bc

เมื่อนางร้ายข้ามภพ

book_age18+
2.6K
ติดตาม
14.7K
อ่าน
อื่นๆ
แนวดาร์ก
หวาน
ขบขัน
เบาสมอง
สาสมใจ
like
intro-logo
คำนิยม

สวีฉีเฟิ่งนั้นคิดตบแต่งสตรีโง่เขลาสักนางมาเป็นภรรยาให้ได้หลอกใช้ ทว่าไยที่ได้มาจึงกลายเป็นนางปีศาจจิ้งจอกเก้าหางผู้เค็มยิ่งกว่ามารดาทะเลไปเสียได้?!!

สวีฉีเฟิ่งนั้นคิดตบแต่งสตรีโง่เขลาสักนางมาเป็นภรรยาให้ได้หลอกใช้ ทว่าไยที่ได้มาจึงกลายเป็นนางปีศาจจิ้งจอกเก้าหางผู้เค็มยิ่งกว่ามารดาทะเลไปเสียได้?!!

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทนำ[100]
...อูย... ความรู้สึกแรกของตะวันฉายได้รับก็คือเจ็บบริเวณท้ายทอยอย่างมาก'นางร้ายเงินล้าน'ของช่องน้อยสีของประเทศไทยพยายามนึกว่าตนเองเป็นไรไปจึงตื่นมาแล้วปวดที่ท้ายทอยเหลือเกินก็ได้ความว่าเธอถูกยายนางเอกหน้าสวยใจเน่าเช่น'ปานฤดีเป็นเอก'แสร้งเดินชนตอนที่ทั้งคู่เดินสวนทางกันในระหว่างลงจากเวทีงานอีเว้นท์เปิดตัวสบู่ยี่ห้อดังจากนั้นโลกทั้งใบของตะวันฉายก็ดับมืดลงดังบ้านถูกไฟฟ้าตัดหม้อแปลง "คุณหนูห้าท่านฟื้นแล้ว นายท่านเจ้าค่ะคุณหนูห้านางฟื้นแล้ว!" ...คุณหนูห้า?...ใครกัน?... คนยังมึนศีรษะค่อยๆ ขยับเปลือกตาลืมขึ้นอย่างยากเย็นภายในใจก็สงสัยต่อเสียงของสำเนียงเหน่อดังคนสุพรรณที่เธอเคยผ่านหูมาบ้างแต่ความเหน่อยังไม่น่าสงสัยเท่าอะไรคือคุณหนูห้า...นายท่าน...เพราะเธอเป็นเด็กกำพร้าเติบโตมาจากสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าที่เชียงใหม่ตั้งแต่จำความได้ตะวันฉายจึงเป็นลูกคนเดียวมาโดยตลอดเพราะขนาดพ่อกับแม่ยังไม่รู้จักเลยจะไปรู้จักพี่น้องที่มีได้อย่างไรถึงอาจจะมีจริงก็ตามเถอะ ทว่ายังไม่ทันหายสงสัยกับประโยคแตกตื่นแรกพอลืมตาขึ้นมาได้ก็ต้องนิ่งงันไปกับภาพเพดานห้องตรงหน้าที่ไม่ใช่เพดานสีขาวสะอาดของโรงพยาบาล เพดานสีครีมของห้องพักซึ่งเป็นคอนโดหรูที่ตนเองเป็นเจ้าของแต่เพดานห้องแห่งนี้กลับเป็นโครงสร้างที่ทำจากไม้ดูอย่างไรก็เป็นเพดานห้องยุคโบราณอย่างแน่นอนเพราะเธอเคยเล่นละครพีเรียดมาหลายเรื่องอย่างไรก็มองไม่ผิด! “อาเยว่เจ้าฟื้นแล้วจริงด้วย!ลูกพ่อเจ้าฟื้นแล้วดีเหลือเกิน” ...!!!... ภาพของบุรุษวัยราวปลายสามสิบปีใกล้สี่สิบปีที่โผล่มายืนชะโงกมองตนเองทำเอาตะวันฉายตกใจจนพูดไม่ออกแล้วพออีกฝ่ายนั้นเรียกตนเองว่า’ พ่อ’ คนที่เกิดมายี่สิบเอ็ดปีแล้วทราบเพียงตนเองเป็นเด็กที่ถูกทิ้งไร้ทั้งพ่อขาดทั้งแม่กลับยิ่งตกใจกว่า ...นี่เราตกบันไดจนสติฟั่นเฟือนไปขนาดนี้เลยหรือนี่นางตะวัน?... “ไหน?...เด็กสาระเลวมันฟื้นแล้วหรือ ฟื้นแล้วย่อมดีข้าจะตีนางให้ตายเอง!” ...ใครอีกเล่า?... นางร้ายเงินล้านถึงกับมึนงงไปหมดไม่ทราบว่าตนเองกำลังเผชิญกับอะไรอยู่กันแน่เธอกำลังถ่ายละครอยู่หรือไร? แต่ก็จำได้แม่นว่าตนเองถูกชนจนตกบันไดเวทีมันจะกลายเป็นมาอยู่ในกองถ่ายละครได้อย่างไรที่สำคัญเธอจำได้ไม่มีลืมว่าตนเองไม่เคยรับเล่นละครหรือซีรีส์พีเรียดจีนมาก่อน แล้วภาพตรงหน้าทั้งหมดนี่มันอะไรกัน??? “ท่านแม่สามีได้โปรดระงับโทสะด้วยเจ้าค่ะอาเซียงนางเพิ่งฟื้นขึ้นมาเท่านั้นที่สำคัญนางถูกอาซินทำร้ายจนศีรษะแตกและสลบไปไม่พออาซินยังจับนางโยนลงบึงบัวอีกด้วยท่านแม่สามีได้โปรดเมตตาอาเซียงด้วยเจ้าค่ะนางอาจมิได้ผิดอันใดก็เป็นไปได้ขอท่านแม่สามีใจเย็นสักนิด” เสียงของสตรีสาววัยคงราวยี่สิบกว่าปีดังเอ็ดอึงแล้วยังมีเสียงยื้อยุดจนตะวันฉายต้องพยายามลุกขึ้นนั่งแล้วหันไปมองทิศทางของต้นเสียงดังกล่าว ...!!!?... ภาพของหญิงสูงวัยคาดเดาได้คงราวหกสิบปีในมือถือไม้กะได้คงเป็นหน้าสามเห็นจะได้พอเห็นภาพเหล่านั้นก็ทำให้หญิงสาวหนาวเยือกในอกเพราะตกเวทีนั้นยังไม่ถึงตายทว่าหากถูกไม้หน้าสามฟาดเธอตายจริงแน่! “ทะ...ท่าน...ท่านพ่อ” เอาวะจะอะไรก็ช่างตอนนี้จะให้เธอเรียกผู้ชายด้านข้างเตียงคนนี้ว่า’ เทียด’ ตะวันฉายล้วนไม่มีติดขัดเขินอายเพราะหากเรียกแล้วตนเองไม่ถูก’ ท่านป้ามหาโหด’ คนนั้นเอาไม้หน้าสามมาฟาดเธอไม่เกี่ยงอยู่แล้ว “ท่านแม่ได้โปรดใจเย็นก่อนอาเซียงนั้นคงไม่รู้เรื่องที่อาซินหนีไปเป็นแน่ท่านแม่อย่าเพิ่งใจร้อน เด็กโง่ผู้นี้อย่างไรก็คงไม่รู้ไม่เห็นกับการที่อาซินหนีไปเป็นแน่” ตะวันฉายเร่งขยับไปหลบด้านหลังของผู้ชายที่เขาอ้างตนเองว่าเป็น’ ท่านพ่อ’ ของเธอพลางกำชายเสื้อของอีกฝ่ายเอาไว้แน่นถึงอยากรู้อยากเห็นแทบตายว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่ไม้หน้าสามก็เอาชนะความอยากรู้ได้ทุกสิ่งจริงเสียด้วย “พวกเจ้าอย่ามาใส่ร้ายป้ายสีซินเอ๋อร์ของข้านะ!” ความวุ่นวายตรงหน้ายังคงอยู่ ทว่าตะวันฉายกลับรู้สึกว่าภาพตรงหน้าเริ่มมืดความรู้สึกนั้นเลือนรางลงไปอีกครั้งแล้วสุดท้ายความมืดก็เข้าปกคลุมสติของนางร้ายเงินล้านอีกจนได้ “อาเซียง!ฮูหยินเร็วเข้าอาเซียงหมดสติไปอีกแล้ว เร่งตามหมอเร็วเข้า!” เสียงสุดท้ายที่คล้ายจะดังมาจากที่ไกลแสนไกลนั้นค่อยๆ หายไปทีละน้อย...ทีละน้อย...จนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ตะวันฉายก็รู้สึกตัวตื่นอีกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ที่ลืมตาทุกสิ่งรอบห้องมืดไปหมดแล้ว ไม่สิไม่ได้มืดสนิทไปเสียหมดเพราะยังมีเชิงเทียนตั้งอยู่ตรงโต๊ะกลางห้องให้ความสว่างพอรางเลือนวับแวมให้เห็นบรรยากาศโดยรอบห้องได้ไม่อยาก หญิงสาวรู้สึกหิวน้ำจึงขยับตัวลุกขึ้นนั่งจึงได้เห็นว่าที่หน้าเตียงมีร่างของดรุณีน้อยวัยคงราวสิบเจ็ดถึงสิบแปดปีกำลังนอนหลับสนิทอยู่บนพื้นด้านหน้าเตียงของเธอหนึ่งคน พอมองต่อไปตรงตำแหน่งหัวเตียงก็พบเข้ากับกาน้ำชาหนึ่งชุดวางอยู่ เธอจึงขยับกายอย่างระวังไปเทน้ำชาในกานั้นดื่มดับกระหายด้วยตนเองไม่ยอมเรียกคนด้านล่างให้วุ่นวาย พอกินน้ำจนอิ่มหญิงสาวจึงมองสำรวจไปรอบกายตนเองอย่างจะหาจุดเด่นที่จะทำให้เธอจดจำได้บ้างว่าที่นี่คือที่ไหนกันแน่ ส่วนในสมองก็กำลังเรียงลำดับความคิดเสียใหม่ เธอจะต้องนึกให้ออกสิว่าตนเองมาโผล่ในบ้านรูปทรงคล้ายดินแดนจีนโบราณแห่งนี้ได้อย่างไร เพียงครู่ภาพต่างๆ ที่เธอไม่คุ้นก็พลันไหลเข้ามาในความทรงจำแทรกภาพความทรงจำของตะวันฉายที่เป็นดาราดังแถวหน้าในวัยเพียงยี่สิบเอ็ดปีจนตีกันยุ่งสับสนไปหมด ต้องใช้เวลานานราวครึ่งชั่วมองตะวันฉายจึงรวบรวมสมาธิจนนิ่งแล้วค่อยๆ เรียงลำดับภาพเหล่านั้นจนมันเป็นฉากเป็นรูปเป็นร่าง ...จางเยว่เซียง... คุณหนูลำดับที่ห้าของท่านนายอำเภอจางแห่งแคว้นฉู่หนึ่งในหกแคว้นภายใต้การปกครองของอาณาจักรต้าเหลียง ดินแดนที่ไม่เคยมีในแผนที่ยุค2022ที่ตะวันฉายเคยอยู่แม้แต่น้อยซึ่งหากคนไม่โง่เท่าไหร่ก็คงพอจะเดาชะตากรรมของตัวเองได้ทะลุปรุโปร่งแล้ว ...เธอตกบันไดเวทีจนคอหักตาย!... “ดีออก!ยัยปานฤดู ยัยคนอำมหิต!แค่ฉันได้ค่าตัวแพงกว่ามีงานมากกว่าก็ถึงกับอิจฉาผลักฉันตกบันไดจนคอหักตายนังบ้า เงินที่เก็บฉันก็ยังไม่ได้ใช้ผัวก็ยังไม่เคยลองมี ดีออก!” แล้วก็ก้มลงไปมองช่วงล่างพลางนึกไปถึงร่างเก่าที่เฝ้าถนอมอย่างดีมาถึงยี่สิบเอ็ดปีเต็ม พลันนั้นความเสียดายก็พุ่งจู่โจม ตายทั้งที่ยังไม่เคยเปิดซิงทดลองของดีที่แม่ให้มาเลยสักหนเดียว! “ปวดใจจริงๆ เลยนางตะวันเอ๊ย...จะตายทั้งทีเงินที่เก็บก็ไม่ได้ใช้ซิงก็ไม่ทันได้เสีย อะไรมันจะเสียชาติเกิดขนาดน๊าน!” “อุ๊ย!...คุณหนูท่านตื่นแล้ว” คงเพราะมัวเสียดายช่วงล่างของร่างเก่าดังไปหน่อยแม่สาวใช้ต้นห้องนาม’ ฟางปี้เหลียน’ นางจึงตื่นขึ้นมาแต่พอตะวันฉายหรือบัดนี้ก็คือ’ จางเยว่เซียง’ บุตรลำดับที่ห้าของท่านนายอำเภอจางเสียนอีก็พลันนึกขึ้นได้ถึงการฟื้นขึ้นมาครั้งแรกแล้วแม่สาวใช้ตัวดีกรีดร้องออกไปจนคนทั้งจวนแห่งนี้แห่กันมาแล้วมีสภาพเช่นไรนางก็เร่งกระโดดลงไปตะครุบปิดปากกว้างเสียงใสของอีกฝ่ายทันควัน “อย่าเอ็ดไปสิปี้เหลียน!เจ้าอยากให้ท่านย่าแบกไม้หน้าสามมาฟาดข้าอีกหรือไร” ไม่ทราบได้ว่าสาวใช้นางนี้มารดาเลี้ยงมาด้วยดอกลำโพงหรือไรจึงเสียงดีเหลือเกิน ซึ่งพอคุณหนูห้าผู้เรียบร้อยอ่อนโยนนุ่มนิ่มราวคนไร้กระดูกวันนี้กระโดดแทบเสยก้านคอของตนเองไม่พอยังพูดจาแจ่มชัดไม่ใช่พูดหนึ่งครึ่งนางต้องตะแคงหูฟังแล้วถามซ้ำไปอีกห้ารอบจึงรู้ความกันสักครั้ง ฟางปี้เหลียนก็ตกตะลึงตาค้างไปครู่หนึ่งก่อนจะได้สติแล้วส่งสัญญาณมือว่านางจะไม่ตะโกนเสียงดังปลุกคนทั้งจวนอีกแล้ว “เจ้าไม่ตะโกนแล้วแน่นะ?” ซึ่งฟางปี้เหลียนก็พยักหน้าว่าตกลง จางเยว่เซียงคนใหม่จึงยอมปล่อยมือ พอนั่งพักหายใจจนสงบพลันนี้ท้องน้อยของจางเยว่เซียงก็ปวดจี๊ดบอกเป็นภาษากายว่าอยากขับน้ำเสียออกจากร่างกายแล้ว มองไปโดยรอบก็ไม่เห็นจะมีห้องน้ำแต่คิดอีกที่แห่งนี้มันคือยุคโบราณจะมีส้วมในห้องนอนคงเป็นไปไม่ได้ “ปี้เหลียนข้าปวดฉี่” “???” เครื่องหมายคำถามเป็นง.งูขึ้นเต็มหน้าผากของสาวใช้ตัวดีทันทีจางเยว่เซียงหรือตะวันฉายจึงต้องเรียบเรียงคำพูดเสียใหม่ปวดฉี่มันคนล้ำยุคเกินไปเด็กสาวคงไม่เข้าใจ “ข้าปวดเบา” “อ้อ...รอสักครู่เจ้าค่ะปี้เหลียนจะไปหยิบกระโถนมาให้” จางเยว่เซียงระบายลมหายใจโล่งอกแต่เพียงครู่ปัญหาใหม่พลันบังเกิดหากต้องฉี่ในกระโถนแล้ววางเอาไว้ในห้องนางมิต้องทนดมกลิ่นของเสียของตนเองจนสมองฝ่อหรือไร? “ข้าไม่เอากระโถนข้าจะไปห้องน้ำ” “????” สาวใช้คนเก่งมองผู้เป็นนายอย่างอึ้งและทึ่งเพราะไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายจะสื่อปวดฉี่แทบเล็ดแต่พูดสื่อสารกับสาวใช้ก็ยังไม่เข้าใจนางร้ายผู้ข้ามภพอยากวิ่งเอาหัวโขกกับต้นเสาให้ตายเหมือนในซีรีส์ติดที่ว่ากลัวสมองจะกระทบกระเทือนจนโง่หนักกว่าเก่าจึงตัดสินใจไม่ทำเช่นนั้นแล้วหันมาเรียบเรียงคำพูดเสียใหม่ว่า’ ห้องน้ำ’ ในยุคนี้เขาเรียกว่าสิ่งใด “สุขา...ข้าจะไปห้องสุขาที่เขาเอาไว้ปลดทุกข์น่ะ” แล้วกว่าจะสื่อสารกันเข้าใจจางเยว่เซียงก็เดินเสียทรงยิ่งกว่าเป็ดเป็นตะคริวเพราะกลัวว่าของเสียจะเก็บกลั้นปัสสาวะไปปล่อยให้ถูกที่ถูกทางไม่ทันนั่นเอง พอได้ปลดปล่อยของเสียออกไปนางจึงโล่งกิริยาในยามเดินขากลับนั้นจึงผิดไปราวกับเมื่อครู่นี้หาใช่คนเดียวกัน “คุณหนูหิวหรือไม่เจ้าค่ะ” พอใกล้ถึงห้องนอนฟางปี้เหลียนก็พลันนึกได้ว่าคุณหนูของนางสลบไปตั้งสองวันอาจจะหิวแล้วก็เป็นไปได้ซึ่งก็จริงพอสาวใช้ตัวน้อยถามท้องเจ้ากรรมก็ร้องตอบไปก่อนปากเสียอีก “มีอะไรก็ยกมาเลย” ไหนๆ ก็ไม่ใช่ดาราที่ต้องระวังและควบคุมเรื่องการกินแล้วมื้อแรกของภพนี้นางก็ขอจัดหนักสักมื้อเถิดก็คนเราต้องท้องอิ่มสมองมันถึงจะแล่น แล้วเมื่อกินอิ่มสมองของนางก็แล่นฉิวจริงเสียด้วยในขณะที่จางเยว่เซียงนางทิ้งกายนอนสงบนิ่งอยู่บนเตียงจนฟางปี้เหลียนคิดว่าคุณหนูห้าของนางหลับไปแล้วนางจึงหลับไปบ้าง นั้นแท้จริง จางเยว่เซียงคนใหม่ก็กำลังเรียงลำดับภาพในหัวอีกครั้ง จึงได้ความว่าจางเสียนอีมีบุตรสาวสามคนมีบุตรชายสองคนซึ่งทั้งสองนั้นกลับวาสนาน้อยคลอดออกมาไม่เกินสามเดือนก็ตายลง จึงเหลือเพียงจางเยว่ซินคุณหนูสี่กับนางจางเยว่เซียงคุณหนูห้า ส่วนคุณหนูหกนั้นยังเล็กวัยเพียงสามปีที่เกิดจากภรรยาใหม่ของท่านนายอำเภอจาง แต่ถึงจางเยว่ซินและจางเยว่เซียงจะเป็นฝาแฝดที่เกิดห่างกันเพียงสองชั่วยามแต่ท่านฮูหยินผู้เฒ่าหรือเหล่าฮูหยินจางหรือผู้เป็นท่านย่าของเด็กทั้งสองกลับรักลำเอียงเลี้ยงดูเพียงจางเยว่ซินปล่อยจางเยว่เซียงให้มารดานั้นได้เลี้ยงดูเอาเอง ซึ่งที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะส่วนหนึ่งไม่ชอบสะใภ้เช่นเกาเยว่เหนียงที่เป็นเพียงลูกสาวชาวนาผู้หนึ่ง แต่บุตรชายไม่ยอมแต่งภรรยารองเข้าจวนอีกหญิงชราที่หมายตาคุณหนูตระกูลดีหวังส่งเสริมหน้าที่การงานบุตรชายจึงยิ่งไม่พึงใจแล้วยิ่งหลายชายที่คลอดออกมาก็ตายลงไปจนเหลือเพียงหลายสาวสองคนหญิงชราเลยชิงชังสะใภ้หนักขึ้นไปอีก และคงเพราะอยู่อย่างลำบากใจในที่สุดนางเลี้ยงลูกสาวเช่นจางเยว่เซียงได้เพียงเข้าวัยสิบสองปีก็จากไปจนผ่านไปหนึ่งปีฮูหยินผู้เฒ่าจางจึงบีบน้ำตาขู่จะปลิดชีพตนเองหากท่านนายอำเภอจางไม่ตบแต่งฮูหยินคนใหม่เข้ามาเพื่อจะได้มีทายาทสืบสกุลจาง สุดท้ายบุตรชายย่อมทนเห็นมารดาตายไม่ลงจึงยินยอมแต่งฮูหยินจางคนใหม่ที่ครั้งนี้เป็นเหล่าฮูหยินจางนั้นเลือดเองกับมือเลยได้บุตรสาวของเถ้าแก่กู้ที่ภรรยาของเขานั้นเป็นพี่น้องร่วมมารดาเดียวหลิวเต๋อเฟยเป็นหน้าเป็นตาให้สกุลจางสาสมใจ แต่สุดท้ายผ่านไปหนึ่งฤดูหนาวเสี่ยวฮูหยินจางกลับคลอดบุตรสาวออกมาหักหน้าของหญิงชราจนไม่มีชิ้นดีจวบจนนี่ก็ผ่านมาถึงสามปีเสี่ยวฮูหยินจางก็ไม่มีท่าทีว่าจะตั้งครรภ์อีกเลย แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ไม่ค่อยจะเกี่ยวกับเจ้าของร่างนี้เท่าใด หากว่าเมื่อสามเดือนก่อนท่านย่าจอมเจ้ากี้เจ้าการจะไม่พาจางเยว่ซินไปงานชมบงกชที่จวนของหนานเฉิงกั๋วกงผู้เป็นหลานรักของไท่เฮาแล้วความงดงามเกิดไปสะดุดตาของหนานเฉิงกั๋วกงจนวันรุ่งขึ้นแม่สื่อก็ตามมาถึงจวนเจรจาสู่ขอโดยมิสอบถามความสมัครใจของจางเยว่ซินเลยสักครึ่งคำ ทำให้คนที่ตลอดมาถูกท่านย่าของนางเลี้ยงดูตามใจสิ่งใดหลานสาวทำผิดก็มักพลิกคดีเป็นหลานสาวในดวงใจนั้นถูกเสมอจึงเสียคนนั้นคิดการใหญ่แอบหนีตามบุรุษที่ตนเองรักไปเสียก่อนวันงานวิวาห์เพียงเก้าวันทิ้งไว้เพียงงดหมายเอาไว้ให้บิดาต้องกลัดกลุ้ม ทว่าหากนั่นคิดว่าจางเยว่ซินร้ายกาจเห็นทีว่าจะดูเบานางเกินไปเพราะบังเอิญหรืออาจเป็นโรคร้ายคราวเคราะห์ชะตาของจางเยว่เซียงคงถึงฆาต เด็กสาวบังเอิญไปเก็บดอกบัวที่บึงด้านหลังจวนเลยพบเห็นการหลบหนีนั้น คนนิสัยนิ่มนุ่มและซื่อตรงย่อมห้ามปรามพี่สาวมิคาด จางเยว่ซินกลับลงมือใช้ดุ้นฟืนฟาดเข้าที่ท้ายทอยของผู้เป็นน้องสาวเข้าอย่างจังในยามที่จางเยว่เซียงนั้นหันหลังเตรียมวิ่งกลับไปเรียกคนมาสกัดหนทางหนีของคุณหนูสี่ จนกายเล็กทรุดลงหมดสติไปทันทีแทนที่จางเยว่ซินเห็นเช่นนั้นจะเร่งหนีไปนางกลับเรียกให้ชายคนรักช่วยกันจับร่างหมดสติของฝาแฝดคนน้องโยนลงบึงบัวหวังให้จางเยว่เซียงตายลงไปเสียนางจะได้ไม่ไปบอกบิดากับท่านย่าว่านางนั้นหนีไปกับท่านพ่อบ้านที่แก่คราวบิดา ทว่าเสียงของหนักตกลงไปในบึงเรียกให้ฟางปี้เหลียนที่เพิ่งตามผู้เป็นนายสาวมาช่วยเก็บดอกบัวจึงเร่งวิ่งมาดูพอเห็นอาภรณ์คุ้นตาลอยไหวๆ อยู่ในบึงพร้อมมีโลหิตเริ่มแดงแผ่กระจายในบึงน้ำขนาดใหญ่นางจึงตะโกนเรียกหาคนงานมาช่วยแต่อนิจจาเด็กสาวคนซื่อเช่นจางเยว่เซียงกลับจบชีวิตลงไปในวัยเพียงสิบเจ็ดปีเท่านั้น “นี่มันชีวิตจริงยิ่งกว่าละครชัดๆ” คนที่เพิ่งเรียงลำดับภาพในหัวจนครบดังต่อจิ๊กซอว์จนครบพึมพำออกมาอย่างยากจะเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อเพราะทดลองหยิกตนเองไปหลายสิบครั้งก็เจ็บมันทุกครั้ง!

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

รอยรักคนใจร้าย

read
9.4K
bc

พิษรักซาตาน

read
5.0K
bc

เกิดใหม่พร้อมกับมิติฟาร์มส่วนตัว

read
4.4K
bc

ข้านี่แหล่ะ ฮูหยินของท่านแม่ทัพ

read
3.4K
bc

รอยตรวน

read
1K
bc

ฮูหยินกลับมาเถิดข้าไล่พวกนางไปหมดแล้ว

read
9.4K
bc

ทาสรักของจอมมาร

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook