ฉันแอบตามพี่โอมมาที่ร้านอาหารเพราะดูเขาเร่งรีบมากตั้งแต่ช่วงเย็น ฉันจึงรีบตามพี่โอมมาจนได้มารู้ว่าเขามาทานอาหารกับครอบครัว แต่เขาดันเห็นฉันแล้วก็มาลากฉันไปที่โต๊ะที่ครอบครัวเขานั่งอยู่แล้วเขาก็พูดบ้าอะไรไม่รู้
“มั่นใจในตัวพี่นะแก้ม ว่าพี่รักแก้มจริงๆ”
พี่โอมพูดบ้าอะไรเนี้ย ฉันนี่อ้าปากค้างเลยคืองง มาก.....
“พี่เป็นอะไรเนี้ย..?”
ฉันพูดกระซิบเบาไให้ได้ยินกัน 2 คน
“อยู่เฉยๆก่อน แล้วทำตามที่ฉันบอกแล้วฉันจะทำตามที่เธอบอกทุกอย่าเหมือนกัน”
ทุกอย่างเลยหรอ นี่เขาจะทำตามทุกอย่างที่ฉันบอกเลยหรอ
“แม่ครับ...ผมจะไม่หมั้นกับน้องเชอร์รี่นะครับ เพราะคนที่ผมจะหมั้นและแต่งงานด้วยมีแค่แก้มคนเดียวเท่านั้น...”
ฉันหันไปหาพ่อกับแม่ของพี่โอมเพื่อยิ้มให้แบบแหยๆ
พี่โอมเอาแต่พูดโกหกอยู่ฝ่ายเดียวว่ารักฉันและก็จะไม่หมั้นกับใครนอกจากฉัน จนพ่อกับแม่ของพี่โอมเริ่มเชื่อเพราะเขายังอ้างอีกว่าเรา 2 คนอยู่ด้วยกันแล้ว นี่เขาก็เล่นละครเก่งเหมือนกันนะเนี้ย
“สรุปพี่เรียนบริหารหรือเรียนการแสดงกันแน่ ถึงได้เล่นเนียนขนาดนี้”
ฉันหันไปพูดกับพี่โอมหลังจากที่แยกออกมาจากครอบครัวเขาแล้ว เขาขับรถพาฉันออกมาและภายในรถก็มีแค่เรา 2 คน
“....”
เขาไม่ยอมพูดอะไรอีกละ ทีเมื่อกี้ตอนอยู่ในโรงแรมนะพูดเป็นต่อยหอยเลย ที่นี่ละเอาแต่นั่งทำหน้าเครียดอยู่ได้
“พี่ไปโกหกพ่อกับแม่พี่แบบนั้นได้ยังไง ถ้าเขารู้ว่าเรา 2 คนไม่ได้เป็นอะไรกัน พี่จะทำยังไง…?”
“.....”
ไม่ตอบ นิ่ง เป็นท่อนไม่หรือไงฮะ
“พี่ไม่ถามฉันสักคำว่าฉันยอมเล่นละครกับพี่หรือเปล่า แต่พี่มาคิดเองเออเองแบบนี้ได้ยังไง รู้มั้ยฉันเสียหายนะ...?”
“....”
เงียบ นิ่ง ไม่ไหวติง
“ถ้าพี่ไม่พูดอะไรกับฉัน ฉันจะไปบอกพ่อกับแม่พี่ว่าเรา 2 คนไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“ถ้าเธอพูดฉันจะไม่ทำตามที่เธอต้องการ”
พี่โอมเบรกรถทันทีแล้วหันหน้ามาหาฉัน
“แล้วอะไรคือสิ่งที่แก้มต้องการ พี่รู้หรอ...?”
ฉันย้อนถามเขาออกไป แต่เขาก็ไม่ยอมตอบอะไรแต่เลือกที่จะหันกลับไปที่เดิม
“เธอเข้ามาใกล้ฉันเพราะอะไร เธอเองก็รู้ดีนิ...แล้วที่คอยตามเฝ้าฉันทุกวัน...เธอต้องการอะไรละ..?”
พี่โอมพูดเหมือนรู้เลยว่าฉันต้องการอะไรจากเขา
“นี่พี่รู้แล้วว่าแก้มต้องการอะไร..?”
“เธออยากให้ฉันไปร่วมกิจกรรมเดินขบวนในงานมหาลัย เพราะเธอถูกอาจารย์ รุ่นพี่ที่คณะขอร้องมาใช่มั้ย...?”
พี่โอมหันมามองหน้าฉันอีกครั้ง
“....”
เขามองหน้าฉันนิ่ง
“แลกกันมั้ยละ..”
“แลก...แลกกับอะไรคะ...?”
“....”
เขาไม่ยอมตอบยังนิ่งอยู่
“เธอแค่แกล้งมาเป็นแฟนฉันเพื่อตบตาพ่อกับแม่ฉัน แลกกับที่ฉันจะยอมไปร่วมกิจกรรมบ้าๆนั้นให้เธอ...”
นี่ฉันไม่ได้หูฝาดไปใช่มั้ย ใครก็ได้ช่วยตบหน้าฉันที
“....”
ฉันอึ้งไปเลย กับสิ่งที่เขาบอกกับฉัน
“เงียบแบบนี้ หมายความว่าอะไร เธอยอมหรือไม่ยอม...?”
“ยะ ยะ ยะ ยอมมม....แก้มยอม”
ฉันรีบตะโกนออกไปทันทีที่เขาเสนอมาให้
“งั้นก็ตามนี้....”
ฉันยิ้มดีใจมากที่พี่โอมยอมตกลงไปร่วมกิจกรรมให้ในงานมหาลัย ฉันทำสำเร็จแล้ว สำเร็จแล้ว ฉันหันกลับมานั่งยิ้มเหมือนคนบ้าโดยไม่ได้สนใจมองพี่โอมอีกเลย
.....
“......”
ยัยนี้นั่งยิ้มเป็นบ้าอยู่ได้ ดีใจมากขนาดนี้เลยหรอแค่ฉันยอมไปเดินขบวนเนี้ยนะ
“คอนโดเธออยู่ไหน..?”
ผมจ้องมองหน้าเธอจนเคลิ้มเพราะรอยยิ้มที่ดูไร้เดียงสาของเธอ มันทำให้ผมต้องรีบสลัดมันออก
“ก็อยู่ที่เดียว.....”
“ที่ไหน..?”
เธอกำลังจะพูดอะไร อยู่ดีๆเธอก็หยุดชะงักไป
“อยู่แถวมหาลัยนี่แหละ แก้มอยู่กับแพรนะคะ”
ผมพยักหน้าแล้วก็ขับรถไปส่งเธอที่หน้าคอนโดแถวมหาลัยเธอ
“เดี๋ยว..”
เธอกำลังจะลงจากรถแต่ผมเรียกเธอเอาไว้ก่อน
“คุยกันก่อนซิ ฉันมีอะไรต้องตกลงกับเธอ”
.......
ฉันเดินตามพี่โอมมาที่สวนสาธารณะหน้าคอนโดของแพร เขาบอกว่ามีเรื่องที่จะตกลงกับฉัน เรื่องอะไรนะ เอ๊ะ..หรือว่า
“เรื่องที่ฉันขอให้เธอแกล้งมาเป็นแฟนเพื่อแลกกับที่จะยอมทำตามที่เธอขอ..เธอคิดว่ายังไง”
นั่นไง ว่าละทำไมซื้อหวยไม่ถูกวะ ฉันก็มัวแต่ดีใจเรื่องที่พี่โอมยอมไปร่วมกิจกรรมของของมหาลัย
“ว่าไง..เธอจะยอมทำตามที่ฉันขอมั้ย..?”
“แล้ว...ถ้าแก้มทำตามที่พี่ขอจริงๆ พี่จะไม่เบี้ยวแก้มใช่มั้ย...?”
“ฉันไม่ใช่คนที่ผิดคำพูดแบบนั้น...”
“กี่วันคะ...?”
“กี่วัน หมายถึงอะไร...?”
“ก็ กี่วันที่แก้มจะแกล้งเป็นแฟนกับพี่ แก้มต้องใช้เวลากี่วัน...?”
“.....”
พี่โอมเงียบไม่ยอมตอบ
“ฉันยังไม่รู้ ขอดูก่อนเดี๋ยวฉันจะบอกเธออีกที”
“อ้าว...”
“แต่ข้อตกลงของเราฉันจะเป็นผู้ตั้งขึ้นเอง พรุ่งนี้เจอกัน...”
เขาพูดเสร็จก็เดินไปเลย ปล่อยให้ฉันยืนงง