“เดี๋ยวเราเดินทางกันตอนดึกๆ นะครับ”
“ฉันเห็นด้วยค่ะ” เธอกล่าวกับนายทหารที่ชื่อดิน
“เสร็จแล้วเสร็จแล้ว”
“โอยน่ากินมากๆ”
“แน่นอนอยู่แล้ว ผมเชฟเก่านะคุณ" เสียงหัวเราดังขึ้นจากคนทั้งสาม
“ชู่ว์ๆ เบาๆ เดี๋ยวได้แห่กันมาหรอก” ทั้งสามต่างยิ้มโดยที่ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาอีก
“ว่าแต่คุณจะไม่ไปล้างหน้าหน่อยเหรอ”
“ผมเหรอ ยังไม่ล้างดีกว่าเพราะคืนนี้เราต้องออกไปอีก เปลืองสี” เขายิ้มมุมปากเล็กๆ แลดูน่ามองนัก
“อี๋ 555” แล้วพากันหัวเราะแต่เสียงไม่ดังแบบตอนแรก
“ปะอิ่มแล้วแยกย้ายกันพักผ่อนเถอะ” นพเอ่ยขึ้น
เขาทั้งสามต่างคนต่างทำธุระของตนบ้างก็นอนบ้างก็อาบน้ำบ้างก็วางแผนจนกระทั่งตะวันลับขอบฟ้าเสียงนกเค้าแมวก็ดังออกมาเป็นระยะๆ ชวนให้ขนลุก
“มาทางนี้หน่อย ก่อนเราออกไป ผมอยากให้พวกคุณดูแผนที่นี้หน่อยหากหลงทางจะได้มาเจอกันที่นี่ ดูตรงนี้นะ ตรงนี้คือรถเสบียงที่จอดทิ้งไว้ในนั้นมีอาวุธและอาหารอยู่หากว่ายังไม่มีใครมาพบนะ ให้เดินมาทางนี้เส้นนี้และเส้นนี้สามารถทะลุมาตรงรถลาดตระเวนได้หมด พวกคุณเข้าใจใช่ไหม”
“อืม เข้าใจ” วิและนพพยักหน้าขึ้นพร้อมกัน
“แล้วถ้าอีกฝ่ายโดนกัดให้ทิ้งหรือว่ายิงทิ้งได้ทันทีเอาปืนจ่อไปที่หัวนะ” นพลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
“ค่ะ” วิกล่าว
“ปะ ตามหลังผมมานะ"
แกร็กๆ พวกเขาเปิดประตูออกไปมองซ้ายมองกว่าแล้วเดินลัดเลาะเพื่อเดินออกไปตรงกลางถนนเพราะที่โล่งปลอดภัยกว่าที่อับหรือมุมตึกเป็นไหนๆ
“ระวังอย่าเหยียบกิ่งไม้หรือของเสียงดังเดินให้เบาที่สุด”
เดินลัดมาเรื่อยๆ เขาอยู่หากจากรถไปไม่มาก แต่ไม่ทันจะถึงตัวรถ เสียงนพเต๊ะเข้ากับกระป๋องเบีย์กระป๋องหนึ่งดังแกร๊กทำให้ซอมบี้ที่เดินอย่างเนิบนาบตรงนั้นหันขวับมาตามเสียงแล้ววิ่งกระโจนเข้ามาทางพวกเขาอย่างชัดเจนดินรีบบอกให้ทุกคนวิ่งขึ้นรถ แต่ยังไปไม่ถึงพวกเขาก็โดนซอมบี้เข้ามาถึงตัวพวกเขาต่อสู้แล้วนำอุปกรณ์ที่เตรียมมาด้วยจ้วงแทงซอมบี้
“นพขึ้นรถไปก่อน” เสียงตะโกนของดินที่เห็นทางของนพโล่ง
“ฉันจะช่วยวิก่อน” นพพยักหน้ารับแล้วรีบวิ่งขึ้นไปบนรถทันที
เสียงต่อสู้ของวิและดินที่สู้กลับพวกซอมบี้ที่บ้าคลั่ง ดินพยายามไปให้ถึงตัววิ แต่ไม่ทัน วิถูกกัดเข้าที่แขนด้านซ้าย
“ดินขึ้นรถไปฉันโดนกัดแล้ว” วิกล่าวออกไปด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
“หา เธอโดนกัดจริงเหรอ” สีหน้าของดินซีดเผือด เขามองเห็นเลือดที่แขนของวิแต่เขาไม่อยากจะยอมรับมัน
“ไปเถอะ ฉันจะล่อมันไปด้านนู้นนายรีบขึ้นรถไป” และเธอก็รีบวิ่งไปอีกฟากหนึ่งหายเข้าไปในตึก
ดินเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งขึ้นรถและขับฝ่าซอมบี้ที่เหลือออกไป
“วิละ วิไปไหน” นพเอ่ยถามขึ้น ดินถอนหายใจออกมายาวๆ
“วิโดนกัด เธอล่อพวกมันไปในตึกแล้ว” ดินขับรถออกไปด้วยสีหน้าที่บอกไม่ถูก
ผมไม่นึกเลยว่า ผู้หญิงที่สวยและน่ารักและเก่งอย่างวิจะโดนกัดถึงแม้ผมรู้ว่าเราอาจจะพลาด ผมรู้สึกใจหายถึงแม้เป็นเวลาไม่นานที่เราเจอกัน ผมกลับรู้สึกทำใจยากลำบากแล้วถ้าหากเธอไม่ล่อซอมบี้พวกนี้ไปผมของต้องเป็นอีกคนที่โดนกัด ครั้งแรกที่เห็น เธอสวยปากอมชมพูตาโตจมูกโด่งและขาวมากถึงแม้มันจะมืดผมก็ยังมองเห็นความขาวของเธอ เธอมีกลิ่นตัวที่หอมผมสูดเข้าเต็มปอดเนื้อตัวเธอก็นุ่มนิ่มจากนั้นภาพก็ตัดไปจนได้เห็นเธอชัดๆ ตอนเช้าเธอยิ่งสวยจนผมเกือบลืมหายใจ
“ไม่น่าเลยวิ ผมใจหายมากเลยผมอยู่กับเธอมา2 วัน เธอเก่งมากๆ เราไม่มีทางช่วยวิแล้วหรือคุณดิน” นพถามออกไปถึงแม้รู้ว่ามันแทบจะไม่มีหวัง ดินส่ายหัวโดยที่ไม่พูดอะไรออกไปเขาขับรถออกไปอย่างรวดเร็วตรงไปยังค่ายกักกัน
ฉันตกใจมากที่ตัวเองโดนกัด ในสมองแวบขึ้นมาในหัวว่าจะทำไงดี และก็สิ้นหวังคงทำอะไรไม่ได้ไม่มีใครติดเชื้อแล้วไม่รอดวินาทีนั้นจึงตัดสินใจตะโกนออกไปให้ดินรับรู้ดีกว่าแล้วก็วิ่งหลบเข้ามาในแต่ฉันก็ไม่อยากโดนซอมบี้รุมทึ่งกัดฉันแบบทรมานฉันเลยตัดสินใจวิ่งเข้าไปในห้องแล้วล็อกประตูหันมองรอบๆ ไม่มีคนจึงนั่งลงแล้วคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยคิดถึงตอนเด็กคิดถึงพ่อกับแม่ก่อนที่ท่านจากไปคิดถึงชีวิตวัยเรียน
“นี้สินะคนกำลังจะตาย ถึงได้คิดถึงอดีตที่ผ่านมา555" เธอหัวเราะด้วยเสียงขื่นขม
“โอ้ยๆ ” เสียงร้องดังลั่น รู้สึกเจ็บปวดทรมานยากจะอธิบายได้ดินทุรนทุรายอยู่ตรงพื้นห้อง ฉันรู้สึกทรมานเหมือนคนกำลังจะตายนี้ฉันกำลังจะกลายเป็นแบบพวกมันแล้วสินะเจ็บปวดแสนสาหัสจนภาพตัดไป
จิ๊บๆ ตุ๊บ แกร๊ก ๆ ฟืบ พับๆ
“เสียงอะไรดังหนวกหูจัง” เมื่อคืนฉันโดนพวกมันกัดและกำลังกลายเป็นซอมบี้แต่เอ๊ะทำไมฉันถึงได้กลิ่นได้ยินเสียงหรือว่าเราตายแล้ว
“ทำไม ทำไมหนวกหูจัง” ฉันก้มมองสำรวจร่างกายดูแผลที่โดนกัด แผลหายไปหายไปไหนรอยเลือดยังอยู่เต็มเลยแต่แผลฉันหายไปไหนกัน
“แปลกจัง คนที่กลายเป็นซอมบี้แผลจะดูเน่าเปื่อยนี่ทำไมของเราไม่มีรอยแผลเลยแม้แต่ร่องรอยก็หายไปฉันต้องฝันแน่ๆ ”
“โอ้ยๆ” ฉันหยิกไปที่แขนของตัวเองอย่างแรงและก็รู้สึกเจ็บมาก นี้ฉันไม่ได้ฝันหรือเนี่ย เธอล้วงเข้าไปในกระเป๋าเป้ที่อยู่ติดตัวหยิบกระจกขึ้นมาส่องที่ใบหน้าของตัวเอง
“หน้าก็ปกติ ตาก็ปกติ ฟันก็ปกติดูปกติหมดเลยทำไมฉันยังปกติ” เธอพลางถอนใจรู้สึกโล่งอกแต่ก็รู้สึกกังวลสงสัยใคร่รู้อยู่มาก
“คงต้องไป”