ตอนที่ 2.4

2859 คำ
ซูซาคุ คฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า ทันทีที่ขับรถผ่านรั้วเหล็กสูงชันเข้ามาในอาณาเขตของแก๊งยากูซ่า ความรู้สึกบางอย่างก็คุกคามเข้าสู่ส่วนลึกในจิตใจชายหนุ่ม  คาวะรู้สึกคุ้นเคยกับบรรยากาศของที่นี่อย่างน่าประหลาดทั้งที่เขาเพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก ดวงตาคมกริบกวาดมองแมกไม้ที่ยืนต้นอยู่ทั้งสองฝั่งถนนกำลังไหวเอนตามแรงลมที่พัดผ่าน หากแต่ภายในรถกลับได้ยินเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศและลมหายใจกระเส่าของสาวน้อยที่เบาะหลัง เธอกำลังจะกลายเป็นเจ้านายของเขา...  ดวงตาคมกริบไล่มองไปที่ผิวแก้มสีแดงระเรื่อของซายูริอย่างไม่รู้ตัว ความรู้สึกประหลาดอีกอย่างที่เกิดขึ้นกับเขาคือ รู้สึกคุ้นเคยกับซายูริราวกับว่าเขาและเธอนั้นรู้จักกันมาก่อน แต่ก็คิดว่าคงเป็นเพราะเคยเห็นใบหน้าแบบนี้ตามข่าวหนังสือพิมพ์ จะรู้สึกคุ้นก็คงไม่แปลก  ความสนใจของคาวะถูกตัดมาที่ภาพเบื้องหน้าเมื่อรถแล่นผ่านแนวสุมทุมพุ่มไม้ที่จงใจปลูกเอาไว้เพื่อความร่มรื่นเข้าสู่ลานกว้างเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่เต็มหลัง  ลูกน้องในชุดสุภาพกำลังยืนเรียงแถวหน้ากระดานรอต้นรับนับสิบ แต่ละคนมีรูปร่างแข็งแกร่งกำยำและใบหน้าที่เคร่งขรึม ไม่รู้เป็นเพราะทราบข่าวร้ายที่เกิดกับซายูริหรือมีใบหน้าแบบนั้นกันเป็นปกติอยู่แล้ว แตกต่างจากบรรดาสาวใช้ในชุดเมดสีกรมท่ากระโปรงยาวกุมเข่าที่ยืนเรียงแถวกันอยู่ด้านหลังลิบลับ แม้ใบหน้าของพวกเธอจะจืดเนือยเพราะอดหลับอดนอนแต่บรรยากาศกลับชื่นมื่นให้ความรู้สึกกระชุ่มกระชวยกว่ามองพวกลูกน้องหน้าตายของซายูริเป็นไหนๆ ลูกน้องของซายูริรีบตรงเข้ามาเปิดประตูฝั่งผู้โดยสารให้ทันทีที่รถจอดสนิท ซายูริกำลังวุ่นวายกับการกำจัดความรู้สึกของตัวเองสะดุ้งวาบเมื่อประตูถูกเปิด เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าถึงบ้านแล้ว ดวงตากลมโตสีเงินเป็นประกายกวาดมองไปรอบๆ อย่างสับสน พลันถอนหายใจอย่างโล่งอก ถึงแล้วสินะ... ซายูริใช้มือยันเบาะนั่งยกสะโพกขึ้นแล้วขยับก้าวออกจากรถอย่างระมัดระวัง ลูกน้องรีบก้มศีรษะให้และกล่าวต้อนรับเธออย่างพร้อมเพียง “ยินดีต้อนรับกลับครับ/ค่ะท่านซายูริ” “อือ” ซายูริพยักหน้าแล้วเดินผ่านคนเหล่านั้นเข้ามาอย่างไม่ใส่ใจ ท่าทางอ่อนเพลียของซายูรินั้นทำให้บรรดาลูกน้องต่างเข้าใจว่าเธอเจอเรื่องที่หนักหนามาเลยไม่อยากเอ่ยวาจากับใคร หากแต่ข่าวที่เธอโดนลอบสังหารและเรื่องที่จินโดนยิงจนต้องเข้าโรงพยาบาลแพร่กระจายไปทั่วทั้งกลุ่มแล้ว ทุกคนล้วนร้อนใจและอยากทราบว่าเกิดอะไรขึ้น “ท่านซายูริครับ” ลูกน้องซึ่งเป็นหัวหน้าของชายฉกรรจ์หน้าโหดรีบก้าวออกมาเรียกเธอเอาไว้ ซายูริหยุดนิ่ง พูดโดยที่ไม่หันกลับมามอง “ฉันต้องการพักผ่อน มีเรื่องอะไรเอาไว้พรุ่งนี้” เส้นเสียงของเธอสั่นจนทุกคนรู้สึกได้ และก็ดูออกด้วยว่าเธอพยายามประคองน้ำเสียงไม่ให้แกว่งแค่ไหน ทุกคนคิดว่าเธอคงกำลังช็อกจึงจะแสดงอาการหวาดหวั่นเช่นนั้น แต่ช่างเป็นอาการหวาดหวั่นที่แปลกพิกล หากแต่ไม่มีใครล่วงรู้หรือสงสัยเลยสักว่าร่างกายของซายูรินั้นกำลังสั่นเทาด้วยตัณหาที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน ร่างบางกำลังจะออกเดิน เสียงสาวใช้รายหนึ่งก็หยุดยั้งเธอไว้อีก  “ท่านซายูริคะ” ซายูริกำหมัดแน่น หลับตาลงอย่างฉุนๆ ก่อนสูดหายใจลึกด้วยความอดทน “มีอะไร” “เราเตรียมห้องเสร็จแล้ว แล้ว...” สายตาของสาวใช้เมียนมองหาแขกของซายูริก่อนจะหยุดสายตาเอาไว้ที่ชายร่างสูงโปร่งด้านหลังเธออย่างไม่แน่ใจ  “รอคุยกับหัวหน้าแม่บ้าน” ซายูริเอ่ยอย่างอดทน เส้นเสียงที่สะกดกลั้นของซายูริทำให้คนที่เหลือก้มหน้ามองพื้นและไม่กล้าเอ่ยคำใดออกมากวนใจนายหญิงน้อยของพวกเขาอีก ซายูริสูดหายใจเข้าลึก ตวัดสายตายะเยือกไปทางคาวะ “นายตามฉันมา ระหว่างนี้ถ้าไม่เรียก ห้ามใครเข้าไปรบกวนเด็ดขาด!” หลังประตูบานใหญ่ปิดลง ซายูริก็แผดเสียงสะท้านสะเทือนใส่คนร่างสูงตรงหน้าทันที “รีบๆ เอามันออกไปได้แล้ว” “หืม”  คาวะกำลังมองสำรวจภายในห้องนอนของซายูริอย่างตื่นตาตื่นใจดึงสายตากลับมาจ้องใบหน้าแดงก่ำของเธอนิ่ง ก่อนที่รอยยิ้มยะเยือกจะผุดขึ้นบนมุมปากร้ายกาจอย่างเขา ก้าวต้อนร่างบางไปที่เตียง กระทั่งขาของเธอชนกับขอบเตียงแล้วล้มลงไปนั่งจุมปุ้กอยู่บนฟูกนุ่มอย่างแพ้ภัยตัวเอง “อึก อ๊ะ...”  ซายูริสะดุ้งเฮือก เสียงหวานเล็ดลอดออกมาจากลำคอ รีบขยับกายเพื่อลดแรงเสียดแทงที่ทิ่มตำอยู่ด้านใน คาวะมองใบหน้าจุกๆ ของซายูริอย่างไม่รู้สึกทุกข์ร้อนแต่ประการใด หนำซ้ำดวงตาคมกล้าของเขากลับเปล่งประกายราวกับกำลังชมเรื่องบันเทิงอยู่อย่างไรอย่างนั้น “ท่านซายูริที่น่ารักของทุกคน” ชายหนุ่มพูดพลางยกนิ้วขึ้นประกบกันเหมือนกล้องถ่ายรูป แล้วเพ่งตามองผ่านช่องว่างระหว่างนิ้วมือซึ่งเปรียบเสมือนเลนส์กล้อง  ท่าทางล้อเลียนของคาวะไม่ต่างจากการหยามเกียรติในความรู้สึกของซายูริ เธอกัดฟันกรอด แววตากลมสวยเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำใสๆ คว้าหมอนใกล้ตัวขว้างใส่คาวะด้วยความโมโห พลั่ก คาวะใช้แขนปัดออกอย่างไม่ยี่หระ หมอนกระเด็นไปที่พื้นแบบที่ไม่อาจสร้างความระคายเคืองผิวเขาได้ ร่างสูงขยับเข้ามาประชิด ซายูริถอยกรูดหนีไปอยู่กลางเตียง แววตากมกริบกระตุกไหวกดเข่าข้างหนึ่งลงบนฟูกหมายจะตามขึ้นไป “อย่าเข้ามานะ!” ซายูริร้องห้ามเสียงสั่นเครือเจือไปด้วยความรังเกียจ “ถ้าอย่างนั้น” เขาล้วงรีโมตคอนโทรลจิ๋วออกจากกางเกง หัวใจซายูริกระตุกวูบทันที เธอรีบส่ายหน้าไหว  “อย่านะคาวะ อ๊า! อ๊ะ หยุด กรี๊ด...” ทันทีที่เธอร้องห้ามเขาก็กดปุ่มราวกับประชด ร่างบางนอนสะดุ้งสะเทือนร้องครางหวิวไหวอยู่กลางเตียง แต่เมื่อรู้ตัวว่าอาจจะมีใครผ่านมาได้ยินเสียงร้องแปลกๆ เธอก็กัดฟันแน่น สะกดกลั้นอันหวั่นไหวเอาไว้สุดความสามารถ “พอ ฮือ... พอได้แล้ว” ซายูริร้องไห้ฟูมฟายอย่างไม่เหลือคราบนายหญิงของแก๊งยากูซ่า แท้จริงแล้วเธอก็เป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาคนหนึ่งที่สามารถจับต้องได้ มีชีวิต มีจิตใจ และมีความต้องการเหมือนคนทั่วไป คาวะมองร่างที่สั่นระริกอยู่ชั่วครู่ก็ปล่อยมือ สิ่งที่เขาฝากเอาไว้ในตัวซายูริหยุดสั่น ทว่าเสียงหอบหายใจของเธอก็ยังไม่กลับมาเป็นปกติ เนื้อตัวซายูริเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าแดงจัด ผิวแก้มเกรอะกรังไปด้วยคราบเหนียวเหนอะที่แยกไม่ออกว่าเป็นน้ำตาหรือหยาดเหงื่อ แววตาของเธอเหม่อคว้างมองเพดานอย่างคนที่สูญเสียจิตใจไปแล้ว  “ซายูริ” คาวะเรียกชื่อนั้นแต่คนบนเตียงกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันทันที ขยับขึ้นเตียงรุกเข้าหาร่างบางที่นอนขดตัวงอไม่ไหวติง หากแต่ดวงตาที่เบิกกว้างยังคงกะพริบบอกให้รู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ฝ่ามือหนาทาบลงบนต้นแขน ซายูริสะดุ้งเฮือก ดวงตาเลื่อนลอยตวัดมาจ้องมองใบหน้าเคร่งขรึมของเขานิ่ง เธอไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร และไม่มีกำลังใจจะทัดทานอีกต่อไป ในเมื่อสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากการโดนย่ำยี ท่าทางที่เหมือนลูกไก่ในกำมือนี้ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกป่วนมวนในท้อง ยกหลังมือขึ้นทาบกับผิวแก้มเนียนใส ลากไล้ลงมาที่ริมฝีปากบอบบาง ชั่วขณะหนึ่งคาวะนึกอยากลองชิม เกลี่ยเร้นปลายนิ้วลงบนกลีบปากอ่อนนุ่มราวอย่างชั่งใจ ทว่าน้องชายของเขากลับตอบสนองในทันที ดวงตาคนกริบถูกความต้องการครอบงำ โน้มลงไปประกบริมฝีปากบางราวกับมีแรงดึงดูด  แรงขบเม้มสลับหนักเบาอย่างมีชั้นเชิงกับความหวานล้ำที่แทรกลึกเข้ามาในปากทำให้ซายูริเบิกตาโพลง หัวใจสั่นระรัวเมื่อรู้ตัวว่ากำลังโดนจูบ  หนำซ้ำยังเป็นจูบแรก... แต่ถึงกระนั้นคนที่สิ้นหวังไปแล้วอย่างเธอก็ไม่มีแรงประท้วงหรือขัดขืนแต่อย่างใด หากแต่ก้อนอารมณ์ที่ยังไม่คลายออกทำให้เธอรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาอีกครา ถูเรียวขาทั้งสองข้างไปมาอย่างเร่าร้อน มือยกขึ้นโอบลำตัวคาวะอย่างไม่รู้ตัว เมื่อเห็นว่าคนใต้ร่างเริ่มมีการตอบสนอง คาวะก็ยิ่งได้ใจ กดจูบเรียวปากบางด้วยจังหวะที่ร้อนแรงขึ้น แทรกลิ้นเข้าไปเดาะดันกับลิ้นเล็กๆ ที่ขยับพลิกแพลงไปมาอย่างไม่ประสีประสา เมื่อสบโอกาสก็ดูดดึงแรงๆ จนเธอส่งเสียงร้องที่ฟังไม่ออกว่ากำลังเจ็บหรือรู้สึกดีอยู่กันแน่ คาวะผละริมฝีปากออกหลังจากดื่มด่ำกับรสจูบจนพอใจ แม้จะไม่ร้อนแรงเหมือนสาวบาร์ที่เขาเคยยุ่งเกี่ยวแต่ใต้ความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของซายูริกลับสร้างความเร้าใจให้เขาไม่น้อยเลยทีเดียว ฝ่ามือร้อนลูบไล้ไปบนเรียวขาอ่อน วาดลงไปที่จุดศูนย์กลางความอ่อนไหวของหญิงสาว ชำแรกปลายนิ้วเข้าไปในช่องทางที่ชุ่มฉ่ำดึงรั้งสิ่งแปลกปลอมออกให้ ซายูริสะดุ้งไหว ร่างเล็กบิดเกร็งยามเมื่อถูกรุกล้ำ สะกดกลั้นเสียงร้องเอาไว้อย่างสุดความสามารถ ในหัวไม่คิดอะไรนอกจากภาวนาให้ช่วงเวลานี้ผ่านไปเร็วๆ ความอึดอัดคลายตัวหลังจากที่ถูกดึงออก ซายูริรู้สึกวูบโหวงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทว่าช่องว่างนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยนิ้วเรียวยาวของคาวะในเวลาต่อมา นิ้วของเขาซุกไซ้อยู่ข้างใน มีชีพจร มีไอร้อน และยังเคลื่อนไหวได้อย่างใจนึก ยิ่งทำให้ซายูริรู้สึกมากขึ้นกว่าเดิน ร่างบางนอนบิดตัวด้วยความต้องการที่ล้นทะลัก ลมหายใจถี่กระชั้นจับจ้องสายตาคมปลาบของเขาด้วยสีหน้าที่กำลังเรียกร้องบางสิ่งบางอย่าง  “อึก... อือ...” เธอแอ่นกายไปตามแรงกระตุ้นที่เขาส่งให้ ปลายนิ้วเท้าจิกเกร็ง เรียวขาเหยียดยันจนผ้าปูเตียงยับย่น หน้าท้องยุบยวบรุนแรงพร้อมกับเสียงกรีดร้องหวานหูดังสะท้อนไปทั้งห้อง เขาส่งเธอถึงวิมานด้วยนิ้วเพียงไม่กี่นิ้ว  ใบหน้าคาวะเคร่งเครียดขณะที่ซายูรินอนหอบหายใจแฮ่กๆ ความต้องการที่คับแน่นอยู่ในกางเกงทำให้ชายหนุ่มไม่อาจรั้งรออีกต่อไป ก้มลงปลดเข็มขัด เปิดเอาความเป็นชายที่แข็งแกร่งออกมาปะทะกับอากาศภายนอก จับแก่นกายที่ร้อนฉ่าของตนรูดรั้งสองสามทีแล้วจ่อติดกับซายูริ กำลังจะดันเข้าไปเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเสียก่อน  ก๊อกๆ “คุณหนูคะ” ซายูริที่กำลังรอคอยอย่างใจจดใจจ่อสะดุ้งเฮือก สติที่หลุดลอยไปไกลคืนกลับมาแทบจะทันที ความรู้สึกละอายกัดกินไปทั่วทั้งใจเมื่อรู้สึกตัวว่า ตนมีความรู้สึกอยากร่วมรักกับเขา... กับนักฆ่าโรคจิตที่ชื่อคาวะ! เพราะอารมณ์ชั่ววูบแท้ๆ ซายูริผิวแก้มร้อนผ่าวเมื่อเหลือบเห็นแก่นกายทั้งแท่งของคาวะเต็มๆ มันทั้งยาวและใหญ่แบบที่เธอไม่อาจจินตนาการว่าจะเอาเข้ามาได้ยังไง เธอถอยห่างด้วยความหวาดหวั่น หุบขาหมับ หนำซ้ำยังดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดช่วงล่างของตัวเองอย่างไว ขณะที่คาวะยังนั่งคุกเข่าจับแก่นกายตัวเองนิ่งอยู่ท่าเดิม  ตึกๆ ตึกๆ  เสียงหัวใจซายูริเต้นระรัวแข่งกับเสียงเคาะประตูเรียกของแม่บ้านด้านนอก ถ้าหัวหน้าแม่บ้านกลับมางั้นก็แสดงว่าอัยย์กลับมาด้วย... คาวะกัดฟันแน่น ใช้เวลาครู่หนึ่ง เก็บน้องชายกลับเข้าไปอย่างหักห้ามใจ มองหน้าซายูริด้วยสายตาที่บอกว่าฝากไว้ก่อน  “นะนายมาทำอะไรที่ห้องคุณหนู” “มาเฝ้า” “เฝ้า?” แม่บ้านทวนคำเขาด้วยท่าทีงุนงง สงสัยว่าทำไมต้องเฝ้า ในเมื่อที่นี่คือที่ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับซายูริแต่ไม่นานก็ถูกเสียงเย็นเฉียบของคาวะดึงดูดความสนใจไป “อัยย์ล่ะ” “เอ๊ะ อ้อ อยู่ในห้องพักค่ะ กำลังให้คนช่วยย้ายของมาที่ห้อง”  “ทางไหน” “คะ?” แม่บ้านที่กำลังจะเข้าไปดูซายูริชะงักกึก หันมาสบสายตาคมกริบของคาวะ ท่าทางเขาอยากไปเจออัยย์แต่ไม่รู้ทาง ครั้นจะแนะนำเส้นทางให้ก็เกรงจะไม่สมควร เพราะคาวะเพิ่งมาที่นี่ ขืนไปเดินเถลไถลเข้าผิดห้องมิยุ่งวุ่นวายไปกันใหญ่เหรอ หัวหน้าแม่บ้านทอดถอนใจเป็นห่วงซายูริก็เป็นห่วง แต่เมื่อมองเข้าไปเห็นเธอกำลังนอนหลับท่าทางสบายดีจึงค่อยวางใจ เอ่ยกับคาวะด้วยโทนเสียงสุภาพ “ไปค่ะ เดี๋ยวอิฉันนำทางให้” เสียงประตูปิดลง ซายูริลืมตาขึ้นด้วยหัวใจที่ยังไม่หยุดสั่น การที่คาวะดึงความสนใจของแม่บ้านไปช่วยเธอได้มาก ซายูริค่อนข้างมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าหัวหน้าแม่บ้านต้องเข้ามาตรวจความเรียบร้อยแล้วต้องรู้แน่ๆ ว่าเธอถูกคาวะรังแก ซายูริไม่อยากให้เรื่องนี้ถึงหูคนอื่น แม้แต่จินก็ให้รู้ไม่ได้เด็ดขาด เธอกำหมัดแน่น ลุกขึ้นจัดการกับที่นอนที่ยับย่น เก็บของเล่นที่เขาใช้กับเธอเขวี้ยงลงถังอย่างไม่ไยดีก่อนจะนึกได้... ถ้าสาวใช้เห็นมันเข้าล่ะ ซายูริรีบเก็บของเล่นชิ้นนั้นขึ้นมาอย่างใจสั่น เดินวนเวียนอยู่ในห้องเหมือนหนูติดจั่นไม่รู้จะเอามันไปทิ้งไว้ตรงไหนถึงจะรอดพ้นสายตาคนอื่น โยนลงหน้าต่างก็ไม่ได้ ยังไงคนสวนก็ต้องเจออยู่ดี กดลงชักโครกยิ่งไม่ได้ใหญ่ คนมีวัฒนธรรมใครเขาทำแบบนั้นกัน  ซายูริยืนคิดแล้วคิดอีก ก่อนจะนึกออกพุ่งเข้าไปค้นกล่องสมบัติที่เก็บเอาไว้อย่างดีในชั้นใต้เตียงออกมา เป็นกล่องสี่เหลี่ยมขนาดกะทัดรัดที่เธอไว้เก็บภาพถ่ายเก่าๆ และของที่ระลึกที่มีค่าทางจิตใจตั้งแต่สมัยเด็ก มันไม่ใช่ความลับหรือสิ่งของที่มีค่าอะไรและทุกคนก็รู้แต่ไม่มีใครคิดแตะต้องมันแม้กระทั่งจินหรือหัวหน้าแม่บ้านก็ไม่เคยยุ่มย่ามกับสมบัติส่วนตัวชิ้นนี้ของซายูริ  ซายูริมักจะหยิบกล่องนี้ขึ้นมาเปิดดูปีละครั้งหรือสองครั้งแค่ในวันครบรอบวันตายและวันเกิดของคนที่เธอเคารพรัก... ซายูริลังเลที่จะเก็บของต่ำๆ แบบนี้ไว้ในกล่องที่แสนมีค่ายิ่ง ครุ่นคิดอย่างหนักสักพักก็ลุกขึ้นไปรื้อหาถุงซิบล็อกมาใส่ของเล่นของคาวะก่อนเก็บลงในกล่องรวมกับของชิ้นอื่น แต่มันดันไปทับใบหน้าภาพถ่ายของแม่เข้า ซายูริรู้สึกผิดจึงเลื่อนมาไว้อีกมุมแต่ดันมีภาพถ่ายคู่ของเธอกับพี่ชายในวัยเด็กวางอยู่ ซายูริรู้สึกลำบากใจอีกรอบ ขยับของเล่นในถุงซิบล็อกมาอยู่ตรงกลางกล่อง หางตาอดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองภาพถ่ายคู่กับพี่ชายในสมัยเด็ก ราวกับมีอะไรดลใจให้หยิบขึ้นมาดู “พี่ฮารุ... พี่ยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า” ซายูริจ้องมองเด็กชายในภาพนิ่ง เส้นผมสีดำของฮารุถูกครอบไว้ด้วยหูฟังที่เขาโปรดปาน ดวงตาสีนิลกาฬฉายแววเบื่อหน่ายเมื่อถูกบังคับให้ถ่ายรูปคู่กับน้องสาว... ซายูริจำความรู้สึกของตัวเองตอนนั้นไม่ได้ แต่ดูจากภาพแล้วพี่ชายเธอไม่น่าปลื้มเธอเท่าไหร่นัก นึกไม่ออกเลยว่าถ้าเขายังอยู่และเติบโตขึ้นมาพร้อมกับเธอ มันจะเป็นยังไง  แปลก... ทำไมยิ่งมองหน้าพี่ฮารุแล้วใบหน้าของคาวะลอยเข้ามาในหัว อึก! ซายูริรู้สึกว่าตัวเองกำลังฟุ้งซ่าน รีบส่ายหน้าไหวเก็บของกลับเข้าที่ ลุกขึ้นเดินซวนเซเข้าห้องน้ำ  ไกด์ไลน์ ฮารุ = พี่ชายที่หายสาปสูญของซายูริอัยย์ = น้องสาวคาวะ รักมากจิน = พี่เลี้ยงซายูริ เป็นผู้ใหญ่อายุสี่สิบ ห้ามจิ้น  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม