"วันนี้การประชุมใหญ่ถูกเลื่อนออกไปค่ะ" ลดายืนรายงานตารางกานทำงานให้ผู้เป็นนายด้วยท่าทีฉะฉานก่อนที่ประโยคคำพูดของเธอจะทำให้ใบหน้าคมคายขมวดคิ้วแทบติดกันอย่างไม่พอใจ
"ทำไม?" ไม่วายที่เรียวปากจะเอ่ยถามเสียงนิ่งน่ากลัวที่แม้แต่ลดาที่ได้ฟังยังต้องรู้สึกขนลุกด้วยความกลัวแม้ว่าจะไม่ได้ผิดอะไรก็ตาม
"หุ้นส่วนรายใหญ่ไม่ว่างค่ะ การประชุมครั้งนี้จึงต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด" ลดาเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
"ไร้ความรับผิดชอบ!" เรย์เอ่ยขึ้นเสียงดังกังวานพร้อมกับทุบโต๊ะเสียงดังด้วยความหงุดหงิดทำเอาลดาที่ยืนอยู่เผลอสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ เขาจะไม่หงุดหงิดขนาดนี้เลยหากว่าการประชุมในครั้งนี้จะไม่ถูกเลื่อนออกไปเป็นครั้งที่สามแถมสาเหตุยังมาจากคนคนเดิมนั้นยิ่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก ทว่ามันกลับทำอะไรไม่ได้เพราะหุ้นส่วนรายใหญ่รองจากเขาที่ว่าก็คือลูกชายของลุงไม่แท้นั้นเอง
"จัดการประชุมต่อ" ปากหนาเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
"คงจะไม่ได้ค่ะเพราะทางนั้นปล่อยข่าวจนหุ้นส่วนท่านอื่นกลับกันหมดแล้วค่ะ"
"..." เรย์นิ่งเงียบไปในทันทีมือหนากำแน่นด้วยความโกรธพร้อมกับใบหน้าคมที่ฉายความนิ่งทว่ากลับเต็มไปด้วยรังสีของความน่ากลัวสื่อออกมาทางดวงตาคมกริบก่อนที่เขาจะจมไปกับความคิดของตัวเองไปสักพักโดยที่มีลดายืนนิ่งรอฟังการตัดสินใจของเจ้านาย กระทั่ง...
"ปลดเครเลอร์กรุ๊ปออกจากรายชื่อหุ้นส่วน...ที่เหลือผมรับผิดชอบเอง" เสียงทุ้มต่ำตัดสินใจพูดขึ้นหลังจากที่เขาคิดทุกอย่างมาดีแล้ว
"ค่ะบอส..."
"พรุ่งนี้นัดประชุมอีกครั้งกำชับด้วยว่ายังไงพรุ่งนี้การประชุมต้องสิ้นสุด"
"ได้ค่ะบอส" ลดาเอ่ยตอบเสียงนิ่งมือเล็กจัดการจดทุกอย่างที่เจ้านายสั่งก่อนที่เธอจะเดินออกจากห้องไป
"...ฟู่วววว" ทันทีที่คล้อยหลังของเลขาสาว ชายหนุ่มที่อยู่ในคราบของนักธุรกิจก็พ่นลมหายใจหนักออกมาก่อนที่เขาจะขยับไปเอนพิงเก้าอี้หรูพร้อมกับหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้าที่นั่งทำงานมาทั้งวัน
ครืดดดดด! ทว่าใบหน้าคมคายที่พึ่งพักสายตาได้ไม่นานก็ต้องลืมตาขึ้นกับเสียงของข้อความที่สั่นขึ้นไม่หยุด
LINE(3)
เมฆ : ไอเรย์ลงมาร้านกูเลย
เมฆ : วันนี้กูเข้าร้าน
เมฆ : ไอไทเกอร์ก็อยู่
เรย์ : กูต้องทำงาน
เมฆ : หมดเวลางานแล้วไอสัส ทำห่าไรนักหนา
เรย์ : (อ่านไม่ตอบ)
เมฆ : ถ้ามึงไม่ลงมาหา พวกกูจะไปตามมึงถึงบริษัท
เรย์ : เดี๋ยวลงไป
เรย์จัดการปิดโทรศัพท์เครื่องหรูลงก่อนที่เขาจะจัดของของตัวเองเล็กน้อยแล้วเดินออกไปจากห้องตามคำชวนของเพื่อนสนิท...ไม่สิ...คำบังคับต่างหาก
"ผมจะกลับแล้ว คุณกลับเลยก็ได้" เขาหยุดเดินแล้วเอ่ยพูดกับเลขาสาวหน้าห้อง
"ค่ะบอส สวัสดีค่ะ" เรย์พยักหน้ารับไหว้ก่อนที่จะเดินเข้าไปในลิฟต์ผู้บริหารมุ่งตรงไปยังร้านกาแฟของเพื่อนสนิท
@ร้านกาแฟ
"น้องนารา~" คำเรียกไพเราะที่ดังขึ้นเรียกเจ้าของร่างบางทำให้คนตัวเล็กที่กำลังยืนตรงหน้าเคาน์เตอร์เงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของเสียงก่อนที่จะพบว่าเป็นเสียงของไทเกอร์ที่กำลังมองมาทางเธอด้วยสายตาหวานเยิ้มอย่างนึกแกล้งเช่นทุกครั้งที่มา
"เอ่อ...สวัสดีค่ะพี่เมฆ พี่ไทเกอร์ พะ...พี่เรย์" นาราอึกอักเล็กน้อยเมื่อดวงตากลมโตเผลอไปสบเข้ากับใบหน้าเย็นชาของใครอีกคนก่อนที่จะค่อยๆ ปรับเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มหวานตามปกติแล้วไหว้เจ้าของร้านและเพื่อนสนิทด้วยท่าทีนอบน้อม
"วันนี้คนเยอะไหม?" เมฆเอ่ยถามขึ้นแพลนสายตาไปมองรอบๆ ร้านของตัวเองที่นานๆ เขาจะโผล่เข้ามา
"เยอะเหมือนทุกวันเลยค่ะพี่เมฆ" นารายิ้มตอบเมฆก่อนที่จะเหลือบไปมองยังอีกคนที่ยืนทำหน้านิ่งอยู่ด้านข้างไทเกอร์
"อืม...ดีแล้ว ทำงานดีแบบนี้พี่คงต้องเพิ่มเงินเดือนแล้วใช่ไหม" เมฆเอ่ยขึ้นพลันสายตาไปมองยังพนักงานคนอื่นๆ ที่ได้ยินประโยคคำพูดที่หลุดออกมาก็เริ่มตาใสพยักหน้าถี่ๆ อย่างเห็นด้วยให้เจ้านายทันที
"ถ้าพี่เมฆจะกรุณาลูกน้องตาดำก็เพิ่มให้ก็ได้นะคะ" ปุยนุ่นเอ่ยเสริมพร้อมกับกระพริบตาถี่ๆ อย่างอ้อนวอน
"ฮ่าๆ โอเคเดี๋ยวเดือนนี้ให้โบนัสพิเศษ" ทันทีที่คำตอบหลุดออกจากปากของเมฆหญิงสาวก็ผุดรอยยิ้มขึ้นรวมไปถึงนาราที่เผลอยิ้มหวานออกมาด้วยความดีใจสุดขีด
กระทั่ง...
"ไอเมฆมึงให้โบนัสน้องทุกเดือนเลยนะ กูจะได้เห็นนารายิ้มแบบนี้บ่อยๆ" ไทเกอร์ที่เอ่ยขึ้นทำให้เจ้าของรอยยิ้มหวานเริ่มลดรอยยิ้มลงเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าทุกคนกำลังจับจ้องมายังเธอรวมไปถึงเรย์ที่ยืนมองเธอด้วยใบหน้าเรียบนิ่งเช่นเดิม
"ถ้าจะยืนคุยอีกนานกูจะไปนั่งรอก่อน" เรย์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาเพราะสาเหตุที่เขามายืนตรงนี้คือการสั่งออเดอร์ทว่าเพื่อนทั้งสองกลับคุยไม่หยุดเลยทำให้เขาเริ่มรู้สึกไม่สบอารมณ์มากขึ้น
"เออๆ...ของพี่เอาอเมริกาโน่หวานน้อย" เมฆพยักหน้าให้เรย์อย่างตามใจก่อนที่จะหันมาสั่งกับนาราที่ยืนรับเมนู
"ของพี่เอาเหมือนเดิม" ไทเกอร์เอ่ยพร้อมกับแจกยิ้มหวานอีกครั้ง
"แหะ!...เหมือนเดิมคือเมนูอะไรเหรอคะ?" นารายิ้มแห้งตอบกลับอย่างชั่งใจ เธอไม่ได้แกล้งแต่เธอแค่จำไมได้
"ฮ่าๆ" เมฆขำลั่นออกมาในความหน้าแตกของเพื่อนสนิทก่อนที่ไทเกอร์จะหันมามองค้อนกลบเกลื่อนความเขินอาย
"หนูขอโทษค่ะ...หนูจำไม่ได้" นารายิ้มแห้งหน้าเสียที่ทำให้ชายหนุ่มต้องอาย
"ไม่เป็นไร...พี่เอาลาเต้ค้าบ" ทว่าไทเกอร์ก็ไม่นึกโกรธอะไรเขาเอ่ยสั่งแล้วยิ้มหวานให้นาราอีกครั้ง
"ของพี่เอาดอปปิโอไม่หวานใช่ไหมคะ?..." ผิดกับเรย์ที่นารากลับจำเมนูที่เขาสั่งเมื่อวานเพียงครั้งเดียวได้แม่น
"อืม" เรย์เค้นเสียงหนักตอบก่อนที่จะเดินผ่านเพื่อนสนิทไปนั่งยังโต๊ะที่ว่างอยู่ท่ามกลางสายตาของไทเกอร์และเมฆที่มองอย่างแปลกใจเอามากๆ
"ทั้งที่กูมาบ่อยกว่าไอเรย์น้องกลับจำเมนูไม่ได้ ไอเหี้x...กูจะอกหักอีกใช่ไหมวะไอเมฆ" ไทเกอร์พูดเสียงเบากับเมฆอย่างไม่จริงจังอะไร
"หึ...ดูสายตาที่น้องมองก็รู้แล้วว่ามึงแพ้ราคาบ" เมฆเอ่ยไปตามที่เห็นก่อนที่จะสาวเท้าเดินเข้าไปนั่งรวมกับเรย์ที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
ผ่านไปสักพัก
"นาราไปเสิร์ฟโต๊ะพี่เมฆให้พี่หน่อยได้ไหม เดี๋ยวพี่อยู่หน้าเคาน์เตอร์ให้เอง"
"ได้ค่ะพี่นุ่น" นารายิ้มรับอย่างเต็มใจตามนิสัยของเธอก่อนที่จะเดินถือถาดที่มีเมนูตามคำสั่งเดินตรงไปยังโต๊ะของชายหนุ่มทั้งสาม
"ขออนุญาตค่ะ"
"เชิญครับ" ไทเกอร์ยิ้มบอกขยับทางให้นาราได้เสิร์ฟได้ง่ายทำให้ร่างเล็กค่อยๆ วางแก้วลงบนโต๊ะอย่างระวังแล้วหมุนตัวหมายจะเดินออกไปทว่า...
"เดี๋ยว..." เสียงทุ้มหนาเอ่ยขึ้นทำให้นาราค่อยๆ หมุนตัวกลับมา
"คะ?" เธอเอียงคอถามเรย์ที่เป็นเจ้าของเสียง
"เอาไป...ฉันให้แล้วคือให้เลย" เรย์พูดพร้อมกับยื่นธนบัตรสีม่วงส่งคืนให้เธอ
"พี่เรย์ยังไม่ได้อ่านโน๊ตเหรอคะ โน๊ตที่ติดอยู่กับแก้วกาแฟ"
"อ่านแล้ว"
"หรือว่าพี่เรย์ไม่เข้าใจโน๊ตที่หนูแปะเหรอคะ พี่เรย์อ่านออกใช่ไหมคะ" เธอเอ่ยบอกไปด้วยความเดียงสาเพราะอาจจะคิดว่าชายหนุ่มยังไม่เข้าใจการเขียนบอกหรืออาจจะเป็นลายมือของเธอ ก่อนที่ประโยคของนาราจะทำให้ไทเกอร์และเมฆหลุดขำพรืดออกมาอย่างห้ามไม่ได้
"..." เรย์เหลือบไปยังเพื่อนสนิทด้วยสายตาเรียบนิ่งทำให้เมฆและไทเกอร์ต้องกลั้นขำไว้ แล้วดวงตาคู่คมก็เหลือบไปมองยังร่างบางอีกครั้ง
"เอ่อ..." ร่างบางเม้มปากเข้าหากันแน่นกับสายตาของเขาพลันหัวเล็กก็เอาแต่คิดว่าเธอทำอะไรผิด...เธอแค่พูดไปตามที่คิดก็เท่านั้น
"ฉันอ่านออก แต่ฉันไม่ต้องการให้เธอมาเลี้ยงฉัน..."
"...ไม่ต้องซาบซึ้งเรื่องที่ฉันช่วยวันนั้นเพราะถ้าเป็นหมาแมวฉันก็ช่วยไว้เหมือนกัน อีกอย่างฉันก็ไม่อยากรู้ด้วยว่าเธอชื่ออะไร" เสียงเย็นชาเอ่ยบอกขึ้นด้วยใบหน้าเย็นชาเช่นเดิมก่อนที่ประโยคยาวเหยียดของเขาจะทำให้ใบหน้าเล็กก้มหน้าลงมือประสานกันแน่นอย่างทำอะไรไม่ถูก
"รับไป" ใบธนบัตรสีม่วงถูกยื่นอีกครั้ง โดยที่คนตัวเล็กยืนมองมันอย่างชั่งใจอยู่นาน
"..." จนกระทั่งดวงตาคมกริบถูกส่งไปอีกครั้งทำให้นาราค่อยๆ ยื่นมือรับด้วยความสั่นเทากลัวไปหมด
"น หนูไปก่อนนะคะ" นาราเงยหน้าไปบอกเมฆกับไทเกอร์เสียงสั่นก่อนที่เธอหมุนตัวรีบเดินออกไปทันที
"ไอเรย์...มึงพูดเกินไปหรือเปล่า" ไทเกอร์ที่เห็นทุกอย่างเอ่ยพูดด้วยความเป็นห่วงในความรู้สึกของร่างบางที่พึ่งวิ่งออกไป
"..." ใบหน้าคมคายก็นิ่งไม่เอ่ยตอบเลื่อนมือหนาไปคว้าแก้วกาแฟมาดื่มอย่างไม่รู้สึกรู้สา
"มึงพูดอะไรมันก็ไม่ฟังหรอก ความรู้สึกมันคงตายด้านไปแล้วมั้ง..."