ลี่หรูจ้องมองไปที่ใบหน้าของบุรุษคนรัก อย่างต้องการค้นหาความจริง เหตุใดนางจะมิรู้ถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขากัน เพียงแต่ในเมื่อเขาไม่ต้องการที่จะพูดมันออกมา นางก็ไม่ต้องการที่จะคาดคั้นอันใดเช่นกัน
"หากมีสิ่งใดที่หม่อมฉันพอจะช่วยเหลือพระองค์ได้ ก็ให้บอกหม่อมฉันได้เลย เพราะถึงอย่างไรพวกเราก็คือคนรักกัน"
ลี่หรูพยายามที่จะย้ำถึงสถานะของเขาและนางอีกครั้ง เพื่อให้ชินอ๋องได้ทราบว่ากำลังทำสิ่งใดอยู่ และมิลืมว่าเขาและนาง หาใช่คนอื่นคนไกล หากมีสิ่งใดเขาก็ควรที่จะบอกกับนางให้ได้ทราบ มิใช่ปิดบังมันเอาไว้เช่นนี้ หากเป็นเรื่อง เกี่ยวกับงานของเขาจริง ก็ให้แล้วไปเถิด แต่หากมันเกี่ยวกับความรู้สึกที่เขามีให้กับนางแล้วนั้น นางคงต้องรอให้เขาเป็นผู้บอกกับนางเองเพียงเท่านั้นกระมัง...
เพียงไม่นานทั้งสองก็ได้เดินทางมาถึงยังจวนของตระกูลเหลียนซึ่งหลังจากที่เขาได้ส่งนางกลับเข้าจวนแล้ว ก็ได้รีบกลับไปยังตำหนักของตนเองทันที ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้น ถึงกับทำให้ท่านเสนาบดีเหลียนผู้เป็นบิดาของนาง อดแปลกใจไม่ได้
เพราะโดยปกติแล้วบุรุษผู้นี้หาได้มีความเร่งรีบกลับตำหนักของตนเช่นนี้ หากมิไล่เขาแทบจะไม่อยากกลับไปด้วยซ้ำ แล้ววันนี้มันเกิดเรื่องอันใดขึ้น ระหว่างบุรุษสูงศักดิ์ผู้นั้น และบุตรสาวของเขาหรือไม่?
"ลี่เอ๋อร์ เจ้ามีเรื่องหมางใจกันกับท่านอ๋องหรือ เหตุใดพระองค์ถึงได้มีท่าทีเช่นนั้น"
"เขาคงจะงานยุ่งกระมังลูกก็มิทราบเช่นกัน"
กล่าวจบลี่หรูก็รีบตรงดิ่งกลับห้องของนางทันที ความรู้สึกวูบโหวงในหัวใจ คล้ายกับมีสิ่งใดหายไปในตอนนี้ ถึงกับทำให้นางหลั่งน้ำตาออกมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน สตรีที่ทั้งเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวเช่นนางจะมีวันนี้ได้
"เกิดอะไรขึ้นกันแน่? "
หลังจากที่ลี่หรูกลับมาถึงยังภายในห้อง นางก็เดินไปเดินมาเหมือนหนูติดจั่น ความกระวน กระวายใจในตอนนี้ ไม่ใช่สิ่งที่คุ้นชินกับนางเลยแม้แต่น้อย
"ข้าควรจะตามไปดูเขาที่ตำหนักดีหรือไม่ หรือว่าข้าจะรอให้เขาเป็นผู้บอกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเอง"
"ไม่ได้ในเมื่อข้องใจ ข้าก็ควรที่จะหาคำตอบนั้นด้วยตนเอง ข้าควรที่จะไปดูให้เห็นกับตา ว่ามันไม่มีอะไรอย่างที่เขาว่าดีหรือไม่"
"ไม่สิถ้าเขาคิดว่าข้าไม่เชื่อใจเขาเล่าจะทำเช่นไร"
"โธ่เอ๋ย! อันนั้นก็ไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ได้ แล้วจะให้ทำยังไงดี"
การที่นางเดินไปเดินมา และพูดบ่นคนเดียว คล้ายกับคนสติวิปลาสเช่นนี้ ยิ่งทำให้เจียวเหมยสาวใช้คนสนิทของนางถึงกับมึนงงเป็นอย่างมาก มีเหตุอันใดเกิดขึ้นกับเจ้านายสาวของตนกัน
"คุณหนู เหตุใดหลังจากที่ท่านกลับมาจากวังหลวง ถึงได้มีท่าทีแปลกประหลาดเช่นนี้เล่า"
"ไม่มีอะไร"
"ไม่มีอะไร แล้วเหตุใดถึงได้เดินไปเดินมาไม่หยุดเช่นนั้นล่ะเจ้าคะ"
"เฮ้อ นั่นสินะ นี่ข้าเป็นบ้าอันใดกัน มันไม่สมกับเป็นตัวของข้าเลย"
ใช่แล้วเหตุใดกะอีแค่ความรู้สึกเช่นนี้ เหตุใดถึงได้มาทำให้นางขาดความคิดรอบคอบได้ ทั้งๆ ที่นางนั้นเคยตายมาแล้วครั้งหนึ่ง นางควรที่จะมีความคิดอ่าน และรอบคอบมากกว่านี้มิใช่หรือ แล้วเรื่องเพียงเล็กน้อยแค่นี้ เหตุใดถึงได้ไร้สติเช่นนี้ได้กัน
"แค่ไปสืบดูก็สิ้นเรื่อง เหตุใดจะต้องมากระวนกระวายไม่เป็นตัวของตนเองเช่นนี้"
เหตุที่ต้องกล่าวว่านางเคยตายมาแล้วครั้งหนึ่งนั้น เพราะแท้ที่จริงแล้วเหลียนลี่หรู คือศัลยแพทย์ที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ และได้มาเกิดในร่างของเด็กทารกที่เป็นบุตรีของตระกูลเหลียนนี้
มันเหมือนกับว่านางได้มาเกิดใหม่ในโลกอดีต แต่สวรรค์ได้ให้ความทรงจำกับนางมาทั้งหมด ตอนนี้จึงทำให้นางมีความสามารถเดิมติดตัวมาด้วย ดังนั้นความรู้ความสามารถของนาง จึงถือว่ามีมากกว่าผู้ที่อยู่ในยุคโบราณนี้เป็นอย่างมาก
ณ ตำหนักชินอ๋องเหวินเฟยหลง
ใบหน้าที่เคร่งเครียดขณะกำลังทรงงานอยู่ในห้องหนังสือของชินอ๋องเหวินเฟยหลง ถึงกับทำให้สตรีผู้หนึ่งที่แอบมองอยู่ กำลังจะก้าวออกมาหาบุรุษคนรักของตน แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อเห็นว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญ กำลังเดินเข้าไปโอบกอดบุรุษคนรักของนางจากทางด้านหลัง
"ที่แท้ก็เคร่งเครียดเรื่องงานจริงๆ ด้วย หม่อมฉันก็นึกว่าพระองค์ทรงเปลี่ยนพระทัยจากหม่อมฉันไปแล้วเสียอีก"
เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใดที่เข้ามาโอบกอดตนเอง ชินอ๋องในตอนแรกก็ให้รู้สึกตกใจ แต่เมื่อกลิ่นอันคุ้นเคย โชยเข้ามาในจมูกของเขา ก็ทำให้เขาจำได้ทันที ว่าคนผู้นั้นคือผู้ใด
"หือ! เด็กโง่เจ้ากำลังคิดมากอันใด ถึงอย่างไรในหัวใจของเปิ่นหวางก็มีเพียงเจ้า"
ในขณะที่กล่าวตอบออกไปนั้นเขาก็กุมมือบางของนางเอาไว้แน่น อย่างรักใคร่ ซึ่งท่าทีของทั้งสอง ที่แสดงออกมานั้น ถึงกับทำให้หญิงสาวอีกผู้หนึ่ง ที่ลอบมองอยู่ภายในห้อง ถึงกับต้องหลั่งน้ำตาออกมาอย่างเจ็บปวด...
"มาดึกดื่นเช่นนี้ เดี๋ยวก็ต้องลมหนาว ทำให้ไม่สบายเอาได้ เหตุใดถึงไม่รู้จักระวังตนเองบ้าง"
"ก็หม่อมฉันอยากมาเห็นกับตาเผื่อพระองค์แอบซุกซ่อนสตรีอื่นเอาไว้ หม่อมฉันจะได้เห็นด้วยตาตนเองเช่นไรเล่า"
"หึ! ไร้สาระจริงเชียว"
ลี่หรูก้มลงไปหอมแก้มบุรุษคนรักอย่างคิดถึง
"ก็หม่อมฉันเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของพระองค์แล้ว รู้สึกไม่สบายใจ แต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้หม่อมฉันก็สบายใจแล้ว งั้นหม่อมฉันไม่รบกวนเวลาทรงงานของพระองค์แล้วเพคะ"
"จะกลับแล้วเช่นนั้นหรือ เดี๋ยวเปิ่นหวางจะไปส่ง"
"ไม่ต้องเพคะ พระองค์ทรงงานต่อเถอะ หม่อมฉันไม่รบกวนเวลาของพระองค์แล้ว อย่าได้ทรงห่วงอันใดเลย แค่องครักษ์ทั้ง 2 ที่ทรงส่งมาคุ้มครองความปลอดภัยของหม่อมฉัน ก็เพียงพอแล้วหม่อมฉันกลับเองได้เพคะ"
กล่าวจบลี่หรูก็ใช้วิชาตัวเบาเหินกายจากไปในทันที
หลังจากที่ชินอ๋องเห็นว่าลี่หรูได้จากไปแล้ว เขาก็รีบจ้องมองไปยังจุดที่เซียวซูหนี่ว์ยืนอยู่ในตอนนี้อย่างกังวล เขารีบลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วตรงไปยังทิศทางที่นางยืนอยู่อย่างรวดเร็ว