เมิน เมิน เมิน 3
ตั้งแต่วันนั้นที่พอเพียงเดินออกไปจากห้อง เธอก็ไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย
ไม่เรียกร้องหรือแสดงตัวแบบผู้หญิงคนอื่นที่เคยเข้ามาในชีวิตเขา
ซึ่งนั่นทำให้ราชสิงห์หงุดหงิด ตลอดห้าวันที่ผ่านมาเรียกได้ว่าเขาอารมณ์เสียแทบตลอดเวลาเลยก็ว่าได้
จะมีมาอารมณ์ดีก็ช่วงเช้าของวันนี่แหละ
“นี่ประวัติคุณพอเพียงครับนาย”
ราชสิงห์วางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ หันไปรับไอแพดจากลูกน้องมาเปิดดู
“ทำงานเร็วมากหนึ่ง”
“ขอบคุณครับนาย”
หนึ่งรีบตอบรับคำชม ห้าวันที่ผ่านมาพวกเขาแทบจะหยุดหายใจกับอารมณ์หงุดหงิดของเจ้านายที่มีมาเกือบตลอดเวลา
เห็นก็จะมีตอนนี้แหละที่พอหายใจหายคอกันได้บ้าง
ยิ่งตอนเจ้านายเปิดดูรูปผู้หญิงที่ให้เขาไปสืบ อารมณ์เจ้านายก็ดีขึ้น เห็นได้ชัดเจนจากรอยยิ้มบนใบหน้า
“ผมขอรายงานเพิ่มเติมนะครับ”
สองซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทอีกคนขออนุญาต ซึ่งราชสิงห์เองก็พยักหน้าพลางเลื่อนดูรูปถ่ายของพอเพียงด้วยรอยยิ้มที่ทำเอาลูกน้องคนสนิททั้งสองถึงกับหันมองหน้ากัน
“ผู้หญิงคนนี้ชื่อ พอเพียง เป็นลูกสาวคนสุดท้องของตระกูล ครอบครัวของเธออยู่อังกฤษกันหมดครับ”
“แสดงว่าเธออยู่เมืองไทยคนเดียว?”
“ก็ไม่เชิงครับ เพราะที่บ้านเธอยังมีคนดูแลส่วนตัวของเธอและแม่บ้านอยู่ไม่ต่ำกว่าสิบคนครับ”
ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้ม มือก็เลื่อนดูภาพเจ้าของใบหน้าสวยละมุนไปด้วย
“ถูกเลี้ยงแบบคุณหนูสินะ”
“แต่ตอนนี้เธอย้ายออกมาอยู่กับเพื่อนแล้วนะครับ”
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน เงยหน้ามองลูกน้องอย่างต้องการคำตอบ
“เพื่อนผู้หญิงครับ”
สองรีบบอกต่อ ด้วยความที่ทำงานกับสิงมานานเลยทำให้เขาเดาใจสิงได้ไม่ยาก
“ก็ไม่ได้สนใจสักหน่อย”
ราชสิงห์พูดพลางวางไอแพดลง ยกมือขึ้นกอดอกมองตรงไปยังลูกน้อง
“แล้วเธอพักอยู่ที่ไหน?”
“ไหนนายบอกไม่ได้สนใจไงครับ”
“ไอ้หนึ่ง!!”
“ครับๆ ผมเช็กมาให้นายเรียบร้อยแล้วครับ”
“ก็แค่นี้”
ราชสิงห์รับฟังเรื่องราวและประวัติของพอเพียงต่อไปเรื่อยๆ ด้วยใบหน้าเบิกบาน
ลูกน้องเมื่อเห็นเจ้านายมีความสุขก็ยิ่งหาข้อมูลเกี่ยวกับพอเพียงมาเพิ่ม
“ส่วนนี่ไอจีของคุณพอเพียงครับนาย”
หนึ่งยืนโทรศัพท์ตัวเองที่กดฟอลไอจีหญิงสาวเรียบร้อยให้ราชสิงห์ดู
ราชสิงห์รับมาดูก่อนจะขมวดคิ้วเป็นครั้งที่สองของวัน
“ทำไมคนกดไลก์เยอะจังวะ”
“เอ่อ คงเพราะเธอสวย เป็นดาวมหา’ลัยและยังชอบทำกิจกรรมจิตอาสาครับ”
“เออกูรู้ แล้วทำไมผู้ชายมาเมนต์เยอะจังวะ”
นิ้วเรียวเลื่อนดูคอมเมนต์ไปก็ขบกรามตัวเองไปด้วย
เขาไม่เข้าใจว่าอาการแบบนี้เรียกว่าอะไรแต่ที่รู้ตอนนี้คือเขาไม่ชอบ!
“พวกมึงไปจัดการไอ้พวกที่เมนต์ทุกตัวเลยนะ”
“เอ่อ เกือบห้าร้อยคนเลยนะครับ”
“เออ ทำไม่ได้รึไง”
หนึ่งและสองถอยหลังออกห่างเจ้านายอย่างอัตโนมัติ ทั้งคู่หันมองหน้ากันก่อนที่สองจะเป็นคนเสนอวิธีแก้ปัญหา
“ถ้านายไม่ชอบให้ไอ้ผู้ชายพวกนั้นมายุ่งกับคุณพอเพียงอีก ผมมีวิธีที่ดีกว่านั้นครับ”
“อะไร?”
“นายก็ทำให้เธอเป็นเมียราชสิงห์สิครับ คราวนี้ก็ไม่มีใครกล้ายุ่งกับเธอแน่นอน”
“เรื่องอะไรกูต้องเป็นฝ่ายเข้าไปหา”
ปากบอกไม่ทำแต่การกระทำนั้นสวนทางมันเป็นแบบนี้นี่เอง เพราะหลังจากสิงพูดอย่างนั้นออกไป ห้านาทีต่อมา เขาก็สั่งให้ลูกน้องขับรถมามหาวิทยาลัยพอเพียงทันที
สืบเนื่องมาจากวิธีที่สองเสนอเลยทำให้ทั้งสามคนทั้งลูกน้อง เจ้านายกำลังนั่งดักรอพอเพียงกันอยู่ในรถ
“นายจะเอายังไงต่อครับ”
หนึ่งหันไปถามเจ้านาย ซึ่งนั่งกอดอกยิ้มอารมณ์ดีอยู่ตรงเบาะหลัง
“หึหึ มึงรู้ใช่ไหมว่ารถพอเพียงคันไหน”
“เอ่อ ครับ”
“ดี ไปจัดการให้มันวิ่งไม่ได้สิ”
“นายหมายความว่าไงครับ?”
หนึ่งถามซ้ำด้วยความไม่เข้าใจ ถ้าจำไม่ผิดคือราชสิงห์จะมาจีบพอเพียงไม่ใช่หรือ
แต่สิ่งที่เขาสั่งให้ไปทำ มันดูไม่ใกล้เคียงคำว่าจีบสักนิด
“ตามนั้นแหละ ไปได้แล้ว”
“ครับนาย”
ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจเจตนารมณ์ของเจ้านายแต่หนึ่งก็ไม่กล้าถามอะไรต่อ
ภายในรถตอนนี้เลยเหลือแค่สองกับราชสิงห์ซึ่งกำลังนั่งสั่งงานลูกน้องทางโทรศัพท์อยู่ตรงเบาะหลัง
“นายครับ คุณพอเพียงเดินลงมาแล้วครับ”
ราชสิงห์กระตุกยิ้มมุมปาก วางสายจากการสั่งงาน จ้องมองไปยังร่างบางที่กำลังโบกมือลาเพื่อนของเธอ
“ให้ผมลงไปตาม อ้าว นายครับ”
ไม่ทันพูดจบราชสิงห์ก็ลงจากรถตรงไปหาหญิงสาวเสียแล้ว
“แล้วบอกไม่สนใจ”
สองมองตามเจ้านายตัวเองยิ้มๆ สงสัยพวกเขาคงจะได้นายหญิงแล้วละงานนี้
“ว้าย อุ๊ย หล่นๆ”
มือหนาคว้าเอวบางไว้ทันก่อนที่เธอจะล้มลง
“ซุ่มซ่าม”
“คะ...คุณ 0_0”
เพราะราชสิงห์เดินมายืนด้านหลังเธอแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงนั่นแหละ เลยทำให้จังหวะที่พอเพียงหมุนตัวกลับมาชนเข้ากับเขา
“สวัสดีครับน้องพอเพียง”
เมื่อพอเพียงตั้งสติได้ เธอจึงรีบผละออก กลับมายืนตัวตรงโดยไม่มองหน้าอีกคน
“คุณต้องการอะไรคะ?”
พอเพียงถามด้วยน้ำเสียงนุ่มละมุน แต่ดวงหน้าสวยกลับเชิดขึ้นไม่ยอมมองหน้าคู่สนทนา
ราชสิงห์กระแอมเล็กน้อยก่อนจะยืดตัวตรงอย่างวางมาดเช่นกัน
“ทำไมเธอไม่ติดต่อฉันกลับมาเลย”
คิ้วสวยเลิกขึ้น พอเพียงหันมองเขาพร้อมด้วยคำถามที่ทำเอาราชสิงห์อ้าปากค้าง
“แล้วทำไมพอเพียงต้องติดต่อคุณกลับคะ เราไม่มีความจำเป็นต้องติดต่อกันสักหน่อย”
ถึงแม้น้ำเสียงจะฟังดูนุ่มนวลแต่ไม่ได้ทำให้ความหมายในประโยคนั้นเบาลงเลย
“นี่เธอ!”
ทั้งคู่กลายเป็นจุดสนใจ นักศึกษาที่เดินผ่านไปมาต่างลอบมองพวกเขาด้วยความสนใจ
ราชสิงห์เลยกลับมาวางท่าทางนิ่งเฉยตามเดิม
“เธอควรติดต่อมาเพราะฉันสั่ง และอีกอย่าง..”
“ขอโทษนะคะ พอเพียงขอตัวก่อน”
พอเพียงตัดบทสนทนา โค้งศีรษะเล็กน้อยตามมารยาท
“นี่เธอกล้าเดินหนีฉันเหรอ”
เธอเดินผ่านหน้าราชสิงห์ไปยังที่จอดรถโดยไม่ได้สนใจเสียงเขา ราชสิงห์เลยต้องเดินตามเธอมาติดๆ
“คุณไม่ควรเดินตามคนอื่นแบบนี้นะคะ”
พอเพียงหยุดเดินหันมาพูดกับคนที่ยังเดินตามเธอไม่เลิก
“ใครบอกฉันเดินตามเธอ”
ราชสิงห์ตอบลอยหน้าลอยตา แกล้งบีบแก้มนิ่มของพอเพียงแล้วเดินนำหน้าเธอไปอย่างอารมณ์ดี
คราวนี้เลยกลายเป็นพอเพียงเองที่เรียกเขาเสียงดัง ซึ่งมันเข้าทางราชสิงห์ เขาเรียกร้องความสนใจสำเร็จ
“คุณ!”
“หวงทำไม มากกว่านี้ฉันก็เคยจับ”
ราชสิงห์หันมาขยิบตา ไม่ได้รู้สึกผิดใดๆ
และด้วยความที่พอเพียงไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด เธอเลยตัดสินใจเดินไปยังรถของตัวเองแทน
“ถ้ารถเสีย กลับกับฉันได้นะ”
ร่างสูงยื้อประตูรถไว้ไม่ยอมให้เธอปิด
ถึงหญิงสาวจะไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดแต่เธอก็เลือกที่จะไม่สนทนาต่อ หันไปลองสตาร์ตรถ ปรากฏว่า...
แทร็ด แทร็ด
ราชสิงห์ยกยิ้มร้ายเมื่อเห็นอาการของรถพอเพียงเป็นไปตามแผน แต่เพียงครู่เดียว BMW คันสีขาวนั่นดันเกิดสตาร์ตติดขึ้นมา
“ได้ไงวะ”
ราชสิงห์สบถกับตัวเองเบาๆ เดินเข้ามาขวางประตูรถไว้ไม่ยอมให้เธอปิดมัน
เขาเงยหน้าสบตากับดวงตาสีเฮเซลของเจ้าของรถอีกครั้ง
“เราต้องคุยกันนะพอเพียง”
พอเพียงไม่ตอบ เธอถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือไปดึงประตูรถ
“กรุณาหลบด้วยค่ะ จะปิดประตู”
พอเพียงพูดด้วยเสียงนุ่มนวลตามแบบฉบับเธอ
แต่นั่นก็เพียงพอให้คนที่ยืนขวางหลบทางให้
เมื่อราชสิงห์หลบพ้นทาง พอเพียงก็ปิดประตูและออกรถทันที ไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง
ราชสิงห์เองก็ได้แต่มองตามตาปริบๆ นี่เขาถูกผู้หญิงคนนี้เมินอีกแล้วเหรอ และที่สำคัญเขายอมทำตามที่เธอบอกเพียงแค่เธอพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแบบนั้น มันไม่ใช่เขาเลย
—————————-
จะสงสารก็สงสาร จะขำก็ขำ555
สู้ต่อไปนะราชสิงห์