แค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้น้ำตาของหญิงสาวไหลหยดลงบนแก้ม นี่หรือคืองานแต่งในฝันของเธอที่ปราศจากงานเลี้ยงและการได้สวมชุดแต่งงานอย่างที่ผู้หญิงทุกคนไฝ่ฝันถึง ไม่มีเพื่อนเจ้าสาวและคำอวยพรจากบาทหลวง มีแค่กระดาษแผ่นเดียวที่เธอเซ็นชื่อลงไปเมื่อไหร่มันก็จะกลายเป็นกรงขังและโซ่เหล็กพันธนาการเธอไว้กับเจ้าบ่าวไร้หัวใจและแข็งกระด้างผู้เป็นประจักษ์พยานที่ไม่ต่างจากจอมซาตานผู้พร้อมสูบวิญญาณของเธอ
และนี่หรือคือการเริ่มต้นชีวิตครอบครัวโดยมีชีวิตของคนที่เธอรักเป็นเดิมพัน ลลิลปวดร้าวแค่ไหนก็จำต้องเก็บความทุกข์ระทมไว้ก่อนจับปากกาด้วยมือสั่นเทาและค่อย ๆ จรดลมันลงในช่องว่างเหนือชื่อและนามสกุลของเธอทุกหน้ากระดาษที่มี
“คุณอา...จะยังให้ลิลอยู่ที่บ้านหลังนี้ใช่ไหมคะ?”
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นถามหลังเซ็นชื่อของเธอลงในปึกเอกสารไม่เว้นแม้แต่หน้าเดียว ร่างบางกุมเอกสารนั้นไว้ในมือตั้งบนเข่าทั้งสองที่แนบชิด บรรยากาศรอบตัวเธอและสามีตามกฎหมายเต็มไปด้วยความอึดอัดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ลลิลยังจำได้ว่าเวลาพบหน้าหุ้นส่วนใหญ่ของบิดาแทบทุกครั้งจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มและการพูดคุยแม้ไม่มากระหว่างเธอและประธานบริหารล็อค ซาย แฟรคซิทรอนหากก็เป็นบรรยากาศที่อยู่ในความทรงจำของหญิงสาวเสมอ พัลเลเดียมเป็นผู้ใหญ่แม้อายุห่างกับบิดาของเธอนับสิบปีและห่างกับเธอหลายปีเช่นกันทว่าบัดนี้ราวกับมีกำแพงสูงใหญ่ขวางกั้นความผูกพันที่ไม่มีวันเหมือนเดิม
“ฉันจะขายบ้านหลังนี้ทอดตลาด”
เขาตอบสั้น ๆ แต่ทำให้หญิงสาวตาเบิกกว้าง
“คุณอาจะขายบ้านหลังนี้ แต่ว่า...”
“ถึงเธอจะไม่ได้อ่านสัญญานั่นแต่ก็ควรรู้ว่านับแต่นี้เธอเป็นเมียฉันและทรัพย์สินทุกอย่างก็จะตกเป็นสินสมรสของผัวกับเมียโดยอัตโนมัติ”
ลลิลทำสีหน้าไม่ถูก เธอได้แต่อึ้งด้วยวุฒิภาวะอันเยาว์ทำให้สาวน้อยวัยสิบแปดอันเป็นวัยที่พึ่งก้าวเข้าสู่รั้วมหาลัยและยิ่งมาอยู่ต่อหน้าผู้ทรงอิทธิพลทางธุรกิจยักษ์ใหญ่ของอเมริกาอย่างพัลเลเดียมด้วยแล้วยิ่งทำให้เธอเหมือนลูกนกอ่อนแอในเงื้อมเงากรงเล็บพญาอินทรีที่พร้อมขย้ำให้ตายได้ทุกเมื่อ
“เธอไม่มีสิทธิ์ออกความเห็นอะไรทั้งนั้น เพราะนี่เป็นสิทธิ์ขาดโดยสมบูรณ์ของคนที่เธอยินยอมจดทะเบียนสมรสกับเขาโดยไม่มีเงื่อนไข”
ชายหนุ่มยิ่งตอกย้ำขณะลลิลวางเอกสารทั้งหมดพร้อมน้ำตาหยดลงบนแก้ม เธอเก็บเสียงสะอื้นไว้ข้างในเพราะถึงร้องไห้ออกมาก็คงไม่ทำให้บุรุษตรงหน้านึกสงสาร
“นี่ก็แสดงว่าลิลไม่มีที่อยู่แล้วสินะคะ”
“ฉันจะให้เธอไปอยู่ที่เพนท์เฮาส์ของแพต พี่สาวของฉัน”
เขากล่าวสั้น ๆ และหยิบเอกสารสำคัญบนโต๊ะขึ้นมาตรวจดูทุกหน้าที่มีหลักฐานการยินยอมจากลายเซ็นของลูกสาวหุ้นส่วนคนสำคัญซึ่งบัดนี้เธอได้กลายเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายของเขา
ลลิลเห็นรอยยิ้มของพัลเลเดียมทว่ามันเป็นยิ้มแสยะออกมาอย่างสะใจ หาใช่รอยยิ้มอ่อนหวานที่เธอเคยเห็นไม่ ราวกับเขากำลังพึงพอใจในชัยชนะที่ใช้ชีวิตทั้งชีวิตของเธอเป็นเดิมพัน
“ฉันจะพาเธอไปที่นั่น...มีอะไรหลายอย่างที่ฉันต้องทำความตกลงกับ...เมียตามกฎหมายของฉันและเธอต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด”
“ถ้าลิลจะขอนอนที่นี่คืนนี้”
“ไม่ได้!”
เขาปฏิเสธเสียงกระด้างและทำให้ลลิลสะดุ้งตกใจกับเสียงคำรามนั้น ใบหน้าคมคร้ามของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นสีเข้มจัด เขาใส่อารมณ์ในทุก ๆ การกระทำของหญิงสาวจนเธอหวั่นหวาดไปถึงขั้วหัวใจ ร่างสูงลุกขึ้นยืนและก้าวพรวดเข้ามาหาก่อนฉุดแขนของเธอให้ลุกขึ้นยืน
“ไม่มีอะไรทำให้ฉันขัดใจได้มากเท่ากับการทำตัวไม่อยู่ในกฎที่ฉันตั้งขึ้น...ตามฉันมา!”
เขาสั่งและฉุดแขนหญิงสาวให้เดินตามออกไปข้างนอก ที่ด้านหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่มีรถเรนจ์ โรเวอร์จอดรออยู่ก่อนแล้ว ชายหนุ่มเปิดประตูและดันร่างน้อยขึ้นไปนั่งบนเบาะด้านหน้าส่วนเขาขึ้นไปนั่งฝั่งคนขับก่อนสาร์ทเครื่องยนต์และบึ่งรถออกไปอย่างรวดเร็ว ลลิลได้แต่มองคฤหาสน์หลังงามที่เคลื่อนตัวหายไปทางด้านหลัง มันเป็นบ้านที่เธอเติบโตมาและใช้ชีวิตอยู่กับอิศราเพียงสองคนพ่อลูก หญิงสาวน้ำตาซึม เธอแทบไม่มีปากเสียงใด ๆ นอกจากปล่อยให้หุ้นส่วนคนสนิทของบิดากระทำตามควมต้องการของเขาเท่านั้น
ทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหันและหญิงสาวไม่มีเวลาได้ตั้งตัวแม้เสี้ยวนาที พัลเลเดียมบีบบังคับให้เธอจดทะเบียนสมรสกับเขาไม่พอยังทุบทำลายความทรงจำล้ำค่าแทบทั้งหมดให้พังทลายกลายเป็นฝุ่นผง ชายหนุ่มขับรถไปตามเส้นทางการจราจรคับคั่ง มุ่งหน้าเข้าไปยังใจกลางเมืองหลวง ผ่านจัตุรัสไทม์แสแควร์และแฟลคชิพสโตร์ของดีไซเนอร์ชื่อดังที่มีชุดเจ้าสาวแสนสวยในหุ่นโชว์ด้านหน้า ลลิลมองภาพนั้นราวกับจะให้มันประทับลงไปถึงใต้บึ้งของความปรารถนาว่าครั้งหนึ่งในชีวิตเธอจะได้สวมชุดนั้น
ชุดเจ้าสาวของเจ้าสาวแสนสวยสะพรั่ง
หากแต่ตอนนี้เหมือนโลกกลับด้าน เธอถูกบังคับให้แต่งงาน...ไม่สิ...ถูกบังคับให้มีสามีถึงจะถูก แม้ว่าส่วนลึกลลิลจะฝังทุกความทรงจำเกี่ยวกับบุรุษหนุ่มใหญ่ผู้เป็นเสมือนภาพเงาแห่งความฝันอันแสนหวาน หากแต่บัดนี้เขากลับกลายเป็นซาตานที่กำลังครอบงำความคิดและชีวิตของเธอ