บทที่ 1 คุณเป็นได้แค่แม่ของลูก (1)
“พี่ลูกชิ้น น้องจัมโบ้ ใครเป็นคนเทของเล่นครับ”
เสียงกัมปนาทของหญิงสาววัยเบญจเพส แต่มีลูกแฝดแสนซนดังไปทั่วห้องสี่เหลี่ยมหลังจากเห็นของเล่นกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น
เด็กชายเติมรัก ฮาร์คินสันหรือ พี่ลูกชิ้น กับ เด็กชายเต็มรัก ฮาร์คินสันหรือ น้องจัมโบ้ ในวัยสี่ขวบ รูปร่างหล่อเหลาได้พ่อค่อยๆ หันมามองหน้ามารดาก่อนจะส่งยิ้มหวานกลบเกลื่อนความผิด
“แม่จ๋าคับ วันนี้แม่จ๋าส้วยสวย” คนมีความผิดเอ่ยชมมารดาเสียงหวาน ทั้งที่แม่ก็แต่งตัวแบบนี้ทุกวันเสื้อยืดกางเกงขาสั้น ทว่าใบหน้ามีสีสันประดับเพราะต้องไลฟ์สดขายของ
น้ำปั่นไม่ใช่คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวก็จริงแต่ต้องหาเงินให้ตัวเองใช้ ส่วนเงินที่พ่อของลูกให้นั้นเธอเก็บเอาไว้ให้ลูกใช้อย่างเดียว
“สวยมากด้วยคับแม่จ๋า” ลูกชายคนเล็กพยักหน้าจริงจังเห็นด้วยกับพี่ชายฝาแฝด วันนี้แม่จ๋าสวยกว่าทุกวันเลย
สองพี่น้องตัวป่วนยิ้มหวานให้แม่อย่างเช่นทุกครั้งที่ทำผิด แม่เคยสอนว่าอย่าเทของเล่นออกมาทั้งตะกร้า อยากเล่นชิ้นไหนให้หยิบออกมาเล่นทีละชิ้น แต่สองแฝดคึกไปหน่อยจึงลืมคำสั่งของมารดา
“เรื่องนั้นแม่จ๋ารู้ครับ แต่เรื่องเทของเล่นแม่จ๋าอยากรู้ฝีมือใคร” คุณแม่ทำหน้ายักษ์เท้าสะเอวจ้องมองสองพี่น้องที่กำลังหาทางเลี่ยงการถูกลงโทษเพราะความซนของตนเอง ทว่าน้ำปั่นยังไม่ทันได้คำตอบกลับต้องหันไปมองข้างหลังเมื่อได้ยินเสียงพ่อของลูก จากนางยักษ์จึงกลายร่างเป็นนางฟ้าทันที
“คุณคินน์มาได้ยังไงคะ ทำไมไม่โทรบอกน้ำปั่นก่อน”
คนอยากเอาใจพ่อของลูกเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่ต่างจากลูกแฝดเมื่อสักครู่
“เย่พ่อจ๋ามาแล้ว” / “พ่อจ๋ามาแล้ว” เด็กน้อยรีบทิ้งของเล่นในมือแล้ววิ่งใส่บิดาด้วยความดีใจ ก่อนจะเหลือบมองแม่นิดหน่อย คนพี่เกาะขาซ้าย คนน้องเกาะขาขวา
“ครับลูกพ่อมาแล้ว มีอะไรคุณ ผมได้ยินเสียงคุณดุลูกดังไปถึงหน้าบ้าน” เขาเดินเข้ามาไม่ถึงสามก้าวก็ได้ยินเสียงแว้ดๆ ของน้ำปั่น รู้เลยกำลังบ่นเจ้าสองแสบแน่นอน แต่ลูกยังเด็กจะบ่นอะไรนักหนา เขาไม่เข้าใจเธอจริงๆ
“ไม่ให้ดุได้ยังไงก็ดูสิคะ เทของเล่นเรี่ยราดหมด ต้องโดนตีก้นบ้างแล้ว” คุณแม่ชี้ไปยังพื้นที่มีของเล่นนอนแอ้งแม้งไม่มีทางให้เดินแม้แต่นิดเดียว เด็กชายอยู่เป็นจึงรีบอ้อนพ่อ
“พี่ลูกคิดถึงพ่อจ๋า”
คิดถึงธรรมดากลัวพ่อไม่รู้ เติมรักจึงส่งสายตาปริบๆ ให้พ่อ เจ้าหนูน้อยรู้ดีถ้าอ้อนพ่อสำเร็จตัวเองจะไม่ต้องเก็บของเล่นทั้งหมดบนพื้นและไม่โดนแม่ดุด้วย
“น้องจั๊มก็คิดถึงพ่อจ๋าคับ คิดถึงม้ากมาก”
น้องชายก็ไม่น้อยหน้ากะพริบตาอ้อนวอน ลากเสียงยาวเพื่อให้บิดารับรู้ สองพี่น้องเหลือบไปมองแม่ครู่เดียวก่อนจะกลับมาอ้อนพ่อต่อ
“พ่อก็คิดถึงลูกทั้งสองคนเหมือนกัน มากอดหน่อยเร็ว”
สามคนพ่อลูกโผเข้าหากันราวกับไม่ได้เจอหน้าแรมปี คินน์ คิริฮาระ ฮาร์คินสัน ปรายตามองแม่ของลูกที่กำลังยืนยิ้มหวานด้วยสายตาตำหนิ เขาบอกเธอไม่รู้กี่ครั้งว่าอย่าดุลูก อย่าคิดจะตีลูกทำไมถึงไม่ฟัง
น้ำปั่นยิ้มหน้าบานทำเป็นไม่สนใจสายตาของคินน์ ช่วงนี้เธอกำลังทำคะแนนมัดใจพ่อของลูก วันนี้ยกเว้นการลงโทษลูกชายไปก่อนก็ได้ ถึงแม้อยากจะเอาไม้แขวนเสื้อมาตีก้นงอนๆ นั้นแค่ไหน แต่เธอจะไม่ทำเด็ดขาดเดี๋ยวลูกเอาไปฟ้องพ่อแล้วเธอจะถูกลดคะแนน ยิ่งไม่ค่อยมีอยู่ด้วย
“คุณคินน์มาเหนื่อยๆ ไปพักก่อนไหมคะ วันนี้อยากกินอะไรน้ำจะเข้าครัวทำอาหารให้สุดฝีมือเลย”
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง เมื่อกี้คุณดุลูกทำไม”
“ก็ลูกทำผิด เทของเล่นออกมาหมด น้ำจำเป็นต้องดุค่ะ”
“ลูกอยากเล่นก็ปล่อยให้ลูกเล่นไป ไม่ต้องห้าม วัยกำลังเรียนรู้”
“คุณคินน์จะตามใจลูกแบบนี้ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวลูกจะเอาแต่ใจนิสัยเสียกันพอดี”
“ผมก็ถูกตามใจไม่เห็นนิสัยเสียตรงไหน”
คินน์เถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้ ใครบอกเลี้ยงลูกแบบตามใจจะทำให้ลูกนิสัยเสีย ดูเขาเป็นตัวอย่างสิ
คุณพ่อกับคุณแม่ตามใจเขาจะตายไม่เห็นจะนิสัยเสียตรงไหน ก็แค่เอาแต่ใจตัวเอง อยากได้อะไรก็ต้องได้ ชี้นิ้วสั่งเก่ง แต่มันก็เป็นเรื่องปกติของลูกคนรวยไม่ใช่หรือไง
น้ำปั่นอยากมองค้อนให้กับคินน์เหลือเกิน ถามมาได้นิสัยเสียตรงไหน ถ้าเธอตอบว่าทุกตรงจะโดนหักคะแนนจิตพิศวาสไหม แต่ถึงเขาจะนิสัยเสียอย่างไรทว่าเธอกลับหลงรักเขา หลงรักจนไม่อยากปล่อยเขาไปเป็นสามีของผู้หญิงคนไหน
อีน้ำปั่นขอสาบานคุณคินน์ต้องเป็นผัวของเธอคนเดียวเท่านั้น ถ้าไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องเอามันด้วยคาถานี่แหละ
หญิงสาวคิดในใจในขณะมองพ่อลูกคุยกันอย่างน่ารัก เสียงอ่อนเสียงหวานแตกต่างจากที่คุยกับเธอราวฟ้ากับเหว
“พ่อจ๋าคับของเล่นที่พี่ลูกอยากได้อยู่ไหน” เด็กอ้วนทวงของเล่น ใบหน้ากลมเหมือนลูกชิ้นตามที่แม่ตั้งให้หันมองซ้ายขวาก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อไม่เห็นของที่ตนเองต้องการ
“ของน้องจั๊มด้วยคับ พ่อจ๋าเอามาไหมคับ” เด็กอ้วนคนที่สองแบมือยิ้มแต้ หลายวันก่อนพ่อบอกว่าถ้ามาหารอบหน้า พ่อจะเอาของเล่นที่ลูกต้องการมาด้วย แล้วไหนล่ะของเล่นไม่เห็นพ่อจ๋าเอามาด้วยเลย
คุณพ่อเห็นสีหน้าของลูกแฝดถึงกับหลุดขำ ไอ้ที่บอกคิดถึงพ่อมันเรื่องจริงไหม หรือว่าคิดถึงของเล่นกันแน่ คงเป็นอย่างหลังสินะ ตัวแสบเอ๊ย
“เอามาอยู่แล้วครับลูก พ่อจ๋าไม่ลืมหรอก กรณ์ไปเอาของเล่นเข้ามาให้คุณหนูสิ” คุณพ่อหันไปสั่งมือขวาของตนเอง ของเล่นลูกของสำคัญแบบนั้นใครเขาลืมกัน
“ครับคุณคินน์ รอสักครู่นะครับคุณหนู”
“คับอากรณ์” / “เร็วๆ นะคับอากรณ์”
“ของเล่นอะไรอีกคะ นี่ก็เต็มบ้านแล้ว ขยันซื้อมาเหลือเกิน”
“ของขวัญผมซื้อให้ลูก ผมจะไปทำงานต่างประเทศหลายวัน”
“คุณคินน์จะไปต่างประเทศหรือคะ ไปประเทศไหน นานไหม กี่วันกี่เดือนกี่ปี”
“คุณเป็นแค่แม่ของลูกไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องนี้ รู้แค่ว่าผมจะไปต่างประเทศก็พอ”
“...” น้ำปั่นถึงกับสะอึก รู้สึกน้อยใจอย่างห้ามไม่อยู่ ใช่สิเธอมันเป็นได้แค่แม่ของลูก ไม่มีทางขยับสถานะขึ้นมาเป็นอย่างอื่นหรอก
ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจหญิงสาวจึงปล่อยให้พ่อลูกเล่นกัน ส่วนตนเองเข้าไปทำกับข้าวในห้องครัวแทน
เด็กน้อยสองคนปกติเล่นกับแม่อยู่ทุกวันจะเจอบิดาสัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้ง เมื่อได้เล่นแบบผู้ชายก็เกิดติดใจเรียกพ่อจ๋าไม่หยุดปาก
คินน์หันซ้ายหันขวาตอบคำถามลูกวัยซนแทบไม่ทัน เขามาวันนี้ก็เพื่อเก็บเกี่ยวความสุขก่อนจะไปทำงานต่างประเทศนานครึ่งเดือน
“พี่ลูกชิ้นครับ น้องจัมโบ้ครับ”
“คับพ่อจ๋า” / “คับ”
“พ่อจะไม่มาหาลูกหลายวัน หนูอยู่กับแม่อย่าดื้ออย่าซนนะครับ” คุณพ่อลูบหัวลูกชายด้วยความเอ็นดู ไม่ได้เจอลูกน้อยครึ่งเดือนเขาต้องคิดถึงมากแน่ ทว่าเทคโนโลยีตอนนี้ไปไกลแล้ว
ถึงไม่ได้เจอหน้ากันจริงแต่วิดีโอคอลหากันได้ สองแฝดพอได้ยินว่าพ่อจะไปที่อื่นจึงรีบทิ้งของเล่นในมือแล้วเข้าไปอ้อนพ่อทันที
“พ่อจ๋าไปไหนพี่ลูกไปด้วย” เติมรักซบลงบนอกหลังจากนั่งลงบนตัก
“น้องจั๊มไปด้วยคับพ่อจ๋า แม่จ๋าด้วยนะ ไปกันหมดเลย” เต็มรักก็ใช่ย่อยรีบเอามือไปคล้องคออ้อนพ่อและไม่ลืมแม่ ถึงสองพี่น้องจะเป็นคู่ปรับกับมารดาแต่ก็รักมารดามาก
“ไปไม่ได้ครับลูก พ่อจ๋าไปทำงาน เอาไว้พ่อจ๋าทำงานเสร็จแล้วจะพาไปเที่ยวนะครับ”
คินน์ใจอ่อนยวบอยากพาเจ้าลูกลิงจอมซนไปด้วย ทว่าปัญหาคือเขาไม่เคยบอกครอบครัวว่าตนเองมีลูก เพราะกลัวพวกท่านจะรับไม่ได้ที่ลูกชายทำผู้หญิงท้อง
“ไปเที่ยวที่ไหนคับพ่อจ๋า ไม่เอาสวนสัตว์น้องจั๊มเบื่อ” คนน้องส่ายหน้าเบะปากไม่อยากไป เพราะมารดาพาไปเที่ยวบ่อยจนจำได้หมดแล้ว ส่วนพี่ชายไม่เคยเบื่อเนื่องจากเป็นคนชอบสัตว์
“แต่พี่ลูกไม่เบื่อ พ่อจ๋าคับไปดูพี่เต่ากัน” เติมรักชอบเต่ามาก ชอบเป็นชีวิตจิตใจ
“ไม่เอา! พ่อจ๋าคับ ไปดูพี่ปลากัน” เต็มรักค้านเสียงแข็งถ้าต้องไปสวนสัตว์ก็ต้องไปดูปลาเท่านั้น ไม่ดูแล้วพี่เต่าตัวใหญ่
สองพี่น้องจ้องหน้ากันไม่มีใครยอมใคร คนพี่เอามือขึ้นมากอดอก คนน้องเอาคางชิดอก ดูเหมือนคนกำลังจะมีเรื่องกันไม่มีผิด คุณพ่อจึงรีบห้ามทัพพร้อมกับให้สัญญา หลังจากกลับมาตนเองจะพาลูกทั้งสองไปเที่ยวตามที่ต้องการแน่นอน
“แม่จ๋าไปด้วยไหม ถ้าแม่จ๋าไม่ไปพี่ลูกก็ไม่ไป”
“ไปครับ ใครจะดูแลพี่ลูกชิ้นกับน้องจัมโบ้ พ่อดูแลไม่ไหวหรอกแสบขนาดนี้ ตัวหนักด้วย”
“สูงด้วยคับพ่อจ๋า น้องจั๊มสูงกว่าพี่ลูกอีก ดูเซ่”
“ไม่จริง พี่ลูกสูงกว่าน้องจั๊มอีก ใช่ไหมคับพ่อจ๋า”
สองแสบเถียงกันคอเป็นเอ็นพยายามเทียบความสูงให้พ่อดูว่าใครสูงกว่ากัน บิดาจึงแก้ปัญหาบอกว่าสูงเท่ากันเพราะเป็นลูกพ่อ เท่านั้นแหละเด็กรักพ่อถึงหยุดเถียงแล้วกลับไปเล่นด้วยกันเหมือนเดิม
คินน์อมยิ้มเล็กน้อยหลังจากลูกชายดีกันแต่คิดว่าไม่เกินห้านาทีต้องตีกันอีกตามประสาพี่น้อง ชายหนุ่มรู้สึกว่าหญิงสาวหายไปนานจึงเงยหน้ามอง คิ้วชนกันด้วยความสงสัยทำไมแม่ของลูกไม่กลับเข้ามาในห้องนี้เสียที
“คุณคินน์มองหาอะไรครับ”
“น้ำปั่นไปไหน ทำไมไม่มาดูแลลูก”
“คุณน้ำปั่นเข้าครัวครับ เห็นว่าอยากทำอาหารโปรดให้คุณคินน์ทาน”
“อืม มึงกลับไปพักเถอะ วันนี้กูจะนอนกับลูกที่นี่”
“ครับคุณคินน์”
ลูกน้องโค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปจากบ้านหลังเล็กที่เจ้านายซื้อให้ผู้หญิงที่ตนเองไปมีความสัมพันธ์ด้วยแต่ไม่รู้ทำกันอีท่าไหน เธอถึงได้ท้องและมีลูกถึงสองคน ทั้งๆ ที่คินน์ใช้ถุงยางอนามัย