ฉันมาเรียนในตอนเช้าก็เรียนไม่รู้เรื่อง ก็พี่โอมนะซิตั้งกฎบ้าอะไรไม่รู้ฉันละปวดหัวจริงๆ เมื่อวานนี้เขามาส่งฉันที่คอนโดแพรเสร็จก็กลับไป ฉันเลยต้องนั่งรถกลับคอนโดเอง ก็คอนโดเดียวกับพี่เค้านั่นแหละ แต่ฉันไม่กล้าบอกเขาเลยต้องโกหกไปก่อน แต่ที่ทำให้เช้านี้ของฉันต้องปวดหัวก็คือ
“ทำไมสาย...แล้วทำไมถึงตัวเปียกขนาดนี้ อาบน้ำไม่ได้เช็ดตัวหรือไง”
ยังจะมีหน้ามาพูด นี่เหงื่อของฉันล้วนๆเลยค่ะ ก็วิ่งมาจากป้ายรถเมล์แล้วอ้อมมาด้านหลังเพื่อไม่ให้พี่เขารู้นี่แหละ
“ทำไมพี่ต้องนัดแก้มเช้าขนาดนี้ด้วย แก้มมีเรียนตั้ง 11 โมงนะ กะว่าจะนอนตื่นสายๆซะหน่อย”
“จะนอนกินบ้านกินเมืองหรือไง ไปได้แล้ว...”
“ไปไหน...?”
“ตามมาเหอะน่า อย่าพูดมาก...รำคาน”
อ้าว นี่โทรไปปลุกกันแต่เช้าเพื่อเรียกมาด่าหรอ คนบ้า! รู้มั้ยว่าฉันต้องตื่นเช้าแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัวมากแค่ไหน แถมยังเกือบตายเพราะวิ่งไล่รถเมล์ เกือบโดนรถชนแล้วยังต้องรีบวิ่งกว่าจะมาถึงคอนโดนี้เองเหนื่อยสุดๆเลย
“คิดอะไร..หรือว่ากำลังด่าฉันอยู่ในใจ”
เขาหันมาเห็นฉันที่ทำหน้าหงุดหงิด ตั้งแต่เข้ามาในห้องสมุดที่ไม่มีใครอยู่เลยนอกจากเรา 2 คน
“เปล่า...แก้มไม่ได้คิดอะไรซะหน่อย”
ฉันรีบปฏิเสธทันที ทำไมต้องมาที่ห้องสมุดด้วยนะ แล้วเขาจะเดินไปไหน
“....”
เขานำฉันไปด้านหลังของห้องสมุด ที่มีมุมแอบๆที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อนว่าในห้องสมุดมีมุมแบบนี้ด้วย
“เข้ามาซิ ...ยืนเฉยทำไม”
ฉันกำลังตกใจกับความพิเศษของประตูที่มันเปิดออกได้ แล้วด้านในมีโต๊ะเก้าอี้คู่หนึ่งเอาไว้นั่งอ่านหนังสือแล้วก็โซฟาสีแดงตัวใหญ่
“นั่งซิ...”
ฉันสะดุ้ง...แต่ก็รีบนั่งลงตรงโซฟาตัวสีแดง ที่มีเขานั่งอยู่ที่โต๊ะหนังสือ
“แก้มไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า..ห้องสมุดเราจะมีห้องลับเล็กๆที่อยู่ด้านในแบบนี้ด้วย”
เขามองหน้ามาที่ฉันนิ่งๆ
“มีแค่ฉันที่รู้ว่าห้องนี้มีอยู่ในห้องสมุด และเธอเป็นคนที่ 2 ที่รู้ต่อจากฉัน..”
อ้าวซวยละ นี่พี่เขากำลังจะสื่อว่า ถ้าเรื่องนี้มีคนรู้ว่าห้องนี้มันมีอยู่ในห้องสมุดคือ ฉันจะโดน...ใช่มั้ย?
“เข้าใจที่ฉันจะสื่อใช่มั้ย...ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูใครว่าห้องนี้มีอยู่ในห้องสมุด ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่...”
นั่นไง ทำไมซื้อหวยไม่ถูกวะอีแก้ม
“แล้วพี่จะพาฉันมาที่นี่ทำไมละ ทำไมเราไม่คุยกันข้างนอก หรือพี่ก็โทรมาคุยกับแก้มก็ได้ไม่เห็นต้องพามาให้แก้มรู้เลยว่าในนี้มีห้องแบบนี้ของพี่อยู่ด้วย..”
ฉันเถียงเขาข้างๆคูเพราะฉันก็กลัวตัวเองจะหลุดปากจริงๆนั่นแหละ
“ไม่...ฉันอยากทำข้อตกลงระหว่างเรา คนอย่างเธอถ้าไม่ทำเป็นลายลักอักษรก็คงจะหวังอะไรไม่ได้...”
“แก้มดูแย่ขนาดนั่นเลยหรอ...ชิส์”
ฉันทำหน้าบึ้งๆใส่เขาแล้วเขาก็ลุกขึ้นมายื่นกระดาษตรงหน้าให้ฉัน 1 แผ่น
“นี่เป็นกฎที่เธอต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ลองอ่านดูเธอโอเคมั้ย...?”
ฉันก้มหน้าไปดูแผ่นกระดาษที่เขาวางไว้แล้วหยิบมันขึ้นมาอ่านอย่างเริ่มไม่พอใจ
“นี่กฎบ้ากฎบออะไรของพี่เนี้ย ทำไมมันถึงได้เอาเปรียบกันขนาดนี้หละ..แก้มไม่โอเคอะ”
ฉันรีบวางมันลงอย่างไม่พอใจแล้วก็ส่ายหน้าปฏิเสธทันที
“ถ้าเธอไม่โอเคฉันก็จะไม่ทำตามที่เธอขอเหมือนกัน...”
ฉันจ้องหน้าพี่โอมอย่างไม่พอใจ
“แล้วพี่มาถามแก้มทำไมว่าข้อไหนที่แก้มไม่โอเค ต่อให้แก้มบอกว่าข้อนี้แก้มไม่โอ ข้อนี้แก้มให้เปลี่ยน พี่ก็จะไม่ยอมอยู่ดี...”
ฉันยืนกอดอกทำหน้าบึ้งๆใส่เขาอย่างขัดใจ
“เซ็นได้แล้ว แล้วก็ทำตามกฎทุกข้อด้วย..”
พี่โอมยื่นปากกามาให้ฉัน
“ถ้าแก้มยอมทำตามกฎของพี่ทุกข้อได้จริงๆ พี่จะยอมทำตามที่แก้มขอใช่มั้ย...?”
เขาจ้องหน้าเธอนิ่งq
“อืม...”
เขาพยักหน้าให้อย่างส่งๆแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก
.....
นั่นแหละค่ะคือสิ่งที่ฉันเครียด เซ็นปากกาลงไปแล้วในกระดาษที่พี่เขาตั้งกฎขึ้นมาทั้งหมด แล้วฉันก็ต้องมานั่งเครียดนี่แหละ ทำไมฉันจะต้องมายอมเขาด้วยนะ ถ้าฉันไม่ได้อยากไปออสเตรียมากๆฉันคงไม่พยายามขนาดนี้หรอก
Line
โอม : เย็นนี้เจอกันที่ห้าง The M 5 โมงเยนนะ
แก้ม : ไปทำอะไรคะ
โอม : มาถึงแล้วก็รู้เอง
แก้ม : แต่แก้มต้องรีบกลับนะคะ แก้มมีธุระ
โอม : อืม
คนอะไรไม่รู้ออกคำสั่งชะมัดแล้วยังพูดห้วนๆกับผู้หญิงอีก ไม่มีครับบ้างหรอ พูดกับผู้หญิงนะคะ
“เลือกซิ..”
“อะไรคะ..?”
ฉันงงอยู่ดีๆเขาก็เดินพาฉันเข้ามาในร้านขายเสื้อผ้าที่แพงมากๆ ใครจะมีปัญญาไปซื้อหละ แพงขนาดนี้
“ฉันให้เลือกก็เลือกเถอะนะ ฉันไม่ได้จะให้เธอจ่ายหรอก ฉันจะจ่ายให้เอง...”
“จริงดิ พี่จะจ่ายให้แก้มจริงหรอ..?”
“...”
เขานิ่งไม่ตอบ
“แล้วพี่มาซื้อให้แก้มทำไมอะ ไม่เอาหรอกนะ ถ้ามาจ่ายให้แล้วตอนหลังมาตามเก็บตังค์ทีหลังอะ แก้มไม่มีตังค์จ่ายให้พี่หรอกนะ...”
พี่โอมหันมามองหน้าฉันอย่างรำคาญ เขาตัดสินใจเดินไปหยิบเสื้อผ้าในร้านมาเป็น 10 ชุด แล้วยื่นมาให้ฉัน
“ไปลอง..”
“หมดนี่เลยหรอ ทำไมต้องลองอะ ไม่เอาอะ แก้มไม่เอาหรอก แก้มกลัวพี่มาเรียกเก็บตังค์แก้ม....”
เขาไม่ฟังฉันแต่ลากมือพาฉันไปที่ห้องลองเสื้อแล้วก็ดันฉันเข้าไปในห้องทันที
“อย่าช้า เร็วๆ...”
เขายังตะโกนเข้ามาในห้องอีก ทำไมฉันจะต้องมาลองไอ้ชุดบ้าๆพวกนี้ด้วยนะ
.....
ผมพายัยนี่มาซื้อเสื้อผ้าเพราะนัดกับพ่อแม่ว่าจะพาเธอไปทานข้าวด้วยกันพรุ่งนี้วันหยุด แต่ไม่ไว้ใจกลัวว่าจะแต่งตัวไม่รู้กาลเทสะเลยต้องพามาซื้อเสื้อผ้าใหม่เลย แล้วตอนนี้ยัยนี้ก็ลองเสื้อผ้าอยู่ในห้องลองเปลี่ยนมาหลายชุดแล้ว ผมไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องรู้สึกใจสั่นทุกครั้งที่ยัยนี่เดินออกมาด้วยชุดที่ผมเลือกให้ เพราะไม่ว่ายัยนี่จะใส่อะไรมันก็ดูดีไปหมดจนผมไม่อาจละสายตาจากเธอไปได้เลย
“อ๊ะ...พอใจหรือยังคะ ลองจนครบแล้วนะ 10 ชุด”
เธอยื่นชุดทั้งหมดมาให้ผมอย่างทำหน้าเบื่อหน่าย
“แก้ม ไม่เอาหรอกนะสักชุดด้วยมันแพงเกินไป ถ้าพี่จะมาซื้อให้แก้มแล้วมาเก็บตังค์ทีหลังแก้มก็ไม่เอานะ..แก้มต้องรีบไปทำธุระนะ พี่ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย”
แก้มกำลังจะเดินไป
“โทษนะครับ ผมเอาชุดพวกนี้ทั้งหมดเลยครับ”
“เฮ่ย..นี่พี่เอาหมดเลยหรอ แก้มไม่...”
“ฉันซื้อให้ เธอไม่ต้องจ่ายอะไรให้ฉันทั้งนั้นเพราะที่ฉันซื้อให้ฉันมีเหตุผล แล้วเธอก็ห้ามขัดฉัน..”
ผมเดินไปจ่ายตังค์เสร็จแล้วก็รับถุงเสื้อผ้ามายื่นให้เธอทั้งหมด
“รับไปซิ...”
เธอยังยืนนิ่งไม่ยอมรับจากมือผม
“แก้ม...”
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ฉันซื้อให้เพราะต้องการให้เธอใส่เพื่อไปหาพ่อกับแม่ฉันในวันพรุ่งนี้...”
“ฮะ...อะไรนะ..พรุ่งนี้แก้มต้องไปหาพ่อกับแม่พี่หรอ..ทำไมมันถึงได้ทันด่วนแบบนี้หละ แก้มยังไม่ทันได้..”
“เธอไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ทำตามที่ฉันบอกก็พอ..รับไปได้แล้ว แล้วจะไปทำธุระที่ไหนก็รีบไป..”
“เอ่อ...คะ”
เธอรับถุงเสื้อผ้าจากผมเสร็จ ก็รีบก้มดูนาฬิกาตัวเอง
“เฮ้ย..ใกล้แล้วนี่ พี่โอม งั้นแก้มไปก่อนนะ เดี๋ยวแก้มไปไม่ทัน ไปนะพี่...”
ยัยนั้นวิ่งหน้าตื่นไปเลยอย่างดูรีบๆลนๆ ธุระอะไรจะเร่งด่วนขนาดนั้น ไม่รู้ว่ามันสำคัญอะไรนักหนา