Chapter 2

1239 คำ
วันต่อมา... แตงกวาตื่นนอนในตอนเช้ากดโทรศัพท์ไปขอลางานจากผู้จัดการด้วยเหตุผลลาป่วยแบบกะทันหัน เธอข้อมือเคล็ดหมอให้พักเป็นอาทิตย์เธอจึงขอลางานสักสองสามวัน ถ้าอาการพอดีขึ้นบ้างจะไปทำงานต่อ "แตงกวาขออนุญาตลางานนะคะผู้จัดการ ข้อมือเคล็ดกะทันหันมีใบรับรองแพทย์ด้วยค่ะ ถ้าสองสามวันนี้ดีขึ้นแตงกวาจะรีบไปทำงานนะคะ" (ไม่เป็นอะไรพักให้หายก่อน งานเราไม่มีอะไรแล้วนี่ใช่มั้ย) "ค่ะ หนูทำเสร็จหมดแล้วค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ" (ขอโทษทำไมไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นหรอก เอาเป็นว่าถ้าหายดีเมื่อไหร่ค่อยมา เรื่องงานเดี๋ยวให้คนอื่นทำไปก่อน) "ขอบคุณค่ะ" เธอกดวางสายก่อนจะเดินเข้ามาหาเพื่อนในห้องนอน ก่อนหน้านี้เธอโทรศัพท์ไปบอกคุณแม่แล้วว่าจะค้างบ้านเพื่อนสักพักหนึ่งก่อนแต่ยังไม่ได้บอกเรื่องข้อมือที่เจ็บ ตอนแรกจะไปเปิดโรงแรมนอนแต่ฟ้าใสบอกว่าให้อยู่ที่นี่สบายกว่าเยอะเลย "ลางานยัง" "อื้ม ลาแล้วจ้ะ ขอบคุณมากนะฟ้าใสที่ให้มาอยู่ด้วย" ฟ้าใสยิ้มออกมาก่อนจะมองหน้าเพื่อนอย่างเป็นห่วง เรื่องข้อมือที่เจ็บต้องเกี่ยวข้องกับคุณณภัทรแน่นอนเลย แต่แตงกวาก็เป็นคนแบบนี้แหละเขาทำให้เจ็บมากขนาดไหนเธอก็เลือกที่จะไม่พูดถึงแถมยังคอยปกป้องเขาตลอด ไม่รู้ว่ารักเค้ามากหรือแค่รู้สึกผิด "กินข้าวมั้ยสั่งออนไลน์มากินเอา" "เอาสิ กี่บาทก็บอกนะเราเลี้ยงเอง" ฟ้าใสส่ายหน้าก่อนจะลุกขึ้นมาหยีผมเพื่อนเล่นอย่างหมั่นไส้ พวกคนดีนี่มันน่ารำคาญชะมัด เฮ้อ! "ไม่ต้องยะ หารกันนั่นแหละ" แตงกวามองตามเพื่อนไปก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วหันไปดูหน้าจอโทรศัพท์ที่มีเบอร์ของคุณณภัทรโทรเข้ามา ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วจนถึงตอนนี้เขายังพยายามโทรหาเธออยู่ ตอนนี้ไม่อยากจะคุยกับเขาไม่อย่างนั้นคงไม่พ้นทะเลาะกันอีก ให้เวลามันผ่านไปปล่อยให้เราสองคนใจเย็นกันก่อน ถึงตอนนั้นคงจะคุยกันรู้เรื่อง ทางด้านของณภัทรจะว่าเขาไม่ได้นอนเลยก็ว่าได้เพราะจนถึงตอนนี้เขายังหาแตงกวาไม่เจอเลย เขาตัดสินใจกลับมาที่บ้านเพื่อหาคำตอบจากคนเป็นแม่ ยังไงลูกก็ต้องบอกแม่ไม่มีทางที่จะไม่รู้เด็ดขาด คุณพิมพากับคุณณรงค์นั่งคุยกันอยู่ในห้องรับแขก ลูกสาวของเธอโทรมาขออนุญาตค้างที่บ้านเพื่อนหลายวันแต่ไม่ยอมบอกว่าเพื่อนคนไหน เธอดูยังไงก็แปลกมากปกติแตงกวาไม่ค้างที่อื่นอีกอย่างคุณณภัทรหวงลูกเธออย่างกับอะไร ไม่มีทางปล่อยไปค้างที่อื่นแน่มันต้องมีอะไรสักอย่าง "หนูแตงกวาทำไมถึงไปค้างบ้านเพื่อนล่ะ ไหนคุณบอกว่าอยู่กับเจ้าณภัทรไง" "ฉันว่าคุณลองถามลูกตัวเองเถอะ ถ้าเป็นแบบนี้ฉันไม่ยอมแล้วนะคะ ลูกชายคุณเอาเปรียบแตงกวาเยอะไปแล้ว ปกติลูกสาวพิมไม่เคยไปค้างที่อื่นนี่มันผิดปกติ แล้วเมื่อคืนสองคนนั้นไปค้างคอนโดด้วยกันเช้ามายัยแตงกวาไปอยู่บ้านเพื่อนมันไม่ใช่เรื่องดีแล้ว" คุณพิมพาเอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจ เธอทนมามากแล้วและถ้าครั้งนี้เขาทำอะไรลูกสาวเธออีกจะไม่ยอมแน่ "ใจเย็นก่อนคุณพิม ผมจะคุยกับเจ้าณภัทรเรื่องนี้เอง" คุณณรงค์เอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิดที่ปล่อยให้ลูกชายรังแกหนูแตงกวามาตลอดเพราะคิดว่าวันหนึ่งเขาจะคิดได้แต่ดูนานวันเขาไม่มีทางคิดได้เลย "น้าพิมแตงกวาโทรมาหารึเปล่า" ณภัทรมาถึงก็เอ่ยถามทันที คุณพิมพาหันไปมองหาคุณณรงค์ก่อนจะเงียบไปไม่ตอบอะไรเพราะอยากให้คนเป็นพ่อจัดการเอง "น้องไปค้างบ้านเพื่อนคงไม่กลับ มีอะไรรึเปล่า" "งั้นบอกผมมาว่าค้างบ้านเพื่อนคนไหน" "พอเถอะคุณณภัทร ไม่ต้องไปตามหาหรอกปล่อยน้องอยู่กับเพื่อนบ้าง ถ้าสบายใจคงกลับมาเองแหละแต่ถ้าไม่สบายใจคงจะอยู่ข้างนอกยาวๆล่ะมั่ง" คุณพิมพาเอ่ยแค่นั้นก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปทันที ถ้าเป็นไปได้เธอก็อยากจะให้แตงกวาไปอยู่ที่อื่นให้รู้แล้วรู้รอดเลย เขาจะได้รู้สึกบ้างว่าสิ่งที่ทำอยู่มันเลวร้ายขนาดไหนกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง "ผมไม่ยอมยังไงผมก็จะตามกลับมา" "พอแล้วณภัทร" คนเป็นพ่อเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยใจ มันจะอะไรนักหนากับผู้หญิงคนเดียว จะรักก็ไม่รักจะปล่อยก็ไม่ปล่อยจะทำแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กัน "ตกลงว่าแตงกวาอยู่กับเพื่อนคนไหนพ่อ" "ไม่รู้โว๊ย แกหัดเกรงใจคุณพิมพาบ้างอย่างน้อยก็ในสถานะคุณแม่ของหนูแตงกวา ทำอะไรลูกเค้าก็เห็นหัวแม่เค้าหน่อย เดี๋ยวพากลับไปส่งให้พ่อเค้าเลยนี่" "พ่อว่าอะไรนะ" เขามองหน้าพ่ออย่างสงสัย คุณณรงค์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะเอ่ยตัดบทแล้วเดินหนีไปทันที "ระวังจะเสียขอรักไปเพราะนิสัยแบบนี้ของแกเอง เตือนแล้วนะ" คนเป็นพ่อส่ายหน้าอย่างปลงๆก่อนจะเดินออกไปทันที เขาสบถออกมาอย่างหัวเสียก่อนจะเดินออกไปทันทีแล้วให้ลูกน้องออกไปตามหาที่บ้านเพื่อนของแตงกวาทุกที่ ยังไงก็ต้องเจอกล้ามากเลยนะที่ออกมาจากคอนโดของเขาแถมยังไม่กลับบ้านอีก ชักจะเกเรใหญ่แล้วกลับมาจะลงโทษให้เข็ด "ดราฟนายไปตามหาที่บ้านเพื่อนของแตงกวาทุกที่ หาให้เจอยังไงก็ต้องเจอ" (ครับนาย) เขากดวางโทรศัพท์ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าแตงกวาต้องไปทำงานอยู่แล้วนี่นา จึงตัดสินใจขึ้นไปเปลี่ยนชุดในห้องนอนก่อนจะเดินออกมาขึ้นรถแล้วเดินทางไปที่โชว์รูมทันที เมื่อมาถึงก็สั่งให้เลขาไปเรียกแตงกวามาหาเขาที่ห้องทำงาน ไม่นานเธอก็เดินกลับมาหาพร้อมกับคำตอบที่ทำให้เขาอึ้งไป "ผู้จัดการแผนกบอกว่าคุณแตงกวาลาป่วยค่ะ เห็นว่าข้อมือเคล็ดไม่สามารถทำงานได้" "ข้อมือเคล็ดอย่างนั้นเหรอ" เขานิ่งเงียบไปอย่างใช้ความคิด เมื่อวานเขาโกรธที่เธอยุ่งกับโทรศัพท์จึงปัดมือเธอออก อย่าบอกนะว่าเขาทำรุนแรงไปจนเธอเจ็บข้อมืออ่ะ "อะไรวะบอบบางชะมัดทำเบาๆเอง" เขาทุบโต๊ะทำงานอย่างหงุดหงิดก่อนจะหันไปมองเลขาที่เหมือนจะสะดุ้งกับการกระทำของเขา "ออกไปได้ล่ะ" "ค่ะท่านประธาน" เลขารีบเดินออกไปทันทีไม่ว่าใครก็ไม่อยากอยู่ใกล้เขาในเวลาที่มีอารมณ์โกรธแบบนี้ ณภัทรกุมขมับตัวเองด้วยความเครียดหนัก นี่เขาทำแรงกับเธอไปอย่างนั้นเหรอ ไม่สิใครใช้ให้อ่อนแอเองล่ะ...ช่วยไม่ได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม