ทะเลทรายซาไห่อยู่ห่างจากค่ายทหารหน้าด่านเทียนเหมินมากนัก หลายวันที่เดินทาง นอกจากต้องผ่านป่าไม้รกชัฏ ลำธารทอดยาวและถนนดินดำที่กั้นระหว่างทุ่งหญ้าอันเวิ้งว้างสองฝั่ง ยังต้องผ่านหมู่บ้านที่มีผู้คนพลุกพล่านด้วย ศึกครานี้ถังไห่เฉิงไร้หน้ากากอักขระดำให้สวมใส่อำพราง จึงเผยโฉมรูปงามให้เห็นโดยทั่วกัน บุรุษหนุ่มหล่อเหลาทั้งองอาจและห้าวหาญนั่งสง่างามบนอาชาแกร่งทรงพลัง นำขบวนเหล่าพลทหารผู้ฮึกเหิมแข็งขัน พวกเขาแสดงออกถึงความศรัทธาต่อการกรีฑาทัพเหี้ยมหาญ สายตาที่ทอดมองนายเหนือหัวคือการศิโรราบต่อผู้แข็งแกร่ง นอกจากความน่าเกรงขามที่แผ่ซ่านโดยธรรมชาติยังเป็นที่ยำเกรงด้วยตำแหน่งสูงศักดิ์ผู้เป็นถึงรุ่ยอ๋อง ชาวบ้านชาวเมืองสองฝั่งข้างถนนพากันคุกเข่าทำความเคารพก่อนจะกล่าวคำสรรเสริญแซ่ซ้องตามหลังเมื่อขบวนเคลื่อนตัวผ่านไป การปรากฏกายด้วยรูปโฉมเหนือสามัญโดยปราศจากหน้ากากอักขระสีดำของถังไห่เฉิงทำให้ความอำมห