คุณพ่อถึงกับยิ้มไม่หุบจึงโดนลูกน้องที่เป็นมือซ้ายแซว ปกติไม่ค่อยเห็นเจ้านายยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ตั้งแต่มีสองแฝดเจ้านายก็เปลี่ยนไป ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น พูดเยอะขึ้น อ่อนโยนกับลูกน้องรวมถึงใจดีด้วย
คินน์มีลูกน้องสองคนมือขวาคือกรณ์ มือซ้ายคืออัครนัย ไปทำงานครั้งนี้เขาไปกับมือซ้าย ส่วนมือขวาอยู่ที่บริษัท
“คุณคินน์กำลังดูรูปคุณหนูน้อยอยู่ใช่ไหมครับ”
อัครนัยหรืออัคทำงานกับคินน์มาหลายปี ก่อนที่ชายหนุ่มจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการบริษัทด้วยซ้ำจึงมีความสนิทสนมกับเจ้านายมาก ด้วยความที่ทำงานกันมานานนับสิบปีพวกเขาจึงกลายเป็นเพื่อนกัน
“อือ ลูกกูน่ารักไหมอัค ดูสิหน้าเหมือนกูเลย” คินน์ยื่นโทรศัพท์ให้ลูกน้องดูลูกชายฝาแฝดกับแม่ของพวกแกที่กำลังทำหน้าแป้นแล้นใส่กล้อง เรื่องลูกนอกจากกรณ์ก็มีอัครนัยที่รู้ ถ้าไม่ได้สองคนนี้ช่วยปิดบัง ป่านนี้บิดามารดาของเขาคงรู้ไปนานแล้ว ลูกชายที่ท่านภูมิใจนักหนาทำผู้หญิงท้อง
“คุณคินน์ไม่คิดจะเปิดตัวคุณหนูแฝดกับคุณท่านทั้งสองจริงๆ เหรอครับ”
น่าเสียดายมากอัครนัยคิดในใจ ถ้าเป็นเขาจะเดินไปบอกบุพการีตรงๆ ว่าตนเองพลาดทำผู้หญิงท้อง ปู่ย่าคงไม่ใจร้ายกับหลานหรอก
อีกอย่างบิดามารดาของคินน์ออกจะใจดีมีเมตตา เขาเคยได้ยินว่าท่านพากันบ่นอยู่เนืองๆ ว่าอยากให้ลูกชายแต่งงานสักทีท่านอยากอุ้มหลานก่อนตาย
“มันยังไม่ถึงเวลา กูคิดว่ารอให้เจ้าแฝดเข้าเรียนก่อนแล้วค่อยบอกคุณพ่อคุณแม่”
เขาก็อยากบอกแต่รู้สึกว่ายังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม คินน์นั่งยิ้มเหมือนคนบ้าหลังจากได้รับรูปเพิ่มพร้อมกับข้อความเสียงของสามแม่ลูก
“ทำไมต้องรอนานขนาดนั้นครับ ผมว่าคุณท่านทั้งสองน่าจะไม่มีปัญหา” อัครนัยเอ่ยแนะนำจากใจจริง คุณหนูน้อยโตขึ้นทุกวัน ถ้ารู้ว่าพ่อปิดบังตัวตนของพวกเขาไม่ให้ปู่ย่ารู้มันจะเป็นอย่างไร
เด็กเดี๋ยวนี้ฉลาดจะตาย รู้ความกว่าเด็กสมัยก่อนเยอะ เขาไม่อยากให้พ่อลูกมีปัญหากัน ไหนๆ เรื่องมันก็มาถึงขั้นนี้แล้วบอกไปเลยดีกว่า
“มึงว่าคุณพ่อคุณแม่จะรับได้ไหม ถ้ารู้ว่าลูกชายทำผู้หญิงท้อง”
“ได้อยู่แล้วครับ ดีไม่ดีอาจโกรธคุณคินน์ที่ปิดบังมากกว่า พวกท่านอยากมีหลานคุณคินน์เองก็รู้”
“กูควรบอกพวกท่านใช่ไหม”
“ครับ ผมคิดว่าปิดบังไปก็ไร้ประโยชน์”
“อืมงั้นหลังจากกลับมา กูจะบอกพวกท่าน”
เวลาผ่านไปเป็นสัปดาห์หลังจากคินน์ติดต่อกลับมาหาลูกชายฝาแฝดครั้งล่าสุดแล้วพวกเขาก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย
น้ำปั่นอยากโทรไปแต่กลัวเขาโกรธจึงได้แต่รอ จนกระทั่งทนไม่ไหวเธอจึงติดต่อไปยังกรณ์ ถึงได้รู้ว่าคินน์ประสบอุบัติเหตุที่เมืองนอก แต่ตอนนี้ถูกส่งกลับมารักษาตัวที่เมืองไทยแล้ว
ด้วยความเป็นห่วงเธอจึงอ้อนวอนขอร้องให้กรณ์บอกว่าคินน์รักษาตัวอยู่ที่ไหน เธอจะพาลูกไปเยี่ยมเขา กรณ์ปรึกษากับอัครนัย ทั้งคู่ต่างเห็นพ้องต้องกันว่าถ้าคินน์เจอสามแม่ลูกอาการคงดีขึ้นกว่านี้ ไม่แน่อาจจะหายป่วยเลยก็ได้
“ผมจะส่งคนไปรับที่บ้านนะครับคุณน้ำปั่น”
“ไม่ต้องค่ะ น้ำพาลูกไปเอง คุณกรณ์แชร์โลเคชันมาก็พอ”
“ก็ได้ครับ คุณคินน์เจอคุณหนูน้อยอาการอาจจะดีขึ้น”
“ต้องดีขึ้นค่ะ น้ำเชื่อคุณคินน์จะต้องหายป่วย”
“ครับ เดินทางปลอดภัย ผมจะรอที่โรงพยาบาล” กรณ์ไม่ได้บอกอาการป่วยของคินน์ให้น้ำปั่นรู้ เขาอยากให้เธอมาเห็นด้วยตาตัวเอง
“คุณน้ำปั่นจะมาหาคุณคินน์เหรอ”
“อืมจะพาคุณหนูแฝดมา แต่กูยังไม่ได้บอกเรื่องอาการป่วย”
“ไม่เป็นไรหรอก ค่อยบอกก็ได้ กูกลับก่อนนะ ต้องพาลูกไปหาหมอ”
“ไปเถอะ คนมีครอบครัว กูเข้าใจ”
กรณ์ยิ้มให้อัครนัยก่อนจะเดินกลับเข้าไปหาเจ้านายที่เพิ่งหลับไปด้วยฤทธิ์ยา อีกไม่นานคุณหนูน้อยทั้งสองก็มาถึง เขาไม่รู้คินน์จะจำลูกของตัวเองได้ไหมหรือว่าจำไม่ได้
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้คินน์ความจำเสื่อม แต่ไม่ได้ลืมทั้งหมด เขาลืมเรื่องราวแค่เฉพาะช่วงห้าปีให้หลังเท่านั้น
น้ำปั่นจัดการแปลงโฉมตนเองด้วยการแต่งหน้าแต่งตัวซะสวยปิ๊ง แล้วบอกให้ลูกชายฝาแฝดแต่งองค์ทรงเครื่องให้หล่อๆ ไปเลย สองแฝดพอรู้ว่าแม่จะพาตัวเองไปหาพ่อก็รีบไปแต่งตัวทันที เด็กชายเติมรักหยิบชุดที่คิดว่าหล่อสุดมาใส่ ส่วนเด็กชายเต็มรักเลือกชุดสบายๆ แต่เป็นชุดที่พ่อซื้อมาให้
“พี่ลูกเสร็จแล้วคับแม่จ๋า หล่อไหม” คนหล่อหมุนซ้ายหมุนขวาโชว์ให้มารดาดู เสื้อผ้ารองเท้าหมวกกระเป๋าเข้ากันได้อย่างลงตัว เติมรักได้นิสัยความเจ้าระเบียบและเนี้ยบมาจากบิดา เวลาใส่เสื้อผ้าก็ต้องให้เข้าคู่กัน
“ลูกชายแม่หล่อมากครับ สาวๆ เห็นต้องกรี๊ด แล้วน้องจั๊มล่ะครับเสร็จไหม” คุณแม่ยิ้มภูมิใจในความหล่อของลูกน้อย บุญวาสนาของเธอแท้ๆ ที่ลูกออกมาหน้าตาดีได้พ่อ ถ้าได้แม่ไม่รู้สองหนุ่มจะน้อยใจรึเปล่า
“เสร็จแล้วคับ เสื้อนี้พ่อจ๋าซื้อมาฝาก พ่อจ๋าบอกว่าน้องจั๊มใส่แล้วหล่อมาก”
“ใช่เลยแม่เห็นด้วยกับพ่อ ถ้าเสร็จแล้วเราไปกันเถอะ พ่อรอพวกหนูอยู่”
“คับไปหาพ่อจ๋ากัน”
“ไปๆ ไปหาพ่อจ๋า”
สามคนแม่ลูกเดินทางไปโรงพยาบาลเอกชนที่คินน์รักษาตัวด้วยรถส่วนตัว คินน์ซื้อรถยนต์คันเล็กให้น้ำปั่นเอาไว้ใช้งาน ถึงจะเป็นรถยนต์คันเล็กแต่ราคากลับไม่ธรรมดา
หญิงสาวไม่ค่อยถนัดขับรถในเมืองหลวงกว่าจะเดินทางมาถึงโรงพยาบาลหลงทางไม่รู้กี่รอบจนโดนสองแฝดบ่น เพราะนั่งอยู่บนรถนานเกินจนปวดฉี่ เมื่อถึงโรงพยาบาลเธอจึงพาลูกน้อยไปเข้าห้องน้ำก่อน
“พี่ลูกกับน้องจั๊ม เข้าไปกันสองคนนะครับ แม่รออยู่ตรงนี้”
“คับ แม่จ๋าห้ามทิ้งเรานะ”
“ช่าย ถ้าออกมาไม่เห็นแม่จ๋าน้องจั๊มจะงอน”
“ครับๆ แม่รออยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน”
เด็กแฝดรีบเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็วเพราะฉี่จะราดอยู่แล้ว ตอนนั้นเองมีคุณหมอผู้ชายเดินมาพอดีน้ำปั่นจึงขอความช่วยเหลือฝากคุณหมอช่วยดูลูกชายให้หน่อย เธอเป็นผู้หญิงเข้าไปในห้องน้ำชายไม่ได้
“เสร็จแล้วคับแม่จ๋า โล่งเลย”
“ไปหาพ่อจ๋ากันคับแม่จ๋า”
“เดี๋ยวลูกขอบคุณลุงหมอก่อน ขอบคุณมากนะคะ”
“ขอบคุณมากคับลุงหมอ น้องจั๊มชอบลุงหมอ”
“พี่ลูกก็ชอบเหมือนกัน ลุงหมอหล่อมาก”
“ฮ่าๆๆๆ เราสองคนก็หล่อเหมือนกัน งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
คุณหมอซึ่งแท้จริงแล้วเป็นหมอเจ้าของไข้คินน์เดินแยกไปอีกทาง ส่วนสามแม่ลูกเดินตรงไปทางลิฟต์ พวกเขาเดินมาถึงหน้าห้องพักคนป่วยได้ไม่นานกรณ์ก็ออกมาต้อนรับ สองแฝดไม่พูดพร่ำทำเพลงรีบวิ่งเข้าไปหาบิดาด้วยความคิดถึงจับใจ
“พ่อจ๋า พี่ลูกมาหาแล้ว พี่ลูกคิดถึงพ่อจ๋า”
“น้องจั๊มก็คิดถึงพ่อจ๋าเหมือนกันคับ”
“พวกหนูสองคนเป็นใคร”
“พี่ลูกชิ้น ลูกชายสุดหล่อของพ่อจ๋าไงคับ”
“น้องจัมโบ้ ลูกชายสุดหล่อของพ่อจ๋าคับ”
“เข้าใจผิดแล้วหนู ลุงยังไม่มีลูก”
“คุณคินน์เป็นอะไรไปคะ ทำไมถึงจำลูกไม่ได้”
“แล้วคุณเป็นใคร แม่ของเด็กสองคนนี้?”
“ค่ะ คุณคินน์จำเราสามคนไม่ได้เหรอ”
“จำได้สิ จำได้ว่าผมยังไม่แต่งงาน ยังไม่มีลูก พวกคุณเป็นใครกันแน่”
“ทำไมพ่อจ๋าดุ ฮือๆ น้องจั๊มกลัว”
“แม่จ๋าพี่ลูกกลัว พ่อจ๋าไม่รักฮือๆ”
เกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อสองพี่น้องพร้อมใจกันร้องไห้เพราะกลัวบิดาที่ทำหน้าเหมือนจะกินคน แววตาบึ้งตึงไม่เหมือนพ่อจ๋าคนเดิมของพวกเขา
น้ำปั่นกับกรณ์ต้องใช้เวลาไม่น้อยในการปลอบโยนสองแฝดที่มีคราบน้ำตาเต็มใบหน้าให้หยุดสะอื้น
ก่อนที่เรื่องราวจะบานปลายไปมากกว่านี้ กรณ์ยืนยันกับเจ้านายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น คุณหนูน้อยทั้งสองคนคือลูกของเขาจริง ไม่เชื่อก็ดูได้จากใบหน้าเหมือนพ่อราวกับถ่ายเอกสาร
ทว่าคนความจำเสื่อมยังไม่ทันคิดหาคำตอบ ประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามาด้วยฝีมือบิดากับมารดาของเขา พวกท่านถึงกับงงเป็นไก่ตาแตกหลังจากรู้ว่าสามคนแม่ลูกที่นั่งอยู่บนโซฟาเป็นใคร
“ว่ายังไงนะ เด็กสองคนนี้คือลูกของคินน์ ส่วนหนูคือเมียของคินน์”
“ค่ะคุณป้า หนูชื่อน้ำปั่นเป็นเมียของคุณคินน์ ส่วนเด็กสองคนนี้ก็คือลูกของเราจริงๆ”
หญิงสาวยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แผนการบางอย่างผุดขึ้นมาในหัว โอกาสมาถึงแล้วเธอต้องใช้มันให้เป็นประโยชน์
คุณคินน์ขาเตรียมตัวเป็นผัวตัวจริงของน้ำปั่นได้เลย ทะเบียนสมรสต้องได้ ลูกคนที่สามต้องมา
คนอยากได้พ่อของลูกมาเป็นคู่ชีวิตคิดในใจอย่างหมายมั่นปั้นมือ เธอจะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสก่อนที่คินน์จะจำทุกอย่างได้