“จะมองนางอีกนานหรือไม่!?”
“...!?”
เส้นเสียงทุ้มต่ำแลดูสุขุมนุ่มลึกคุ้นหูดังขึ้นที่ข้างกายทำให้ฉีเซียนเช่อต้องหันไปมองด้วยความเบื่อหน่าย พี่รองย่อมเป็นมารหัวใจของเขาได้อย่างน่าระอาเป็นที่สุด
ฉีเล่อผู้มาขัดจังหวะความคิดชั่วร้ายของน้องชายต่างอุทรเพียงปรายสายตามองฉีเซียนเช่ออย่างเย็นชาพลางออกแรงที่ฝ่ามือบีบไหล่ใหญ่หนาของน้องชายอย่างนึกขัดเคือง
เขากำลังคิดว่าบ่ากว้างของน้องชายเป็นลูกนัยน์ตาที่บังอาจมองลี่หลินปานกลืนกิน เขาอยากจะควักมันออกมาบีบให้แหลกคามือ
“ข้าถามว่าจะมองนางอีกนานหรือไม่?” ฉีเล่อย้ำถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบกลิ่นน้ำส้มฉุนจัดไปทางเจ้าของบ่ากว้างที่เขาบีบไม่ปล่อย
“อันใดกันพี่รอง ท่านหมายถึงสิ่งใด” ฉีเซียนเช่อตีมึนหลบเลี่ยงได้อย่างเหลือร้าย เขาอยากจะทำมากกว่ามองด้วยซ้ำไป
สองชายหนุ่มสูงศักดิ์จึงยืนมองหน้ากันนิ่งงันส่งสายตาแวววาวใส่กันประหนึ่งเสือสองตัวกำลังแย่งเนื้อกันก็ไม่ปาน
ฉีหลันที่ยังไม่ทันได้เดินออกไปตามแผนการได้แต่ยืนนิ่งงันทำอันใดไม่ถูก
ในยามนี้พี่รองควรจะอยู่ในห้องทรงพระอักษรกับเสด็จพ่อมิใช่หรือไร?
หญิงสาวรีบทำความเคารพฉีเล่ออย่างนอบน้อมอ่อนหวาน ใครๆ ก็รู้ว่าไม่ควรทำให้พี่รองผู้นี้โกรธขึ้นมา
“พี่สามแค่มาตามนัดขององค์หญิง ข้าเพียงมาเป็นเพื่อนเพื่อมิให้เกิดคำครหาเพคะพี่รอง” ฉีหลันเลือกที่จะตีมึนทำตามแผนการหวังให้ฉีเล่อและเฉินลี่หลินเข้าใจผิดกัน
ฉีเล่อได้ฟังพลันขมวดคิ้วมุ่นอยู่เหนือดวงตาคู่คมที่ฉายวาบประหลาดใจ
ฉีเซียนเช่อและฉีหลันลอบมองตากันอย่างรู้ความนัย
เฉินลี่หลินที่ยังนั่งอยู่ในศาลาเพียงกลอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่ายแต่หาได้สะทกสะท้านอันใดไม่! ก็คนมันงาม…
เมื่อมองเห็นสตรีในศาลายังคงเงียบงันไม่คิดจะเอ่ยปากแก้ตัวแต่อย่างใด ฉีเซียนเช่อจึงนึกกระหยิ่มได้ใจคิดว่านางคงหลงใหลรูปโฉมของตน เขาจึงรีบเดินเข้าไปในศาลาแล้วเริ่มเอ่ยคำกับนางด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำท่วงท่าอ่อนโยนแลดูอบอุ่นมากมาย
“วันนี้คงไม่สะดวกนั่งคุยกันเสียแล้ว เอาไว้วันหน้าเรานัดกันใหม่ดีหรือไม่” เขาแฝงความนัยเอาไว้ในประโยคได้อย่างชัดเจนว่าวันนี้ที่มาเพราะเรานัดกันและวันหน้าก็ยังจะนัดเจอกันไม่สนใจใคร
ฉีเล่อที่ยืนอยู่นอกศาลาถึงกับหางคิ้วกระตุกรุนแรง
เฉินลี่หลินลุกขึ้นยืนแล้วเงยมองใบหน้าหล่อเหลาของฉีเซียนเช่อตรงๆ พร้อมกล่าวอย่างมึนๆ ด้วยดวงตาเรียวสวยกระจ่างใสคล้ายหลงใหลคนตรงหน้า “ย่อมได้เพคะ” นางทำเสียงหวานจนคนฟังขนอ่อนลุกซู่
แววตาของฉีเซียนเช่อกระตุกวูบไหวอย่างคาดไม่ถึง เขาถึงกับตะลึงกับสิ่งที่เกินคาดนี้ นางไม่หลบเลี่ยงทั้งยังตอบรับ
อา...บุรุษรูปงามอย่างเขาอยากได้สิ่งใดย่อมต้องได้
“แล้วเจอกัน” ชายหนุ่มยกยิ้มจนถึงดวงตาที่กำลังทอประกายสว่างวาบ
“เพคะ” เฉินลี่หลินคลี่ยิ้มงดงามล่อลวงใจชายได้ไม่ยาก
นางไม่คิดจะหนีอีกต่อไปในเมื่อยิ่งหนีก็ยิ่งเจอเช่นนี้ หึหึ!
สองหนุ่มสาวจึงยืนโปรยเสน่ห์ใส่กันอย่างโจ่งแจ้ง
ฉีเล่อถึงกับยืนตัวเกร็ง ร่างสูงสง่าแข็งทื่อคล้ายต้นไม้
สายตาคู่คมสีหมึกดำของฉีเซียนเช่อทอดมองใบหน้าสวยเฉียบของสตรีตรงหน้าอย่างเหม่อลอย เขาไม่อยากก้าวเท้าออกจากศาลาแห่งนี้ไปเลย ให้ตาย!
ฉีเล่อที่ยืนนิ่งขึงอยู่นอกศาลายิ่งแผ่กลิ่นอายไม่ธรรมดาคล้ายเมฆหมอกหนาจัดคลอบคลุมทั่วปฐพี
ฉีหลันยิ่งมองยิ่งยกยิ้มพึงใจ สตรีหน้าโง่ไร้ยางอายเห็นชายหนุ่มรูปงามเป็นไม่ได้ หึหึ!
ผู้เป็นน้องชายมองเห็นกลิ่นอายมรณะของผู้เป็นพี่ชายได้ทางหางตา เขาจึงจำต้องหมุนตัวก้าวเท้าออกมาจากศาลาอย่างช่วยไม่ได้ ถึงอย่างไรวันหน้าก็ยังมีหวัง เพราะว่าวันนี้เขาก็ทำได้เกินคาดหวังไปมากโข
สองพี่น้องชายหญิงสูงศักดิ์ฉีเซียนเช่อกับฉีหลันจึงพากันทำความเคารพฉีเล่อผู้เป็นพี่ชายคนรองของราชวงศ์ก่อนเดินออกจากศาลาริมสระบัวอย่างอารมณ์ดี
ฉีเล่อเพียงยืนนิ่งงันคล้ายรูปปั้นหินสลักกระนั้น
เฉินลี่หลินนั่งลงที่เดิมนิ่งๆ มองตามแผ่นหลังกว้างใหญ่ของฉีเซียนเช่อที่เดินลับสายตาไป
อึดใจแก้มนวลใสพลันถูกบีบแน่น
“โอย...”
หญิงสาวถึงกับร้องครางเมื่อถูกนิ้วเรียวที่คุ้นชินของใครบางคนบีบแก้ม
ฉีเล่อพาเรือนกายสูงสง่านั่งลงข้างเฉินลี่หลินก่อนจะบีบตรึงพวงแก้มทั้งสองข้างของนางอย่างนึกเข่นเขี้ยว
“เจ้าคิดจะทำสิ่งใด?” เขาถามออกมาขณะปล่อยมือออกจากแก้มของนางพลางลูบเบาๆ เหมือนที่ชอบทำ
เฉินลี่หลินจึงหลุดยิ้มแล้วเอ่ยเย้า “ท่านกำลังหึงหวงข้า”
ชายหนุ่มถลึงตา “แล้วเป็นอื่นได้ด้วยหรือ?”
หญิงสาวยิ่งหัวเราะเสียงใส
“ท่านไม่เห็นหรือไร” นางเริ่มอธิบาย “บ่าวไพร่ถูกไล่ออกไปจนหมด องค์หญิงฉีหลันก็ทำทีเป็นลืมของทำท่าจะเดินจากไปหวังให้ข้านั่งคุยแบบสองต่อสองกับองค์ชายสาม”
“แล้วอย่างไร?”
“ข้าก็แค่อยากอยู่กับองค์ชายสาม สองต่อสอง”
“...!?”
“แล้วก็ทำให้เขาไม่กล้าแม้แต่จะออกจากห้องส่วนตัวไปพบหน้าผู้ใด” เฉินลี่หลินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบแววตาเย็นเฉียบแลดูน่ากลัว
นางสังเกตได้ชัดว่าองค์ชายฉีเซียนเช่อผู้นั้นหลงรูปลักษณ์ของตัวเองเพียงใด เรียกได้ว่าเป็นบุรุษที่หลงตนเองแบบเต็มขั้น หากเสียโฉมไป หึหึ! นางไม่อยากจะคิด
ฉีเล่อย่อมเข้าใจทันความคิดของสตรีตรงหน้า นางย่อมไม่ธรรมดา แต่หากปล่อยเอาไว้คงไม่ดีแน่!