแม่น้ำ ทำได้เพียงแค่กั้นคลองน้ำแล้วสูบน้ำออกได้แค่บางส่วน “แค่นั้นก็ต้องทำ” อิทธิกรว่าน้ำเสียงอ่อนแรง ดวงตาของเขาแดงก่ำราวกับคนไม่ได้หลับไม่ได้นอนมาหลายวัน “ครับนาย...เอ่อ ผมมีข่าวของคุณพาวินท์มาบอกครับ” ราชัญกำลังพูดถึงลูกชายคนเล็กของเจ้านาย ที่ตอนนี้ได้ขึ้นเป็นประธานกรรมการบริหารแทนบอสพาทิศ “หืม...” “บอสพาวินท์มีเมียมีลูกแล้วนะครับ แล้วก็ช่วงนี้ไม่ค่อยทำงานครับ แล้วก็คุณพาคินณ์กลับมาทำงานแล้วนะครับ” อิทธิกรไม่แปลกใจที่ลูกชายคนเล็กจะไปไข่ไว้หรือไปมีลูกที่ไหน เพราะเจ้านั่นเจ้าชู้มากพอตัว เป็นเรื่องน่ายินดีที่ครอบครัวของเขาจะมีสมาชิกเพิ่ม แต่เรื่องน่ายินดีกว่าคงหนีไม่พ้นลูกชายคนกลางที่กลับมาทำงานแล้ว “หึ...” เขาหัวเราะออกมาเบา ๆ พอพี่ชายคนโตหายตัวไป ก็ทำให้คนในครอบครัวรักกันมากขึ้น แต่ถ้าเลือกได้เขาก็ไม่อยากให้ลูกชายหายไปเลยสักคน “อ้อ...คุณอัทธ์รออยู่ที่รถนะครับ” อิทธิกรเงยหน้าขึ้นมองหาพี่ชายที่เป็นทนายความ ซึ่งอีกฝ่ายก็ยกมือขึ้นทักทายเขาทันที “ฝากดูพัดชาด้วย ถ้าเธอตื่นให้โทรเรียกผมเลยนะ” “ครับ” เลขาฯสูงวัยค้อมศีรษะให้ ก่อนจะมองไปยังคุณนายที่นอนหลับอยู่บนเปลนอนด้วยความอ่อนเพลีย พวกเขายังคงปักหลักอยู่กลางทุ่งนาข้างถนนเช่นเดิม แม้นจะผ่านมาหลายวันแล้วก็ตามที ...อิทธิกรขึ้นรถยนต์คันหรูของพี่ชายที่มารอรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการสืบหาคนที่ทำร้ายพาทิศ ซึ่งพี่ชายของเขาเป็นทนายความเจ้าของสำนักงานกฎหมายเดอะเกรทฯ สถานที่สุดท้ายที่บุตรชายไป “ตอนนี้กล้องหน้ารถกู้ได้แล้วนะ” “จริงเหรอ!!” อิทธิกรรู้สึกมีหวัง ทว่า “แต่...พาคินณ์บอกว่าอย่าบอกมึง หลังจากนี้ไม่อยากให้มึงเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้แล้ว” “พาคินณ์?” “ใช่ พาคินณ์บอกว่าจะตามสืบคนร้ายให้เอง ไม่อยากให้มึงมายุ่งเกี่ยวกลัวว่าจะเป็นอันตราย หึ...” แม้นจะเป็นห่วงลูกชายคนกลาง แต่พอได้ยินอย่างนี้หัวใจแกร่งก็รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้นมา ...พาคินณ์นั้นเคยขู่ทำร้ายพาทิศเพราะคนเป็นพี่ได้เป็นประธานบริษัท ทั้ง ๆ ที่เขาทำงานให้บริษัทมานานกว่าแต่กลับได้เป็นแค่รองประธาน มีแวบหนึ่งที่คนเป็นพ่อคิดว่าอาจจะเป็นพาคินณ์ที่ทำร้ายพี่ชายตัวเอง ซึ่งเป็นความคิดที่อิทธิกรเองก็รู้สึกผิดที่คิดอย่างนั้น พอได้ยินว่าอีกฝ่ายอยากช่วยตามหาคนร้ายที่ทำร้ายพี่ชาย...หัวอกคนเป็นพ่อก็รู้สึกดีขึ้นมา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม