หลังจากพักทำใจอยู่ในห้องนานนับชั่วโมง ภคมนก็ต้องออกมาอีกครั้งเพื่อหาอะไรลงท้องด้วยความหิว
หญิงสาวหอบร่างที่ไร้เรี่ยวแรงลงไปที่ชั้นล่างก่อนจะพบกับมังกรที่กำลังนั่งต่อของเล่นอยู่หน้าบ้าน พอเห็นเธอก้าวลงมา เฟลิกซ์ก็หันไปส่งสัญญาณบางอย่างให้กับลูกชาย หลังจากนั้นมังกรจึงวิ่งเข้ามาหาเธอทำให้หญิงสาวรีบถอยกรูดด้วยความหวาดระแวงกลัวว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาทำร้ายเธออีก
“พี่ตะวันครับ มังกรขอโทษ” อยู่ ๆ คนตัวเล็กก็ทรุดกายนั่งลงบนพื้นเย็นเฉียบก่อนจะกระพุ่มมือไหว้ขอโทษแต่ถึงกระนั้นภคมนก็มองออกว่าเด็กชายไม่ได้รู้สึกผิดหากแต่ถูกผู้เป็นพ่อบังคับมาต่างหาก
“ถ้าไม่ได้รู้สึกผิดจริง มังกรก็ไม่ต้องขอโทษหรอก”
“ไม่ได้ครับ ป๊าบอกว่ามังกรต้องมาขอโทษจนกว่าพี่ตะวันจะยอมยกโทษให้ ไม่อย่างนั้นป๊าจะไม่หาแม่ใหม่ให้มังกร” เด็กชายก้มหน้าสารภาพด้วยความไร้เดียงสา
“นี่แสดงว่าถ้าพี่เป็นผู้หญิงแล้วเป็นแม่ให้มังกรได้ มังกรคงไม่ทำกับพี่แบบนี้หรอกใช่ไหม”
“พี่ตะวันเป็นแม่ไม่ได้ พี่ตะวันเป็นผู้ชาย”
“งั้นสัญญากับพี่ก่อนว่าต่อไปนี้ห้ามมังกรก้าวร้าวกับพี่อีก ไม่อย่างนั้นพี่จะบอกให้ป๊ะป๋าล้มเลิกเรื่องที่จะหาแม่ใหม่ให้มังกรด้วย”
“ครับ” มังกรก้มหน้าด้วยความจำนน เห็นเด็กชายดูเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัดเธอก็รู้ได้ทันทีว่าคงจะโดนเฟลิกซ์ดุมาไม่ใช่น้อย
“ต่อไปก็อย่าทำอีกล่ะ พี่เองก็เป็นคน มีความรู้สึกเจ็บไม่ต่างกับเราหรอกนะ” พูดจบเธอก็เดินผ่านมังกรหายเข้าไปในครัวเพื่อจะหาอะไรลงท้องโดยที่เธอไม่ทันได้สังเกตเห็นเลยว่านอกหน้าต่างของบ้านนั้นมีใครอีกคนกำลังถ่ายภาพของเธอเอาไว้แล้วรีบนำมันไปให้อัลโดที่บ้านหลังใหญ่ทันที
“นี่ครับ รูปที่คุณอัลโดต้องการ” ธนาโค้งกายให้คนเป็นหัวหน้าก่อนจะส่งมือถือที่ถ่ายรูปภคมนเอาไว้
คนสูงวัยกว่าหยิบมือถือขึ้นมาแล้วเลื่อนดูรูปถ่ายที่ให้คนไปขุดมาจากร้านอาหารของแก้วตา พอลองเอาสองรูปมาเทียบกันเขาก็ตบหน้าขาตัวเองเสียฉาดใหญ่
“คนเดียวกันจริง ๆ ด้วย”
“จริงเหรอครับ เธอเหมือนผู้ชายมากจนผมแยกไม่ออกเลย ว่าแล้วทำไมถึงได้ตัวเล็กขนาดนั้น” ธนากุมขมับ ไม่นึกเลยว่าลูกน้องมาเฟียหัวแถวอย่างเขาจะมองคนไม่ออก
“แล้วแกแน่ใจใช่ไหมว่ารูปนี้เป็นรูปของผู้หญิงที่มาส่งไก่วันนั้นจริง ๆ”
“ครับท่าน วันนั้นพวกไอ้หมอกมันเป็นคนตรวจดู พวกมันบอกว่าคนมาส่งเป็นผู้หญิงจริง ๆ ผมก็เลยให้คนไปตามสืบดูที่ร้านจนได้รูปนี้มาจากเพจครับ”
“แล้วอาเฟยรู้หรือเปล่าว่าเป็นคนเดียวกัน” อัลโดเอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ผมคิดว่าน่าจะรู้ครับ ไม่อย่างนั้นคงไม่อ้างเรื่องรถแล้วลากเธอมาที่นี่แน่”
“อาเฟยนะอาเฟย ปกติมันไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนเลยด้วยซ้ำ คงจะคิดว่าตัวเองติดค้างผู้หญิงคนนี้ล่ะสิ ถึงได้ปกป้องขนาดนี้” คนสูงวัยสันนิษฐาน
“จริง ๆ แล้ว ถ้าคืนนั้นไม่ได้ผู้หญิงคนนี้ช่วยไว้ คุณเฟยก็อาจจะแย่จริง ๆ นะครับ”
“ยังไงก็ไว้ใจไม่ได้หรอก” อัลโดมีสีหน้าคิดหนักขึ้นมาอีกครั้ง “หวังว่าอาเฟยคงจะไม่จริงจังถึงขั้นยกให้เป็นแม่ของมังกรหรอกนะ”
“ถ้าคุณอัลโดไม่สบายใจ ให้ผมจัดการให้เลยดีไหมครับ”
“ไม่ต้องหรอก ทำอย่างนั้นอาเฟยได้อาละวาดแน่ฉันว่าเขาคงจะรอบคอบมากพอ ตราบใดที่ผู้หญิงคนนั้นอยู่ในอาณัติเธอก็คงไม่ปากพล่อยหรอก”
เจ้าพ่อมาเฟียใหญ่สันนิษฐานก่อนจะหยิบเครื่องดื่มในมือขึ้นมาจิบอย่างใจเย็นดวงตาคมกริบที่ยังจ้องมองรูปถ่ายในมือทำให้ธนาเองก็เดาไม่ออกเลยสักนิดว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่
นับตั้งแต่วันที่เหมยอิงมาหาเฟลิกซ์ในวันนั้นก็ดูเหมือนว่าเจ้าตัวแสบจะสงบไปพักใหญ่เพราะถูกผู้เป็นพ่อดุจนร้องไห้งอแงและไม่ยอมคุยกับใครอีกเลยยกเว้นวาสนา ถึงจะไม่ซนถึงขั้นทำให้ภคมนบาดเจ็บแต่ก็ยังไม่ได้ให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่
“มังกรครับ มาทานข้าวได้แล้วครับ เที่ยงแล้ว” หญิงสาวเอ่ยเรียกคนที่กำลังเล่นเครื่องบินบังคับอยู่ในสวนแต่เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมวางมือจนเธอต้องเอ่ยเรียกอีกครั้ง “มังกร ได้ยินไหมครับ พี่บอกว่ามากินข้าว”
“บรือ...” เจ้าตัวแสบยังคงเป่าปากวิ่งเล่น ในมือยังถือรีโมตบังคับไว้ในขณะที่ออกแรงวิ่งตามเครื่องบินไปรอบ ๆ สวน
“มังกร มาทานข้าวครับ”
“บรือ...” เป็นอีกครั้งที่เธอได้ความเมินเฉยกลับมาเป็นคำตอบ
“มังกร...” ภคมนเริ่มมีน้ำโหเพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน เธอจึงเดินปรี่เข้าไปในสวนแล้วแย่งรีโมตบังคับมาจากมือน้อย ๆ ทำให้เครื่องบินเสียการควบคุม บินพุ่งขึ้นไปค้างบนต้นไม้ใหญ่
“พี่ตะวัน พี่ทำเครื่องบินผมค้าง”
“ก็พี่เรียกตั้งหลายครั้งแล้วแต่มังกรไม่สนใจนี่ เอาแต่เล่นอยู่นั่นแหละ นี่มันเลยเวลาจะทานข้าวแล้วนะ เดี๋ยวปวดท้องขึ้นมาก็ฟ้องป๊ะป๋าให้มาสั่งเก็บพี่อีก”
“ไม่รู้แหละ เครื่องบินมังกรค้าง พี่ต้องปีนขึ้นไปเอามาให้มังกรเดี๋ยวนี้” เด็กชายออกคำสั่งด้วยสีหน้าบึ้งตึง นิ้วป้อม ๆ ชี้ขึ้นไปบนต้นไม้เหมือนจะร้องไห้ออกมา “คุณปู่อุตส่าห์ซื้อให้ ถ้าพี่ตะวันเอาลงมาให้ไม่ได้ ผมก็จะไม่ไปกินข้าว”
“เล่นงี้เลยเหรอ” ภคมนหน้าถอดสี เธอเงยหน้าขึ้นมองขึ้นไปบนต้นไม้จนเห็นเครื่องบินบังคับค้างติดอยู่ตรงปลายกิ่ง “ก็ได้ งั้นรอนี่นะ เดี๋ยวพี่ปีนขึ้นไปเอามาให้”
ว่าแล้ว หญิงสาวก็เริ่มปีนป่ายต้นไม้ขึ้นไป โชคดีที่เธอค่อนข้างถนัดในด้านนี้จึงสามารถคว้าเครื่องบินลำนั้นมาได้ไม่ยากนัก แต่ปัญหามันอยู่ที่ตอนลงนี่แหละเพราะมือเธอยังจับเครื่องบินไว้จึงปีนไม่ถนัดนัด
“พี่ตะวันส่งเครื่องบินลงมาก่อนสิครับ” มังกรตะโกนบอกจากข้างล่าง คนที่ปีนอยู่ข้างบนจึงตัดสินใจโยนเครื่องบินลงมา พอได้ของที่ต้องการแล้ว มังกรก็รีบหอบของเล่นหายเข้าไปในบ้าน ภคมนจึงต้องใช้ความพยายามปีนลงมาแต่เพียงลำพัง
“โอ๊ะ!” หญิงสาวร้องเสียงหลงเมื่อก้าวขาไปเหยียบบนกิ่งไม้โดยที่เธอไม่ทันสังเกตเห็นว่ามันผุ จึงรับน้ำหนักไม่ไหวทำให้เธอร่วงตกลงมาข้างล่าง ก้นกระแทกพื้นเต็มแรง “โอ๊ย เจ็บจัง”
“ตะวัน!” คนที่ขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านเห็นภาพนั้นเข้าพอดีจึงรีบวิ่งลงมาช่วยประคองเธอไว้ “ขึ้นไปทำอะไรเนี่ย”
“ผมขึ้นไปเก็บเครื่องบินให้มังกรน่ะ”
“เอาอีกแล้วเหรอ มังกรแกล้งนายอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย” ได้ยินแบบนั้นเฟลิกซ์จึงรีบเข้าไปในบ้านเพื่อจะสั่งสอนลูกชายอีกครั้งทำให้ภคมนต้องรีบรั้งเอาไว้
“ไม่ใช่แบบนั้นนะคุณ ผมเป็นคนทำให้เครื่องบินมังกรค้างเองแหละ อย่าไปโทษแกเลย”
“แล้วนี่ไม่ได้เจ็บตรงไหนใช่ไหม”
“ไม่ครับ แค่ปวดก้นนิดหน่อย” เธอตอบพลางก้มลงปัดป่ายเศษดินเศษหญ้าออกจากตัว
“จริงเหรอ ถอดกางเกงลงสิ เดี๋ยวฉันดูให้”
“จะบ้าเหรอคุณ” ภคมนค้อนขวับ ตอนแรกคิดว่าเขาจะพูดเล่นแต่พอเงยหน้าขึ้นมองกลับพบว่าเขาเอาแต่จ้องก้นเธอจนต้องรีบเบี่ยงตัวหลบ “คิดอะไรของคุณเนี่ย”
“คิดอะไร ฉันแค่เป็นห่วงกลัวกระดูกนายจะหักแค่นั้นแหละ”
“ไม่ต้องห่วงหรอก ขนาดคุณยิงผม ผมยังไม่ตายเลย” เธออดไม่ได้ที่จะประชดใส่ คนตัวโตจึงเผลอกระชากแขนเรียวของเธอเต็มแรง
“ถ้าฉันตั้งใจจะฆ่าจริง ๆ นายไม่มายืนปากเก่งอย่างนี้หรอก”
“เหอะ ถือว่ามีปืนจะเล็งใส่ใครก็ได้งั้นสิ อย่าเผลอบ้างก็แล้วกัน ผมจะเอามาจ่อขมับคุณบ้าง” คนตัวเล็กไม่พูดเปล่าแต่กลับยกนิ้วขึ้นมาสองนิ้วตั้งท่าชี้ไปที่ขมับของเขาเหมือนกำลังจะลั่นไกใส่
“เอาเลย” เฟลิกซ์คลี่ยิ้ม จับมือเรียวไว้แล้วลากมาจรดที่อกข้างซ้ายแทน “จะยิงตรงนี้ก็ได้นะ ฉันไม่ว่า”
“ผมยิงแน่ อย่าเผลอก็แล้วกัน” ภคมนรีบดึงมือหนีก่อนจะกระแทกเท้าตามมังกรเข้าไปในบ้าน