จำใจ
ฉันได้รับมอบหมายจากทุกคนและอาจารย์ในคณะว่าต้องไปพาพี่รหัสของฉันมาเป็นตัวแทนในการถือป้ายของมหาลัย ซึ่งงานนี้เป็นงานใหญ่มาก 4 ปี จะมีแค่ครั้งเดียว แต่...
“ทำไมต้องเป็นแก้มด้วยละคะ..?”
“ก็เธอเป็นน้องรหัสของโอม เธอก็ต้องเป็นตัวแทนของคณะและมหาลัยเรา เธอต้องทำเพื่อพวกเราทุกคน”
อาจารย์ดวงพรเป็นคณบดีของคณะบริหารอินเตอร์ค่ะ มาบังคับกันขนาดนี้ได้ยังไง
“แต่อาจารย์ก็รู้นี่คะ ว่าพี่โอมไม่ยอมง่ายๆแน่ แค่กิจกรรมเล็กๆของคณะเราพี่เขายังไม่เคยมาร่วมด้วยเลย แล้วนี่เป็นงานใหญ่ของมหาลัยเขาจะยอมหรอคะ..?”
“ก็นั่นแหละอาจารย์ถึงต้องพึ่งเธอ เธอต้องทำยังไงก็ได้เพื่อให้นายโอมยอมมาเข้าร่วมงานนี้ เพราะเขาเป็นหน้าตาของคณะแล้วก็มหาลัยเราด้วย”
และนี่แหละคะคืองานหนักของฉันเลย เป็นน้องรหัสพี่เขามา 3 ปี ถามกันมั้ยว่าเคยคุยกันกี่คำ แค่ยิ้มให้ฉัน ยังไม่เคยกล้าทำ แค่มองฉันยังไม่เคยกล้าสบตาเลย ก็จะยังไงละคะก็พี่โอมมนุษยสัมพันธ์แย่จะตาย เคยยิ้มให้ใครที่ไหน เพื่อนสนิทก็เห็นมีแค่คนเดียวก็พี่เคนแหละ รายนั้นก็พูดมากเกินไม่รู้คบกันไปได้ไง
“แก้ม ทำไมแกเดินมาหน้างอแบบนั้นวะ..?”
“ก็จารย์ดวงพรดิ บังคับให้ฉันไปทำเรื่องบ้าอะไรก็ไม่รู้”
“เรื่องอะไรวะ ที่ทำให้แกอารมณ์เสียแบบนี้..?”
“เออ นั่นดิ ใครมาทำน้องแก้มสุดสวยของพี่เคนจ๊ะเนี้ย..?”
“ก็พี่โอมเพื่อนพี่นั่นแหละ”
ใช่คะ ได้ยินกันไม่ผิดหรอกคะ พี่เคนก็คนที่บอกว่าสนิทกับพี่โอมพี่รหัสสุดติสของฉันนี่แหละคะ สงสัยใช่มั้ยคะทำไมพี่เคนถึงมานั่งร่วมวงสนธยากับฉันได้
“น้องแก้มบอกพี่ได้เลยนะครับ ไอ้โอมไปทำอะไรน้องแก้ม พี่จะไปจัดการให้น้องแก้มสุดสวยของพี่เอง แต่มีข้อแม้นะ น้องแก้มต้องยอมไปกินข้าว ดูหนัง แล้วก็...”
นี่แหละคะเหตุผลที่พี่เคนมาอยู่ในกลุ่มเรา
“ไอ้พี่เคน เลิกหื่นสักแปบได้ปะ นี่จีบอีแก้มมาจะ 3 ปีละไม่ติดสักที ยังไม่เบื่ออีกหรอพี่ ถ้าเป็นแพรนะเลิกจีบไปตั้งแต่วันแรกที่อีแก้มมันอ๊วกใส่พี่แล้วนะ 5555”
ส่วนนี่ก็แพรคะเพื่อนสนิทร่วมคณะที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับไอ้พี่เคนทุกวัน ฉันละปวดหัว
“นี่....เลิกเถียงกันสักทีได้มั้ย พี่เคน แพร แก้มยิ่งเครียดอยู่นะ”
ฉันนั่งลงแบบเซ็งๆ ที่ทั้ง 2 คนเอาแต่เถียงกันไปมา
“น้องแก้มแล้วสรุปไอ้โอมไปทำอะไรน้องแก้มหรอ ไหนบอกพี่ซิ..?”
พี่เคนนั่งลงข้างฉัน ส่วนแพรก็นั่งลงอีกข้างของฉันเหมือนกัน
“ไงแก พูดมา..?”
“ในงานกิจกรรมระหว่างมหาลัยเรา(JR) กับมหาลัย TMS อาจารย์ต้องการให้พี่โอมไปถือป้ายเพื่อเป็นตัวแทนของมหาลัยเรานะซิ..”
“อย่าบอกนะว่า...ไม่จริงใช่มะ...?”
“จริง”
ฉันหันไปมองทั้ง 2 คนแล้วก็ต้องทำหน้าเศร้าพร้อมกับพยักหน้าแล้วก็ตอบออกไป ทั้ง 2 คนมองหน้ากันแล้วทำหน้าตกใจ
“พี่เคน ช่วยแก้มหน่อยนะคะ ช่วยพูดกับพี่โอมให้แก้มหน่อย นะๆๆๆๆ”
พี่เคนหันหน้าหนีฉันไปอีกทาง
“เอ่อ...น้อมแก้มถ้าให้พี่ไปไล่เตะมันซะยังจะดีกว่า แต่เรื่องนี้พี่....”
“ฮือออออ......”
ฉันแกล้งร้องไห้ออกมาเสียงดัง
“น้องแก้ม อย่าร้องนะจ๊ะเรื่องนี้พี่เคนช่วยไม่ได้จริงๆ ไอ้โอมมันเคยเข้าร่วมกิจกรรมอะไรที่ไหน มันไม่ชอบความวุ่นวาย ยังไงก็ไม่มีทางหรอก”
“ฮือออออ.....”
ฉันได้ยินที่พี่เคนพูดก็ยิ่งแกล้งร้องออกมาเสียงดังขึ้น
“แก้ม แกจะร้องไห้โวยวายทำไมวะ…?”
“แกไม่มาเป็นฉันแกไม่รู้หรอกว่ามันทรมานขนาดไหน ฉันเครียด ฉันเครียด....”
“โอ๊ย...แก้มแกจะเสียงดังทำไมเนี้ย”
“ก็ฉันเครียดนิ ทำไมต้องเป็นฉันวะ ทำไมฉันจะต้องเป็นน้องรหัสผู้ชายที่ไม่มีมนุษยสัมพันธ์กับใครเลยแบบนั้นด้วย ไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีคำพูดดีๆ ไม่มีสังคม ฉันทำไม่ได้แน่ๆ ฉันเครียดแกรู้มั้ย ฉันเครียด...”
“งั้นแกก็ไม่ต้องทำ”
“ไม่ได้ ฉันต้องทำให้ได้ และฉันก็ตัองทำให้สำเร็จด้วย”
“เออดี งั้นแกก็ต้องทำให้ได้ สู้โว้ยแก”
“แต่ฉันกลัวทำไม่ได้ ฮือออออ ฉันเครียด ฉันต้องทำไม่ได้แน่ๆเลย”
“เอ่อ ... งั้นแกก็ไม่ต้องทำไง”
“ไม่...ฉันต้องทำให้ได้แก ฉันต้องทำได้ “
“โอ๊ย... สรุปแกจะทำได้หรือแกจะทำไม่ได้กันแน่วะ พูดไปๆมาๆ งงโว้ย…”
“....”
“เอ้า!... อยู่ดีก็เงียบเฉย”
“....”
“แก้ม แก้ม อีแก้ม”
“เห้ย!...อะไรวะ เรียกทำไมเสียงดัง...?”
“แกเป็นไบโพล่าเปล่าเนี้ย อยู่ดีก็เงียบไป..?”
“เปล่า...ฉันแค่กำลังคิดว่าฉันต้องทำยังไงให้พี่โอมยอมมาร่วมกิจกรรมของมหาลัยเรา”
“ทำไมแกต้องทำขนาดนี้ด้วยวะ ถ้าแกทำไม่ได้แล้วยังไง คนอื่นก็ทำแทนแกได้ปะ..?”
“ฉันต้องทำให้สำเร็จให้ได้ ฉันจะทำให้พี่โอมยอมไปเข้าร่วมกับกิจกรรมให้มหาลัยเราให้ได้”
แต่ก็หนักใจอยู่เหมือนกันเพราะพี่เขาเป็นคนเงียบขรึม ไม่ชอบความวุ่นวาย ชอบเก็บตัว หมกตัวอยู่แต่ในห้องสมุดแล้วฉันก็เจอเขาบ่อยๆอยู่ที่นั่น เราเจอหน้ากันก็มีแค่ฉันที่ส่งยิ้มให้ แต่เขาหรอ หึ...หน้านี่นิ่งเป็นน้ำแข็งเลยค่ะ เลยทำให้เหล่าเพื่อนๆพี่ๆในคณะรวมทั้งอาจารย์ไม่ค่อยกล้าคุยอะไรกับเขาหรือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเขามากนัก
....
เวลา 5 โมงเย็น
“แกคิดแผนได้ยังว่าจะจัดการยังไงกับพี่โอม...?”
พวกเราเลิกเรียนแล้ว จึงจะไปห้องสมุดกันต่อและระหว่างทางที่กำลังจะเดินไป
“ฉุด เลยดีมั้ย”
“อีแก้มมนั่นผู้ชายค่ะ แกจะแบกผู้ชายขึ้นหลังแล้วลากขึ้นรถหรอ ไหวหรอคะ..?”
“ฉันพูดเล่น...”
“อีบ้า...แต่ฉันก็ยังสงสัยอยู่ดีว่าทำไมแกต้องทำด้วยวะ แกก็รู้พี่โอมเจอหน้าแกเคยคุยกับแกสักคำซะที่ไหน...?”
“ถ้าฉันทำสำเร็จฉันจะได้ทุนไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย 3 ปี”
“เรียนต่อ...นี่เป็นประเทศที่แกอยากไปเลยนี่..?”
“ใช่ ฉันฝันมาตลอดว่าอยากไปเรียนต่อที่นี่ และแกคอยดูนะฉันจะต้องทำให้สำเร็จให้ได้”
“เออ สู้โว้ย...”