10

984 คำ
เสียงรถยนต์แล่นเข้ามาในอาณาเขตบ้านชนานนท์หนูน้อยเกวลินตื่นเต้นออกนอกหน้านอกตาขยับกายออกจากแผ่นอกบิดากระโดดโลดเต้นปรบมือปรบไม้หัวเราะเอิ๊กๆ ใหญ่เลย “ลุงวินกับอาข้าวหอมแน่เลยค่ะ” “น้องเกวอย่ากระโดดแรงสิลูก เมื่อกี้หนูเหยียบโดนมือคุณพ่อ คุณพ่อจะเจ็บนะคะ” บอกลูกเสียงอ่อนโยนรวบร่างกลมเล็กมากอดพอหลวมๆ ยามมองลูกตาหวานปานนางฟ้าแต่พอยามมองสามีนั้นเมินเฉยเหมือนคนไม่รู้จักกัน “น้องเกวขอโทษค่ะคุณพ่อ” “ไม่เป็นไรค่ะ คุณพ่อไม่เจ็บหรอกลูก” จุ๊บแก้มลูกสาวด้วยรอยยิ้มที่ไม่เต็มปากนัก แววตาภรรยาเฉยชามาก เขาอยากโกรธ อยากงอน อยากน้อยใจแต่ก็ต้องเก็บความรู้สึกไว้รู้สึกไปก็เท่านั้นเพราะณิชาภัทรไม่ง้อเขาหรอก คิดอย่างงอนๆ ลุกขึ้นแย่งยัยหนูลูกรักมากอดด้วยแขนขวาก่อนมือซ้ายจะเอื้อมไปฉุดเอาข้อมือบอบบางลุกขึ้นเดินตามออกมาข้างนอก ไม่รู้ไม่ชี้แสร้งว่าไม่สนใจ “อย่าลืมที่คุณพ่อบอกนะคะ กอดลุงวินแน่นๆ ลุงวินชอบให้น้องเกวกอด” “ค่า น้องเกวจากอดแน่นๆ แบบนี้” กรรมตามสนองคนสอนแท้ๆ หนูน้อยเกวลินกอดรัดต้นคอบิดาแน่นหัวเราะเสียงใส ครั้งนี้กอดได้อย่างอิสระเพราะมารดาไม่ดุอะไรแถมยังแอบหัวเราะร่วมอีกด้วย เอาเข้าไป เมียเขาลูกเขาสนุกกันใหญ่เชียว ธนาตย์ไม่เอ่ยอะไรเพียงกระชับมือภรรยาแน่นขึ้นอีกจับมือพาเดินไปยังหน้าประตูไม้ขนาดใหญ่หน้าบ้านซึ่งข้าวหอมกับชวินทร์กำลังเดินเข้ามาพอดีข้าวหอมดูตื่นเต้นใหญ่รีบวิ่งเร็วในชุดนักศึกษาเข้ามาใกล้ยกมือไหว้ณิชาภัทรก่อนรีบโพลงเข้ากอดกันแนบแน่น “พี่เอ๋ย! ข้าวหอมคิดถึงที่สุดเลย” ผละออกมามองหนูน้อยตาเป็นมัน “น้องเกวจ๋า ขออาข้าวหอมกอดหน่อยนะคะ” ทำตาแป๋วขอน้องแต่นัยๆ คือขออนุญาตคนเป็นพ่อมากกว่า ครั้นธนาตย์ส่งน้องเกวมาให้ฐานิดาก็อุ้มมากอดรัดฟัดเหวี่ยงจุ๊บจนแก้มบางๆ ช้ำเกือบหมด ณิชาภัทรยกมือไหว้พี่ชายของสามีซึ่งเขาก็รับไหว้แบบเก้งๆ กังๆ เพราะสองมือพะรุงพะรังถือกระเป๋าให้ฐานิดาเต็มสองมือ ยิ้มขำขันนักก่อนจะคุกเข่าลงข้างลูกกระซิบบอกหนูน้อย “น้องเกวสวัสดีลุงวินกับอาข้าวหอมก่อนนะคะ ยกมือไหว้สวยๆ แบบที่คุณแม่เคยสอน” “ค่าคุณแม่” มือป้อมเล็กพนมไหว้สวยๆ ย่อกายเล็กน้อยพร้อมฉีกยิ้มอวดฟันหลอ “ซาหวัดดีค่าลุงวินอาข้าวหอม น้องเกวรัก น้องเกวคิดถึงที่สู๊ดเลย” “โอ๊ยๆ น่ารักอะไรอย่างนี้น้องเกวสุดที่รักของอา ขอกอดอีกหน่อยนะคะ มาให้กอดหน่อยเร็ว” เสียงทุ้มของชวินทร์หัวเราะหึหึในลำคอเพียงเบาๆ แต่ธนาตย์ยืนใกล้นิดเดียวมีหรือจะไม่ได้ยิน มองภาพสองสาวหนึ่งเด็กหญิงเพลินตาเพลินใจก่อนเขาจะขยับเท้าเข้าใกล้พี่ชายอีกนิดพลางปล้องปากกระซิบ “ข้าวหอมรักเด็กแบบนี้สายหื่นว่ายังไงพี่” “หึหึ” แฉลบสายตามองน้องชาย กระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อยอย่างราชสีห์ “ไม่น่ารอด…” สวนหน้าบ้านชนานนท์ถูกเนรมิตเป็นดั่งสรวงสวรรค์เตรียมพร้อมต้อนรับบรรดาญาติทั้งหลายที่อยากมาพบเจอณิชาภัทรกับหนูน้อยเกวลิน เสียงเปียโนจากเครื่องเสียงดังขึ้นไม่ขาดช่วงสร้างความเพลิดเพลินให้แขกในงานเลี้ยงได้ไม่น้อยไปกว่าอาหารรสเลิศ หนูน้อยถูกจับแต่งตัวสีขาวบริสุทธิ์มีปีกนางฟ้าน้อยๆ เดินเหินไปทางไหนผู้เป็นพ่อก็ตามประคบประหงมเก็บภาพไว้ในกล้องยี่ห้อหรูไม่แม้แต่จะสนใจดื่มเหล้ากับเพื่อนๆ “คุณพ่อขา ไม่ถ่ายรูป น้องเกวเหนื่อย” หนูน้อยยกมือขึ้นโบกสะบัดไปมาปีนป่ายขึ้นไปขึ้นบนหน้าตักมารดาแต่ท่านก็ยังตามมาถ่ายรูปตนเองจึงซบใบหน้าลงกลางอกมารดาหนี “เอ๋ย…” เรียกภรรยานุ่มนวลรอคอยหล่อนหันมาเขาก็กดชัตเตอร์เก็บภาพความน่ารักของหล่อนยามกอดลูก กดดูรูปผลงานของตนเองแล้วส่งต่อให้นายแบงค์คนขับรถเอาไปเก็บ หลังนายแบงค์โค้งกายเดินจากไปธนาตย์ก็นั่งลงเคียงข้างภรรยาโน้มใบหน้าเข้าใกล้เพื่อดูแก้มป่องๆ ของลูก โซนนี้ค่อนข้างไกลจากผู้คนณิชาภัทรคงมานั่งหลบได้พักใหญ่แล้ว มิน่าล่ะเขาก็สงสัยเชียวว่าลูกสาวทำไมขยันเดินโชว์ตัวรอบงานที่แท้ก็เดินหาณิชาภัทรนี่เอง “เหนื่อยเร็วจังคนเก่งของคุณพ่อ” “น้องเกวไม่เคยออกงานไม่เคยเจอคนเยอะขนาดนี้น่ะค่ะก็เลยเหนื่อยเร็ว หิวไหมลูก” ตอบสามีแล้วก็ถามไถ่นางฟ้าตัวน้อยดวงใจของแม่ แล้วนางฟ้าก็ตอบโดยส่ายศีรษะไปมาทั้งที่ยังซุกซบ “ไม่หิวค่ะน้องเกวกินข้าวแล้ว” “แล้วอ้อนเอาอะไรคะ” “น้องเกวง่วงนอนค่ะคุณแม่” “อดทนอีกนิดนะคะ อีกเดี๋ยวงานเลี้ยงก็เลิกแล้ว” “เอ๋ย ไม่ต้องให้ลูกอดทนหรอกถ้าลูกง่วงก็พาไปนอนเถอะ ทางนี้เดี๋ยวพี่จะบอกผู้ใหญ่ให้” “แต่เอ๋ยว่ามันจะดูไม่ดีนะคะ ผู้ใหญ่เยอะขนาดนี้” ณิชาภัทรยังลังเลเหตุกลัวจะถูกตำหนิเพราะผู้ใหญ่ที่มาร่วมงานต่างอยากเจอหนูน้อยทั้งนั้น กระชับอ้อมกอดอุ้มหนูน้อยให้นั่งสบายมากขึ้น สงสารนัก นัยน์ตาแกจะหลับแหล่มิหลับแหล่ เพิ่งสองทุ่มเศษๆ แต่หนูน้อยกลับง่วงนอนซะแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม