จานโปรด

1243 คำ
ตอนที่9 จานโปรด คนที่มีสิทธิ์ตัดสินใจคือซาตานอย่างดีแลนเท่านั้น เขาเปลี่ยนจากสองนิ้วเป็นลำกายที่ใหญ่กว่ามาก และมันยังสร้างความเจ็บปวดให้เธอได้อยู่เสมอ “พอเถอะนะ...” “บอกไม่ไหวตลอด แต่ก็ไหว” “แพรเจ็บนะ แดนไม่ใช้คนที่ต้องทนเหมือนแพรไง” “ก็จริง” พริตาเบือนหน้าหนีแววตามัจจุราชที่มองเธอเหมือนคนกำลังโดนลงทัณฑ์ทั้งที่เธอไม่เคยทำอะไรผิดด้วยซ้ำ ปึก ปึก ปึก “ซี้ดดด อ่าส์” สะโพกที่เคยกระแทกกระทั้นเธออย่างบ้าคลั่งหยุดนิ่งในที่สุด พริตารวบรวมแรงทั้งหมดที่มีผลักดันเขาให้ออกไปจากตัวจนน้ำจำนวนมากไหลย้อนตามแก่นกายของเขาออกมา “ฉันแตกใน อย่าลืมจัดการไม่ให้ตัวเองท้องด้วยล่ะ” พูดจบดีแลนก็เดินเขาห้องน้ำไปชำระล้างกายที่เหนียวหนับเพราะเหงื่อไคล ส่วนหญิงสาวต้องแบกร่างกายแสนเจ็บช้ำเก็บเสื้อผ้าขึ้นมาสวมแล้วกลับห้องของตัวเองในเวลาเกือบตีสาม 11.00 น. กริ๊ง ๆ “ทำอะไร” “เรียกแพรน่ะสิ จะชวนไปหาอะไรกิน” “รถเสร็จแล้วเหรอ” “อืม แค่เปลี่ยนยางเอง” รอหลายนาทีพริตาก็ยังไม่เปิดประตูให้เพื่อน แคลอรีนจึงกดรหัสเปิดที่ให้กันไว้เมื่อคราวย้ายมาอยู่ใหม่ ติ๊ด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ แอดดด ดีแลนมองตาหลังลูกพี่ลูกน้องที่เดินเข้าไปในห้องของพริตา เจ้าของห้องน่าจะอยู่ในห้องนอนเพราะข้างนอกไร้เงาของเธอ “รออะไร” “เปล่า นึกอยู่ว่าลืมอะไรหรือเปล่า” ตอบจบร่างสูงก็เดินไปอย่างที่ผ่านมาที่ไม่ค่อยจะสนใจใคร “เดี๋ยวนี้ขี้ลืมกับเขาด้วยเหรอนายนี่” “แพร ยังไม่ตื่นอีกเหรอ” “ฮืออ” พริตาครางรับในลำคอแต่ตายังลืมไม่ขึ้น “เป็นอะไรน่ะ ไม่สบายเหรอ” “แคลเหรอ” “จ้ะ แพรตัวร้อนนี่” ดีแลนกับวชิรวิชญ์เข้าเรียนกันสองคน ส่วนสองสาวหายเงียบไปไม่โทรบอกเหตุผล ติ๊ง “แพรไม่สบายฉันจะอยู่เป็นเพื่อน ฝากเช็คชื่อด้วยนะ” หลังอ่านข้อความจากแคลอรีนสองหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองกันอัตโนมัติ ก่อนจะเป็นดีแลนที่เป็นฝ่ายหลบตา “เมื่อคืนกูเจอแพรกลับมากระทันหัน ไม่รู้มีเรื่องอะไร” “เรื่องอะไรก็ไม่ต้องเสือก” วชิรวิชญ์ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ พริตาคงดวงตกขั้นสุดที่ต้องมาเป็นของที่ดีแลนอยากได้ “เล่นจนแพรไม่สบายก็เกินไป” “...” “ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันนะเว้ย” “ไม่ต้องยุ่งเรื่องของกู” โชคดีที่กินยาแล้วพิษไข้ทุเลาลง แคลอรีนลงไปซื้ออาหารใฆ้คนป่วยกิน พริตาจึงนอนต่อเพราะความอ่อนเพลีย “สำออย” “แดน!” “นิด ๆ หน่อย ๆ เอง บอบบางเหลือเกิน” “...” พริตาหลีกเลี่ยงการปะทะฝีปากกับคนเลวอย่างเขา เธอเลือกดึงผ้าห่มขึ้นคลุมศีรษะแต่เนื้อตัวกลับสั่นไหวจนเขารู้ว่าเธอร้องไห้ “คืนนี้ไม่ต้องรอนะ” “ออกไปได้แล้ว เดี๋ยวแคลมาเห็น” “กลัวคนอื่นรู้เหรอว่าไม่ได้บริสุทธิ์แล้ว” “ขอร้องนะแดน...ออกไปเถอะ” พริตาไม่ได้เห็นว่าเขามีสีหน้าเช่นไรแต่เธอรู้สึกว่าตอนนี้ในห้องเหลือเธอเพียงคนเดียวแล้ว “ทำไมถึงเลวได้ขนาดนี้กันนะ” วันต่อมา เพราะเรียนรุ่นเดียวกัน คณะเดียวกันจึงหลีกเลี่ยงการต้องเจอหน้ากันไม่ได้เลย ยิ่งต้องทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นพริตายิ่งรู้สึกลำบากใจ “ขับรถอะไรของนายวะแดน ปาดไปปาดมาอยู่ได้” ทันทีที่รถจอดสนิทดีแลนก็ถูกลูกพี่ลูกน้องว่าให้ เขาตั้งใจแต่ไม่ใช่แกล้งแคลอรีน “ดูสิแพรหน้าซีดหมดเลย” “เราน่าจะเวียนหัวน่ะแคล ยังมึน ๆ อยู่ด้วย” “เราบอกให้หยุดต่อก็ไม่หยุด” “ไม่เป็นอะไรแล้ว อย่าลืมที่คุยกันนะ” แคลอรีนพยักหน้าซึ่งมันทำให้อีกคนไม่รู้ว่าพวกเธอกำลังตกลงทำเรื่องอะไรกัน “แพร ดีขึ้นแล้วเหรอครับ” “แหม รีบมาหาเลยนะคะพี่คิน” “ก็พี่เป็นห่วง โทรไปหาแพรก็หลับใส่” ปึง! สายตาทุกคู่หันไปมองที่มาของเสียง ดีแลนปิดประตูรถตัวเองแรงผิดปกติแล้วเดินไปจากลานจอดรถ “เพื่อนเราอารมณ์เสียอะไรมาหรือเปล่า” “ไม่ต้องไปสนใจเขาหรอกค่ะ หน้านิ่งแบบนั้นแหละบางทีก็ไม่ได้เป็นอะไรหรอก” แคลอรีนรีบแก้ต่างให้ชายหนุ่ม และเธอก็ไม่เห็นว่าจะมีเรื่องอะไรให้ดีแลนหงุดหงิด “พี่ว่าแพรยังตัวร้อน ๆ นะครับ” ภาคินพูดขึ้นหลังใช้มืออังหน้าผากหญิงสาว “เดี๋ยวก็น่าจะดีขึ้นค่ะ แพรเป็นไข้ไม่เคยเกินสามวัน ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ แพรกับแคลต้องเข้าเรียนแล้ว” “ครับ ตั้งใจเรียนนะ” ภาคินลูบศีรษะหญิงสาวด้วยความเอ็นดูก่อนจะปล่อยให้พวกเธอเดินไปเรียน “น่ารัก สุภาพมากเหมาะกับแพรที่สุด” ไม่ทันได้นั่งลงที่เก้าอี้แคลอรีนก็อดที่จะพูดขึ้นไม่ได้ ไม่สังเกตเลยว่ามีบางคนต้องเก็บสีหน้าไว้ขนาดไหน “พูดถึงใครเหรอ” “ก็พี่คินน่ะสิ เมื่อกี้เจอเขาแค่แป้บเดียว แต่เอามือแตะหน้าผากแพรแบบนี้แล้วก็พูดว่าแพรยังตัวร้อนอยู่เลยนะ” แคลอรีนเอามือแตะหน้าผากวชิรวิชญ์สาธิตความอบอุ่นของชายหนุ่มรุ่นพี่ที่พริตากำลังเปิดใจให้ “อ่า ถ้าเป็นคนนั้นเราเชียร์นะแพร” ดีแลนเผลอมองเพื่อนตัวเองแว้บหนึ่งก่อนจะกลับเป็นปกติในเสี้ยววินาที “มึงว่ายังไงไอ้แดน” “อะไร” “ไอ้รุ่นพี่ภาคินไง ผ่านมั้ยถ้าเขาคบกับเพื่อนเรา” พริตานึกอยากกลั้นใจตายให้รู้แล้วรู้รอด วินก็ช่างถามได้ถูกคนเหลือเกิน “กูไม่ยุ่งเรื่องคนอื่น” วชิรวิชญ์บิดยิ้มกับคำตอบที่ได้ ‘เคยเย็นชายังไงก็ยังเป็นอยู่อย่างนั้นสินะ แพรจะทลายน้ำแข็งมันได้หรือเปล่า’ ติ๊ง “จบคลาสนี้แล้วไปเจอกันที่ห้องน้ำหลังห้องสมุด” หลังเปิดอ่านข้อความพริตาแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว เธอละสายตาจากหน้าจอมือถือขึ้นมองเขาแววตาน่าสงสารแต่กลับได้เพียงแววตาเหมือนสัตว์ร้ายมองกลับมา เขาทำเหมือนไม่ได้เพิ่งส่งข้อความบ้า ๆ นั่นมาด้วยซ้ำ “มีอะไรหรือเปล่า” “เปล่าจ้ะ” “อ่อ เราก็นึกว่าเธอจะเป็นลมหรืออะไรเห็นหน้าซีด ๆ” “จบคลาสนี้แล้วแคลไปรอเแพรที่รถเลยนะ แพรขอทำธุระส่วนตัวหน่อย” เล่นตั้งหัวข้อว่าส่วนตัวแล้วแคลอรีนจึงไม่ถามว่าธุระของเธอคืออะไร อยู่ประเทศไทยมาตั้งแต่เกิดก็รู้ความหมายของประโยคนั้นดีพอ ๆ กับคนไทยนั่นแหละ ครืดด ทันทีที่หมดเวลาดีแลนก็หยัดตัวขึ้นเต็มความสูงและเดินออกไป “อะไรของเพื่อนนายวะวิน” “อารมณ์ไม่ดีมั้ง” “เรื่อง” “ไม่รู้สิ สงสัยจะมีคนแย่งจานโปรดมันกิน” “พูดเป็นเล่น นายนั่นเหรอจะมีจานโปรด อย่างมากก็ของที่เหลือไว้กินอีกสองเวลาเท่านั้นแหละ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม