ให้เวลา 4
หลังจากวันนั้นที่ราชสิงห์โดนพอเพียงเมินที่มหาลัย เขาก็ไม่ได้เจอเธออีกเลย
เพราะเขาต้องมาดูงานที่ฮ่องกง วันนี้ก็ปาเข้าไปสองอาทิตย์แล้ว สิ่งเดียวที่ทำให้เขาพอคลายคิดถึงเธอได้บ้างคือการนั่งดูสตอรี่ไอจีของเธอ
“นายครับขออนุญาตครับ”
“อืม”
หนึ่งเดินเข้ามาพร้อมรายงานเรื่องที่เขาได้รับมาอีกที
“วันศุกร์นี้คุณนายอยากให้นายไปร่วมงานการกุศลด้วยครับ”
ราชสิงห์ถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย แม่ของเขาบังคับเสือ พี่ชายของเขาไม่ได้น่ะสิเลยต้องมาบังคับเขาแทน
“บอกไปว่ากูไม่ไป”
“แต่คุณหญิงบอกว่า...”
ดวงตาคมเหลือบมองลูกน้องนิ่ง นั่นทำให้หนึ่งไม่กล้าพูดต่อ
ราชสิงห์ก้มมองมือถือในมืออีกครั้ง เขากดเข้าไปดูสตอรี่ไอจีของพอเพียงเมื่อเห็นว่าเธอเพิ่งอัปสตอรี่ใหม่
“หึ ทำมาเป็นยิ้มนะ”
ต้องยอมรับว่าเขาตกหลุมรักรอยยิ้มของพอเพียงจริงๆ เธอเป็นผู้หญิงที่มีรอยยิ้มสวยที่สุดตั้งแต่เขาเจอมาเลยก็ว่าได้
“เอ๊ะ งานการกุศุลอย่างนั้นเหรอ”
ราชสิงห์เพ่งมองภาพในสตอรี่ไอจีอีกครั้ง ซึ่งด้านหลังเหมือนเป็นการจัดงานบางอย่างและมันดูเหมือนงานการกุศลที่ไหนสักแห่ง
“หนึ่ง อย่าเพิ่งโทรหาแม่”
“ครับนาย”
หนึ่งรีบลดโทรศัพท์ลง เดินกลับเข้ามายืนตรงหน้าเจ้านาย
“นายเปลี่ยนใจเหรอครับ”
“อือ ไปงานการกุศลก็ดีเหมือนกัน”
“ครับ?”
หนึ่งอดไม่ได้ที่จะมองเจ้านายด้วยใบหน้าสงสัย ปกติเจ้านายเขาบริจาคเงิน บริจาคสิ่งของเป็นประจำอยู่แล้วแต่ราชสิงห์ไม่ชอบเข้างานสังคมแบบนี้เท่าไรนัก
“ทำไม? มึงมีปัญหารึไง”
“ไม่มีเลยครับ เดี๋ยวผมรีบโทรบอกคุณนายให้นะครับ”
ราชสิงห์เลื่อนไอจีดูภาพพอเพียงในไอจีก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก
หนึ่งลอบมองเจ้านาย ช่วงนี้เจ้านายเขาชอบนั่งมองมือถือและยิ้มคนเดียวทั้งที่ก่อนหน้านี้ราชสิงห์แทบไม่สนใจโทรศัพท์ตัวเองด้วยซ้ำ
“เป็นอะไรวะไอ้หนึ่ง เดินออกมาหน้าเครียดเชียว”
สองทักขึ้นเมื่อสวนทางกับหนึ่งบริเวณทางเดิน
“นายน่ะสิวะ ช่วงนี้แปลกๆ ชอบนั่งยิ้มคนเดียวแถมยังยอมไปงานการกุศลกับคุณนายง่ายๆ อีก”
“หึหึ มึงนี่มันช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย”
สองทบบ่าเพื่อนด้วยร้อยยิ้มมีเลศนัย
“รู้อะไรวะ?”
“ตอนนายยิ้ม นายดูอะไรอยู่ล่ะ แล้วที่นายยอมไปงานการกุศล มึงคิดว่านายต้องการไปเจอใครรึเปล่า”
“อาจจะดูคลิปตลกมั้ง แล้วไปงานการกุศลก็ต้องเจอคุณนายสิ”
คำตอบของเพื่อน ทำเอาสองถึงกับกุมขมับ
“แล้วแต่มึงเลยครับ”
“มีอะไรวะไอ้สอง บอกกูดิ”
“ไม่บอก เรื่องง่ายๆ แค่นี้ มึงคิดไม่ออกก็อย่ารู้เลย”
สองว่าพลางเดินออกไป หนึ่งเลยรีบเดินตามเพราะอยากรู้คำตอบ
“บอกกูก่อนดิวะ กูไม่เข้าใจ ไอ้สองบอกกูก่อนนนน”
งานการกุศลวันนี้เป็นงานประมูลภาพวาดของเด็กผู้ด้อยโอกาสเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้เด็กและมอบรายได้ส่วนหนึ่งให้แก่มูลนิธิ
“สวัสดีค่ะคุณทักษอร แหมวันนี้ควงลูกชายมาเลยนะคะ”
“สวัสดีค่ะคุณอรนภา นานๆ ทีแหละค่ะกว่าจะเจ้าสิงเขาจะว่างมา”
ราชสิงห์ไหว้เหล่าบรรดาคุณหญิง คุณนายก่อนจะขอตัวแยกออกมาอ้างว่าไปเข้าห้องน้ำ
เขาค่อนข้างมั่นใจว่าพอเพียงได้รับเชิญมางานนี้แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังมองหาเธอไม่เจอ
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ”
ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาชนราชสิงห์ เจ้าหล่อนล้มตัวลงเหมือนชนแรงเสียเต็มประดา โชคดีที่ราชสิงห์รับไว้ทัน
“ขอโทษด้วยนะคะ ติช่าซุ่มซ่ามจังเลย”
มือเรียวเกาะแขนแกร่งไว้แน่น พยายามส่งสายตาหวานเยิ้มให้เขาแต่นั่นไม่ได้ทำให้ราชสิงห์สนใจแม้แต่น้อย
เพราะเขามีบางสิ่งที่น่าสนใจกว่า
“มาคนเดียวเหรอพอเพียง”
มาร์ชเดินเข้ามาทักพอเพียงซึ่งกำลังเลือกหยิบขนมทานเล่นอยู่ พอเพียงเลยหันไปยิ้มทักทายเขา
“สวัสดีค่ะพี่มาร์ช”
“ไม่เจอกันนานตัวไม่สูงขึ้นเลยนะ”
“คนนะคะไม่ใช่ต้นไม้ที่รดน้ำแล้วจะสูงขึ้น”
“อู้ว เดี๋ยวนี้ยอกย้อน”
ทั้งคู่ค่อนข้างสนิทกันอยู่แล้วเพราะมาร์ชเป็นเพื่อนพี่ชายของพอเพียง แถมยังเป็นลูกของเพื่อนสนิทพ่อเธออีก
“ฮ่าๆ เดี๋ยวนี้พอเพียงเก่งขึ้นแล้วนะคะ”
“จ้า แม่คนเก่ง”
ทั้งคู่หยอกล้อกันตามประสาโดยไม่รู้เลยว่าพฤติกรรมของพวกเขาตกอยู่ในสายตาของอีกคน
ราชสิงห์ปล่อยหญิงสาวที่เดินมาชนเขาทิ้งอย่างไม่ไยดีก่อนจะเดินตรงไปหาพอเพียงแต่เขาบังเอิญเจอกับแม่ของตัวเองเลยต้องหยุดทักทายเพื่อนท่านก่อน หันมาอีกทีพอเพียงก็หายไปแล้ว
“หายไปไหนวะ”
ราชสิงห์เดินหาพอเพียงรอบงาน จนกระทั่งเดินมาถึงบริเวณชานระเบียง
แผ่นหลังเปลือยเปล่าแสนบอบบางนั่นทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าคือคนที่เขากำลังตามหา
“กับคนอื่นยิ้มหน้าบานเลยนะ”
พอเพียงหันมองเจ้าของเสียงเข้มที่ดังขึ้นจากทางด้านหลัง
เมื่อเห็นว่าเป็นใคร เธอเลยทำท่าจะเดินหนีแต่กลับโดนร่างสูงมาขวางไว้เสียก่อน
“ทีกับผมไม่เห็นยิ้มแบบนั้นบ้างเลย”
“นี่ฉันก็กำลังยิ้มอยู่ไงคะ”
พอเพียงระบายยิ้มออกมาแต่เป็นรอยยิ้มเฉยชาซึ่งราชสิงห์ไม่ต้องการ
“ไม่ เธอต้องยิ้มแบบเต็มใจมากกว่านี้”
“คุณชอบบังคับให้คนอื่นยิ้มให้รึยังไงคะ”
ราชสิงห์กระตุกยิ้มมุมปาก ก้มลงกระซิบข้างใบหูขาวสะอาด
“ฉันไม่ได้ชอบยิ้มคนอื่นแต่ฉันชอบยิ้มเธอ”
ดวงตากลมโตเบิกกว้าง รีบถอยห่างออกมาสองสามก้าว ท่าทางของเธอทำเอาราชสิงห์ขบขันไม่น้อย เรียกได้ว่าลืมเรื่องหงุดหงิดใจก่อนหน้านี้ไปเลย
“ถ้าไม่มีอะไร พอเพียงขอตัวนะคะ”
“พอเพียง ฉันรู้นะว่าเธอตั้งใจหลบหน้าฉัน”
“เปล่าค่ะ พอเพียงจะหลบหน้าคุณสิงทำไม”
พอเพียงพูดทั้งที่ยังก้มหน้าอยู่ เธอไม่กล้าเงยหน้ามองเขาเพราะไม่อยากให้เขาจับได้ว่าเธอกำลังประหม่า
“เหรอ ถ้าอย่างนั้นพิสูจน์สิ”
“ยะ... อุ๊ป >x<“
มือหนาเชยคางมนขึ้นก่อนจะกดจูบลงบนริมฝีปากอ่อนนุ่มแผ่วเบาแล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้น
“อือ คุณสิง”
ราชสิงห์ทำท่าจะก้มลงจูบเธออีกรอบ พอเพียงเลยรีบใช้มือปิดปากเขาไว้
“ไม่เอาค่ะ”
ห้ามไปก็หน้าแดงไป เจ้าของใบหน้าสวยไม่มีโอกาสรู้เลยว่าใบหน้าตัวเองแดงแค่ไหน
คนที่รู้ตอนนี้มีเพียงคนเดียวก็คือตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอหน้าแดงนั่นแหละ
“ฉันจะไม่เร่งเธอ”
“...”
“ฉันให้เธอกลับไปคิดอีกสองอาทิตย์ แล้วฉันจะมาเอาคำตอบ”
“คิดอะไรคะ?”
“คิดว่าเธอพร้อมจะเป็นเมียราชสิงห์รึยัง”