บทที่ 3 ปั้นน้ำเป็นตัวเพื่ออนาคตของเรา (2)

1792 คำ
คินน์ปล่อยให้น้ำปั่นกับกรณ์ไปส่งบิดามารดา ส่วนตนเองนั่งเล่นกับลูกเพื่อรื้อฟื้นความจำ ถึงเขาจะจำไม่ได้แต่ความรู้สึกในใจบอกว่าเด็กสองคนนี้คือเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองแน่นอน “เดี๋ยวก่อนค่ะคุณลุงคุณป้า น้ำมีเรื่องจะเรียนให้ทราบเพิ่มเติม” “มีอะไรเหรอหนูน้ำ บอกมาได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ มีลุงอยู่หนูไม่ต้องกลัว” “คือว่าหนู...” “บอกมาได้เลยจ้ะ ป้ากับลุงไม่เข้าข้างลูกชายหรอก” “น้ำอยากจะพาลูกย้ายไปอยู่กับพ่อของเขา ไม่ทราบว่าคุณลุงคุณป้าจะอนุญาตไหมคะ” หญิงสาวคิดว่าทางเดียวที่จะมัดใจชายหนุ่มได้ก็คือเข้ามาอยู่ในชีวิตของเขา นี่คือโอกาสทองของเธอ พ่อแม่ของคินน์หันมามองหน้ากันก่อนพยักหน้าเห็นด้วย “แบบนั้นก็ดีสิ อาจจะช่วยให้คินน์จำทุกอย่างได้เร็วขึ้น คุณพี่ว่ายังไงคะ” “ลุงไม่ว่าอะไร ไหนๆ เจ้าคินน์ก็มีลูกมีเมียแล้ว จะแยกกันอยู่ทำไม เอาแบบนี้ไหมหลังเจ้าคินน์ออกจากโรงพยาบาล ก็ย้ายไปอยู่เรือนหอเลย” “เรือนหอเหรอคะ” น้ำปั่นหน้าซีดเมื่อได้ยินคำว่าเรือนหอ สมองคิดไปไกลว่าคินน์กำลังจะแต่งงานแต่ไม่ได้บอกเธอ ทว่าใบหน้ากลับซับสีเลือดขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากได้ยินคำอธิบายเพิ่มเติมจากคุณย่าของลูกชาย “ใช่จ้ะ ลุงกับป้าสร้างให้เอง เผื่อตาคินน์แต่งงาน” “หนูยังไงก็ได้ค่ะ ขอแค่เราสี่คนได้อยู่ด้วยกันก็พอ” “งั้นก็เอาตามนี้ กรณ์เดี๋ยวบอกคุณคินน์ด้วย หลังออกจากโรงพยาบาลให้ย้ายไปอยู่เรือนหอ” “ครับคุณท่าน” คล้อยหลังผู้ใหญ่ทั้งสองน้ำปั่นก็ไม่รอช้า ขอคุยกับกรณ์เป็นการส่วนตัว ก่อนที่คุณเลขาจะเดินกลับเข้าไปหาเจ้านาย เธอขอร้องกรณ์ช่วยให้ความร่วมมือกับตนเองด้วย เห็นแก่เด็กแฝดทั้งสองคน “นะคะคุณกรณ์ น้ำรักคุณคินน์จริงๆ คุณกรณ์อย่าเพิ่งบอกคุณคินน์ได้ไหม” หมายถึงเรื่องราวในอดีตระหว่างเธอกับเขา น้ำปั่นตัดสินใจจะโกหกคินน์ “ถ้าคุณคินน์รู้จะโกรธเอาได้นะครับ” กรณ์เกิดอาการลังเลเล็กน้อยแต่ก็อยากให้เจ้านายลงเอยกับแม่ของลูก คุณหนูแฝดจะได้มีครอบครัวอบอุ่น เขาอยู่ในครอบครัวที่พ่อแม่แยกทางกันเข้าใจความรู้สึกแบบนั้นดี ถ้าเป็นไปได้เขาไม่อยากให้คุณหนูทั้งสองต้องเจอเหมือนตนเอง “น้ำจะรับผิดชอบทุกอย่างเองค่ะ ขอแค่คุณกรณ์ช่วยเล่นละครด้วยคนก็พอ” คนอยากได้พ่อของลูกมาเป็นสามียกมือขึ้นมาพนมพลางกะพริบตาปริบๆ เพื่อให้กรณ์เห็นใจ เธอรู้จักเลขาของคินน์มาตั้งหลายปี รู้ดีว่ากรณ์ไม่ใช่คนใจร้ายออกจะใจดีขัดกับหน้าตาด้วยซ้ำ “ก็ได้ครับเห็นแก่คุณหนูน้อยทั้งสองคน” เอาเถอะมันก็ไม่เสียหายอะไร ถ้าเจ้านายจำทุกอย่างได้เขาค่อยรับโทษ “ขอบคุณมากค่ะ น้ำฝากเรื่องนี้ไปบอกคุณอัคด้วยได้ไหม” ไหนๆ จะโกหกแล้วก็ต้องทำทุกอย่างให้แนบเนียนที่สุด ทั้งกรณ์และอัครนัยต้องช่วยเธอ “ผมจะพูดกับอัคให้เอง คุณน้ำไม่ต้องกังวล” “ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ น้ำสัญญาจะทำให้คุณคินน์หลงรักน้ำให้ได้ก่อนที่ความจำของคุณคินน์จะกลับมา” “ผมอยากเตือนคุณน้ำให้เผื่อใจ คุณคินน์ไม่ชอบคนโกหก” คินน์ต้องการคุยกับน้ำปั่นสองต่อสองจึงสั่งให้กรณ์พาเจ้าแฝดลงไปหาอะไรกินที่ศูนย์อาหาร สองหนุ่มน้อยถึงกับตาวาวหลังจากได้ยินเรื่องของกิน รีบกระโดดลงมายืนบนพื้นด้วยความรวดเร็ว ลิ้นน้อยๆ แลบออกมาเลียริมฝีปากในหัวมีแต่รูปอาหารวิ่งเต็มไปหมด “ไปคับอากรณ์พี่ลูกพร้อมมาก” เด็กหิวลูบท้องป่องให้อากรณ์ดูเพื่อบ่งบอกถึงความหิวของตนเอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพิ่งกินผลไม้ของพ่อหมดไปหนึ่งจาน “น้องจั๊มพร้อมมากกว่า อากรณ์คับไปกัน” คนนี้ก็ไม่ยอมรีบวิ่งเข้าไปเขย่าแขนคุณอาเพื่อให้พาตนเองลงไปหาอะไรกินเร็วๆ “โอเคครับ แต่คุณหนูน้อยทั้งสองยังไม่ได้ใส่รองเท้า” “ใส่ให้ถูกข้างด้วยลูก อย่าดื้อกับอากรณ์เข้าใจไหมพี่ลูกน้องจั๊ม” “คับแม่จ๋า” สองหนุ่มน้อยขานรับอย่างพร้อมเพรียงกัน ก่อนจะเดินจูงมือลูกน้องของบิดาออกไปจากห้องด้วยท่าทางดีใจ สำหรับเติมรักกับเต็มรักเรื่องกินถือเป็นเรื่องใหญ่ เมื่ออยู่กันตามลำพังคินน์ก็ไม่รอช้าที่จะถามเรื่องราวในอดีตอีกครั้ง เธอกับเขาเจอกันได้อย่างไร แล้วมีลูกกันตอนไหน น้ำปั่นยิ้มอยู่ในใจทว่าสีหน้ากลับเศร้าหมองซึ่งมันเป็นเพียงการแสดงเพื่อเรียกความสงสารจากคินน์ จากนั้นก็เริ่มปั้นหน้าเศร้าเล่าความเท็จผสมความจริงเพียงเล็กน้อย “เราสองคนเจอกันเมื่อห้าปีก่อน ตอนนั้นน้ำทำงานอยู่ในผับที่คุณคินน์เป็นหุ้นส่วน เราสองคนแอบคบกันไม่มีใครรู้นอกจากคุณกรณ์” เปล่าหรอกเธอกับเขาไม่ได้คบกันเพียงแต่มีความสัมพันธ์กันเฉยๆ “จริงเหรอ ผมเนี่ยนะแอบคบกับคุณ ไม่อยากจะเชื่อ” คนป่วยส่ายหน้าไม่ยอมรับ ก่อนจะปรายตามองรูปร่างของน้ำปั่นอย่างดูถูก พูดตามตรงเขาไม่น่าจะชอบผู้หญิงอย่างเธอ ดูอย่างไรก็ไม่ใช่สเป็ก “จริงสิคะ ถ้าไม่จริงเราจะมีลูกกันได้ยังไง” หญิงสาวยืนยันเสียงแข็ง ทั้งที่ในใจหวาดกลัวไม่น้อย ถ้าคินน์รู้ความจริงว่าเธอโกหกไม่รู้จะถูกลงโทษอย่างไร ทว่ากว่าจะถึงตอนนั้นเขาก็คงหลงรักเธอแล้ว คินน์ไม่ทำอะไรคนที่เขารักหรอก “แล้วทำไมผมถึงไม่บอกคุณพ่อคุณแม่ว่ามีลูกมีเมียแล้ว” เขาถามต่อหลังจากสงสัย “ก็เพราะคุณคินน์กลัวพวกท่านเสียใจ ยอมเก็บเราสามคนแม่ลูกเป็นความลับ” เรื่องนี้เธอไม่ได้โกหก “เราสองคนรักกันไหม” “...” คนโกหกเงียบไปชั่วครู่ในขณะที่สมองกำลังคิดหาคำตอบ “ว่ายังไงคุณ เราสองคนรักกันรึเปล่า” “รักค่ะ รักมากด้วย คุณคินน์สัญญากับน้ำไว้ว่าหลังกลับมาจากต่างประเทศจะพาน้ำไปจดทะเบียนสมรส แต่เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน” “เราสองคนยังไม่ได้แต่งงานกันใช่ไหม เพราะผมกลัวพ่อแม่รู้” “ถูกต้องค่ะ กะว่าหลังจากจดทะเบียนจะจัดงานแต่งเล็กๆ” “งั้นเอาไว้ผลตรวจดีเอ็นดีเอออกมาแล้ว ผมจะทำตามที่เคยบอกคุณแล้วกัน” “คุณคินน์จะพาน้ำไปจดทะเบียนสมรสใช่ไหมคะ” “อืม ผมเป็นลูกชายพอ ถึงจะความจำเสื่อมแต่ไม่ยอมผิดคำพูดหรอก” “น้ำดีใจที่สุดเลยค่ะ น้ำรักคุณคินน์นะคะ” หญิงสาวกระโดดเข้าไปกอดชายหนุ่มอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน คำว่ารักของเธอมาจากใจจริง ทว่าลึกๆ แล้วเธอกลับรู้สึกไม่สบายใจเหมือนกันที่ต้องปั้นน้ำเป็นตัวหลอกลวงเขาเรื่องความรัก ถึงมันจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีแต่เธอขอทำจนกว่าจะสำเร็จ อนาคตค่อยว่ากัน ขอให้ได้จดทะเบียนสมรสกับจัดงานแต่งก่อน จากนั้นอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดไป “ผมยังบอกรักคุณไม่ได้ แต่ผมจะพยายามจำเรื่องของเราให้ได้” “ไม่จำเป็นเลยค่ะ แค่นี้น้ำก็พอใจแล้ว” ไม่พอใจได้อย่างไรในเมื่อเธอกำลังจะได้เป็นภรรยาตัวจริงของเขา หญิงสาวยิ้มอย่างมีความสุขขณะกอดชายหนุ่ม สมองหวนกลับไปคิดถึงเรื่องในอดีตอีกครั้ง เธอกับเขาเริ่มต้นกันอย่างไร เมื่อหลายปีก่อนน้ำปั่นเคยช่วยคินน์จากการถูกวางยาปลุกเซ็กซ์ทำให้คินน์พึงพอใจในตัวน้ำปั่นมาก คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงจิตใจดีคนหนึ่ง ชายหนุ่มไปผับทีไรก็จะเรียกหญิงสาวให้มาบริการทุกครั้ง คอยพูดคุย คอยดูแล จนกระทั่งคืนหนึ่งที่ความสัมพันธ์มันเลยเถิด ทุกอย่างไปจบลงบนเตียงอย่างเร่าร้อน คินน์มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าไม่มีปัญหาเพราะตนเองไม่เคยพลาดไม่ว่ากับผู้หญิงคนไหนก็ตาม จนกระทั่งหนึ่งเดือนต่อมา “คุณว่ายังไงนะน้ำปั่น คุณท้องเหรอ” “ค่ะ น้ำไม่เคยนอนกับใครคุณคินน์ก็รู้” “คุณจะท้องได้ยังไงในเมื่อผมใช้ถุงยางตลอด” “น้ำไม่รู้ค่ะ แต่ตอนนี้น้ำท้องแล้ว” “คุณแน่ใจเหรอ เด็กเป็นลูกของผม” “น้ำไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายนะคะ” “...” “คุณคินน์จะไม่รับผิดชอบใช่ไหม” “ผมเป็นลูกผู้ชายมากพอ ถ้าเด็กในท้องเป็นลูกของผมจริง ผมรับผิดชอบแน่นอน” “เด็กในท้องเป็นลูกของคุณคินน์ล้านเปอร์เซ็นต์เพราะน้ำไม่เคยนอนกับใคร” “ได้ ถ้าคุณมั่นใจ ผมจะรับผิดชอบแต่รับผิดชอบแค่ลูกเท่านั้น” ชายหนุ่มยืนยันหนักแน่น นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงปัจจุบัน เขารับผิดชอบแค่ลูกตามที่พูดจริงๆ ส่วนแม่ของลูกมักจะถูกมองข้ามเสมอ ไม่ว่าจะการกระทำน้ำเสียงหรือคำพูด น้ำปั่นรู้ดีทำไมคินน์ถึงปฏิบัติกับตนเองแบบนั้น เพราะเขายังเคลือบแคลงใจคิดว่าเธอตั้งใจจับเขาด้วยการทำให้ตัวเองท้อง เขาเชื่อว่าเธอต้องทำอะไรบางอย่างกับถุงยาง ไม่อย่างนั้นเธอจะท้องได้อย่างไร ทั้งที่ความจริงเธอไม่ได้ทำอะไรกับมันเลย ถึงการใส่ถุงยางอนามัยจะช่วยลดโอกาสท้องได้ แต่แน่นอนว่ามันไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วเธอคือเปอร์เซ็นต์ส่วนน้อยไม่ได้หรือไง ตอนนั้นเพิ่งเรียนจบด้วยซ้ำ ใครเขาอยากอุ้มท้องกัน เธอยังไม่ทันได้ใช้ชีวิตของตัวเองเลย ก็ต้องมานั่งเลี้ยงลูกแล้ว แถมยังเป็นลูกแฝดอีกด้วย เหนื่อยสายตัวแทบขาด น้ำปั่นดึงตัวเองกลับมาจากอดีต หลังจากได้ยินคำถามของคินน์ที่ถามย้ำอีกครั้งว่า เราสองคนรักกันจริงเหรอ ทำไมความรู้สึกของเขาถึงว่างเปล่าขนาดนี้ “คุณไม่ได้หลอกผมใช่ไหม” “ไม่ได้หลอกค่ะ เราสองคนรักกันมาก” “ผมจะลองเชื่อคุณดูก็แล้วกัน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม