โธ่เว้ย!
ปัง! ปัง! ปัง!
ปิดประตูก็ทุบตีแรง ๆ ด้วยความหงุดหงิด เมื่อภาพของลักษณากับลมกรดมันตามมาหลอกหลอน และที่สำคัญ คำพูดว่า “ข่าวดี” ข่าวดีของหล่อนมันยังตามมาดังก้องในหูของตลอดลมหายใจเข้าออก
“ไอ้รัก ใช่ต้องโทร.ถามไอ้รัก” ว่าแล้วก็ล้วงเอาโทรศัพท์มากดต่อสายหาเพื่อนรัก และรอไม่นานปลายสายก็กดรับ
“มีอะไรของมึงไอ้ลวง”
“น้องมึงกลับไปรึยัง” ไม่ตอบแต่กระชากเสียงแข็งกรอกกลับไป พร้อมเดินไปนั่งบนเตียงกลางห้องนอนกว้าง
“อือ! ไปแล้ว ตอนนี้คงจะถึงบ้านกูแล้วแหละ มึงถามถึงน้องกูทำไมวะ” รักษ์ถามเพื่อนรัก
“ฮันนี่มีข่าวดีอะไรมาบอกมึง” ถามกลับเหมือนเดิม
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึง ไอ้เพื่อนเวร!”
“อย่ากวนตีนกู บอกกูมาว่าฮันนี่ไปบอกข่าวดีอะไรกับมึง”
“ฮันนี่กับลมจะแต่งงานกัน ข่าวดีไหมล่ะมึง”
หากเพียงลวงร้อยได้เห็นสีหน้าของรักษ์คงอยากกระโดนเข้าชกก็เป็นได้ ก็ตอนนี้ปลายสายกำลังยิ้มเยาะเย้ยเขาใส่เครื่องมือสื่อสารอยู่
ลวงร้อยแทบอยากจะปาโทรศัพท์ในมือทิ้งเมื่อได้ยินข่าวดีที่ว่า มืออีกข้างกำขอบเตียงแน่นด้วยความกรุ่นโกรธ
“ไอ้ลวง มึงอยู่ในสายป่ะวะ” รักษ์ถามเมื่อเพื่อนเงียบไป
“อยู่ แค่นี้เหรอ ข่าวดีของน้องมึง”
“เออ! มีแค่นี้แหละ ตอนนี้คงไปบอกข่าวดีกับพ่อและแม่แล้วว่ะ แค่นี้ก่อนนะเว้ย! กูต้องรีบเคลียร์งานกลับไปกินข้าวฉลองข่าวดีของฮันนี่น่ะ”
เมื่อเพื่อนตัดสายไปเขาก็โยนโทรศัพท์ทิ้งไปด้านหลังแล้วลุกขึ้นเดินไปเดินมาอย่างใช้ความคิด แล้วก่อนจะคิดอะไรดี ๆ ออก แล้วรีบไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปบ้านของรักษ์ เพราะคิดว่าตอนนี้ลักษณากับไอ้หน้าปลาไหลชนเขื่อนนั่นคงอยู่ที่บ้านแล้ว
“นั่นลูกจะไปไหนตาลวง” นางทำยำเล็บมือนางเมนูโปรดให้ลูกชายเสร็จเดินออกมาจากครัว เห็นลูกชายถือกุญแจรถยนต์ลงมาจากชั้นสองพอดีเลยร้องถาม
“คะ...คือลูกมีธุระด่วนครับแม่สุ ลูกขอโทษนะครับที่อยู่กินยำเล็บมือนางฝีมือแม่สุไม่ได้” ลวงร้อยเดินไปโน้มลงหอมแก้มของผู้เป็นแม่เพื่อเป็นการแสดงความขอโทษ
“ไม่เป็นไรลูก แม่ทำให้ลูกกินได้ตลอดแหละ แล้วเนี่ยจะกลับมานอนที่บ้านหรือคอนโดฯ วันนี้”
“ยังไม่แน่ใจเลยครับแม่สุ ไม่โกรธไม่งอนลูกนะคนสวยของลูก” ลวงร้อยเอ่ยเสียงหวานพร้อมรวบร่างอ้วนท้วมของท่านมากอดแนบแน่น
“ปากหวาน น่ารักแบบนี้แม่จะโกรธได้ยังไงล่ะ ไปเถอะ ธุระด่วนไม่ใช่เหรอลูก” นางโน้มหน้าลูกชายมาหอมก่อนจะผละออก
“รักแม่สุนะครับ” เขาหอมแก้มท่านกลับเช่นกันก่อนจะเดินจากไป สุภามองตามลายไปด้วยหน้าเปื้อนยิ้ม ธุระอะไรด่วนถึงทำให้เดินแกมวิ่งออกไปแบบนั้น