“แกเป็นใคร? เธอถามเงาดำที่นั่งชันเข่าบนฟูกนอนขนาดเล็กของตน
หึหึ
มีเพียงเสียงขำในลำคอลอยมาปะทะโสตประสาทในความมืดสลัว
“แกเป็นใคร?”เธอถามย้ำอีกครั้งพร้อมกับมือเล็กกำปมผ้าเช็ดตัวบนตัวของตัวเองให้แน่นขึ้นกว่าเดิม พร้อมจ้องมองอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง
เฮ้อ!
ยังคงเงียบ มีเพียงเสียงถอนหายใจของเงาดำในความมืดดังออกมาพร้อมกับเงาดำนั้นเริ่มขยับตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ดวงตากลมโตจ้องมองเงาในความมืดประมาณความสูงแล้วน่าจะราวหกฟุตเห็นจะได้
“ยะ...อย่าเข้ามานะ”
เธอร้องห้ามเงาดำที่เคลื่อนไหวมาทางตน และยิ่งเงาดำเคลื่อนไหวมาใกล้เรื่อยๆ ยิ่งทำให้เธอหวาดกลัวกับเงาดำตรงหน้า พอมันเคลื่อนมาใกล้แสงไฟในห้องน้ำก็ส่องกระทบให้เห็นเสี้ยวหน้าของอีกฝ่ายให้ได้เห็นชัดขึ้นจนต้องเบิกตากว้าง แม้จะเพียงแค่เสี้ยวหน้าไม่ชัดเจนเท่าไหร่นัก แต่ก็จำได้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
“แก!”
“ว่าที่ผัวมึงยังไงล่ะ” ผู้บุกรุกในยามวิกาลเอ่ยออกมาเป็นคำแรกพร้อมกับยกยิ้มร้ายในความมืด ยกมือเสยผมตัวเองที่ตกมาปิดตาหนึ่งครั้ง แล้วยื่นมือข้างนั้นยื่นไปตวัดกอดเกี่ยวร่างน้อยที่กำลังตกใจเข้ามาหาตัวเอง
“วะ...ว้าย!” จันทร์เจ้าเสียหลักเซปะทะอกแกร่งพร้อมสองแขนตวัดโอบกอดเอวหนาไว้อย่างไม่ตั้งใจด้วยความกลัวล้ม และปมผ้าที่กำแน่นก็หลุดร่วงกองที่พื้นอย่างรวดเร็ว
“หึหึ...แกงั้นเหรอ งั้นฉันก็จะแทนตัวเองว่ากูก็แล้วกัน กูจะบอกมึงก็แล้วกันว่าคืนนี้มึงต้องเป็นเมียกูจันทร์เจ้า”
---------
“สบายดีไหม?”
ดิฐายิ้มฝืดๆ ส่งให้คนตัวเตี้ยอวบอิ่มตรงหน้าพร้อมขยับขาก้าวเข้าไปชิดและเธอก็ก้าวถอยหนีไปอีกหนึ่งก้าว
“หยุดอยู่ตรงนั้น!” กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอก็นานเกือบนาที
“ลูกแข็งแรงดีไหม?”
คำถามแรกจันทร์เจ้ายังไม่ตอบ แล้วคิดเหรอว่าคำถามที่สองหญิงสาวจะตอบ
“ขอตัวนะคะ”
เมื่อในห้องไม่มีเจ้านายที่โทรตาม เธอจึงเอ่ยขอตัว เพราะไม่มีอะไรต้องพูดกับดิฐา
“เดี๋ยวก่อนสิ!”
ทุกอย่างของร่างกายเป็นไปโดยอัตโนมัติ มือใหญ่คว้าจับข้อมือเล็กรั้งไว้เมื่อสาวเจ้าจะเดินหนีตน
“ปล่อยเดี๋ยวนี้!”
จันทร์เจ้ารู้สึกไม่พอใจกับสัมผัสของดิฐาจนต้องรีบสั่งให้ปล่อยและบิดข้อมือออกจากอุ้งมือหนา
ดิฐายอมคลายมือที่จับข้อมือน้อยของสาวเจ้าทันทีเมื่อถูกสั่งพร้อมได้เห็นสายตาไม่พอใจปนขุ่นเคืองของจันทร์เจ้า
“คุยกันได้ไหม?” ดิฐาขอร้องคนที่กำลังจะเดินจากไป
เท้าเล็กหยุดเดินแล้วเอี้ยวหน้าหันมาทางต้นเสียงทุ้มห้าวที่มันดังแผ่วเบาด้านหลัง เธอเพิ่งได้มองร่างสูงใหญ่ของดิฐาอย่างละเอียดและสังเกตก็ตอนนี้เอง เขาซูบผอม แก้มตอบจนเห็นโครงกระดูกหน้า และสันกรามที่ปูดโปนนั่นอีก ‘เขาไม่สบายเหรอ?’ นั่นคือคำถามที่ดังในใจเมื่อได้มองสำรวจร่างที่เคยสง่างามของอีกฝ่ายที่มันผิดกับเมื่อก่อนราวกับเป็นคนละคน แต่ใบหน้าหล่อที่ซูบผอมยังทรงพลังน่าเกรงขามเหมือนเดิม
“ฉันรบกวนเวลาเธอไม่นานหรอกจันทร์เจ้า”
เมื่อสาวเจ้าเงียบไม่พูดตอบ ดิฐาจึงพูดอีกครั้งพร้อมกับเดินไปนั่งที่โซฟาสำหรับรับแขกของปุรินทร์
จันทร์เจ้าขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เดินตามจอมบงการไปนั่งที่โซฟาตัวเล็กอีกตัว ไม่นั่งตัวยาวตัวเดียวกับดิฐา พอนั่งลงเรียบร้อยเสียงทุ้มเข้มก็ดังถามขึ้น
“ลูกแข็งแรงดีไหม?” มันคือคำถามก่อนหน้านี้ที่เธอไม่ตอบเขา