ในขณะที่ลี่หรูได้ออกมาจากตำหนักของชินอ๋องเหวินเฟยหลงได้ไม่ไกล นางก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ ว่ายังไม่ได้มอบถุงหอมที่นางทำขึ้นมากับมือให้กับบุรุษคนรัก นางจึงได้วกกลับไป เพื่อที่จะมอบมันให้กับเขา เพราะเมื่อเวลาที่เขาไม่ได้ไปหานาง จะได้คิดถึงนางเมื่อได้กลิ่นถุงหอมนี้….
ภาพของเซียวซูหนี่ว์ที่เต็มไปด้วยน้ำตาอาบแก้มทั้งสองข้าง เนื้อตัวของนางสั่นเทาไปด้วยความเจ็บปวดกับภาพที่ได้เห็นเมื่อสักครู่ นางยอมรับว่านางไม่สามารถทนเห็นเขาอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้
การที่เห็นบุรุษคนรักของตนถูกโอบกอดจากสตรีอื่นเช่นนี้ มันช่างเหมือนกับความรู้สึกที่ถูกเข็มนับร้อยนับพันเล่มทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจของนางอย่างไรอย่างนั้น
ก่อนที่จะเดินทางมายังที่นี่ นางได้ทำใจเอาไว้แล้ว ว่าบางทีชินอ๋องอาจจะเจอสตรีที่ถูกใจ และใช้ชีวิตกับสตรีผู้นั้นอย่างมีความสุขไปแล้วก็ได้ แต่นางเพียงแค่ต้องการที่จะมาเห็นหน้าเขาสักครั้ง หลังจากที่ได้ฟื้นความทรงจำกลับมา
ที่นางหายไปถึง 2 ปี ก็เป็นเพราะว่าหลังจากที่ตกลงไปในหน้าผาครั้งนั้น ก็ทำให้นางความจำเสื่อม จนเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ความทรงจำของนางได้ฟื้นคืนกลับมา นางถึงได้ทราบว่าตนเองเป็นผู้ใด และได้รีบมาหาเขาในทันที
ในตอนแรกนางได้คิดเอาไว้ว่าแค่ได้มาเห็นหน้าเขาสักครั้ง เห็นเขามีความสุขดีแล้ว นางก็จะจากไป หากว่าเขามีสตรีอื่นคอยอยู่เคียงข้างแล้ว แต่เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับความเป็นจริงเช่นนี้ นางกลับไม่มีความกล้าที่จะจากไป นางรู้สึกไม่ยินยอม นางรักเขามากเหลือเกิน แล้วเช่นนี้นางจะปล่อยให้เขาตกไปเป็นของสตรีอื่นได้เช่นไร…
กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้จะสามารถโทษผู้ใดได้เล่า นางกล่าวได้เพียงว่า ไม่มีผู้ใดเป็นฝ่ายผิด จะผิดก็ตรงที่บุรุษผู้นี้มีเพียงผู้เดียว ไม่สามารถแบ่งให้กับผู้ใดได้
"ศิษย์พี่ข้าจะจากไปเอง ข้าคงไม่สามารถทนเห็นภาพบาดตาเช่นนี้ได้อีก ข้าขอให้ท่านมีความสุขกับนางนะเจ้าคะ"
"ชูเอ๋อร์ อย่าได้ทำเช่นนี้ ข้าได้บอกกับเจ้าไปแล้ว ว่าหลังจากนี้อย่าได้จากข้าไปที่ใดอีก"
"แต่ข้าไม่สามารถแบ่งปันท่านให้กับสตรีผู้อื่นได้จริงๆ ถึงแม้นว่า ท่านจะมองว่าข้าเป็นสตรีที่เห็นแก่ตัว จะทำเช่นใดได้เล่า ในเมื่อข้านั้นรักท่านมากเหลือเกิน รักจนไม่อาจ
มองเห็นท่านมีสตรีอื่นเคียงข้างได้นอกจากข้า ศิษย์พี่ท่านปล่อยข้าไปเถิด ข้ารู้ว่าท่านก็รักนางมาก ท่านไม่สามารถตัดใจจากนางได้เช่นกัน"
"ชูเอ๋อร์แต่ศิษย์พี่ก็ไม่สามารถตัดใจมองเจ้าจากไปได้เช่นกัน"
"ปล่อยข้าเถิดเจ้าค่ะ ท่านอย่าได้ทำเช่นนี้อีกต่อไปเลย ถึงอย่างไร นางก็ไม่ได้รับรู้เรื่องราวของพวกเรา หากข้าเลือกที่จะไปและท่านก็กลับไปรักกันกับนางเช่นเดิม มันก็จะมีเพียงแค่ข้าเท่านั้นที่เจ็บปวด ความเจ็บปวดนี้ให้ข้าเป็นผู้รับมันไว้เถิด"
"ใครว่ามีเพียงแค่เจ้าที่เจ็บปวดหากเจ้าจากไป ศิษย์พี่ก็เจ็บปวดไม่ต่างกัน หัวใจของข้าคงจะแตกสลายหากไม่มีเจ้าอยู่เคียงข้าง"
ภาพเบื้องหน้าที่ลี่หรูเห็นอยู่ในตอนนี้ ถึงกับทำให้นางรู้สึกไร้เรี่ยวแรงจะก้าวเดิน ความรู้สึกเจ็บปวดที่กรีดลึกเข้าสู่หัวใจ
"มันเป็นเช่นนี้เองสินะ ข้ามิคิดว่าจะต้องได้รู้จักกับมันเลยแม้แต่น้อย"
"นี่สินะคือเหตุผลทั้งหมด ที่พระองค์ทรงเปลี่ยนไป คิดจะปิดหม่อมฉันไปอีกนานเพียงใดกัน"
น้ำเสียงอันสั่นเทาที่นางกล่าวออกไปเมื่อสักครู่นี้ ถึงกับทำให้บุรุษและสตรีทั้งสองคน ที่กำลังกอดกันอยู่ รีบจ้องมองมาที่นางเป็นตาเดียวกันและรีบผละออกจากกันอย่างรู้สึกผิด
"ลี่หรู…"
"ใช่ หม่อมฉันเอง ทำไมถึงทรงทำเช่นนี้ได้ลงคอ ทั้งๆ ที่เราสัญญากันไว้แล้วไม่ใช่หรือ หรือคำสัญญาที่พระองค์เคยให้ไว้กับหม่อมฉันนั้น มันเป็นเพียงแค่ลมปากที่หาความแน่นอนอันใดมิได้เช่นนั้นหรือ" ลี่หรูกล่าวออกไปทั้งน้ำตา น้ำเสียงสั่นเทาที่นางกล่าวออกไปแต่ละคำนั้น ช่างยากเย็นอย่างที่นางไม่คาดคิดว่าตนเองจะเป็นเช่นนี้ได้
สตรีที่มีความมั่นใจในทุกการกระทำ ตัดสินใจเฉียบขาดในทุกๆ เรื่อง เมื่อต้องมาเผชิญกับเรื่องราวเช่นนี้ นางกลับคิดหาทางออกให้ตนเองไม่ได้
ในสมองที่ว่างเปล่า และหัวใจที่เจ็บปวดของนาง ทำให้นางไม่อยากคิดเรื่องอันใดอีกแล้ว นางเพียงต้องการที่จะเดินออกไปจากตรงนี้ แต่ขา 2 ข้างที่ไร้เรี่ยวแรงไม่มีแม้แต่แรงที่จะก้าวเดินต่อไป มันช่างทรมานเหลือเกิน
"พระองค์จะเลือกนางหรือเลือกหม่อมฉัน? "
ลี่หรูถามออกไปอย่างเจ็บปวด นางหวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าบุรุษคนรักจะตอบว่าเลือกนาง แต่มันกลับมีเพียงความเงียบแทนคำตอบ
มีคนเคยกล่าวเอาไว้ว่า อย่าได้ให้โอกาสบุรุษเป็นฝ่ายเลือก เมื่อจับได้ว่าบุรุษผู้นั้นกำลังนอกใจ เพราะหากให้เขาเลือก คำตอบคือ ไม่มีทางเลือกเรา ถ้าหากเขารักเราจริงตั้งแต่แรก เขาจะไม่มีทางนอกใจและทำให้เราเสียใจโดยเด็ดขาด
หึ! หึ! ฮ่า ฮ่า ฮ่า…
นางหัวเราะออกมาราวกับคนเสียสติ มือที่กุมกันไว้แน่นของทั้งสองในยามที่อยู่เบื้องหน้าของนางโดยไม่มีท่าทีว่าเขาจะยอมปล่อยมือออกจากมือของสตรีผู้นั้น ถึงแม้นว่านางจะยังอยู่ตรงนี้ เพียงเท่านี้นางก็รู้แล้วว่าเขาเลือกใคร
"ขอบพระทัยเพคะ"
ลี่หรูใช้แรงเฮือกสุดท้าย เพื่อพาตนเองให้ออกมาจากสถานการณ์อันน่าเจ็บปวดนี้อย่างทุลักทุเล เมื่อออกมาพ้นจากตำหนักชินอ๋องเหวินเฟยหลงแล้ว นางทั้งหกล้มคลุกคลานอยู่บนพื้นคล้ายกับคนเสียสติ
"นี่นะหรือความรักของผู้ชายสมัยนี้ ทำไมมันถึงได้ไม่ต่างกันเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะชาติไหนหรือภพไหน ผู้ชายมันก็เป็นเหมือนกันหมดสินะ"
ฮ่า! ฮ่า ฮ่า!
"คิดว่าตัวเองโชคดี ได้รักกับ ผู้ชายที่เขามีความหนักแน่น ดั่งหินผา... แกคิดได้ยังไง ยัยโง่เอ้ย"
"ไอ้ผู้ชายเฮงซวย" ลี่หรูกล่าววาจาที่นางเคยใช้ในตอนที่อยู่ในภพก่อน ออกมาอย่างเลื่อนลอย คล้ายกับคนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ภาพสตรีที่มีความองอาจมั่นใจ ได้มลายหายไปสิ้น ในตอนนี้หากผู้ใดที่รู้จักนางแล้วได้มาพบเห็นสภาพของนางเข้าคงจะแปลกใจเป็นอย่างมาก
เหล่าองครักษ์ที่ชินอ๋องได้ส่งมาคอยอารักขาคุ้มครองความปลอดภัยให้กับนาง ถึงกับไม่สามารถกล่าวสิ่งใดได้ เมื่อได้เห็นสภาพของนางเป็นเช่นนี้
"พวกเจ้าออกมาเดี๋ยวนี้" ทันใดนั้นนางก็ได้ออกคำสั่ง ให้องครักษ์เงาของชินอ๋องปรากฏกายขึ้นมาเบื้องหน้า นางไม่ต้องการ การอารักขาจากพวกเขาอีกต่อไป ในเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว นางก็ไม่ต้องการที่จะเกี่ยวข้องอันใดกับบุรุษผู้นั้นอีก
"พระชายาต้องการสิ่งใด"
ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!
"พระชายาเช่นนั้นหรือ เมื่อสักครู่พวกเจ้าไม่ได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกหรือ เหตุใดถึงยังเรียกข้าว่าพระชายาอีก ข้ามีความสำคัญใดที่ให้พวกเจ้าสามารถเรียกสรรพนามเช่นนั้นกัน หลังจากนี้ไปพวกเจ้ากลับไปหาเจ้านายของพวกเจ้าเสีย อย่าได้มาติดตามข้าอีก ไปให้พ้น"
"พวกเราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ทุกอย่างจะต้องเป็นคำสั่งโดย ตรงมาจากท่านอ๋องเพียงเท่านั้น หากพวกเราละทิ้งหน้าที่ในตอนนี้ ก็เท่ากับว่า พวกเราขัดคำสั่งของท่านอ๋อง คุณหนูเหลียนโปรดเห็นใจพวกเราด้วย"
ลี่หรูจ้องมองไปที่เหล่าองครักษ์เงาด้วยสายตาว่างเปล่า
"ข้าบอกให้ไปให้พ้น เหตุใดถึงไม่เข้าใจ หากพวกเจ้ายังดื้อด้านอยู่เช่นนี้ ก็อย่าหาว่าข้าใจร้ายก็แล้วกัน" เมื่อเห็นว่าองครักษ์เงาที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้าเหล่านั้น ไม่มีทีท่าที่จะทำตามคำสั่งของตนเอง
ลี่หรูจึงหยิบเข็มเงินออกมาจากในอกเสื้อและขว้างมันออกไปเบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว เนื่องด้วยไม่คาดคิดว่าลี่หรู จะโจมตีพวกตนเช่นนี้ จึงทำให้ไม่ได้ป้องกันตัวเอาไว้ก่อน พวกเขาจึงถูกเข็มปักเข้าที่ร่างกายอย่างช่วยไม่ได้
ทันใดนั้นพวกเขาก็รู้สึกไร้ซึ่งเรี่ยวแรง และความเจ็บปวดก็ถาโถมเข้ามาแทนที่อย่างรวดเร็ว
"อย่าได้คิดติดตามข้าอีก กลับไปหาเจ้านายของพวกเจ้าเสีย นี่เป็นเพียงการเตือนเล็กๆ น้อยๆ หากพวกเจ้ายังดื้อด้านเช่นนี้อีก ครั้งหน้าจะมิใช่เพียงเท่านี้ แต่มันคือสิ่งที่จะเอาชีวิตพวกเจ้า"