ตอนที่6พี่เลี้ยงเด็กแสบ (1)

1707 คำ
ภคมนตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ เธอรีบหยิบผ้าขนหนูมาคลุมร่างเล็กไว้แล้วอุ้มกลับเข้าไปในห้องนอนพยายามเอ่ยเรียกมังกรให้ฟื้นคืนสติด้วยความหวาดกลัว “มังกร ตื่นสิมังกร มังกร” “...” เจ้าของใบหน้านุ่มนิ่มยังคงนอนแน่นิ่ง ไม่ขยับแม้เธอจะเปิดเปลือกตาขึ้น ทำให้หญิงสาวตระหนักได้ในทันทีว่ามังกรไม่ได้แกล้ง “โอ๊ย ตาย แกตายแน่ ๆ พะแพง” ภคมนรีบอุ้มเด็กชายลงไปหาวาสนาที่ชั้นล่าง คนสูงวัยกว่าจึงรีบต่อสายหาเฟลิกซ์อีกครั้ง ใช้เวลาเพียงไม่นานเขาก็มารับมังกรพาไปส่งที่โรงพยาบาลโดยที่วาสนาก็ยังอาสาตามไปด้วย เห็นสถานการณ์คับขันแบบนี้ทำให้เธอทำใจได้เลยว่าตอนเขากลับมาเธอต้องถูกลงโทษหรือไม่ก็ถูกฆ่าปิดปากแน่ ๆ “ไอ้แพงเอ๊ย มาวันแรกก็เกิดเรื่องแล้ว” ภคมนกุมขมับ เธอเดินไปมาราวกับหนูติดจั่นด้วยความร้อนใจแต่เพราะคราบแป้งที่ยังติดตามเนื้อตัว หญิงสาวจึงตัดสินใจขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าบนห้อง เฝ้ารอการกลับมาของมังกรตลอดทั้งคืนจนกระทั่งเผลอหลับไป รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตอนที่แสงจากดวงอาทิตย์ส่องกระทบกับใบหน้าในเช้าของวันถัดมา “มังกร...” วินาทีแรกที่ตื่นขึ้นมาเธอก็รีบวิ่งออกจากห้องตัวเองแล้วเปิดประตูห้องตรงข้ามทันที ก่อนจะพบว่าเฟลิกซ์พามังกรกลับมาแล้วตั้งแต่กลางดึกของเมื่อคืน “อ้าว ตื่นแล้วเหรอ” ชายหนุ่มเอ่ยทักเมื่อเห็นเธอเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าตื่น ๆ “มังกรเป็นยังไงบ้างครับคุณ” “คนอย่างมังกรไม่ตายง่าย ๆ หรอก” เสียงใส ๆ ของคนที่นอนอยู่บนเตียงเอ่ยขึ้นทำให้ภคมนลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “มังกร พี่ขอโทษนะที่ทำให้มังกรต้องเจ็บตัว” “ป๊าครับ ป๊าต้องไล่พี่คนนี้ออกนะครับ หรือไม่ก็ฆ่าปิดปากซะ ข้อหาที่ทำให้มังกรเจ็บตัว” เจ้าตัวแสบหันไปฟ้องพ่อชุดใหญ่ “มังกรเป็นคนเทแชมพูทิ้งไว้นะครับ” เฟลิกซ์หันไปดุลูกชายด้วยสีหน้าจริงจัง เขาจับมือเรียวของภคมนขึ้นมาพลิกให้ลูกชายดูรอยช้ำตรงข้อศอกของเธอ “เห็นไหมว่าพี่ตะวันก็เจ็บ แล้วดูสิ รอยกระสุนปืนยางแบบนี้มังกรเป็นคนยิงพี่ตะวันใช่ไหม” “ก็พี่ตะวันโกหกว่าหลอกมังกรว่าเป็นเจ้าแม่ตะเคียนนี่ครับ” อีกฝ่ายยังฟ้องไม่เลิกด้วยหวังว่าผู้เป็นพ่อจะไล่ภคมนออกไปแต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะอ้าปากอธิบายอะไร วาสนาก็นำข้าวต้มเข้ามาในห้องเสียก่อน เฟลิกซ์จึงมอบหมายให้คนสูงวัยกว่าจัดการป้อนให้ลูกชายส่วนตัวเขาก็ลากภคมนกลับไปที่ห้องของตัวเอง “แค่วันแรกนายก็ทำให้ลูกฉันเจ็บตัวเข้าโรงพยาบาลเลยสินะ” “ผมไม่ได้ทำนะ คุณพูดเองนี่ว่ามังกรเขาเป็นคนเทแชมพูเพื่อจะให้ผมลื่นล้มแต่ตัวเองดันมาซวยไปด้วย” “แล้วนายจะรับผิดชอบยังไงล่ะ จะลงโทษยังไงดี” เขาถามกลับพลาง ทรุดกายนั่งลงบนเตียงกว้างอย่างใจเย็น “ผมอธิบายได้นะคุณ ผมไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ แค่นี้ก็ถึงกับต้องฆ่าแกงกันเลยเหรอ ถ้าจะลงโทษก็ต้องลงโทษมังกรสิ เขาจะได้รู้ว่าไม่ควรทำแบบนั้น” “เป็นความคิดที่ดีนะ ต่อไปนายก็หัดระวังตัวเองด้วยละกัน” เฟลิกซ์ตัดบทแต่เพียงสั้น ๆ ก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูงจนอีกฝ่ายนึกแปลกใจ “แค่นี้เองเหรอคุณ คุณไม่ได้จะฆ่าผมหรอกเหรอ” “ฉันไม่ทำขนาดนั้นหรอก ถึงจะไม่ได้เลี้ยงแต่ฉันก็รู้นิสัยของมังกรดี คิดว่านายยังต้องเจออีกเยอะเลยล่ะ” เขากระตุกยิ้มมุมปากแล้วตั้งท่าจะออกจากห้องไป ภคมนจึงรวบรวมความกล้าลองขอร้องเขาดูอีกครั้ง “คุณก็น่าจะเห็นแล้วว่ายังไงมังกรก็คงไม่ยอมรับผม คุณปล่อย...” “อย่าพูดคำนั้นออกมาอีก ยังไงซะก็เปล่าประโยชน์” ชายหนุ่มกำชับเสียงเข้มจากนั้นจึงหมุนตัวออกจากห้องปิดประตูเสียงดังสนั่นจนหัวใจดวงน้อยกระตุกวูบเช่นเดียวกับบางอย่างในร่างกายที่เหมือนจะไหลรดออกมา “โอ๊ะ!” หญิงสาวสะดุ้งเฮือก รีบควานหาผ้าอนามัยที่ยังเหลืออยู่ในกระเป๋าออกมาเพราะถึงเวลาที่ต้องใช้มันแล้วจริง ๆ รถหรูแล่นเข้ามาจอดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งก่อนที่เจ้าของร่างสูงใหญ่จะเดินหายเข้าไปในร้าน ไปยังห้องอาหารโซนวีไอพีที่ถูกจัดไว้ให้แบบส่วนตัว “ขอโทษที่มาช้านะครับ” เฟลิกซ์โค้งกายให้กับคนมาก่อนด้วยความรู้สึกผิด วินาทีนั้นเขาไม่ทันสังเกตเลยว่าเจ้าของดวงตาสวยคมโฉบเฉี่ยวของคนที่กำลังนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกำลังยิ้มกว้างออกมาทันทีที่ได้เห็นใบหน้าเขาใกล้ ๆ “ไม่เป็นไร นั่งก่อนสิครับ” เรวัช นายตำรวจยศใหญ่แต่เบื้องหลังประกอบธุรกิจสีเทาคลี่ยิ้มทักทายอย่างเป็นมิตร หลังจากที่ร่วมธุรกิจมาด้วยกันสักพักเขาจึงพาเหมยอิง ลูกสาวเพียงคนเดียวมาแนะนำทำความรู้จักกับอัลโดเพื่อหวังให้เหมยอิงได้ลงเอยกับเฟลิกซ์ “อาเฟย นี่เหมยอิง ลูกสาวของท่านเรวัช” อัลโดเป็นคนเปิดประเด็นสนทนา เขาผายมือไปยังหญิงสาวรูปร่างสมส่วนที่กำลังนั่งอยู่ตรงข้ามด้วยท่าทางเขินอาย “สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” “เช่นกันครับ” เขายิ้มตอบเพื่อรักษาหน้าให้แก่บิดา ไม่คิดว่าอายุปูนนี้แล้วอัลโดยังหาทางจับคู่ให้เขาอีก “เคยได้ยินชื่อพี่เฟยมาตั้งนาน ไม่คิดเลยนะคะว่าตัวจริงจะดูเด็กขนาดนี้” “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ” “อะแฮ่ม ดูท่าแล้วสองคนคงจะคุยกันถูกคอนะครับท่าน” อัลโดหันไปส่งสัญญาณให้กับเรวัชด้วยความพอใจ "งั้นเราปล่อยให้หนุ่มสาวเขาคุยกันดีกว่า" “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเองก็อยากคุยเรื่องธุรกิจของเราเหมือนกัน” เฟลิกซ์รีบปฏิเสธแต่อัลโดกลับไม่เห็นด้วย “ไม่เอาน่าอาเฟย อยู่คุยกับน้องไปก่อนเพราะอีกหน่อยเราจะได้เป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว ถึงตอนนั้นอะไรอะไรก็คงจะง่ายขึ้น” “พ่อหมายความว่าไงครับ” “คุยกันไปก่อนนะ ตามสบาย” อีกฝ่ายไม่ได้สนใจจะตอบคำถามนั้น เขารีบพาเรวัชออกไปจากห้องเพื่อเปิดทางให้เฟลิกซ์ได้ทำความรู้จักกับเหมยอิง “เอายังไงดีล่ะคะเนี่ย” หญิงสาวทำท่าทีเหนียมอาย” จะสั่งอาหารเลยไหมคะ” “ตามสบายเลยครับ ผมทานมาแล้ว” เขาปฏิเสธแบบตรงไปตรงมา เริ่มเข้าใจแล้วว่าอัลโดคงต้องการให้เขาแต่งงานกับเหมยอิงเพื่อหวังใช้ตำแหน่งของเรวัชเป็นใบเบิกทางธุรกิจสีเทาที่ปิดบังไว้ “นี่...เหมยไม่ได้ทำให้พี่อึดอัดใช่ไหมคะ” “ไม่หรอกครับ งั้นเดี๋ยวผมทานเป็นเพื่อนก็ได้” เขาเห็นอีกฝ่ายหน้าเจื่อนลงจึงต้องรักษาน้ำใจด้วยการหันไปเรียกพนักงานมาเพื่อสั่งอาหาร ถึงตอนนั้นอาการประหม่าของเหมยอิงจึงเริ่มหายไป “ได้ยินว่าพี่เฟยมีลูกชายวัยกำลังน่ารักด้วย เหมยอยากทำความรู้จักน้องบ้างจังค่ะ วันหลังพี่เฟยพาเหมยไปหาเขาหน่อยได้ไหมคะ” “ได้สิ เอาไว้ถ้ามีโอกาสผมค่อยพามังกรมาหานะเพราะผมไม่สะดวกให้คนนอกเข้าไปที่บ้านเท่าไหร่” เฟลิกซ์ปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาแต่เหมยอิงก็ยังไม่ยอมแพ้ เขาสมบูรณ์เพอร์เฟกต์ขนาดนี้จะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไง “คนนอกที่ไหนล่ะคะ อีกหน่อยเราก็ต้องแต่งงานกันอยู่แล้ว” “ว่าไงนะครับ” “เอ่อ...เหมยไม่ได้ตั้งใจจะรวบรัดอะไรพี่นะคะ เหมยแค่ทำตามที่พ่อแนะนำน่ะค่ะ พ่อบอกว่าพี่เฟยเป็นคนดี” “คนดีที่ไหนเขาจะทำธุรกิจมืดกันล่ะครับ” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ เข้าใจว่าอีกฝ่ายคงจะพยายามพูดเพื่อเอาใจเขาเสียมากกว่า “นั่นเป็นสิ่งที่เราต้องทำนี่คะ เหมยเข้าใจ” “อาหารมาแล้วค่ะ” เสียงพนักงานดังขึ้นทำให้บทสนทนาสิ้นสุดลงแต่เพียงเท่านั้น เฟลิกซ์จ้องมองจานอาหารตรงหน้าครู่หนึ่งแล้วจึงเหลือบมองนาฬิกาข้อมือด้วยความร้อนใจ “ทานกันเถอะค่ะ แซลมอนร้านนี้อร่อยมากเลยนะคะ” เหมยอิงคีบอาหารให้เขาอย่างเอาใจ “ขอบคุณครับ” “ปกติพี่เฟยชอบกินอะไรเหรอคะ อาหารญี่ปุ่นหรือว่า...” “อาหารไทยครับ” เขาตอบทั้งที่หญิงสาวยังถามไม่ทันจบ จนเหมยอิงอดตัดพ้อเสียไม่ได้ “เหมือนพี่เฟยจะมีธุระต่อนะคะ ถ้าไม่สะดวกพี่เฟยกลับก่อนก็ได้ค่ะ” “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ค่าอาหารเดี๋ยวผมออกไปจ่ายให้” เฟลิกซ์ตอบในทันทีทำเอาเหมยอิงถึงกับหน้าถอดสี เพราะเธอแค่ตัดพ้อไม่คิดว่าเขาจะออกไปจริง ๆ “ดะ...เดี๋ยวสิคะ...” เสียงของเธอเงียบหายไปเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้สนใจจะหันมา ทันทีที่ชายหนุ่มหายลับไปฝ่ามือเรียวก็ตบลงบนโต๊ะเสียงดังสนั่น “กล้าเมินกันขนาดนี้เลยเหรอ” ดวงตาคู่สวยมองอาหารตรงหน้าด้วยความเจ็บใจ เธอขบกรามแน่นด้วยความโกรธเพราะถูกเฟลิกซ์ปฏิเสธแบบไม่เหลือเยื่อใย แต่จะให้หมดหวังก็คงจะไม่มีทาง ยังไงเรวัชก็คงจะบีบบังคับให้เขาแต่งงานกับเธอให้ได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม